I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Otherworldly Evil Monarch ตอนที่ 43 ผู้ที่แข็งแกร่งราวกับเหล็ก

| Otherworldly Evil Monarch | 987 | 2364 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ทุกคนเชื่อว่านายน้อยนั้นคงจะฟุบลงในตอนนี้หรือไม่ก็ไม่นาน นายน้อยผู้เสเพลของพวกเขาจะอดทนต่อการฝึกนรกนี้ได้อย่างไร ? บางคน พนันกันว่าจวินเซี่ยจะต้องยอมแพ้ภายในเวลาไม่กี่ก้านธูป แต่กระนั้น มันก็เป็นไปในทางตรงข้ามกับที่พวกเขาคาดการไว้ จวินเซี่ยผู้ที่ ยืนโซเซอยู่ตลอด ตั้งแต่เริ่ม อดทนจนถึงเวลาอาหารเช้า ร่างของเขาก็ยังคงเซไปเซมาอยู่

เขา … เขาช่างอุตสาหะเสียจริง ! ซึ่งมันทำให้ตาของทุกคนถลนออกมา

ดังนั้น พวกเขาจึงเริ่มคิดว่า นายน้อยจะร่วมการฝึกในช่วงบ่ายหรือไม่

พวกเขาจำนวนมาก เชื่อว่าการฝึกฝนที่หฤโหดนี้ มากเกินกว่าสภาพร่างกายของนายน้อยสามแล้ว สำหรับที่เขาอดทนมาตลอดจนถึงตอนนี้นั้นถือว่าสุดยอดแล้ว !

หลังจากกินข้าวเช้า พวกเขามีเวลาเพียงครึ่งก้านธูปเพื่อพักผ่อน อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ใดตระหนักรู้เลยว่า จวินเซี่ยมิได้พักผ่อนเลย ไม่ต้องการที่จะให้เวลาผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขากลับไปที่ห้องในขณะที่เขาอดทนกับความเจ็บปวดที่มาจากกล้ามเนื้อภายในร่างกาย เขาได้สร้างท่อไม้ไผ่ที่เต็มไปด้วยเข็มเหล็ก เขาวางมันลงอย่างมีรูปแบบลงบนโต๊ะ แล้วเขาก็สร้าง ท่อไม้ไผ่อีกอันที่ไม่มีเข็มเหล็ก และวางมันลงในรูปแบบของท่อไม้ไผ่ที่เขาวางไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งมันมีความหนาแค่เท่าฝ่ามือ ในระหว่างท่อไม้ไผ่ที่มีหัวเข็มแต่ละอัน และจวินเซี่ยต้องการที่จะโจมตีไปยังท่อไม้ไผ่ที่อยู่ในรูปแบบนั้น โดยใช้นิ้วและไม่ให้สัมผัสกับฝ่ามือของเขาทั้งสองด้าน รวมไปถึง ฝ่ามือของเขาจะต้องผ่าน ท่อไม้ไผ่จำนวนสามท่อนก่อนที่จะไปแตะเข้ากับท่อสุดท้าย โดยการโจมตีที่ทำให้เกิดเสียง !

การฝึกฝนเล็กๆนี้มีเป้าหมายเพื่อการฝึกความพริ้วไหวของนิ้วมือขั้นสูง ! ซึ่งมันดูเหมือนเป็นการฝึกที่ง่าย แต่ในความจริงมันยากยิ่ง ! หัวเข็มนั้นมีอยู่ทุกที่ ทำให้การใช้นิ้วที่แข็งหรืออ่อนเกินไปหรือความผิดพลาด จะทำให้มีแผลที่เกิดจากหัวเข็มได้ ความเจ้บปวดในตอนนั้นจะทำให้มือของทุกคนสั่น และทำให้มีเข็มปักลงที่มือมากขึ้น …

จวินเซี่ยยังคงสีหน้าที่นิ่งอยู่ในขณะที่เขาสอดมือเข้าไปอย่างสงบนิ่ง ด้วยเหตุการที่เขาเจอจากการฝึกในช่วงเช้า…

เมื่อเวลาการฝึกฝนในช่วงบ่ายเริ่มขึ้น องครักษ์ประจำบ้านได้พบว่า จวินเซี่ยยืนอยู่ในสนามฝึกแล้ว นิ้วของเขาบวมและมีเลือดหยดออกมา แต่ใบหน้าของเขาดูเหมือนปกติ ภายใต้บทเรียนการฝึกในช่วงบ่าย เขายังอดทนต่อไป ในขณะที่เขาเซไปเซมาจนกระทั่งจบ !

ซึ่งเป็นผลให้ตาขององครักษ์ตกลงไปบนพื้น !

ถึงกระนั้น ก็ยังมีพวกเขาครึ่งหนึ่งที่ยังเชื่อว่า การฝึกอย่างหนักหน่วงขนาดนี้จะเกิดกว่าที่ นายน้อยสามจะทนไหว สำหรับเขาที่อดทนมาตลอดจนตอนนี้ ถือว่าน่ายกย่องอย่างสูง ! เขาคงไม่สามารถที่จะทนอยู่จนถึงช่วงเย็น หรือจะได้น่ะ ?

แต่กระนั้น …

ในช่วยเย็น เขาก็ยังคงอยู่

ในตอนนี้ องครักษ์ทั้งหมดถูกกระตุ้นในขณะที่พวกเขากรีดร้องในหัวใจ เหตุใดพวกเรา ผู้ที่ผ่านสงคราม ผ่านการฝึกฝนและการต่อสู้มามากมายถึงมีร่างกายที่เปราะบาง กว่านายน้อนที่เอาแต่ในได้ขนาดนี้ ?

ด้วยมุมมองแบบนี้ ทำให้ชายเหล่านั้นผู้ที่ยืนอยู่ตรงขอบนรกได้เดินตรงเข้าไปหามัน ! ตราบใดที่จวินเซี่ยยังไม่หยุด องครักษ์บ้านทั้งหมดก็กัดฟันและอดทนไปจนถึงตอนจบ ! และผลก็คือ … พวกเขาทุกคนเหนื่อยล้าเป็นที่สุด …

เมื่อจวินเซี่ยมุ่งความสนใจไปที่การฝึก มันเป็นธรรมดาที่จวินวูอี้จะไปปรากฏตัวหลังจากที่ให้กำลังใจทุกคนจนสูงขึ้นแล้ว แล้วเขาจะนำพาพวกนั้นไปอย่างไรละ ? นี่เป็สิ่งที่จวินวูยียังสงสัย อย่างไรก็ตาม หลังจากได้รูเห็นถึงการฝึกแล้ว ทำให้เขาถึงกับเสียวไปจนถึงกระดูกสันหลัง !

ในขณะที่เฝ้ามอง องครักษ์หอบอย่างหนัก ยกท่อนไม้วิ่งไปรอบๆสนามฝึกโดยไม่เหน็ดเหนื่อยแล้ว จวินวูอี้เพ่งมองไปด้วยดวงตาเบิกกว้าง เมื่อเขาพบว่ามีจวินเซี่ยอยู่ในหมู่คนเหล่านั้น แบกท่อนซุงในขณะที่กำลังวิ่งไป จวินวูอี้ถึงกับขยี้ตาอย่างรุนแรง ก่อนที่จะมองไปอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ขยี่ตาอีกครั้ง … สุดท้าย เขาก็ขยี่ตาจนดวงตาเขาถลอกจนเจ็บปวด !

หากไม่มีอะไรที่ตาของเขา แสดงว่า วันนี้พระอาทิตย์ได้ขึ้นมาจากทิศเหนือ ! เป็นไปได้อย่างไร ? นี่ยังเป็นหลานเสเพลของข้าอีกหรือ ? นี่มันไม่ปกติแล้ว !

หลังจากวันผันผ่าน สุดท้ายจวินเซี่ยก็ได้จบการฝึกลง พวกเขาทำได้ดีมากและองครักษ์บ้านก็เหน็ดเหนื่อย ราวกับหมาตา พวกเขาล้มตัวลงนอนบนพื้นเหมือนกับก้อนโคลน พวกเขาอ้าปากกว้าในขณะที่หอบหายใจ ในท่ามกลางพวกเขาทั้งสามร้อย ไม่มีผู้ใดเลยที่จะมีเรี่ยวแรงแม้แต่จะยืน !

สำหรับผู้นำของทั้งสองกอง คนหนึ่งงอตัวในขณะที่หอบอย่างหนัก อีกคนยืดตัวให้ตึงและนวดเอวของเขา

ใบหน้าของจวินเซี่ยนั้นซีดเป็นสีขาว ร่างของเขาดูเหมือนจะร่วงลงไป แต่เขาก็ยังคงยืนตัวตรงอยู่ ด้วยการเพ่งมองที่เฉียบแหลม เขาเฝ้ามองความยุ่งเหยิงของเหล่าผู้ชายทั้งสามร้อยและก็ตะโกนขึ้นมาในทันใด “ เอาก้นของพวกเจ้าออกจากพื้นแล้วยืนขึ้น ! ภายในการหายใจสามครั้ง หากผู้ใดไม่สามารถยืนได้ มันจะถูกกำจัด ! เอาร่างอันไร้ค่าของเจ้าออกไปจากที่นี่และ ฆ่าตัวตายซะ ! นั่นเพราะเจ้าไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะอยู่ที่นี่ ! หากเจ้ายังเทียบกับคนเสเพลผู้นี้ไม่ได้ จะมีเหตุผลอะไรที่เจ้าจะยังมีชีวิตอยู่ต่อไป ? ”

ทันใดนั้น ทุกคนก็ดีดตัวขึ้นราวกับสปริง พวกเขากัดฟันในขณะเซไปมา พวกเขาสองสามคนไม่สามารถจะประคองตัวไว้ได้และกำลังจะล้มลง ก็ก็ถูกพยุงไว้ด้วยคนที่อยู่รอบๆตัวเขา หากพวกเขาพ่ายแพ้แก่นายน้อยสาม เมื่อนั้นพวกเขาก็ไม่มีหน้าที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป

จวินเซี่ยหอบหายใจในขณะที่เพ่งมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ สำหรับตอนนี้ ในหมู่พวกเจ้ามีใครอีกไหมที่จะเรียกร้องว่าตัวเองไม่ใช่ขยะ ? หะ ? ด้วยการฝึกฝนที่คุ้มค่าเพียงวันเดียว พวกเจ้ายังล้มลงไปถึงขั้นเสียใจ ! แม้แต่ข้าเป็นคนเสเพล ข้ายังคงยืนอยู่ได้ แต่เจ้า ? พวกเจ้ายังคิดที่จะนอนลงอยู่อีกหรือ ? ไม่อายกันหรือไง ? ผ่านสมรภูมิมานับร้อย ? เป้ย ! ”

ใบหน้าของทหารทั้งสามถึงกับมีร่องรอยของการอับอายอย่างขื่นขม ที่ละคน พวกเขาเริ่มก้มลงมองยังพื้น หากนายน้อที่ทุกคนดูถูกไว้ยังมุ่งมั่นและยืนหยัดอยู่ได้ แล้วเหตุอันใดที่พวกเขานอนลงไปละ ?

การมีส่วนร่วมในการฝึกของจวินเซี่ยในวันนี้นั้น มีพวกเขาทั้งหมดเป็นผู้รู้เห็น พวกเขาทั้งหมดรู้สึกว่าร่างกายเจ็บปวดและหมดเรี่ยวแรงหลังจากวันแห่งการฝึก แต่จวินเซี่ยอดทนได้อย่างไรกัน ? ทุกคนรู้ว่าร่างของ นายน้อยสามนั้นอ่อนแอต่อการทานทนต่อการฝึกในวันนี้มากกว่าพวกเขา มันหนัหน่วงและเหนื่อยยากอย่างมาก !

ทุกคนเพ่งมองไปยังจวินเซี่ย แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยเกรงกลัวอย่างไม่ได้ตั้งใจและ … นับถือ ! เพราะสิ่งที่จวินเซี่ยทำในวันนี้สำเร็จโดยไร้ซึ่งคำดูถูก ! ในอีกมุมหนึ่ง พวกเขายังเป็นกลุ่มคนที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี …

จวินเซี่ยมองพวกเขาอย่างเย็นชาก่อนที่จะกลับหลังหันและเดินออกไป จากไปพร้อมกับคำพูดหนึ่งประโยค “ หากพรุ่งนี้มีเหตุการแบบนี้อีก เมื่อนั้นพวกเจ้าทั้งหมดจะต้องกรีดร้อง ! สกุลจวินไม่ต้องการที่จะเสียเงินให้กับขยะ ! โดยเฉพาะเมื่อพวกเจ้าเรียบไม่ได้กับคนเสเพล ! ”

เมื่อมองไปที่หลังของจวินเซี่ยในขณะที่เขาจากไป ทุกคนสามารถที่จะเห็นได้ว่าขาและกล้ามเนื้อทุกส่วนของพวกเขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ซึ่การควบคุมไม่ได้นี่แสดงให้เห็นเมื่อผู้นั้นไปถึงขั้นขีดจำกัด ! อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของจวินเซี่ยไม่แสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดออกมาแม้แต่น้อย ภายใต้ความอดกลั้นอย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครที่จะสามารถเปรียบกับเขาได้เลย !

หาก นายน้อยผู้เสเพลนี่สามารถที่จะทนต่อการฝึกฝนอย่างหนักถึงขั้นนี้ได้ และพวกที่ผ่านมานับร้อยสมรภูมิมาจะพูดอะไรได้ ? โดยเฉพาะเมื่อ นายน้อยเสเพลได้ร่วมการฝึกในระดับเดียวกับพวกเขา ! พวกเขาจะสามารถที่จะพูดคำว่า ยาก ได้หรือ ? มันจะเป็นการเสียหน้าเกินไป ! หากพวกเขาพูดคำนั้นออกมา อ่างดีที่สุดพวกเขาก็โดนแค่เพื่อนสนิทดูถูก แต่หากสุดท้ายพวกเขาจบลงด้วยการดูถูกของนายน้อยเสเพล เมื่อนั้นพวกเขาคงจะต้องฆ่าตัวตายเป็นแน่ !

สิ่งที่พวกเขาทำในตอนนั้น หากพวกเขารูว่ามีสายรัดแปดอันติดอยู่กับร่างของจวินเซี่ยล่ะ ? พวกเขาจะอับอายที่จะมีชีวิตอยู่หรือไม่ ?

ไม่มีพวกเขาคนใดรู้ว่ามีรอบแผลจำนวนมากที่เกิดจากก้อนน้ำหนักเหล่านั้น ! มีเลือดไหลซึมอย่างช้าๆออกมาจากแผล .. การฝึกฝนที่จวินเซี่ยเจอนั้นหนักกว่าอย่างน้อยสามเท่าเมื่อเทียบกับองครักษ์บ้าน !

แค่นึกก็น่ากลัวแล้ว ! หากไม่มีเคล็ดปลดผนึกชะตาสวรรค์ช่วยเขาอยู่ ด้วยร่างเดิมของจวินโม่เซี่ยเขาคงจะตายไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยนับสิบครั้ง ! อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่จิวนเซี่ยดึงเอาพลังเทพของเคล็ดผนึกชะตาสวรรค์ออกมา ด้วยชุดการฝึก ที่อยู่เหนือความเป็นตาย เพราะเขาต้องการที่จะบรรลุขีดจำกัดของร่างกายให้ได้ !

แม้แต่จวินวูอี้ก็ไม่คิดว่าจวินเซี่ยจะฝึกด้วยก้อนน้ำหนักที่ร่างกาย การกระทำของจวินเซี่ยในวันนี้ก็ดลใจให้กับชายที่ครั้งหนึ่งเป็นถึงยอดขุนพล ผู้ที่เฝ้ามองทหารนับหมื่น !

เมื่อมองภาพเงาของจวินเซี่ยเดินจากไป จวินวูอี้รู้สึกอภิรมย์ยิ่งนัก อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีกังขาอยู่ในหัวใจเขา นี่เป็นหน้าจริงงั้นหรือ ? นี่ … นี่มันเป็นเรื่องหนักมากสำหรับเจ้า ! จะมีเหตุอันใดเกิดขึ้นหากมันเป็นแบบนี้ต่อไป !

ผู้ที่แข็งแกร่งราวกับเหล็ก !

Translate by iHaveNoName

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments