I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Peerless Martial God ตอนที่ 50 ชิวหยวนหาว

| Peerless Martial God | 2537 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

“เจ้าคิดจะทำอะไร? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกันถึงสั่งให้ข้าลงจากเวที?” หลินเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ

 

“ข้าคิดจะทำอะไรอย่างนั้นรึ?” ไป๋หยวนหาว กล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่ชั่วร้ายบนใบหน้าของเขา เขาเยาะเย้ยหลินเฟิง และกล่าว: “ข้าจะใช้เจ้า ก็แค่นั้นแหละไม่มีไรมากเพราะเจ้าเป็นสัตว์เลี้ยงของข้า…และเจ้ากล้ามากที่ถามข้าว่าจะทำอะไร?”

 

“ชิวหลันก็ไม่ได้แตกต่างจากผู้เข้าร่วมคนอื่นๆมากนัก ความแข็งแกร่งของผู้เข้าร่วมคนอื่นก็งั้นๆ พวกเขาไม่กล้าที่จะฝ่าฝืนคำสั่งของตระกูล”

 

ชิวหลันยิ้มอย่างบิดเบี้ยวพร้อมกับส่ายหัวและกล่าว: “ตั๋วมิ่ง เจ้าไม่มีทางที่จะต่อสู้กับพี่ชายของข้าได้ เจ้าควรหลีกเลี่ยงที่จะต่อสู้กับเขา ลงมาจากเวทีเดี๋ยวนี้ เข้าใจไหม?”

 

“พี่ชาย??” ฝูงชนตกใจที่ชิวหลันเรียกหนุ่มผู้ที่หยิ่งยโสคนนี้ว่า “พี่ชาย”

 

“ข้ามาที่นี่เพื่อเข้าร่วมการประลองยุทธ์ประจำปีก็แค่นั้น ข้าไม่ได้มาเพราะมีใครสั่ง” หลินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา ก่อนที่จะกล่าวเพิ่มเติมว่า: “ไม่ว่าข้าจะต่อสู้กับเจ้าได้หรือไม่นั้น ข้าว่าเจ้าด่วนสรุปเร็วเกินไป”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าไม่คิดว่าเมืองเล็กๆอย่างเมืองหยางโจว จะมีคนกล้าพูดคุย และท้าทายข้า”

 

“ชิวหลัน , ชิวหยวนหาว แซ่ของเจ้าคือชิว?!” น่าหลานซงยืนขึ้นเพราะความประหลาดใจ

 

”ถูกต้อง แซ่ของข้าคือ ชิว ชิวหลัน และข้าเคยเป็นสมาชิกของตระกูลชิวในเมืองหยางโจว ในค่ำคืนหนึ่งเจ้าทำให้ตระกูลชิวของพวกข้าหายไปอย่างไร้ร่องรอย” ชิวหยวนหาวมองที่ไปที่น่าหลานซงอย่างเยือกเย็นและเต็มไปด้วยความโกรธ

 

”ในปีนั้น สมาชิกของตระกูลชิวของข้าทุกคนล้วนแข็งแกร่งมาก ตระกูลของข้ามีอัจริยะมากมายหลายคน…และทุกคนมีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งอย่างมาก จะว่าเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองหยางโจวเลยก็ว่าได้ และไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียวที่คิดว่าเจ้าที่เป็นประมุขของตระกูลน่าหลานจะหวาดกลัวพวกข้าเพราะความแข็งแกร่งของตระกูลชิว ในค่ำคืนนั้น เจ้าลอบโจมตีตระกูลชิวหลัน ฆ่าคนในตระกูล และครอบครัวของข้า เจ้าเกือบจะฆ่าหมดทุกคน และเกือบทำให้สายเลือดของข้าต้องหายไป เจ้าคงไม่ลืมกับสิ่งที่เจ้าได้ทำลงไปหรอกใช่ไหม?”

 

ฝูงชนสั่นเพราะความหวาดกลัว ชิวหยวนหาว และชิวหลันเคยเป็นสมาชิกของตระกูลชิว ในฝูงชนทุกคนล้วนได้ยินเรื่องเกี่ยวกับตระกูลชิว ตระกูลชิวเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งมาก และมีจิตวิญญาณทอง… พวกเขาเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงมาก และไม่มีใครสามารถเอาชนะพวกเขาได้ แต่ในคืนนั้น ตระกูลชิวได้หายไปจากเมืองหยางโจวอย่างไร้ร่องรอย บางคนก็คิดว่าตระกูลชิวได้ย้ายไปตั้งถิ่นฐานอยู่ที่อื่น บางคนก็คิดว่าพวกเขาถูกสังหารโดยศัตรู แต่สิ่งที่ฝูงชนตกใจที่สุดคือ พวกเขาไม่คิดว่าตระกูลชิวจะถูกกวาดล้างโดยตระกูลน่าหลาน พวกเขาไม่เพียงแค่สังหารสมาชิกของตระกูลชิวเท่านั้น แต่ยังทำลายหลักฐานทั้งหมดที่เกิดขึ้น

 

เมื่อน่าหลานซงได้ยินทำให้เขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ถึงกับทำให้นัยน์ตาของเขาเปล่งแสงเพราะจิตสังหาร เขาไม่คิดว่าการกวาดล้างครั้งนั้นจะมีสมาชิกของตระกูลชิวรอดชีวิตอยู่

 

“อะไร? ท่านจะฆ่าผู้ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น?” ชิวหยวนหาวกล่าวพร้อมกับปรากฏรอยยิ้มอันชั่วร้ายบนใบหน้าก่อนที่จะกล่าวเพิ่มเติมว่า : “น่าหลานซง,ข้าจะบอกอะไรสักอย่างกับท่าน ตระกูลของท่าน ตระกูลน่าหลานจะอยู่ได้อีกไม่นาน รอข้าก่อนเถอะข้าจะกลับมาเพื่อแก้แค้น ข้าจะฆ่าล้างโคครตระกูลของท่าน บางทีอาจจะเป็นวันนี้ หรือพรุ่งนี้ ชื่อตระกูลของท่านจะต้องหายไปจากเมืองหยางโจว”

 

“เช่นนั้นรึ? ข้าอย่างเห็นจริงๆว่าเจ้าจะทำเช่นไรถึงสามารถทำให้ตระกูลน่าหลานต้องหายไปจากเมือง” น่าหลานซงกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มอันเยือกเย็น

 

“ท่านพ่อ!” ในขณะนั้น น่าหลานเฟิ่งเปิดปากพูดอีกครั้ง นางมองไปที่พ่อของนาง ขณะที่ส่ายหัว ทำให้ทุกคนมึนงง ดูเหมือนเรื่องที่ชิวหยวนหาวพูดจะไม่ใช่เรื่องโกหก บางทีเขาอาจจะมีกองกำลังอันแข็งแกร่งสนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลัง มิฉะนั้นแล้วน่าหลานเฟิ่งคงไม่แสดงกิริยาเช่นนี้ นางดูเหมือนจะกลัวพวกเขามาก

 

“ไป๋หยวนหาว ข้าไม่เชื่อสิ่งที่เจ้าพูด เพราะเจ้าแม้แต่สัมผัสตัวข้ายังทำไม่ได้เลย” น่าหลานเฟิ่งกล่าวอย่างเย็นชา

 

“ข้าจะฆ่าเจ้า แต่ข้าจะทำให้เจ้าได้รับความอัปยศ วันนี้ ข้ามาที่เมืองหยางโจวเพื่อที่จะทำให้ตระกูลชิวของข้า รุ่งโรจน์อีกครั้ง และทำให้ผู้คนรู้ว่าตระกูลของเจ้ามันชั่วร้าย เลวทรามมากแค่ไหน รอข้าก่อนเถอะ ข้าจะกลับมาเมืองหยางโจวอีกครั้ง และวันนั้นจะเป็นวันที่ตระกูลของเจ้าจะหายไปจากเมือง ชิวหยวนตะโกนอย่างภาคภูมิใจ และกล่าวเพิ่มเติม: “เอาล่ะ เจ้าทั้งสามคนเล่นกันต่อเถอะ….อัจฉริยะของเมืองหยางโจว ฮ่าฮ่าฮ่า ช่างน่าขบขันอะไรเช่นนี้!”

 

“ถ้าเจ้ามีศัตรู และต้องการที่จะแก้แค้น แต่อย่าใช้ข้าเพื่อเป็นหินเพื่อก้าวเดิน” หลินเฟิงกล่าวขณะมองไปที่ชิวหยวน และกล่าวเพิ่ม: “เมื่อการประลองเสร็จสิ้น ปัญหาของเจ้ามันก็เรื่องของเจ้า มันไม่เกี่ยวกับข้า”

 

“ช่างโง่เขลาอะไรเช่นนี้ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน? ถ้าข้าชิวหยวนหาว อยากจะฆ่าเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้าเมื่อไหร่ก็ได้ เจ้าเป็นเพียงแค่แมลงแต่กล้าทำตัวเช่นนี้ ถ้าเจ้ายังไม่ยอมปิดปากของเจ้า ข้าจะทำให้เจ้าอยู่ที่นี่ตลอดไป และมันจะกลายเป็นฝังศพให้เจ้า” ชิวหยวนหาวกล่าว และยิ้มอย่างชั่วร้าย

 

“แมลง? เจ้าสามารถฆ่าข้าเมื่อไหร่ก็ได้? น่าขัน” หลินเฟิงกล่าวพร้อมกับส่ายหัว ชิวหลัน และชิวหยวนหาวเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาเข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงเกลียดชังมากขนาดนี้ หลินเฟิงจึงแสดงความเคารพต่อพวกเขา เพราะมีศัตรูร่วมกัน แต่ชิวหยวนหาวกับคิดว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าคนอื่นๆ และพยายามดูถูกหลินเฟิง ด้วยเหตุนี้ หลินเฟิงไม่มีเหตุผลที่จะพยายามเข้าใจพวกเขาและความเกลียดชังของพวกเขา

 

“อัจริยะของเมืองหยางโจว? หึ วันนี้ข้าจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่า พวกเจ้าเป็นเพียงแค่ขยะ” ชิวหยวนหาวกล่าวอย่างอวดดี จากนั้นเขาก็ปลดปล่อยจิตวิญญาณออกมาทันที ร่างของเขาถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทองอันงดงามเหมือนแสงจากดวงอาทิตย์ บนเวทีประลองไม่มีอะไรปิดบังแสงจากดวงอาทิตย์ ทำให้แสงจากดวงอาทิตย์สาดส่องมาที่จิตวิญญาณของชิวหยวนหาว ทำให้เขาดูสง่างามยิ่งขึ้น สายตาของฝูงชนล้วนตกตะลึงที่ได้เห็นฉากอันงดงามเช่นนี้ จิตวิญญาณของเขาสว่างสไวกว่าจิตวิญญาณแขนศักดิ์สิทธิ์ทองของน่าหลานเฟิ่งอย่างมาก

 

“นั่นมัน จิตวิญญาณแห่งทองคำที่แท้จริง ช่างงดงามอะไรเช่นนี้!” หนึ่งในฝูงชนกล่าวอย่างประหลาดใจ ในขณะนั้นร่างกายของชิวหยวนหาวดูคล้ายกับภูเขาทองคำขนาดใหญ่ที่ไม่มีวันพังทลาย

 

“น่าหลานเฟิ่ง เจ้าประกาศว่าตัวเองเป็นอัจริยะ เจ้าหยิ่งยโสได้เพราะเจ้ามีจิตวิญญาณแขนศักดิ์สิทธิ์ทอง มาต่อสู้กับข้า” ผมยาวของชิวหยวนหาวกระพืออยู่ในอากาศ ร่างกายของเขาดูโอ่อ่ามากรวมกับออร่าสีทองที่ล้อมรอบร่างกายของเขา…ฝูงชนมองเขาและรู้สึกว่าเขาไม่มีวันพ่ายแพ้

 

เขากระโดดขึ้นไปบนเวทีทำให้พื้นดินสั่นไหวอย่างรุนแรง ฝูงชนทั้งหมดสามารถเห็นความแข็งแกร่งของเขาได้ทันที

 

“กายาทอง” พลังปราณของชิวหยวนหาวทรงพลังมาก จากนั้นเขาก็ปล่อยหมัดไปทางน่าหลานเฟิ่ง หมัดของเขาร้ายกาจมาก กายาทองเป็นทักษะที่ชิวหยวนหาวบังเอิญค้นพบระหว่างฝึก มันเป็นหนึ่งในทักษะที่ต่ำที่สุดในระดับทมิฬ นอกจากนี้เมื่อใช้พร้อมกับจิตวิญญาณทองคำ ทำให้มันมีประสิทธิภาพมากขึ้น พลังการโจมตีของเขามันรุนแรงมากจนน่าอัศจรรย์ และขึ้นอยู่กับการผสมผสานระหว่างจิตวิญญาณ และทักษะ ชิวหยวนหาวสามารถฆ่าผู้บ่มเพาะที่มีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกันได้อย่างง่ายดาย

 

“หมัดศักดิ์สิทธิ์” เมื่อน่าหลานเฟิ่งเห็นชิวหยวนหาวกำลังโจมตี นางจึงเริ่มโจมตีเช่นเดียวกัน พร้อมกับตะโกนเสียงดัง และนางก็ไม่คิดว่าจิตวิญญาณแขนศักดิ์สิทธิ์ของนางจะอ่อนแอกว่าจิตวิญญาณของฝ่ายตรงข้าม

 

“ตู้มมมม ตู้มมมมมม….”

 

พลังของทั้งคู่กำลังห้ำหั่นกัน ทั่วบรรยากาศกำลังสั่นไหว ระหว่างหมัดทองทั้งสอง

 

“ข้าจะบดขยี้เจ้า”

 

แสงสีทองบนร่างกายของชิวหยวนหาวเริ่มสว่างสไวมากยิ่งขึ้น พลังอันน่าเหลือเชื่อปรากฏขึ้นรอบๆกำปั้นของเขา ทำให้น่าหลานเฟิ่งต้องถอยร่นนับ 10 ก้าว ตอนนี้นางหายใจได้อย่างยากลำบาก นางยังคงมองไปที่ชิวหยวนหาว ใบหน้าของเขายังคงยิ้มอย่างเยือกเย็น เขายังคงมีท่าทีปกติ และไม่มีวี่แววว่าจะเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวผู้ที่หยิ่งยโสในตัวเองมากที่สุดในเมืองหยางโจวไม่สามารถต้านทานการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้ และตอนนี้นางก็หมดแรงแล้วพร้อมที่จะวูบได้ทุกเมื่อ

 

“หมัดศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งก็จริง” แต่จิตวิญญาณทองของชิวหยวนหาวแข็งแกร่งกว่ามาก

”เจ้ากล้าที่จะเรียกตัวเองว่าอัจฉริยะ แต่มันก็เหมาะสมกับคนโง่เขลาเช่นเจ้าในเมืองเล็กๆอย่างเมืองหยางโจว” จากนั้นชิวหยวนหาวก็หันไปมองหลินเฟิง และหลินเชียน “มันควรจะเป็นเวทีประของพวกเจ้าทั้งสอง ข้าไม่คิดจะสอนบทเรียนแก่พวกเจ้า ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะเข้าใจอย่าอวดดีจนเกินไป คนไม่เอาไหนอย่างพวกเจ้า อย่ากล้าที่จะเรียกตัวเองว่า อัจฉริยะ”

 

ชิวหยวนหาวอวดดี และมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง เขาคิดว่าทุกคนในเมืองหยาวโจวล้วนเป็นเศษขยะ และคนไร้ประโยชน์ แต่อย่างไรก็ตามเขาได้มอบความพ่ายแพ้ให้กับน่าหลายเฟิ่งในการโจมตีเพียงครั้งเดียว ดังนั้นเขาจึงมีสิทธิ์ที่จะทำตัวอวดดี และพูดเช่นนั้น

 

”ชายหนุ่มคนนี้เป็นอัจฉริยะจริงๆ เขาเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง และแข็งแกร่งมาก” ฝูงชนมองไปที่ชิวหยวนหาวราวกับว่าเขาเป็นพระเจ้า เพราะความแข็งแกร่งของเขามันน่าอัศจรรย์มาก

 

ในทวีปเก้าเมฆา ทุกๆคนจะสนับสนุนผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่ง

 

”แล้วเจ้าล่ะเป็นอะไร? เจ้าคงไม่คิดจะมาเพื่อแสดงพลังอำนาจของเจ้าในเมืองหยางโจวและคิดจะกลับไปง่ายๆเช่นนี้หรอกนะ?” ในขณะนั้นหลินเฟิงได้กล่าวคำพูดพวกนี้ราวกับถ่มน้ำลายใส่หน้าชิวหยวนหาว ทำให้ฝูงชนมึนงง เขาเป็นคนที่บ้าบิ่นจริงๆ และกล้าที่จะดูถูกชิวหยวนหาว

 

ชิวหยวนหาวมองไปที่หลินเฟิงอย่างไม่แยแส และกล่าว: “ดูสภาพของน่าหลานเฟิ่งซะ ครั้งนี้ข้าจะมอบความเมตตาให้กับเจ้า ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า แต่โทษฐานที่เจ้ากล้าดูถูกข้า ข้าจะทำให้เจ้ามีชีวิตราวกับตกนรก และทำลายปากที่พูดพล่อยๆของเจ้าซะ”

 

“ปากพล่อยๆ……” หลินเฟิงกล่าว และยิ้มไปที่ชิวหยวนหาว แม้ว่าจิตวิญญาณของชิวหยวนหาวจะทรงพลังมาก แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็เหมือนกับคนทั่วไปที่บรรลุขอบเขตจิตวิญญาณขั้นแรก มิฉะนั้นหมัดของเขาเมื่อสักครู่คงไม่ทำให้น่าหลานเฟิ่งต้องถอยร่น

 

“ข้าจะฆ่าเจ้า!” ชิวหยวนหาวตะโกน เขาชอบเรียกชื่อคนอื่นๆ แต่เขาเกลียดสุดๆที่ถูกคนอื่นเรียกชื่อของเขา ร่างกายของเขาเริ่มเปล่งแสงสีทอง และพุ่งเข้าไปหาหลินเฟิง…

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments