I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Otherworldly Evil Monarch ตอนที่ 56 ใครตามข้า

| Otherworldly Evil Monarch | 976 | 2360 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

หลังจากหันหลังกลับไป จวินเซี่ยก็ออกจากร้านและเดินกลับบ้าน มันมิใช่เพราะว่า สกุลจิวนไม่มีรถม้า ในความจริง รถม้าของสกุลจวินนั้นหรูราอย่างมาก แต่กระนั้น จวินเซี่ยก็ยังชื่นชอบการเดินด้วยสองขาของเขามากกว่า ด้วยความตะรหนักรู้จากชาติอดีตของเขาขณะที่เป็นมือสังหาร การเดินด้วยขาตัวเองเท่านั้นที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย ไม่ไว้ใจแม้กระทั้งรถ หรือเรือ การเดินทางด้วยสองสิ่งนั้นทำให้รู้สึกว่าโชคชะตาไม่ได้อยู่ในสองกำมือของเขา ซึ่งความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่จวินเซี่ยไม่สามารถควบคุมได้ ขณะที่มันทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัย

ด้วยนิสัยของจวินเซี่ยแล้ว โชคชะตาจะต้องอยู่ในสองมือของเขาเท่านั้น !

เขาแม้แต่ยกเลิกองครักษ์ที่สกุลจวินจัดให้เขาไปนานแล้ว

จวินเซี่ยตระหนักดีว่าองครักษ์ที่อยู่ข้างๆเขานั้นเอาไว้เพียงเพื่อประดับบารมี ดีที่สุด ไม่สำคัญว่าเขาจะไปที่ใด จะต้องมีคนแอบตามเขาอยู่อย่าางแน่นอน และคนผู้นั้นเป็นยอดฝีมือโดยแท้จริง ! แม้จวินเซี่ยเองก็ยังมิเคยได้เห็นคนผู้นี้ ขั้นการฝึกฝนของจวินเซี่ยในตอนนี้ยังไม่เพียงพอที่จะระบุตัวเขาได้ อยางไรก็ตาม จวินเซี่ยสามารถที่จะรู้สึกถึงคนผู้นี้ได้ชัดเจนหลังจากวันที่ปู่จวินสั่งให้มาตามประกบ!

ความรู้สึกนี้เป็นลักษณะเฉพาะของยอดมือสังหาร แม้จะไม่มีเหตุผลให้เชื่อดังนั้น จวินเซี่ยก็ยังเชื่อมั่นในการคาดคะเนของเขา !

สำหรับตอนนี้ จวินเซี่ยมีความสนใจอย่างมากในตัวของผู้ที่ประกบเขาอยู่ แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้จะห่างไกลหากเปรียบกับชาติอดีต แต่ ปราณสัมผัสของเขานั้นพัฒนาเกินไปว่าชาติที่แล้วมากภายในช่วงเวลาไม่นาน ! เขาพยายามอย่างมากในการกำจัดผู้ที่สะกดรอยเขา โดยใช้วิธีการสลัดการติดตามของเขาเอง และตอนนี้ คนผู้นี้ก็สามารถกลับมาติดตามเขาได้ราวกับเงา ซึ่งเป็นผู้มีฝีมือที่หาได้ยาก !

หากมองเผินๆ จวินเซี่ยดูเหมือนว่าเดินไปอย่างไร้จุดหมาย อย่างไรก็ตาม เขาได้แผ่ปราณสัมผัสออกไป กับทุกการกระทำของเขาอย่างระมัดระวัง ประหนึ่งการไหลของปรอท ซอกซอนไปทุกซอกมุม นอกจากนี้ จวินเซี่ยไม่ได้เคลื่อนไหวรวดเร็วมากนัก ทุกคนที่กำลังพยายามตามเขาอยู่นั้นไม่สามารถที่จะรู้ถึงแต่ละการเปลี่ยนเส้นทางของจวินเซี่ยได้อย่างชัดเจน หากคนที่ติดตามเขานั้นเป็นเพียงคนทั่วไป พวกเขาจะคลาดกับจวินเซี่ยไปนานแล้ว

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่กำลังตามจวินเซี่ยอยู่นั้น หาได้คลาดไปแม้แต่ครั้งเดียวเลย !

ตามความจริง ผู้ที่สะกดรอจวินเซี่ยอยู่นั้น กรีดร้องต่อสวรรค์นับครั้งไม่ถ้วนอยู่ภายในใจ ! เมื่อปู่จวินต้องการให้เขาปกป้องหลานชายโดยมิให้จวินเซี่ยรู้ตัว เขาจึงรับมันด้วยความจำใจ ในมุมของเขา ที่ต้องทำทั้งหมดคือการปกป้องเด็กเสเพลที่ใช้เวลาเกือบทั้งหมดไปกับการไม่ทำอะไรเลย มันจะยากแค่ใหนกัน ? ด้วยประสบการณ์และความสามารถ เขามั่นใจว่าจวินเซี่ยผู้นี้จะไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนสะกดรอยอยู่แม้ว่าเขาจะสะกดรอยจวินเซี่ยด้วยชีวิตที่เหลือของเขา

ใครจะรู้ว่าหลังจากนั้นสองวัน การสะกดรอยระดับสองของเขาจะติดขัด ? การกระทำของเจ้าชั่วตรงหน้าเขานี่จะเกินกว่าสามัญสำนึกอย่างสิ้นเชิง เมื่อเขากำลังจะเชื่อว่าจวินเซี่ยจะเดินไปทางตะวันออก จวินเซี่ยก็จะเปลี่ยนเส้นทางทันที เมื่อเขาตามสะกดรอยไปข้างหลัง คิดว่าจวินเซี่ยจะไปทางตะวัน ทันใดนั้นเขาก็พบว่าจวินเซี่ยเดินไปทางใต้แทน …

คนผู้นี้ถือได้ว่าเป็นสุดยอดฝีมือในการสะกดรอย และตอนนี้ เวลาเพียงสองวัน เขาได้พลาดในการติดตามเส้นทางการเคลื่อนที่ของจวินเซี่ยไปหลายครั้ง หากมิใช่ความจริงที่ว่า ขั้นการฝึกของจวินเซี่ยนั้นต่ำมาก เขาคงจะหายเข้ากลีบเมฆไปนานแล้ว ! หลังจากที่ผิดพลาดมาอย่างต่อเนื่อง เขาหดหู่จนแทบบ้า ถอนหนวดเคราตัวเองไปหลายเส้น !

นี่เป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่เขาอยากจะกระโดดออกไปคว้าคอเสื้อเจ้าบ้านั่นแล้วถาม

ไอลูกเคอรี่! เหตุใดเจ้าไปประตูทางทิศตะวันออก แล้วไปออกทางประตูทิศตะวันตกของที่นี่ ? เดินอย่างไร้จุดหมายไปนั่นนี่ เจ้าคิดอะไรอยู่ ? ทำไมเจ้าไม่หยุดทำตัวโง่ๆ ?

หรือไอเด็กเหลือขอเสเพลนั่นรู้ตัวเข้าแล้ว ? เมื่อคิดดังนั้นเขากลับปฏิเสธความเป็นไปได้นี้ทันที จากการเฝ้าดูนิสัยของเด็กเสเพลนี่ ทุกคนบอกได้เลยว่า ไอเด็กเหลือขอนี่ไม่มีความสามารถที่จะรู้ตัวได้ ! เหตุที่เขากระทำสิ่งเหล่านี้ มันชัดเจนว่าเขานั้นเพียงแค่อยากจะทำ !

ขณะที่เขากำลังใคร่ครวญ ทันใดนั้นเขาก็พบว่าจวินเซี่ยเพิ่มฝีก้าวขึ้นและเดินเข้าสู่ร้านสีน้ำทาแก้ม เขาทำได้แค่ ออกเสียง บู่วว ในใจ ตามที่นั่นคาดไว้ ไอ้เสเพลนั่นเข้าไปแม้แต่ในที่ ที่เป็นของหญิงสาว โดยที่ไม่คาดว่าจวินเซี่ยจะออกมาในไม่ช้า ขณะที่เขาเริ่มร้อนใจ เขาจึงเข้าไปใกล้ๆร้านและแอบมองเข้าไปข้างใน แล้วพบว่าจวินเซี่ยมิได้อยู่ที่นั่นแล้ว เขาทำได้แต่รู้สึกแย่ลง มันเป็นไปได้ว่าสารเลวนั่นใช้ประตูหลังออกไป เหตุใดข้าถึงโง่ขนาดนี้ ? เหตุใดข้าถึงคิดไม่ถึงนะ ?

ราวกับสายลม เขามุ่งหน้าไปยังประตูหลังและมองหาจวินเซี่ย

ระหว่างที่ระยะห่างระหว่างเขากับชายผู้นั้นเริ่มมากขึ้น สุดท้ายจวินเเซี่ยมั่นใจว่ากลิ่นอายของชายที่สะกดรอยตามเขานั้นหายไปแล้ว จากนั้นเขาก็เดินออกจากร้านสีน้ำปัดแก้มไป ขณะที่โค้งคำนับเพื่อขอบคุณคนพวกนาง จากนั้นเขาก็เดินกลับไปจากทางที่เดินมา

หญิงสาวที่อยู่ในร้านเพ่งมองเขาด้วยสายตาอันเบิกกว้าง นายน้อยผู้หล่อเหล่าผู้นี้แลดูสุขภาพดีน่ะ เหตุใดถึงเกิดปวดท้องกระทันหันหลังจากที่เข้ามาในร้าน ? รวมไปถึง เขายังไปเข้าห้องน้ำอยู่นานอีกด้วย พวกเราเกือบจะมิได้เข้าไปใช้มันเลย …

ท้องฟ้าเริ่มมืดลงขณะที่พระอาทิตย์กำลังเคลื่อนคล้อยลงต่ำ บรรยากาศยามเย็นจากไปขณะที่เงาแห่งค่ำคืนอ้าออกราวกับขากรรไกรที่น่ากลัว มันรอคอยการจากไปของแสงสุดท้ายเพื่อที่จะกลืนกินโลกทั้งใบเข้าไป !

จวินเซี่ยเดินต่อไปเล็กน้อยก่อนที่จะถอยหลังกลับมาแล้วเปลี่ยนทางไป จากนั้นเขาก็เดินตรงไปยังทางด้านประตูหลังของร้านสีน้ำปัดแก้ม และเดินต่อไปทางนั้น เขาหัวเราะอย่างมีชัยอยู่ในใจ ดูเหมือนว่าข้าจะทำให้เขาสับสนได้แล้ววันนี้ ในการล่าในป่า พี่ชายผู้นี้ชำนาญในเส้นทางแถวนี้ หากข้าไม่แม้แต่เอาชนะกระบองไม้เช่นเจ้าได้ มันคงจะประหลาดเกินไป เด็กน้อยเอ๋ย เจ้ายังอ่อนแอเกินไปจะต่อกรกับข้า …

ตามที่จวินเซี่ยคาดไว้ หลังจากที่ชายผู้นั้นไล่ตามจวินเซี่ยไป เขาก็ไม่พบร่องรอยของจวินเซี่ย จึงตระหนักได้ว่าเขานั้นโดนหลอกแล้ว แล้วเขาก็มุ่งหน้ากลับไปยังร้านราวกับสายลม เขามองไปทั่วทั้งบนทั้งล่างก่อนที่จะยืนเพียงลำพังอยู่หน้าร้านสีน้ำปัดแก้ม เฝ้าดูคนเดินเข้าออก ใบหน้าของเขากลายเป็นสีเขียวและแดง ดูราวกับว่าเขานั้นเปิดร้านขายสี รู้สึกได้ว่าร่างกายของเขานั้นไร้พลัง !

ช่างน่าอับอายอะไรเช่นนี้ เป็นสถานการที่ไม่คาดคิดมาก่อน !

จวินจ้านเทียน หลานเจ้าโตมาเป็นคนอย่างไรกันแน่ ? ทำไมถึงนอกคอกได้เช่นนี้ ?

จวินเซี่ยหัวเราะ ด้วยความรู้สึกพึงพอใจ แม้จะรู้ว่าคนที่สะกดรอยเขาอยู่นั้นมิได้มุ่งร้าย แต่เขาก็เป็นคนที่ชอบทำอะไรคนเดียวมากกว่า การที่มีคนติดตามเขาราวกับผีนั้นเป็นสิ่งที่เขารังเกียจเป็นอย่างมาก ไม่นานมานี้มันทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัย ! แต่ตอนนี้เขาได้สลัดออกไปได้แล้ว มันทำให้เขาผ่อนคลายลงมาก

ในตอนนั้น ขณะที่เขากำลังเดิน ร่างของจวินเซี่ยก็แข็งทื่อไปชั่วครู่ จากนั้นเขาก็ผ่อนคลายร่างกายของเขา กล้ามเนื้อหัวไหล่ของเขากระตุกหนึ่งครั้งและมีบินขนาดเล็กก็ไหลเข้ามาที่ฝ่ามือ

กลิ่นอายของความหนาวเย็นที่มันนำมาด้วยสามารถรู้สึกได้จากหลากหลายทิศทาง เป้าหมายของมันหาใช่ใครอื่นไม่นอกจาก จวินเซี่ยที่เดินอยู่บนถนน

กลิ่นอายแบบนี้เป็นอะไรที่เขาเคยเจอมาก่อนในชาติอดีต ใครบางคนที่เขาคุ้นเคย !

มือสังหาร !

เอาจริงหรอ ? ข้าสลัดคนที่ถูดส่งมาปกป้องข้า แล้วจากนั้นข้าก็เดินเข้าสู่แดนลอบสังหาร ? หากข้าถูกสังหารที่นี่จริงๆ มันมิใช่เรื่องตลกหรอกหรือ ? นี่ข้าพาตัวเองมาพ่ายแพ้งี้หรือ ? จวินเซี่ยหัวเราะเล็กน้อยภายในใจ อย่างไรก็ตาม ก็มีความรู้สึกที่ตื่นเต้นอย่างเลี่ยงไม่ได้โพยพุ่งขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ สุดท้ายหากจะนำพามาด้วยกลิ่นเลือด ข้าก็ได้เจอกับสหายที่เท่าเทียมกันในโลกนี้ ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้า … ผิดหวัง !

เสียงเท้าที่สามารถได้ยินได้จากด้านหน้าขณะที่กลุ่มคนเดินใกล้เข้ามา ที่อยู่ตรงกลางกลุ่มคนเหล่านั้นคือ เกี้ยว เกี้ยวนั้นเป็นสีเหลือชัดเจนและมีไข่มุขแขวนอยู่ด้านข้าง โดยที่มีกระดิ่งสีทองห้อยอยู่ระหว่างมุขแต่ละลูก กระดิ่งนั้นส่ายไปมาอย่างร่าเริง ทำให้ได้ยินเสียงของมันได้อย่างชัดเจน การได้ยินเสียงกระดิ่งทำให้ทุกคนรู้สึกพึงพอใจ

นี่คือเกี๊ยวอันหรูหราขององหญิงลี่เมิงแห่งราชสำนัก !

หรือว่าคนที่มันต้องการสังหารหาใช่ข้าไม่ ? หรือจริงๆแล้วเป้าหมายคือ องค์หญิงลี่เมิง ?

จวินเซี่ยครุ่นคิดอยู่ในใจและรู้สึกว่ามันเป็นไปได้อย่างมาก สำหรับเขาการที่เข้าสู่ถนนเส้นนี้นั้นเป็นเพราะบางสิ่งบางอย่างในบางช่วงเวลาเท่านั้น หากมือสังหารเหล่านั้นต้องการจะสังหารข้า ตำแหน่งตรงนี้นั้นมันหาได้เหมาะสมเลยไม่ ไม่มีเหตุผลสำหรับมือสังหารเลยที่จะตามเขามาจนกระทั่งถึงตอนนี้ก่อนจะลงมือ !

อย่างไรก็ตาม การที่จะสังหารองค์หญิงลี่เมิงในที่เปิดตอนที่นางอยู่ใกล้พระราชวัง คนผู้นั้นจะต้องเป็นคนที่กล้าหาญสักเพียงใดกัน ?

Translate by iHaveNoName

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments