I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Otherworldly Evil Monarch ตอนที่ 27 แสดงความสามารถที่แท้จริงของเจ้าออกมา

| Otherworldly Evil Monarch | 791 | 2365 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“ น้าสาม หากในโรงปรุงยาของเราไม่มีสมุนไพรที่เราต้องการ ดังนั้นท่านจะต้องใส่ใจรายละเอียดเป็นพิเศษ หากเป็นไปได้ ส่งคนออกไปจำนวนหนึ่ง โดยให้แต่ละคน ซื้อสมุนไพรหนึ่งชนิด และที่สำคัญที่สุด ต้องไม่ให้มีผู้ใดรู้ว่าเราซื้อสมุนไพรมาเพื่ออะไร ! แม้หาก ไม่มีผู้ใดรู้ว่าสมุนไพรเหล่านั้นเอามาปรุงอะไรได้ แต่เราต้องป้องกันเอาไว้ก่อน ในความจริง เราจะต้องตรวจสอบสมุนไพรเหล่านั้นอย่างระมัดระวังก่อนที่เราจะทำการปรุง ! ”

จวินเซี่ยพูดต่อ

“ สำหรับตอนนี้ ตระกูลจวินของเรากำลังตกต่ำ ลงทุกวัน แต่เมื่อถึงวันที่ร่างกายของน้าสามฟื้นฟูสำเร็จแล้ว สถานะการณ์มันจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ! ข้าเชื่อว่ามีคนไม่น้อยที่ต้องการให้ ท่านน้าสามเป็นอัมพาตตลอดไป และนั่นเป็นเหตุที่ว่าทำไมเรื่องนี้ถึงต้องรอบคอบอย่างที่สุด ! เมื่อท่านน้าสามสามารถยืนได้แล้ว เมื่อนั้นท่านจะกลายมเป็นไพ่ตายที่ซ่อนอยู่ของตระกูลจวิน ! ท่านน้าสาม ข้าเชื่อว่าท่านเข้าใจความหมายของข้า ”

“ ถูกต้อง ! ” จวินวูอี้มองหลานคนใหม่ของเขาด้วยความรู้สึกเมตตา “ โม่เซี่ย เจ้ามีการพัฒนา ! แม้หากข้าสูนย์เสียโอกาสที่จะยืนขึ้นอีกครั้ง แต่หากมีเจ้าอยู่ในตระกูล ข้าเชื่อว่าตระกูลจวินของเราไม่มีทางล่มสลายแน่นอน ! ” จวินวูอี้เข้าใจความหมายในคำพูดของจวินเซี่ย และยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นคำพูดที่ออกมาจากปากของเขา รวมถึงความคิดต่างๆและการวางแผ่นการระยะยาวนั้นทำให้ จวินวูอี้ถึงกับปิติเป็นอย่างยิ่ง !

จวินเซี่ยหัวเราะออกมาอย่างอ่อนแรง หันหน้าออกไปทางอื่น ดั่งเช่น ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นมือสังหารได้รับคำชมเชย เจ้ามีการพัฒนา ….

แต่อย่างไร มันคือความรู้สึกเขิลอายอย่างมาก !

จวินเซี่ยรู้สึกว่า ตัวเขาเองไม่สามารถที่จะรับคำสรรเสริญนั้นได้ … ในความคิดของเขา เขารู้สึกขอบคุณ รู้สึกขอบคุณทีคำสรรเสริญนั้นคือ “ โม่เซี่ยเจ้ามีการพัฒนา ” ถ้าหากเป็นคำว่า “ จวินเซี่ย เจ้ามีการพัฒนา ” … ต้องเป็นแบบนั้น เขาถึงจะไม่เสียหน้า

หากมีใครในชีวิตที่แล้วของเขามาพูดอะไรแบบนี้กับจอมโฉด พวกเขาอาจจะสำลักจนตายก็ได้

“ โม่เซี่ย เจ้าคิดว่าการฝึกฝน องครักษ์ของตระกูลเราเป็นอย่างไร ? ” ในขณะที่เขา ได้ยินเสียง กู่ร้อง หรือ ความกระฉับกระเฉง และสังเกตุเห็ร่างที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อจากการฝึกฝน จวินวูอี้รู้สึกถึงความเร้าร้อนอะไรบางอย่างที่เขาไม่เคยรู้สึกมานาน

“ ไม่มีอะไรนอกเหนือจากการแสดงรูปแบบแต่ก็ไม่ถือว่าไร้แก่นสาร ! ” เมื่อวินเซี่ยที่กำลังฟุ้งซ่านอยู่ได้ยินคำถาม เขาตอบออกไปโดยที่ไม่ลังเล เขาไม่แม้แต่ปิดบังโทนเสียงที่ดูถูกเหยียดหยามเลย

“ รูปแบบแต่ไม่ถึงกับไร้แก่นสาร ? ” จวินวูอี้หัวเราในขณะที่เขาพยักหน้า “ เจ้าจะบอกว่าการฝึกฝนขององครักษ์ของบ้านเรากับ การพัฒนาของสัตว์เฉวียนขั้น เจ็ดหรือแปดเป็นเพียงรูปแบบแต่ไม่ไร้แก่นสาร ? โม่เซี่ย คำพูดของเจ้าก็มีบางอย่างที่ถูกต้อง ”

“ มันสามารถที่จะพิจารณาอย่างถี่ถ้วนได้หรือไม่ ? ว่าการฝึกฝนนี้ปราถนาถึงอะไร ? ” จวินเซี่ยตอบย้อนไป “ รูปแบบนี้สามารถที่จะบอกได้ว่ามันคือการออกกำลังกาย แล้วจะเรียกว่าฝึกฝนได้อย่างไร ? ไม่สำคัญว่าท่านจะมองมันอย่างไร พวกเขาเป็นราวกับกลุ่มคนที่มาออกกำลังกายเพื่อที่ให้มีรูปร่างที่ดี ข้าดูไม่ออกจริงๆว่าการฝึกฝนนี้จะสามารถช่วยพวกเขาในการออกรบได้อย่างไร หรือข้าควรจะพูดว่า มันไม่ได้ช่วยให้พวกเขาสร้างความเสียหายให้กับศัตรูที่พวกเขาเจอได้เลยแม้แต่น้อย ! อย่างเดียวที่ข้าเห็นว่าพวกเขาไม่ต้องอะไรกับสิ่งของที่ใช้แล้วทิ้ง ! พวกเขาเป็นแค่เพียงกลุ่มคนธรรมดา โดยที่ไม่มีอะไรเลยกับพวกเขา มันเสียงทั้งเวลาและความพยายามในการฝึกฝนที่ไร้ค่า ไปไม่มากก็น้อย ! ”

“ ของที่ใช้แล้วทิ้ง ? การฝึกฝนที่ไร้ค่า ? ” จวินวูอี้ไม่สามารถที่จะควบคุมตัวเองได้และตะโกนออกไป เขาเลิกคิ้ว “ โม่เซี่ย ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ชื่นชอบในศิลปะการต่อสู้ นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้เจ้าไม่เข้าใจถึงความสำคัญของหารฝึกฝนขั้นพื้นฐาน แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าก็ยังไม่สามารถที่จะต่อสู้กับคนพวกนั้นได้ ! ความโง่เขลา คือสิ่งที่ไม่น่ากลัว แต่จะให้ความโง่เขลาของเจ้า เพื่อมาดูถูกทหารพวกนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ! พวกเขาแต่ละคนเป็นทหารผ่านศึกสงครามมานับร้อย ! แต่ด้วยที่ตอนนี้หาได้มีสงครามไม่ จึงเป็นเหตุให้พวกเขามาเป็นองครักษ์ของตระกูลจวิน พวกเขาแต่ละคนได้พิสูจน์ตัวเองมาแล้วว่าเขาคือลูกผู้ชาย ! ข้าจะคิดว่าคำพูดของเจ้าเป็นเพียงเรื่องตลก แต่หากเจ้ากล้าที่จะดูถูกพวกเขาอีกครั้ง จะหาว่าข้าไม่เมตตาไม่ได้น่ะ ! คำพูดเหล่านี้มันไม่ควร แม้แต่จะเป็นเรื่องตลก ! ”

เมื่อเขาพูดจบ จวินวูอี้ก็ได้ปลดปล่อยพลังอันน่าเกรงขามออกมา ! แม้ว่าเขาจะมีนิสัยที่สุขุม จวินเซี่ยถึงกับสะดุ้ง แม้ร่างกายน้าสามจะเป็นอัมพาต หากแต่หัวใจของเขายังแข็งแกร่ง วันหนึ่งที่ร่างของเขาถูกฟื้นฟู น้าสามจะกลายมาเป็นเสาหลักที่คอยสนับสนุนเขา !

“ ตลก ? ท่านน้าสามไม่เข้าใจความหมายของข้า หากแต่ทุกสิ่งที่ข้าพูดเป็นเรื่องจริง ในเวลาเดียวกัน ข้าก็ไม่ได้ตลก ! ” จวินเซี่ยผายมือออกพร้อมใบหน้าที่บริสุทธิ์ใจ

“ ข้าไม่ได้หมายถึงพวกนั้นจะไร้ประโยชน์ หรือข้าจะดูถูกพวกเขา ข้าเชื่อว่าพวกเขาที่มีชีวติรอดกลับมาจากสงครามนั้นคือบุรุษเหล็ก ที่คู่ควรแก่การนับถือ สำหรับการฝึกฝนของพวกเขา ใครๆก็เห็นว่าพวกเขาฝึกฝนด้วยความเพียรจากใจ แต่เพียงแค่การฝึกฝนด้วยความเพียรทั้งหมดในหัวใจจะทำให้ชนะได้หรือ ? มันเป็นเรื่องธรรมดามากที่ผู้เพียรฝึกฝนทั้งหมดจะเต็มใจที่จะตายตอนที่อยู่ในสงคราม เหตุที่ข้าบอกว่า พวกเขาเหมือนของที่ใช้แล้วทิ้งนั้น เป็นเพราะว่า พวกเขากำลังฝึกฝนไปผิดทาง ! ”

“ พวกเขาฝึกฝนไปผิดทาง ? ” แม้กระนั้นสีหน้าของจวินวูอี้แสดงออกมาถึงความโกรธจัด เขาเริ่มที่จะพิจารณาถึงคำนั้น เมื่อไม่นานมานี้ พฤติกรรมของหลานคนนี้ช่างแตกต่างไปจากเมื่อก่อน ทุกคำที่เขาพูดออกมาเต็มไปด้วยความหมาย มันอาจจะเป็น …

“ พวกเราลองมาดูที่องครักษ์สองคนต่อสู้กันเป็นตัวอย่าง ท่านน้าสาม จากการเฝ้าดูของท่าน ท่านคิดว่าทั้งสองคนนั้นกำลังเล่นเกมสืการต่อสู้กับอีกฝ่ายใช่ไหม ? ทุกการโจมตีจะมีการป้องกัน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เหอะเหอะ นี่หรือเรียกว่าการฝึก ? แม้แต่การฝึกก็ต้องไม่เล่นเหมือนเด็ก พวกเขามีความสุขกับคู่ของพวกเขา ! นี่ไม่เรียกว่า ไม่แสดงรูปแบบแต่ไม่ไร้แก่นสารหรอกหรือ ? ” จวินเซี่ยชี้นิ้วออกไป “ แล้วเราลองมองไปตรงนั้น ชายผู้นั้นยกท่อนไม้ขึ้นจนเขาเหงื่ออกทั้งตัว ก่อนที่จะวางลง มันดูเหมือนยากลำบากถูกหรือไม่ ? แต่ในความจริงมันเป็นเพียงแค่การตด พวกเขาไม่แม้แต่เพียงจะไปถึงขีดจำกัดของร่างกายเลย ! ชายผู้นั้นครอบครองพละกำลังอันมหาศาล แม้ว่าพวกเขาจะยกมันจนเริ่มเหงื่ออกแต่พวกเขาก็ยังคงมีพละกำลังอีกมาก หรือจะพูดอีกอย่าง หากพวกเขาจะฝึกฝนอย่างนี้ไปตลอดสิบปี ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ก้าวหน้า สิ่งเดียวที่เกิดคือพวกเขาจะมีควาช่ำชองในท่าทาง พวกเขาเลยสูนย์เสียศักยภาพที่มีใจตัวไป นี่ไม่เรียกว่าการฝึกฝนที่ไร้ค่าอย่างนั้นหรือ ? ”

“ สำหรับคนพวกนั้นที่รอดพ้นสงครามมาได้ คงต้องขอบคุณที่วกเขาโชคดี ! สำหรับผู้ที่จะถูกตราไว้ว่าเป็นวีรบุรุษหรือนักรบนั้น นั่นเป็นสิ่งที่เรียกว่า ความสำราญโดยบังเอิญ ! ” จวินเซี่ยมองพวกเขาอย่างโหดร้าย “ คนในระดับนี้ทำได้มากสุดแค่ดูแลบ้าน พวกเขาไม่มีความสามารถในการรับผิดชอบอะไรที่ยิ่งใหญ่ ! ท่านน้าสาม หลังจากที่ฟังข้าพูดมาทั้งหมดนี้ ท่านยังคิดว่าข้าดูถูกพวกเขาอีกหรือไม่ ? ”

จวินเซี่ยแค่พูดถงความเลวร้ายออกมาตรงๆ แต่กระนั้น วจินวูอี้ก็มิได้โกรธแต่อย่างใด หากแต่เขากลับจมลงสู้การครุ่นคิด

จวินเซี่ยหัวเราะออกมาอย่างผิดหวัง “ หากท่านปู่คิดที่จะให้คนพวกนี้ปกป้องตระกูลจวินจริงๆ ข้าเกรงว่า ตระกูลนี้คงจะถูกทำลายไปนับร้อยนับพันครั้งแล้ว อีกอย่าง ข้าคิดว่าท่านปู้จะต้องมียอดฝีมืออยู่อีกหมู่หนึ่ง ยอดฝีมือเหล่านั้นคือเสาหลักที่แข็งแกร่งจริงๆ ของตระกูลจวิน ! แม้ว่าข้าจะไม่เคยเห็นหรือ การยืนยันข่าวเลยก็ตาม แต่ข้าเชื่อว่าพวกเขานั้นมีอยู่ ! สำหรับคนเหล่านี้ พวกเขาแค่เพียงมาเป็นด่านหน้า ท่านน้าสาม ท่านคงไม่พยายามที่จะบอกข้าว่า ท่านมียอดฝีมือทั้งๆที่ชายเหล่านี้เป็นได้แค่เพียงด่านหน้าเท่านั้นหรอก ใช่ไหม ? ”

ในตอนนี้ จวินวูอี้ได้มองไปยังจวินเซี่ยด้วยสีหน้าที่แปลกไป หลังจากเป็นเวลานาน เขาก็พูดขึ้น “ หาก ชายเหล่านี้มีฝีมืออย่างที่เจ้าว่า อะไรคือสิ่งที่ข้าคาดหวัง ? อะไรคือความแข็งแกร่งที่พวกเขาจะได้รับ หากว่าเจ้าฝึกฝนพวกเขา ? ”

“ จะให้ข้าฝึกพวกเขา ? ข้าไม่มีเวลาว่างมากนักหรอก ! ” จวินเซี่ยบิดปากของเขา “ ดมกลิ่นเหงื่อกลิ่นสาบทุกวัน ข้าคงจะจบลงด้วยกลิ่นของความตายของพวกเขา กลิ่นของทหารเทียบไม่ได้กับกลิ่นของเหงื่อ ! จิตวิญญาณของกองทับ ไม่เพียงแค่การสร้างเหงื่อและเสียงตะโกน หากแต่มันคือการสร้างมือสังหารในสงคราม ! ”

“ พาข้าไปที่นั่น ” จวินวูอี้ให้ความชัดเจน ใบหน้าของเขาดูราวกับกำลังครุ่นคิดหากแต่มั่นคง “ โม่เซี่ย แสดงความสามารถที่แท้จริงของเจ้าออกมา ! ”

Translate by iHaveNoName

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments