I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Otherworldly Evil Monarch ตอนที่ 28 เจ้าไม่ใช่สวะหรอกหรือ !

| Otherworldly Evil Monarch | 861 | 2338 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

เมื่อทั้งคู่ไปถึงที่ที่ไว้ฝึกองครักษ์ จวินวูอี้กระแอมและตะโกน “ ทหารรวมตัว ! เรียงแถวตรงหน้าข้า ! ”

เขาออกคำสั่งต่อกองทหาร !

มันเป็นเวลาถึงสิบปีแล้วตั้งแต่ที่เขาได้ออกมาออกคำสั่งทหาร แม้ว่าคำพูดนั้นจะออกมาจากปากของจวินวูอี้แต่มันก็แอบซ่อนไปด้วยกลิ่นอายของการสังหาร ! พวกเขาเต็มไปด้วยความหวังที่ นายพลผู้นี้กลับมามีพลังแห่งวีรบุรุษอีกครั้ง นี่เป็นนายพลที่สามารถให้และช่วงชิงชีวิตของผู้อื่นไปได้ !

ใครก็ตามที่ได้ยินคำสั่งทางทหารก็จะรู้สึกได้เหมือนพวกเขา หากพวกเขาไม่ไปในที่ที่กำหนดไว้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ พวกเขาจะเจอกับปัญหาได้ ! และมันไม่ควรจะเสียเวลา !

ในเวลาไม่นาน องครักษ์สามร้อยนายก็มายืนตามคำสั่งตรงหน้าของทั้งสอง

สามารถสังเกตได้ว่าใบหน้าของพวกเขาแต่ละคนนั้นเต็มไปด้วยเหงื่อ จวินวูอี้พยักหน้าด้วยความพอใจ เขายกมือขึ้นและชี้ไปยังจวินเซี่ย แล้วพูด “ จากนี้ต่อไป นายน้อยสามจะเป็นผู้ฝึกพวกเจ้าแต่เพียงผู้เดียว ! ไม่ว่าเขาจะสั่งอะไร พวกเจ้าจะต้องทำตามอย่างไม่มีเงื่อนไข ! เข้าใจหรือไม่ ? ”

หลังจากที่คำพูดนั้นจบลง ก็เกิดเสียงแห่งความวุ่นวายเกิดขึ้น ไม่มีใครตอบอะไรอยู่เป้นเวลานาน

ปรากฏความโกรธขึ้นมบนใบหน้าของ จวินวูอี้ แต่เขาก็มิได้พูดอะไร เขาเพียงแต่มองไปยังจวินเซี่ย จากที่เขาพูดก่อนหน้านี้ จวินเซี่ยได้กลายเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในที่นี้แล้ว หรือจะพูดอีกอย่าง ในตอนที่คำพูดเหล่านั้นจบลงคือตอนที่จวินเซี่ยได้รับตำแหน่งนี้แล้ว ไม่ว่าในตอนท่ายใครจะทำอะไร มันก็จะเป็นความรับผิดชอบของจวินเซี่ย !

จวินวูอี้จะไม่แทรกแทรงหากจวินเซี่ยจะใช้อำนาจของเขาในการดำเนินการอะไรก็ตาม ! หากหลานชายของเขาไม่สามารถที่จะผ่านอุปสรรคนี้ไปได้ นั่นก็หมายถึงว่าไม่กี่วันมานี้เขาก็แค่พูดโอ้อ้วดเท่านั้น ! เขาก็ควบจะล้มเลิกความหวังทั้งหมดที่เขามีไปซะ !

จวินเซี่ยหัวเราะเล็กน้อยภายในใจ เดินไปข้างหน้า และเริ่ม “ก่อนหน้านี้ ท่านน้าสามและข้าได้เฝ้าดูที่พวกเจ้าฝึกฝนกัน ท่านน้าถามข้าว่า ข้าคิดอย่างไรกับการฝึกของพวกเจ้า มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดหรือไม่ ? มันแข็งแกร่งหรือไม่ ? เหอะเหอะ … ”

เสียงของจวินเวี่ยนั้นไม่กึกก้องเลย แต่อย่างนั้น คำพูดของเขาก็ดึงดูความสนใจของ ชายทั้งสามร้อยนั้นได้ พวกเขาแต่ละคนเพ่งมองไปยังจวินเซี่ย ด้วยแววตาที่เปล่งประกาย พวกเขามองนายน้อยสามผู้ที่ไร้สาระคนนี้ว่าอย่างไรกันน่ะ ?

“ ข้าตอบไปว่า พวกเจ้าเป็นกองขยะ ! พวกเจ้ารู้จักแค่วิธีการที่จะกินและ ผลาญคลังอาหาร กองขยะที่อยู่เพื่อรอคอยความตาย ! หากสงครามเกิดขึ้นมาในตอนนี้และพวกเจ้าถูกส่งออกไป พวกเจ้าทั้งหมดจะตายในทันที ! และนั่นคือสิ่งที่ข้าจะไม่สงสัยเลย ! ”

ทหารทั้งสามร้อยคนสูดหายใจเข้าไปลึกที่สุด เพ่งมองอย่างเดือดดาลไปยังจวินเซี่ยด้วยแววตาที่สงบ ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง ไร้เกียรติ์ ! ไร้เกียรติ์ที่สุด !

ทหารผู้หนึ่งเดินออกมาและถาม ใบหน้าของเขาดูราวกับว่าจะพ่นเปลวไฟออกมา “ นายน้อยสาม ที่เจ้าพูดอย่างนี้ท่านหมายความว่าอย่างไร ? พวกเราอาจจะเป็นองครักษ์ของตระกูลจวิน แต่พวกเราทั้งหมด เป้นทหารที่รอดมาจากสงครามนับร้อย ! แม้ว่าท่านจะเป็นนายน้อย แต่ท่านมิควรจะลบหลู่พวกเราเช่นนี้ ! ”

“ ลบหลู่เจ้า ? ไม่ ไม่ ไม่ ผู้ที่ลบหลู่เจ้าจริงๆก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากตัวเจ้าเอง มีความจำเป็นอะไรที่ข้าจะต้องดูถูกเจ้าเพิ่มหรือ ? พวกเจ้ามีคุณสมบัติพอที่จะให้ข้าดูถูกหรือ ? ” จวินเซี่ยยิ้ม เขาชี้นิ้วชี้ออกไปและ หมุนมันอย่างอ่อนโยน “ เจ้าไม่พอใจหรือ ? เจ้าต้องการที่จะต่อข้าหรือ ? ดีมาก ข้าจะให้โอกาสเจ้า ! จนกว่าเจ้าจะพิสูจน์ข้อโต้แย้งของข้าได้ เมื่อนั้นข้าจะให้เจ้าต่อยข้า ท่านน้าสามจะไม่เข้ามาก้าวก่าย นี่เป็นคำสั่งแรกของข้า ! ”

เกิดเสียงพูดคุยขึ้นมาอีกครั้ง !

จวินเซี่ยพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่สุขุม “ ข้าจะถามพวกเจ้าทั้งหมดที่ผ่านร้อยสงครามมาหน่อย มีกี่คนในหมู่พวกเจ้าที่สุดท้ายแล้วได้เลื่อนตำแหน่งเป็นนายพล นายสิบ … อืมมม มีตำแหน่งในกองทัพ และมิได้เป็นทหารธรรมดา ตำแหน่งของพวกเขาสูงกว้าเจ้า ! พวกเจ้าปฏิเสธเรื่องนี้ไม่ได้แน่นอน ใช่หรือไม่ ? ”

เหล่าทหารเพ่งมองอย่างนิ่งเฉยก่อนที่จะพยักหน้าอย่างลังเล จะโต้แย่งเรื่องนี้ได้อย่างไร ? ในสงคราม เป็นจริงที่ว่ามีทหารมากมายที่มีทักษะสูงที่ได้เลื่อนขั้น สหายหลายคนของพวกเขาได้เลื่อนขั้นเพราะผลงานที่เกิดขึ้นในสงคราม ที่เพิ่มขึ้นทีละขั้น ซึ่งมันเป็นสิ่งปกติ เหตุใดนายน้อยสามถึงพูดเรื่องนี้

“ แต่ทำไมพวกเจ้าถึงมิได้เป็นนายพล ?เพราะพวกเจ้าไม่มีความสามารถยังไงล่ะ ! ดังนั้น หากเปรียบกับคนเหล่านั้น พวกเจ้าทังหมดจึงถูกกำจัด ! ”

จวินเซี่ยพูดต่อในขณะที่มองพวกเขาอย่างเลือดเย็น “ ต่อไป ข้าต้องการจะให้พวกเจ้าพิจารณาคนที่เข้ามาพร้อมกับพวกเจ้า ข้าเชื่อว่า ปราณเฉวียนของพวกเขาก็มิได้ดีไปกว่าพวกเจ้า บางทีอาจจะแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่ก็อยู่รอบตัวพวกเจ้า ข้าพูดถูกไหม ? ”

นั่นก็จริง ! เหตุใดพวกเราถึงมิได้เป็นนายพล ? พวกเขาที่ได้ยินคำเหล่านั้นถึงกับรู้สึกมึนงงและสับสน ไม่สามารถที่จะฟื้นคืนได้ พวกเขาทำได้แค่หงกหัวโดยที่มิได้ตั้งใจ ในระหว่างที่พวกเขาฟัง มีบางคนกระซิบกับตัวเอง ผู้ที่ประสบความสำเร็จและได้เป็นนายพล พวกเขาคว้าทุกโอกาสทุกอย่างที่ทำได้ หรือจะว่าอีกอย่าง พวกเขานั้นโชคดี นอกจากนี้ คำสั่งของเจ้าก็ไร้สาระ หากพวกเขาเหล่านั้นไม่แข็งแกร่งพอ เหตุใดพวกเขาถึงได้รับเข้าสู่กองทับกัน ? ความแข็งแกร่งของพวกเขาล้ำหน้ากว่าเรา ดงนั้นพวกเขาจึงกลายมาเป็นทหารธรรมดาเหมือนพวกเรา ?

“ แม้ว่า พวกเขาหลายคนจะบรรลุขีดจำกัดของปราณเฉวียนขั้นที่เก้าในระหว่างที่อยู่ในกองทัพและช่วงกลางของสงครามได้สำเร็จ จนกลายมาเป็นผู้มีฝีมือ ! หลังจากสงครามจบลง หลายตระกูลจึงต้องการที่จะจ้างพวกเขา นี่คือความจริงหรือไม่ ? ”

เรื่องนี้เกิดขึ้นเป็นปกติ นั้นจึงเป็นเหตุให้พวกเขาพยักหน้าอีกครั้ง แม้ว่าพวกเขาจะบังคับก่อนหน้านี้ จนพวกเขาบางคนเริ่มมีประกายของความอับอายเปล่งขึ้นมาบางๆในสายตา ทุกๆขั้นของปราณเฉวัยนคือขีดจำกัด ขั้นที่สูงกว่าจะสามารถบรรลุได้ยากกว่ามาก ! ขั้นที่เจ็ดและแปดอาจเป็นขั้นหนึ่งที่ตากต่าง แต่มันก็ต่างกันมากราวฟ้ากับโลก มีผู้คนจำนวนมากที่ได้บรรลุไปถึงขั้นที่แปด แต่พวกเขาก็จบลงด้วยการหยุดนิ่ง ไม่สามารถที่จะไปถึงขั้นที่เก้าได้ภายในช่วงชีวิตของพวกเขา ! นั่นไม่ต้องเอ่ยถึงการที่จะขยับไปสู่ขั้นเฉวียนเงินเลย !

ขั้นต่ำกว่าเก้า เป็นเพียงแค่มดปลวด ! ประโยคนี้มิใช่พูดติดตลกเลย !

“ พวกเขามีการพัฒนา หากแต่พวกเจ้าไม่ ! ดังนั้นหากเปรียบเทียบกัน พวกเจ้าก็ถูกกำจัดทิ้งอีกครั้ง ! หรือมีใครไม่เห็นด้วย ? ” จวินเซี่ยมองพวกเขาด้วยความดูถูก

พื้นที่ของการฝึกถึงกับเงียบเฉียบ ไร้ซึ่งความเคลื่อนไหวใดๆ และพวกเขาทุกคนถึงกับพูดไม่ออก !

“ หลังจากสงครามได้จบลง มีทหารหลายคนต้องการที่จะออกจากกองทัพ แต่บ้างก็ได้รับข้อเสนอจาก หน่วยงานลับของราชสำนัก หรือกองกำลังส่วนตัวอื่นๆ บ้างก็ถูกย้ายไปยังหน่วยอื่นของกองทัพ นี่ก็เป็นความจริงอีกอย่าง หรือไม่ ? ” จวินเซี่ยยิ้มในขณะที่ถาม

เหตุการณืแบบนี้ก็เกิดขึ้นเป็นปกติเช่นเดียวกัน ! ทุกๆคนก็ต่างเงียบอยู่ สีหน้าที่แสดงถึงความขายหน้าและอับอายของพวกเขาก็ทวีความรุนแรงขึ้น

“ ไม่มีพวกเจ้าคนใดถูกส่งไปที่ใหน ! นี่เป็นครั้งที่สามที่พวกเจ้าถูกกำจัดไป ! ” จวินเซี่ยโจมตีต่อ “ หลังจากนั้น เจ้าจึงได้ข้ามาอยู่ในตระกูลของเรา ผู้ใดบ้างที่จำ จำนวน ดั้งเดิมของคนที่เข้ามาที่นี่ได้บ้าง ? ”

“ รายงานนายน้อย จำนวนเดิมคือ ห้าร้อยนายขอรับ ! ” แม้ง่าเหล่านักรบจะเข้าใจเจตนาของจวินเซี่ย แต่เขาก็ยังตอบออกมา ด้วยสีหน้าที่แดงก่ำ

“ ถูกต้อง ! หรือจะพูดอีกอย่าง ตอนนี้ก็มีคนลดลงไปถึงสองร้อยแล้ว แล้วสองร้อยคนนั้นไปใหนล่ะ ? ” จวินเซี่ยช้าลงเพื่อหายใจสองครั้ง “ ข้าแน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้ถูกบังคับให้ออกไปหรือถูกสังหาร พวกเขาถูกเลือก เลือกเพื่อถูกส่งไปรับหน้าที่ที่หนักกว่า แต่ เหตุใดพวกเจ้าถึงไม่ถูกเลือก ?นั่นเพราะพวกเจ้าไม่มีความสามารถเท่าพวกเขา ! ชัดเจนแล้วว่า พวกเจ้าโดนคัดออกอีกครั้ง ! ”

องครักษ์บางคนถึงกับหายใจออกมาอย่างรุนแรง ดวงตาของบางคนก็แดงก่ำ แต่หามีใครพูดเลยไม่

“ ตอนนี้ บอกข้า หลังจากที่พวกเจ้าถูกคัดออกครั้งแล้วครั้งเล่า ถามใจดู เจ้ามิใช่ขยะหรอกหรือ ? ” จวินเซี่ยถามในขณะที่หันห้า เพื่อยื่นหูไปทางพวกเขา

Translate by iHaveNoName

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments