I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Otherworldly Evil Monarch ตอนที่ 29 การปลุกปั่นที่รุนแรง

| Otherworldly Evil Monarch | 815 | 2365 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ไม่มีคำตอบใดเอ่ยออกมา องครักษ์ทั้งหมดถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง สีห้าแดงก่ำ ราวกับว่าพวกเขาไม่หายใจ! เกิดความอับอายดิ่งลงลึกไปยังก้นบึ้งของหัวใจ เป็นแห่ตให้พวกเขา อับอายเป็นที่สุด !

ทำไมกัน ? ถ้าผู้อื่นทำได้ ทำไมเราทำไม่ได้ ? ผู้อื่นสามารถบรรลุผ่านขีดจำกัดไปยังขั้นต่อไปได้ แต่พวกเราทำไมไม่ได้ ? สหายที่ต่อสู้เคียงข้างเรา ตอนนี้ได้เลื่อนไปอีกขั้นหนึ่ง แล้วมองลงมายังผู้อื่นจากตำแหน่งที่สูงส่ง ! เหตุใดพวกเราถึงไม่สามารถทำแบบเขาได้กัน ?

“ พวกเจ้าบางคนอาจจะพูดว่า คนที่ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นไปถึงนายพลนั้น เพราะพวกเขาโชคดี ! และผู้ที่สามารถที่จะ บรรลุขีดจำกัดของปราณเฉวียนไปยังขั้นสูงกว่าได้นั้น พวกเขามีพรสวรรค์ที่เหนือกว่าพวกเจ้าทั้งหมด ! เหตุที่เจ้าไม่ถูกเลือกนั้นเพราะว่าพวกเขาไม่ยอมรับในศักยภาพของเจ้า ! ข้าจะบอกเพียงแค่นี้ พวกเขานั้นเป็นแต่เพียงนัย โชคดีหรือ ? เหตุใดพวกเจ้าถึงไม่ไขว่คว้าความโชคดีนั้น ? หากพวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าเกินมาพร้อมกับพร สวรรค์ที่แย่ ก็จะกลายเป็นขยะตั้งแต่เกิด ! ถ้าจะบอกว่าผู้อื่นไม่รู้จักพรสวรรค์ของเจ้า ข้าจะบอกว่าพวกเจ้านั้นโง่มาก ! หากเจ้าเป็นนายจ้าง เจ้าจะจ้างขยะ หรือ พวกไร้ประโยชน์หรือไม่ ? ”

ทุกคนต่างเงียบ ถอนหายใจออกมาอย่างหนัก และดวงตาพวกเขาแดงก่ำไปทั้งดวง

“ เหตที่ข้าพูดถึงเรื่องนี้ มิใช่เพราะต้องการที่จะสะกิดแผล่เก่าของเจ้า ! มันเป็นเพราะพวกเจ้ามีชีวิตอยู่อย่างสบายจนเกินไป ซึ่งนำพาไปสู่ความสูญเสียความกล้าหาญ ! เป็นไปว่า จนงตระหนักถึงความอับอาย และ ก้าวต่อไปด้วยความกล้าหาญ ! จงอย่ากลัวที่จะผิด ! สิ่งที่น่ากลัวคือ การพวกเจ้าไม่รู้มาก่อนว่ามันผิด กำลังพึงพอใจในความสำเร็จ และภาคภูมิใจในตัวเอง ! นี่คือสิ่งที่มิอาจยกโทษให้ได้ ! พวกเจ้าไม่เคยตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้มาก่อน ถ้าหากมีพวกเจ้าคนใดตระหนักถึงสิ่งที่ข้าพูดมาทั้งหมด พวกเจ้าคงมิได้มาอยู่ที่นี่ ! ”

“ คนเรามีแรงบันดาลใจมากมายเพื่อให้มีชีวิตอยู่ แต่กระนั้น สิ่งที่สำคัญกับพวกเขาคือความขายหน้า ! บอกข้ามา ว่าเจ้ายังต้องที่ที่จะฝึกอย่างขยะอีกหรือไม่ ? พวกเจ้ายังคงต้องการที่จะเป็นเพียงพวกไร้ค่าที่รอคอยความตาย ในขณะที่เฝ้ามองสวนหลังบ้านอยู่อีกหรือไม่ ? เจ้ายังคงต้องการที่จะอับอายและให้ผู้อื่นเดินก้าวผ่านไปอีกหรือไม่ ? เจ้ายังต้องการที่จะให้ข้าพูดไปจนถึงจุดที่พวกเจ้าจะโงหัวไม่ขึ้นอีกหรือ ? ”

ก่อนที่จจวินเสี่ยจะพูดต่อ ก็มีเสียงดังก้องลอยออกมาตรงหน้าเขา “ ไม่ ! ” ในตอนแรกเสียงโห่ร้องนั้นยังคงสับสน แต่ต่อมาไม่นาน เสียงตะโกนนั้นดังกึกก้องไปทั่งแผ่นฟ้าและท้องทะเล ผู้คนที่อยู่ใกล้เคียงก็ถูกกระตุ้นอารมณืให้ตะโกนออกไปอย่างควบคุมไม่ได้! พวกเขาตะโกนดังกึกก้องราวกับลำคอจะแตกออกและเลือดพรั่งพรู่ขึ้นสู่หัว !

“ เยี่ยม ! นี่แสดงให้เห็นว่าพวกเจ้ายังพอมีหวัง ! พวกเจ้ายังพอมีทางไปต่อ ! ” จวินเซี่ยเดินมาข้างหน้าอีกสองก้าว และเอียงหัวในทันที “ พวกเจ้าคิดอย่างนี้ไหม ? ” จวินเซี่ยช้าลง และรออยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะต่อ “ หากแม้พวกเราจะเป็นขยะ แต่พวกเรายังมีความแข็งแกร่งมากกว่า พวกเสเพลที่ไร้ประโยชน์ ผู้ซึ่งไม่มีอะไรเลย ! ข้าถูกไหม ? สาเหตุที่พวกเจ้าเชื่อฟังข้าเพราะคำสั่งของท่านน้าสาม พวกเจ้าทั้งหมดรู้สึกดูถูกเพียงแต่ข้า ! ข้าก้ถูกอีกใช่ไหม ? ”

พวกเขาหลายคนเงยหน้าขึ้น แม้พวกเขาจะไม่กล้าที่จะพูดอะไร แต่มันก็แสดงให้เห็นว่าในหัวใจพวกเขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

“ น่าเสียดายที่ความคิดของพวกเจ้านั้นผิดพลาด และยิ่งไปกว่านั้น มันคือความผิดพลาดที่ร้ายแรง ! ” จวินเซี่ยผายมือออกไป “ ข้าเป็นเพียงแต่คนเสเพล ในขณะที่พวกเจ้าเป็นบุรุษเหล็ก ผู้ที่ผ่านร้อยสงครามมา ! แต่ข้าจะบอกว่า ไม่มีพวกเจ้าคนใดที่มีค่ามากกว่าข้า ! เหตุใดที่พวกเจ้าไม่มีค่ามากกว่าข้าหน่ะหรือ ? คำตอบนี้ง่ายมาก เพราะว่า ข้ามีท่านปู่ที่ดี มีท่านน้าที่ดี มีท่านพ่อและพี่ที่ดี ! พวกเขาอุทิศทุกสิ่งเพื่อให้ตระกูลจวินของเรามีวันนี้ ! นั่นล่ะคือสิ่งที่พวกเจ้าไม่มี ! แม้แต่ข้าที่ไม่มีอะไรมากกว่าเป็นพวกเสเพล แม้ว่าจะไปสังหารผู้บริสุทธิ์ แต่ก็ยังมีคนมาช่วยแก้ปัญหาให้ข้า มีคนที่ช่วยให้ชีวิตข้าประสบความสำเร็จ ! นี่ก็คืออีกสิ่งหนึ่งที่พวกเจ้าไม่มี ! และนั่นคือเหตุผลที่ไม่มีพวกเจ้าคนใดมีค่ามากกว่าข้า ! กฏของสวรรค์มันมีความสมดุลย์ในตัวมันเอง เจ้าจะต้องอุทิศบางสิ่งเพื่อที่จะได้รับบางสิ่ง แม้แต่คนเสเพล ก็จะต้องจ่ายเพื่อที่จะเป็นคนเสเพล ! ยิ่งไปกว่านั้น ราคามันก็ไม่น้อยเลย ! คนส่วนใหญ่ ไม่มีสิ่งที่จะเป็นคนเสเพลได้ ! เพราะพวกเขาไม่มีปัจจัยที่เอื้ออำนวย คือพ่อแม่พวกเขาไม่ยอมจ่ายเพื่อให้เป็นแบบนั้น นั่นเป็นเหตุว่าทำไมพวกเขาถึงถูถูกพวกเสเพล ! และนั่นเป็นเหตุที่ทำไมพวกเขาจะไม่ถูกเรียกว่าคนเสเพล ! ”

“ ไม่ต้องหันไปมองคนอื่นใด เพราะตัวอย่างที่ดีที่สุดอยู่ตรงหน้าพวกเจ้าแล้ว ! ท่านปู่ข้า จวินจ้านเทียน ที่เกิดมาอย่างคนสามัญ เขาเข้าสู่กองทัพ และได้รับการล้างบาปโดยเลือดจากร้อยสงคราม หล่อหลอมตระกูลจวินมาจนถึงวันนี้ ! เจ้าคิดว่าท่านปู่ของข้าจะแข็งแกร่งไปมากกว่าพวกเจ้าเจ้าไหมในตอนที่ท่านเริ่มต้น ? ”

เรื่องราวของ จวินจ้านเทียนเติบโตขึ้นจนเป็นเรื่องเล่าโดยทั่วไปในอาณาจักร เทียนเชียง ! ปกติแล้วผู้คนเหล่านี้จะรู้เรื่องราวดีกว่าคนอื่นๆ เมื่อได้ยินคำนั้น หัวใจของพวกเขาก็ปั่นป่วนจนถึงขีดสุด !

พวกเราจะมีเวลาแบบนั้นไหม ?

“ นั้นก็เพียงพอแล้วที่ข้าจะพูด ข้าเชื่อ่าพวกเจ้าทุกคนจะเข้าใจในสิ่งที่ข้าพยายามจะบอก ! พวกเจ้านั้นมีโชคมาก มากพอที่จะรอดมาจากสงคราม และมากกว่าไปกว่านั้นตรงที่พวกเจ้ามีชีวิตที่สงบสุขจนถึงขั้น ฝึกกันราวกับเกมส์ ! แม้ว่าราคาที่เจ้าจ่ายไปเพื่อที่จะผ่านวันเหล่านี้ไป ! ไม่มากก็น้อย ! ”

จวินเซี่ยหยุดเดินในทันที และหนักไปเผชิญหน้ากับพวกเขา พูดอย่างเน้นย้ำออกมาทีละคำ “ ข้าจะถามพวกเจ้าเพียงแค่ว่า พวกเจ้าหิวโหยที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดและกลายไปเป็นที่หนึ่งหรือไม่ ? เจ้าโหยที่จะก้าวล้ำหน้าผู้ที่สำเร็จกว่าเจ้าหรือไม่ ? เจ้าหิวโหยที่จะเป็นให้ได้มากกว่า หมาเฝ้าบ้านหรือไม่ ? และ … ”

จวินเวี่ยยิ้มออกมาอย่างประหลาด “ เจ้าต้องการที่จะให้ลูกและหลานของเจ้าทำอย่างที่ข้าทำหรือไม่ ? พวกเขาจะเสเพลโดยที่ไม่มีผู้ใดกล้าล่วงเกิน เจ้าลองคิดว่าถ้าเจ้าประสบความสำเร็จในวันหนึ่ง แล้วลูกของเจ้าเกิดมา ความสำเร็จของเจ้าจะสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้อย่างดีหรือไม่ ? เจ้าเคยคิดไหมว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้พวกเขาสามารถที่จะปีนขึ้นไปในจุดที่เหนือกว่าด้วยความความพยายามที่น้อยกว่าความจำเป็น ? พวกเจ้าสามารถที่จะกลายเป็นตระกูลใหญ่อย่างตระกูลจวิน ตระกูลลี่ หรือ ตระกูลตู่กู ! โชคชะตาของลูกและหลานของเจ้าขึ้นอยู่กับความพยายามของเจ้าแต่เพียงผู้เดียว ! ”

คงามโชตช่วงชัชวาลที่จวินเซี่ยส่งออมา ทำให้พวกเขาทุกคนหายใจด้วยความกระตือรือล้น พวกเขากำมือแน่น เส้นเลือดดำเต้นกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้ และดวงตาของพวกเขาแดงก่ำ

ภายใต้ความเงียบ จวินเซี่ยคำรามออกมาเสียงดัง “ เจ้าต้องการมัน ? ใช่หรือไม่ ! ”

“ ใช่ ! ” ชายชกรรณ์สามร้อยคนได้ตะโกนออกมากึกก้องอย่างพร้อมเพรียงกัน ! เสียงของพวกเขาสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น ! มันเป็นเสียงที่ระเบิดออกมาจากก้นบึ้งหัวใจของพวกเขาในเวลาเดียวกัน ! ในตอนนี้ ดูราวกับว่า ทั้งท้อฟ้าและโลกสั่นสะเทือน !

“ เมื่อเจ้าต้องการมัน ดังนั้นจงฟังคำสั่งข้า ! ภายใต้กฏการฝึกฝนของข้า ห้ามมีการโอดครวน ! ข้าจะนำทางพวกเจ้าไปสู่การอิทศเพื่อรางวัลที่ยิ่งใหญ่ ! ” จวินเซี่ยมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ อย่างไรก็ตาม ทุกคนต้องคิดถึงความจริงที่สำคัญว่า ภายใต้กฏการฝึกของข้า มันมีโอกาสที่จะมีคนตาย ! พวกเจ้าบางคนอาจจะบลงด้วยการไร้ความสามารถ ! นี่คือราคาที่พวกเจ้าจะต้องจ่าย และข้าก็จะให้โอกาสพวกเจ้าคิดดีๆ หากพวกเจ้ายังยืนยันที่จะรับการฝึกกับข้า จงก้าวมาข้างหน้า ! หากผู้ใดกลัวจะก้าวหน้า ข้าจะเตือนสติเจ้าอีกครั้ง ด้วยการละเว้นความทรมาณ จะไม่มีใครที่จะได้รับอญุณาติให้ถอนตัวก่อนที่การฝึกจะจบลง ! นั่นคือเหตุที่ว่าทำไมพวกเจ้าต้องเลือกที่นี่ในตอนนี้ ! ”

“ ข้าจะนับเพียงแค่สาม ! ก่อนที่จะนับสาม เจ้าจะต้องตัดสินใจ ! ” จวินเวี่ยตะโกนกึกก้อง “ หนึ่ง ! … ”

ก่อนที่คำว่าสองและสามจะถูกกล่าวออกมา ชายทั้งสามร้อย ก้าวออกไปข้างหน้า ด้วยสีของทหารที่ก้าวไปสู่ความตายอย่างกล้าหาญ ก้าวยาวๆไปข้าหน้าอย่างเป็นระเบียบ ก้าวนี้จบลงด้วยแรง ที่ทำให้ดินบนพื้นสั่นสะเทือนและฝุ่นฟุ้งกระจาย แม้แต่พื้นดิก็ดูเหมือนว่าจะสั่นสะเทือนด้วยการกระทำของพวกเขา !

จวินวูอี้ผู้ที่เฝ้ามองอยู่ด้านข้าง ก็มองออกไปด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความพอใจและ … นับถือ !

จวินเซี่ยได้ปลุกใจของพวกเขาด้วยการปลุกปั่น ในตอนนี้ ไม่มีใครจะเลิกคิ้วแม้แต่พวกเขาจะถูกสั่งให้ไปตาย ! จวินเซี่ยได้กระตุ้นกำลังใจของพวกเขาให้ไปถึงขีดจำกัด ! ความกระหายเลือดโดยธรรมชาติของทหารผ่านศึกเหล่านี้พุ่งพล่านอย่างที่สุด ! จวินวูอี้ นายพลที่ครึ่งหนึ่งเคยปลุกใจของเหล่าทหาร แม้กำลังได้ยินคำนี้ เขาเองก็ยังรู้สึกถึงเลือดที่พุ่งกล่าน การหายใจของเราเริ่มหนักแน่น ในตอนนี้ เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังเฝ้ามองสงครามที่กำลังดุเดือด กลุ่มควันล่อยลอยอัดแน่นในอากาศ ซากศพกองเป็นภูเขาเหล่ากา เลือดนองไปทั่ว จนท้องทะเลเปลี่ยนเป็นสีแดง !

ความว่างและเสียงเห่าหอนที่โดดเดี่ยวเพิ่มขึ้นภายในวิญญาณของเขา ดูราวกับภาพการเดินทางที่หรูหราและงดงาม มันเกิดเป็นภาพของทหารนับพันที่เคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความกระหายเลือด ภายในหัวใจเร่าร้อนจนเลือดสามารถลุกเป็นไฟได้ ! พุ่งเข้าสู่ร้อยสงครามโดยนไม่เสียใจ ! เผชิญความเป็นด้ายโดยไม่เสียดาย !

ประกายของเลือด ! เมื่อถึงจุดนี้ จวินวูอี้และทหารทั้งสามร้อย ปรากฏประกายเลือดที่เหมือนกันออกมาที่ดวงตา !

ในช่วงเวลานี้ ชายทั้งสามร้อยมีความคิดเดียวกัน เพื่อที่จะนำพาตัวเองออกไปจากความอัปยศ เหตุใดจึงไม่ควรกล้าที่จะตายละ ?

ไม่เพียงแต่จวินเวี่ยจะจินตนาการได้ว่าการกระทำนี้ของเขา จะบังคับให้จวินวูอี้ ส่งมอบความรับผิดชอบให้เขาฝึกฝนทหารพวกนี้ เพื่อที่จะสร้างกองทหารชั้นเลิศที่สุดในโลก ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้ กองทหารนี้จะสร้างความหวาดกลัวให้กับเล่าศัตรู และทำให้พวกเขาคลาดเขลาและยอมจำนนโดยไร้การต่อสู้ใดๆ ราวกับกองกำลังจากสวรรค์ !

กองรับนี้มีนามว่า ดูดกลืนวิญญาณลบล้างสวรรค์ !

กองทัพของจอมโฉดแห่งโลกหน้า ผู้ที่จะกลายมาเป็นเลิศของโลกได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้วในวันนี้ ! กองกำลังจากสวรรค์ ได้ถือกำเนินมาจากความอัปยศ ! แล้วความโชตช่วงอะไรที่กองทัพนี้จะแสดงให้โลกนี้เห็นละ ?

Translate by iHaveNoName

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments