I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Otherworldly Evil Monarch ตอนที่ 31 ความกดดันที่พอกพูน

| Otherworldly Evil Monarch | 863 | 2367 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 

จวินเซี่ยยังคงนิ่งเงียบ หากเขาไม่ได้เข้ามายังโลกนี้ จวินโม่เซี่ยก็ยังคงจะเป็นเด็กเสเพลต่อไป จวินโม่เซี่ยมีปัญญาที่ลึกซึ้งงั้นหรือ ? เห็นได้ชัดว่าไม่ ! อย่างรก็ตาม จนกว่าวันที่ตระกูลจวินได้รับการฟื้นฟูมาถึง จวินเซี่ยก็จะยังคงรับบทบาทที่เป็นคนเสเพลต่อไป อีกทั้ง หากเขาขันมือ เขาก็แค่ออกไปแล้วลอบสังหารผู้ที่มันสมควรตาย

“หากเจ้าพูดอย่างนั้น ข้าคงจะเลือกเป็นคนเสเพลต่อไปในอนาคต ”

จิวนเวี่ยมองไปยังจวินวูอี้ด้วยรอยยิ้ม

“ จนถึงวันที่ท่านน้าสามาจะได้รับการฟื้นฟู ท่านก็จะกลายมาเป็นร่มเงาที่คอบปกป้องข้า ! เมื่อวันนี้มาถึง ข้าก็จะกลับไปเป็นโม่เซี่ยคนเดิม แล้วใครจะกล้าขัดขวางข้ากัน ? ”

จิวนวูอี้หัวเราะ

“ นั่นคงเป็นสิ่งที่เจ้าต้องการ ! นอกจากนี้ จากที่ข้าเห็น … มันไม่มีใครดีไปกว่าเจ้าแล้วละ เจ้าบ้า ! ”

สำหรับตอนนี้ ทั้งสองกองร้อยได้กระทำตามคำสั่งของจวินเซี่ยเสร็จเรียบร้อยแล้ว สำหรับการเลือก ผู้นำกองร้อย ผู้นำหมวด และหมู่ ก็ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา

จวินเซี่ยหันหลังกลับและเดินไปที่พวกเขา

“ จากนี้เป็นต้นไป กองร้อยของเจ้า จะปฏิบัติต่ออีกกองหนึ่งเสมือนเป็นคู่แข่งที่ดีที่สุด ! ในตอนนี้ ข้าไม่รู้รายละเอียดของพวกเจ้า เป็นเหตุที่ข้าจะไม่ฝึกด้วยวิธีใหม่เป็นการชั่วคราว ในสิบวันต่อจากนี้ พวกเจ้าทำการฝึกตามแบบเดิมไปก่อน แต่กระนั้น ! ”

จวินเซี่ยพูดอย่างเน้นย้ำ

“ ทุกๆ รอบการฝึกจะเพิ่มเป็นสามเวลา จากเวลาปกติ ! เจ้าเข้าใจชัดเจนไหม ? ”

พวกเขาถึงกับอ้าปากด้วยความตกตะลึง

“ สามวันจากนี้ จะมีการแข่งขันระหว่างหมู่ แต่ละหมวดจะเลือกหนึ่งหมู่เพื่อที่จะเข้าแข่งขั้น ! ห้าวันจากนี้ แต่ละหมวดจะต้องเลือกคนที่เก่งที่สุด พวกเขาจะเข้าสู่การแข่ง ! เจ็ดวันจากนี้ ทั้งสองกองร้อย ก็จะได้เผชิญหน้ากัน ! ”

“ ในการแข่งของสองกองร้อย หากกองร้อยใดแพ้ ผู้นำของกองร้อยนั้นจะต้องขึ้นมาบนแท่น และตบหน้าตัวเองต่อหน้าคนทั้งสามร้อย ! เข้าใจไหม ? ”

ความเงียบเกิดขึ้น !

“ ข้าจะทวนคำถาม เข้าใจไหม ? ”

จวินเซี่ยถามในเชิงบังคับ

“ เข้าใจขอรับ ! ”

ทุกๆคนคำรามขึ้นมา

“ ผู้นำกองร้อยทั้งสอง จะได้รับมอบหามายให้ทำรายการฝึก ข้าไม่สนว่าพวกเจ้าจะจัดโปรแกรมการฝึกอย่างไร ข้าสนใจแค่ผลจากการแข่งขันเท่านั้น ! ข้าอยากเห็นพวกเจ้าคนใดคนหนึ่ง ขึ้นมาบนแท่นและตบหน้าตัวเองต่อหน้าผู้คนทั้งสามร้อยหลังจากที่แพ้การแข่งขัน ! ”

“ ในการแข่งขันนี้จะเกิดขึ้นในหนึ่งเดือน หากกองร้อยของผู้นำคนใดแพ้ไปถึงสามรอบ เจ้าจะต้องขึ้นแท่นมาด้วยร่างอันเปลืยเปล่าและเห่าเหมือนหมา ! เมื่อเวลานั้นมาถึง ข้าจะรวมคนในที่พักของเรา เพื่อมาดูภาพที่น่าตื่นเต้นนี้ ! ”

“ สำหรับตอนนี้ ข้าไม่มีความสนใจที่จะรู้ชื่อพวกเจ้า ข้าจะรอให้ถึงกลางปีหน้า ! แต่ข้าได้เตรียมชื่อให้กับทั้งสองกองร้อยแล้ว กองร้อยแรกชื่อว่า กองร้อยปล้นสวรรค์ ! และกองร้อยที่สองชื่อ กองร้อยกลืนวิญญาณ ! มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้เข้าร่วมสองกองร้อยนี้ ! สำหรับในตอนนี้ ยังไม่มีใครมีคุณสมบัติพอ ! ทุกๆอย่างจะขึ้นอยู่กับบททดสอบของข้าหากเจ้าทำได้ ข้าจะจดจำชื่อของพวกเจ้า ! แต่หากไม่ … พวกเจ้าจะไม่เหลืออะไรมากกว่ากองกระดูก ! ”

“ หลังจากที่เจ้ากลับไป เจ้าจะต้องกำหนดเวลาเพื่อที่จะกินหรือเข้าห้องน้ำ หากใครล่วงเวลามันจะต้องโดนลงโทษโดยไม่มีการไต่ถามใดๆ ! ไม่สำคัญว่ามันจะเป็นกิจกรรมอะไร จะต้องมีตารางเวลา แต่ละกองร้อยจะคิดกฏการลงโทษขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง ! เมื่อเสร็จแล้ว ให้เอารายละเอียดมาให้ข้า ! ในตอนนี้ ไปทำตามคำสั่งข้า ! เลิกกอง ! ”

ผู้นำของทั้งสองกองร้อย มิได้มีความสุขจากการโดนเลื่อนขั้นเลย แต่พวกเขากลับได้รับ ภาระที่หนักอึ้งราวกับทัวร์ไปนรก ! มีใบหน้าราวกับกินมะระที่ขมเข้าไป นอกจากนี้พวกเขาก็ไร้ความปราณีกับกองร้อย

คนอื่นๆก็คิดแบบเดียวกัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องขึ้นแท่นไปและตบหน้าตัวเอง พวกเขาก็ยังคงต้องเป็นพยานในการตบหน้าตัวเอง แต่พวกเขาก็มีความสนใจในการแสงที่มีคนขึ้นแทนไปแบบแก้ผ้าและเห่าเหมือนหมา … อืมม นี่น่าสนใจ …

สำหรับการแข่งขัน อะไรคือสิ่งที่เขากลัว ? พวกเขาจะต้องเพิ่มกำลังในการฝึก หากสามครั้งยังไม่มากพอ ก็เป็นห้าครั้ง หากห้าครั้งยังไม่มากพอ ก็เป็นสิบครั้ง การฝึกฝนที่ได้วางชีวิตตัวเองไว้กับสายงาน …

ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป องครักษ์ประจำบ้านทั้งสามร้อยนายได้ ก้าวเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในนรกอย่างเป็นทางการแล้ว …

ไกลจากลานฝึก ปู่จวินได้หายใจออกยาวๆและสบัดมืออย่างนุ่มนวล ชี้ทางให้ปู่ผังได้เดินไปพร้อมกับเขา

“ นายท่าน ข้าควรจะพานายน้อยมาเพื่อไต่ถามหรือไม่ ? ”

“ มีความจำเป็นที่จะต้องตั้งคำถามกับเขาอีกหรือ ? ให้เขาทำไปตามความพอใจ ”

ปู่จวินตอบไปด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย และภายในหัวใจที่มีชีวิตชีวา

“ นายท่านเหตุในที่นายน้อยถึงให้ผู้นำกองร้อย เป็นคนลงโทษ ? เราจะไม่เสียทหารไปจากการลงโทษหรือ ? ”

“ เฮ้ยเฮ้ย ตาแก่ผัง ! หากเจ้าถูกเลือกให้เป็นผู้นำกองร้อยและกองร้อยของเจ้าพ่ายแพ้ ผลสุดท้ายคือเจ้าจะต้องไปตบหน้าตัวเอง และอาจจะได้ไปแก้ผ้าและเห่าเหมือนหมา เจ้าจะรู้สึกอย่างไร ? เจ้าจะระเบิดอารมณ์ใส่ผู้นำหมวดของเจ้าไหม ? ด้วยวิธีที่ต่างกัน หลังจากที่ หัวหน้าหมวดนั้นได้รับ ความโกรธของหัวหน้ากองร้อย แล้วเขาจะทำอย่างไรกับหัวหน้าหมู่ ? แต่ละลำดับขั้นจะมีความกดดันและหน้าที่รับผิดชอบของตัวเอง แต่ละขั้นจะได้รับค่าตอบแทนตามความกดดัน ! เมื่อมันมาถึงชั้นของทหารธรรมดา ความกดดันมหาศาลมันก็จะไปถึงจุดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ! รูปแบบของการส่งต่ความกดดันนั้นข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน แม้ว่ามันจะเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการการฝึกทหาร ! สำหรับโม่เซี่ยที่วางแผนการแบบนี้ หากกองทัพมีเขาเป็นนายพล เขาจะเป็นผู้มีความสามารถที่รุ่งเรือง ! ”

ปู่จวินรู้สึกพึงพอใจ

“ โอ้ … ถึงว่าละทำไม! ”

ตาแก่ผังคิดกับตัวเอง

“ การดำเนินการของนายน้อยถึงเป็นอันตราย ”

“ อันตราย ? ไม่ มันไม่ใช่ ”

ปู่จวินมองไปราวกำบเขากำลังจัดระเบียบความคิดในสมองอยู่

“ นี่คือการที่จะใช้ความสารถของพวกเขาอย่างเต็มที่ ในขณะที่ผู้มีอำนาจจะมุ้งเน้นไปยังเรื่องอื่นๆ นี่เป็นวิธีที่ทำให้คนที่เข้ามามีประสิทธิภาพสูงสุด ในมุมมองทางธุรกิจ นี่คือวิธีการบริหารที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารกองทัพ หรือการจัดการสถานการ ! อย่างน้อย ข้าก็ยังไม่พบวิธีอื่นที่ดีกว่า ! ไอบ้านี่ทำอีกอย่างหนึ่ง ! ”

“ โม่เซี่ย เหอเหอเหอ เขา … ”

จวินจ้านเทียนชำเลืองมองขณะที่ใบหน้าของเขายิ้มออกมาโดยไร้การควบคุม

“ อย่างไรก็ดี ท่านจักรพรรดิ ทรงไม่เห็นด้วยกับการแต่งงาน หาแล้วไม่ ชายแก่ผู้นี้คงจะจบลงด้วยความผิดพลาด ! ”

จวินวูอี้ได้ไปจัดเตรียมคนจำนวนหนึ่งในทันที เพื่อที่จะมอบหมายให้พวกเขาไปเสาะหาสมุนไร โรงสมุนไพรของตระกูลจวินก็มีของดีอยู่จำนวนไม่น้อย แต่สมุนไพรที่จวินเซี่ยต้องการนั้นหายามาก ซึ่งมันจะต้องเอามาจากร้านยาภายนอก !

จวินเซี่ยได้รีบร้อนกลับไปยังห้องของเขา เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะตรวจสอบของรางวัลของเขา ในขณะที่เขาปิดประตูและหน้าต่างก่อนนั่งขัดสมาธิลง

วันนี้จวินเซี่ยได้ใช้เวลามามายในการเดินไปตามถนน ในช่วงเวลานั้น เขารู้สึกได้ถึง การมีอยู่ของหมอกคลื่นสีขาวที่ผิดปติภายใน ทะเลของความตระหนักรู้ แม้ว่าสิ่งที่ประหลาดใจนั้นจะหายไปหลังจากที่จะกลับมาถึงบ้าน นี่เป็นเหตุให้เขาประหลาดใจไม่น้อย

หลังจากที่สงบสติลงได้ เขาก็ได้ฝึกเคล็ดนี้อีกครั้ง แต่มันก็ไม่สามารถที่จะตรวจพบความผิดปกติใดๆ นี่เป็นเหตุให้เขาไม่เข้าใจ หรือมันจะมีผลมาจากปัจจัยภายนอก ?

มีบางอย่างที่ทำให้จวินเซี่ย งงงวยเป็นอย่างมาก ในระหว่างที่มิได้ฝึกศิลปะนี้ หมอกสีขาวจะรั่วไหลออกมาจากทะเลแห่งการตระหนักรู้ของเขาโดยที่เขาไม่ต้องการ หมอกนั่นจะลอยไปตามเส้นลมปราณของจวินเซี่ยหนึ่งรอบก่อนที่จะหายไป มันจะเป็นช่วงเวลาที่หมอกขาวนั่นปรากฏขึ้นมานานที่สุด ซึ่งทำให้มีผลดีต่อร่างของเขา

แม้ว่า จวินเซี่ยจะพยายามที่จะฝึกเคล็ดนั่นด้วยใจจริง หมอกขาวนั่นก็ปรากฏร่องรอยขึ้นมาเพียงน้อยนิด หลังจากที่มันเคลื่อนไปตามเส้นลมปราณแล้ว แต่ผลของมันก็ยังคงน้อยกว่าในตอนที่มันเกิดขึ้นมาด้วยตัวเอง

เป็นสามสิ่งที่จวินเซี่ยไม่สามารถจะทำความเข้าใจในเรื่องนี้ได้ คือ เคล้ดปลกผนึกชะตาสวรรค์ หากตัดสินมันตามชื่อและเหตุการประหลาดเหล่านี้ ความสามารถของมันจะทำให้ประหลาดใจอย่างมาก ! แม้ว่าเขาจะฝึกฝนจนสามารถที่สัมผัสมันได้ แต่พลังงานที่ไหลเวียนอู่นเส้นลมปราณของเขานั้นก็เบาบางราวเส้นผม ไม่ว่าจวินเซี่ยจะพยายามมากเท่าใหร่ จวินเซี่ยก็ไม่สามารถที่จะเพิ่มขนาดของมันได้ ! แม้ว่ามันจะน้อยแต่มันก็มั่นคง มันสามารถใช้งานได้สะดวกและมีประสิทธิภาพสูง ในทางกลับกัน ปริมาณของมันก็มากเกินความต้องการ

หากจะเปรียบเทียบ พลังภายในที่เขามีเมื่อชีวิตก่อนนั้น เด่นชัดราวนิ้วมือที่เคลื่อนไปตามเส้นลมปราณ แต่พลังที่เขามีในตอนนี้นั้น บอบบางราวเส้นผม ซึ่งมันต่างกันอย่างมากจนเปรียบไม่ได้ ! แม้ว่า จะเปรียบเทียบเรื่องคุณภาพ พลังภานใจของเขาในชีวิตก่อนนั้นเป็นดั่งม้วนเชือก ในระหว่างที่พลังในตอนนี้เป็นดั่งเส้นผมทีลึกลับ แม้แต่กระบี่ที่เลอค่าก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายได้ แต่ต้องบอกว่ามันเป็นเพียงการประมาณการ แต่ทั้งสองสิ่งนี้ก็หาที่เปรียบมิได้ !

Translate by iHaveNoName

สนับสนุนผู้แปล

[adinserter block=”3″]

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments