I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Peerless Martial God ตอนที่ 117 พิณ

| Peerless Martial God | 2537 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

“ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลัวเจ้า” หลินเฟิงกล่าวกับเวิ่นเหงาเสวี่ย สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือเด็กหนุ่มที่มีใบหน้างดงามราวกับหญิงสาวทำให้ผู้อื่นเกรงกลัวและหลีกเลี่ยงที่จะเข้าใกล้เขา

 

 “บางทีพวกเขาอาจจะหวั่นเกรงและเคารพข้า” เวิ่นเหงาเสวี่ยตอบขณะหัวเราะ ในตอนนี้เองหลินเฟิงและคนอื่นๆเริ่มสังเกตเห็นว่าผู้คนรอบตัวเริ่มน้อยลงๆเรื่อยๆ เห็นได้ชัดว่าสาเหตุคือเวิ่นเหงาเสวี่ย

 

 “การทดสอบนั้นไม่ยาก มันคงจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเจ้า เพราะประเภทแรกเป็นประเภทที่ศิษย์ส่วนใหญ่ให้ความสนใจและยังเป็นที่ๆรวมศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดเอาไว้ ทุกปีในระหว่างการลงทะเบียนและสัปดาห์แห่งการทดสอบ จะอนุญาตให้ศิษย์รุ่นเก่าเข้าร่วมเพื่อดูว่าพวกเขามีการพัฒนามากน้อยแค่ไหน” เวิ่นเหงาเสวี่ยกล่าวกับหลินเฟิงด้วยโทนเสียงต่ำ

 “การทดสอบฟังดนตรี?” หลินเฟิงกล่าวขณะจ้องมองไปยังชายชราที่วางมือไว้บนพิณ เขากำลังหลับตาอยู่

 

 “ถูกต้อง การทดสอบคือการฟังดนตรีที่เขาเล่น” เวิ่นเหงาเสวี่ยตอบและหัวเราะ

 

 อะไรกัน? การสอบฟังดนตรี? ต้วนเฟิงและจิ้งยวิ๋นต่างประหลาดใจ นี่มันการสอบแบบไหนกัน?

 

 มีเพียงเมิ่งฉิงเท่านั้นที่ราวกับไม่แยแสอะไร ไม่ว่ายังไงมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับนาง

 

 “แล้วพวกเจ้าจะเข้าใจเอง” เวิ่นเหงาเสวี่ยกล่าว

 

ในเวลาไม่นาน คนในจัตุรัสก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้มีถึง 200 คนแล้ว

 

 บางคนในพวกเขาเมื่อเห็นหลินเฟิงและเวิ่นเหงาเสวี่ยต่างก็มีท่าทีประหลาดใจและตกตะลึง

 

 “มันคือหลินเฟิงที่ก่อความวุ่นวายก่อนหน้านี้ น่าประหลาดใจที่มันก็เลือกประเภทแรกเหมือนกับพวกเรา”

 

 “ฮ่าๆๆ เขาแข็งแกร่งและมีความสามารถทางธรรมชาติที่เป็นเลิศ เขาสามารถเอาชนะศิษย์จากตระกูลชั้นสูงได้ แต่เขาจะสามารถผ่านการทดสอบได้หรือเปล่า?”

 

 “คงจะไม่ปัญหา เจ้าสมควรเห็นถึงวิธีการที่เขาใช้จัดการกับไป๋เจ๋อและจั่วชิว เขายังไม่เกรงกลัวที่จะเผชิญหน้ากับท่านอาจารย์ ความกล้าหาญและความมุ่นมั่นไม่น่ามีปัญหาสำหรับเขา”

 ทุกคนในที่นี้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของหลินเฟิง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบหลินเฟิงแต่ก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชนในตัวเขา นอกจากนี้หลินเฟิงยังมีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้บัญชาการที่ดีอีกด้วย

 

 ในตอนนั้นเอง ชายชราก็ลืมตาขึ้นและกวาดสายตามองไปรอบๆ

 

 “เอาล่ะ การทดสอบจะเริ่มขึ้นแล้ว ผู้ที่ล้มเหลวในการทดสอบจะต้องกลับมาใหม่ในวันพรุ่งนี้เพื่อที่จะลองอีกครั้ง” ชายชราผู้ถือพิณกล่าว เขานั่งลงและถูกรายล้อมไปด้วยเหล่าศิษย์

 

 ฝูงชนต่างพยักหน้า ที่นี่มีทั้งศิษย์ที่เข้ามาใหม่และศิษย์เก่า แน่นอนว่าพวกเขารู้กฎและเริ่มนั่งขัดสมาธิ

 

 “เอาล่ะ นั่งให้ถูกต้องและก็ฟังพิณบรรเลง” เวิ่นเหงาเสวี่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

 “อือ” หลินเฟิงกล่าวตอบสั้นๆ จากนั้นพวกเขาก็นั่งขัดสมาธิ

 

 “จะเริ่มล่ะนะ” ชายชรากล่าวขณะขยับนิ้วมือไปมาบนพิณ

 

 สายตาของหลินเฟิงจับจ้องไปที่มือของชายชรา พวกมันมีความอ่อนช้อยเหมือนกับมือของเวิ่นเหงาเสวี่ย มันดูคล้ายกันมาก

 

 ทุกตัวโน้ตที่ปล่อยออกมาต่างมีความกลมกลืนและไพเราะ ราวกับว่าบรรยากาศได้หยุดนิ่ง ช่วงเวลานี้ไม่มีเสียงอื่นใดนอกจากเสียงของพิณ มันเงียบสงบอย่างมาก

 

 ผู้คนส่วนมากเริ่มหลับตาและเพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรี มันคือความสุขสงบที่ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด

 

 หลินเฟิงเกือบที่จะหลับตาลงหลายครั้ง แต่ละครั้งที่เขารู้สึกเคลิบเคลิ้ม เขาจะพยายามที่จะอดทนไว้

 

 “มันคือการสะกดจิต!” ในที่สุดหลินเฟิงก็เข้าใจ เป้าหมายของการสอบคือการสะกดจิต

 

 “น่าแปลก มันต้องเป็นทักษะที่ลึกลับ” หลินเฟิงคิดและหลับตาลง เขารู้สึกง่วงอย่างมากแม้ว่าเขาจะพยายามดิ้นรน แต่เขาก็ต้องการที่จะดูพลังของทักษะสะกดจิตและหยุดต่อต้าน

 

 ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่าเขาได้อยู่คนเดียวบนโลก

 

 บางทีทักษะนี้อาจจะแข็งแกร่งเกินไปหรือหลินเฟิงตั้งใจที่จะตกอยู่ในห้วงนิทราด้วยความตั้งใจของตัวเองโดยปราศจากผลของการสะกดจิต ด้านข้างของเขามีกองทหารม้าจำนวนมากที่ถือหอกยาวเอาไว้ พวกเขาปลดปล่อยจิตสังหารอันแรงกล้าออกมาเห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการที่จะสังหารหลินเฟิง

 

 โลหิตสาดกระเซ็นไปทั่วทุกหนทุกแห่ง

 

 ในตอนนี้ ร่างกายของหลินเฟิงก็ถูกชโลมไปด้วยเลือด

 

 ทันใดนั้นได้มีหัวที่ปราศจากร่างกายบินตรงมาที่เขา ดวงตาที่ใหญ่โตยังคงเบิกกว้างด้วยความตกใจ

 

 มันรวดเร็วอย่างมาก เขาถูกรายล้อมไปด้วยกระดูก เนื้อสดๆและเลือด ซากศพกำลังซ้อนทับกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

 

 ภายใต้ดวงอาทิตย์ เสียงของหญิงสาวที่กำลังร้องไห้กระจายไปทั่วบรรยากาศ

 

 ดวงวิญญาณเหล่านี้ต่างต้องการที่จะแก้แค้นสำหรับความทุกข์ทรมาน ภายใต้แสงสลัวของดวงจันทร์ เหล่าวิญญาณคนตายต่างเดินไปมาบนพื้นที่เต็มไปด้วยเลือดและซากศพ

 

 ทันใดนั้นเอง ผู้คนจำนวนหนึ่งก็ลืมตาขึ้นมาอย่างฉับพลัน พวกเขาหายใจอย่างหนักหน่วงและอยู่ในอาการตกใจ เสื้อผ้าของพวกเขาถูกชโลมไปด้วยเหงื่อ

 

 ผู้ที่ลืมตาขึ้นมาต่างตื่นตระหนกและมองไปรอบๆ พวกเขาเริ่มสักเกตเห็นว่ายังมีศิษย์บางคนที่ยังคงหลับตาโดยเฉพาะพวกศิษย์รุ่นเก่าดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจมอยู่ในห้วงความฝัน

 

หลังของหลินเฟิงถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อที่ไหลเย็น ใครกันที่จะสามารถสงบเสงี่ยมอยู่ได้ในความฝันที่น่ากลัวเช่นนี้? นอกจากนี้เสียงดนตรีจากพิณยังเพิ่มความสยดสยองซึ่งให้ฉากตรงหน้าดูสมจริงยิ่งขึ้น

 

 ความรู้สึกที่รุนแรงได้บุกเข้าไปยังหัวใจของหลินเฟิงอีกครั้ง เขารู้สึกราวกับว่าสมองถูกกระทบกระเทือน เขาสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นของเหงื่อที่ปกคลุมแผ่นหลังของเขา

 

 “ภาพลวงตา มันคือพิณ…. แข็งแกร่งยิ่งนัก…” เสียงของพิณสร้างความประหลาดใจให้กับผู้คน มันทำให้พวกเขาตกอยู่ในห้วงนิทราและฝันร้ายที่น่าสยดสยอง นี่มันน่ากลัวมาก!

 

 ถ้าผู้ที่เล่นพิณเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวโน้ต มันจะน่ากลัวขนาดไหน?

 

 รอบตัวของหลินเฟิง ต้วนเฟิงยังคงหลับตาแต่เขาก็ยังสั่นเล็กน้อย ส่วนจิ้งยวิ๋นนางลืมตาขึ้นและหายใจอย่างหนักหน่วง ในตอนนี้นางดูหวาดกลัวอย่างมาก

 

 “การทดสอบความอดทน…” หลินเฟิงคิด เกิดรอยยิ้มแปลกๆบนใบหน้าของเขา ตอนแรกที่เขาตกอยู่ในห้วงแห่งความฝันยังไม่มีเวลาให้เขาได้คิดมากนัก ตอนนี้เขาเข้าใจจุดประสงค์ของการทดสอบแล้ว ดูเหมือนว่าการลืมตาคือความพ่ายแพ้

 

 ไม่นานหลังจากนั้น เสียงเพลงก็หยุดลง เหล่าศิษย์ที่หลับตาอยู่เริ่มลืมตาขึ้นมาที่ละคนๆ

 

 ชายชรามองไปรอบๆและกล่าว “จุดประสงค์ของการทดสอบนี้คือความอดทนและความมุ่งมั่นของพวกเจ้า ด้วยสภาพแวดล้อมที่เจ้าเห็น ถ้าทนไม่ได้จนต้องลืมตาขึ้นมามันก็หมายความว่าพวกเจ้ายังไม่พร้อมสำหรับสนามรบ ดังนั้นผู้ที่ตื่นขึ้นมาก่อนจงออกไป พวกเจ้ายังไม่สามารถที่จะเป็นผู้บัญชาการได้”

 

 “เป็นอย่างที่คิด” หลินเฟิงคิดและยิ้ม ที่หลินเฟิงลืมตาขึ้นมาไม่ใช่เพราะเขาทนกับภาพลวงตาไม่ได้ แต่เป็นเพราะจิตวิญญาณของเขาทำให้เขาหลุดพ้นจากภาพลวงตา

 

 มีผู้คนมากมายที่ต้องผิดหวังและจากไป นอกจากนี้ยังมีบางคนที่คิดว่าการกลายเป็นผู้บัญชาการไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับพวกเขา

 

 ชายชรามองไปรอบๆและเห็นหลินเฟิง จากนั้นก็ถาม “เจ้า ทำไมถึงยังไม่ไป?”

 

 “หืม?” ผู้ที่รู้จักหลินเฟิงต่างมึนงง หลินเฟิงล้มเหลว?

 

 เวิ่นเหงาเสวี่ยประหลาดใจ เป็นไปได้ไหมที่หลินเฟิงไม่อาจทนมองภาพที่สยดสยองได้? การสอบอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นไปไม่ได้สำหรับคนอย่างหลินเฟิงที่จะไม่ผ่านการทดสอบหลังจากที่เขาได้แสดงความแข็งแกร่งของตัวเองออกมา

 

 “ท่านอาจารย์ข้าไม่ได้ตื่นขึ้นมาเพราะความหวาดกลัว” หลินเฟิงกล่าวขณะยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัว เมื่อเขาพูดจบได้มีหลายสายตาจ้องมองมาที่เขา หลินเฟิงรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกกดขี่ด้วยสายตาเหล่านั้น ผู้ที่เป็นอาจารย์ควรจะมีความสามารถที่โดดเด่น อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้สังเกตว่าที่หลินเฟิงตื่นขึ้นมาไม่ใช่เพราะความหวาดกลัว นอกจากนี้วิธีการที่เขาจ้องมองหลินเฟิงยังเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม

 

 “ถ้าเจ้าอยากที่จะเป็นผู้บัญชาการ จงอย่ายอมแพ้และกลับมาใหม่ในวันพรุ่งนี้” อาจารย์กล่าว

 

 “พรุ่งนี้?” หลินเฟิงรู้สึกหงุดหงิด พิธีเปิดของลานศักดิ์สิทธิ์จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้เช่นกัน

 

 “อาจารย์ ให้ข้าลองใหม่อีกครั้ง” หลินเฟิงกล่าวและยิ้ม

 

 “เจ้านี่มันดื้อรั้นเสียจริง เจ้าเพิ่งจะได้รับโอกาสไป จงกลับมาใหม่ในวันพรุ่งนี้และอย่าได้ใจร้อน” ชายชรากล่าวด้วยความประหลาดใจ ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่หลินเฟิง

 

 หลินเฟิงส่ายหัวและกล่าว “ ท่านอาจารย์ ข้าขอร้อง ให้โอกาสข้าอีกครั้ง”

 

ชายชรามองไปที่หลินเฟิงด้วยความประหลาดใจและกล่าวด้วยโทนเสียงต่ำ “ด้วยความมุ่งมั่นและความแน่วแน่ของเจ้าในตอนนี้ มันยากที่จะเชื่อว่าเจ้าไม่ผ่านการทดสอบ วันนี้ข้าจะงดเว้นและทำลายกฎเพื่อเจ้า เอาล่ะ มาลองกันอีกครั้ง”

 

*******************************************************************************

 

ติดตามได้ที่ – 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments