I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Peerless Martial God ตอนที่ 125 เมื่อต้องมาพบกัน!

| Peerless Martial God | 1414 | 2373 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 ด้านนอกของสำนักสวรรค์ได้มีม้าสองตัวมาถึง ในตอนนี้ขั้นตอนการลงทะเบียนทั้งหมดได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว

 

 ผู้คนเริ่มเยอะขึ้น พวกเขาจ้องเขม็งไปยังม้าหุ้มเกราะสองตัวพร้อมกับร่างของบุรุษและสตรีผู้งดงาม แน่นอนว่าพวกเขาคือหลินเฟิงและหลิ่วเฟย

 

 “สำนักสวรรค์!” หลิ่วเฟยกล่าวขณะจ้องมองไปยังประตูบานใหญ่ จากนั้นนางก็ถามหลินเฟิง “เจ้าพาข้ามาที่นี่ทำไม?”

 

 “แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเป็นเรื่องการฝึกฝนและบ่มเพาะพลัง” หลินเฟิงตอบ “ไปกันเถอะ”

 

 “ข้าไม่มีจดหมายแนะนำ….. นอกจากนี้ ข้าจะไม่เข้าร่วมกับสำนักสวรรค์ เจ้าก็ไม่ควรเช่นกัน หรือว่าเจ้าได้ลืมเกี่ยวกับนิกายหยุนไห่ไปแล้ว?” หลิ่วเฟยกล่าว

 

 หลิ่วเฟยเป็นลูกสาวของหลิ่วช่างหลานดังนั้นเห็นได้ชัดว่านางรู้เกี่ยวกับนิกายสวรรค์

 

 “ข้าไม่ได้เข้าร่วมกับสำนักแต่ข้าสามารถพาเจ้าเข้าไปได้โดยไม่ต้องทีจดหมายแนะนำ” หลินเฟิงกล่าวขณะส่ายหัว เขาเข้าใจในสิ่งที่หลิ่วเฟยกล่าว หลังจากที่มีผู้คนมากมายเสียสละชีวิตเพื่อเขา การเข้าร่วมกับสำนักสวรรค์ก็เหมือนกับการทรยศนิกายหยุนไห่

 

 “อย่าลืมว่าพ่อของเจ้าบอกให้เจ้าเชื่อฟังข้า” หลินเฟิงกล่าว เมื่อเขาเห็นว่าหลิ่วเฟยไม่มีปฏิกิริยาอะไร เขาก็เร่งให้ม้าเดินไปข้างหน้าและเข้าไปยังสำนักสวรรค์

 

 หลิ่วเฟยตามเข้าไป จากนั้นนางก็ต้องประหลาดใจเพราะไม่มีใครขัดขวางหรือห้ามปรามไม่ให้นางเข้าไปยังสำนัก

 

 “เจ้าทำได้ยังไง?” หลิ่วเฟยถาม นางรู้ดีว่าทางสำนักจะไม่ยอมให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่ศิษย์หรือผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปในอาณาเขตของสำนักได้เป็นอันขาด นางไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงงดเว้นนาง มันง่ายดายเกินไป? คำอธิบายที่ชัดเจนที่สุดก็คือหลินเฟิง นอกจากนี้เขายังบอกเองว่านางไม่จำเป็นต้องมีจดหมายแนะนำก็สามารถเข้ามาได้

 

 “ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ก็เพราะว่าเจ้าเป็นคนรักของข้า” หลินเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

 หลิ่วเฟยจ้องมองไปยังเขาด้วยความโกรธ

 

 “เจ้ากำลังมองอะไร? เป็นเจ้าไม่ใช่หรือที่บอกว่าข้าเป็นคนรักของเจ้า ขอโทษด้วยนะแต่ดูเหมือนว่าความรักของเจ้าที่มีต่อข้าจะไม่ได้รับการตอบสนอง” หลินเฟิงกล่าวอย่างหยิ่งผยองและมองไปที่หลิ่วเฟย ผู้หญิงคนนี้คิดมากเกินไป  

 

 เมื่อนางได้ยินคำพูดของหลินเฟิง นางเริ่มจ้องมองเขาด้วยความโกรธอีกครั้ง… ไอบ้านี่!

 

 นี่เป็นครั้งแรกที่หลิ่วเฟยเดินทางมายังสำนักสวรรค์ นางพบว่าทัศนียภาพของที่นี่งดงามอย่างมาก

 

 หลินเฟิงและหลิ่วเฟยเดินทางมาถึงด้านนอกของพระราชวังซึ่งเป็นที่พักของเหล่าลูกศิษย์ เขามองไปที่หลิ่วเฟยและถาม “ข้าคิดว่าเจ้าสมควรรู้เกี่ยวกับศิษย์ทั้ง 3 ประเภทของสำนักแห่งนี้”

 

 “ข้ารู้ว่าที่นี่ฝึกฝนเหล่าผู้ที่จะเป็นผู้บัญชาการ ผู้ปกครองและนักฆ่า ในเมืองตว้านเริ่ม หลายคนในกองกำลังของท่านพ่อเองก็มาจากสำนักสวรรค์ พวกเขาทุกคนล้วนแต่แข็งแกร่งมาก ผู้บ่มเพาะหลายคนที่มาจากที่นี่กลายเป็นผู้พิทักษ์โลหิต”

 

 หลินเฟิงจ้องมองหลิ่วเฟยด้วยความแปลกใจและกล่าว “ผู้พิทักษ์โลหิต? ลุงหลิ่วให้พวกเขากลายเป็นผู้พิทักย์อย่างง่ายดาย?”

 

 ผู้พิทักษ์โลหิตเป็นทหารที่อยู่ใกล้ชิดกับหลิ่วช่างหลานมากที่สุด หลินเฟิงเคยถามตัวเองก่อนหน้านี้เกี่ยวกับสถานะของผู้ที่จบจากสำนักสวรรค์ ถ้าพวกเขากลายเป็นผู้บ่มเพาะพลังที่มีชื่อเสียง ไม่ได้หมายความว่าเมืองจักรพรรดิต้องได้รับการสนับสนุน?

 

 หลิ่วเฟยจ้องมองหลินเฟิงราวกับคนโง่ “เจ้าคิดว่าพ่อของข้าเป็นคนแบบนั้น?”

 

 หลินเฟิงเพียงหัวเราะเบาๆ หลิ่วช่างหลานรู้ว่าใครมีศักยภาพสูง เขาไม่ได้ให้ใครก็ได้กลายเป็นผู้พิทักษ์โลหิต

 

 “ที่นี่เป็นที่สำหรับผู้ที่กำลังศึกษาทักษะทางทหาร แม้ว่าพวกเราจะไม่ใช่ศิษย์ของสำนักแต่พวกเราก็ยังอยู่ที่นี่ได้ รวมทั้งยังสามารถฝึกฝนทักษะทางการทหารและเทคนิคต่างๆได้”

 

 หลิ่วเฟยรู้สึกประหลาดใจ นางสงสัยจริงๆว่าทำไมหลินเฟิงถึงได้มั่นใจนัก แม้ว่านางจะถามเขาแล้วแต่เขาก็ไม่ได้ตอบ ดังนั้นนางจึงไม่อยากที่จะถามเขาอีก

 

 เมื่อพวกเขาได้มาถึงส่วนที่พักของหลินเฟิง หยวนซานและต้วนเฟิงกำลังพูดคุยกันอยู่ เมื่อพวกเขาเห็นหลินเฟิงและหลิ่วเฟยทำให้พวกเขาประหลาดใจอย่างมาก

 

 “พี่ใหญ่หลินเฟิง!”

 

 “หลินเฟิงสหายข้า!”

 

 ทั้งสองกล่าวเรียกชื่อหลินเฟิงด้วยท่าทางมีความสุข หลังจากนั้นพวกเขาก็เหลือบมองไปทางหลิ่วเฟย หยวนซานจ้องมองนางด้วยความสงสัย

 

 “พี่ใหญ่หลินเฟิง นางคือ?” ต้วนเฟิงถามขณะจ้องมองไปยังภาพลักษณ์อันน่าประทับใจของหลิ่วเฟย เมิ่งฉิงและหลินเฟิงได้ตัดสินใจอยู่ด้วยกันแล้ว แต่หลินเฟิงยังกลับมาพร้อมกับหญิงสาวที่งดงามอีกคน?

 

 “หลิ่วเฟย!” เสียงมาจากข้างหลังของต้วนเฟิง จิ้งยวิ๋นเดินตรงมาหาพวกเขา เมื่อนางเห็นหลินเฟิงและหลิ่วเฟยอยู่ด้วยกัน มันทำให้นางรู้สึกแปลกๆ

 

 ในนิกายหยุนไห่ หลิ่วเฟยถือว่าเป็นหญิงสาวที่งดงามที่สุด มีคนจำนวนนับไม่ถ้วนต้องการที่จะพิชิตใจนาง ตั้งแต่ที่นิกายหยุนไห่ถูกทำลาย จิ้งยวิ๋นคิดวว่าหลิ่วเฟยคงจะตกตายไปแล้วพร้อมกับคนอื่นๆ นางไม่คิดว่าจะได้พบกับหลิ่วเฟยอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางยังมาพร้อมกับหลินเฟิง…… นอกจากนี้….. ในวันพิธีเปิดลานศักดิ์สิทธิ์หิมะจันทราไม่ใช่ว่าหลินเฟิงจากไปพร้อมกับหลิ่วช่างหลาน?

 

 “หลิ่วเฟย หญิงสาวผู้มีจิตวิญญาณศรศักดิ์สิทธิ์” หลินเฟิงกล่าว ทำให้ต้วนเฟิงและหยวนซานตกตะลึง

 

 ที่แท้หญิงสาวผู้งดงามคนนี้ก็เป็นลูกสาวของหลิ่วช่างหลาน… ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมนางถึงอยู่กับหลินเฟิง จิ้งยวิ๋นประหลาดใจยิ่งขึ้น นางไม่รู้ว่าหลิ่วเฟยเป็นลูกสาวของหลิ่วช่างหลานจวบจนตอนนี้

 

 “สวัสดี” หยวนซานเปลี่ยนท่าทีไปเล็กน้อย จู่ๆดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความเคารพ หลิ่วช่างหลานเป็นหนึ่งในคนที่เขาเคารพมากที่สุด แย่มากที่วันนั้นหยวนซานอยู่ไกลและไม่สามารถพูดคุยกับหลิ่วช่างหลานได้ เขาหวังว่าจะได้ตามหลินเฟิงและหลิ่วช่างหลานออกไป หยวนซานไม่ใช่คนเดียวที่คิดแบบนั้น ศิษย์หลายคนที่กำลังเรียนรู้เกี่ยวกับทักษะด้านการทหารต่างก็หลงใหลในตัวของหลิ่วช่างหลาน

 

 ใครคือแม่ทัพที่ยิ่งใหญ่? ใครกันที่สามารถสังหารผู้คนจากระยะที่ไกลแสนไกลด้วยลูกศรของเขา? แน่นอนว่าต้องเป็นแม่ทัพผู้เกรียงไกรหลิ่วช่างหลาน มีเด็กมากมายที่ตื่นเต้นเมื่อได้ยินเพียงแค่ชื่อของหลิ่วช่างหลาน หลายคนมีเขาเป็นแบบอย่าง และหลิ่วเฟยก็เป็นลูกสาวของเขา เมื่อหลิ่วเฟยสังเกตเห็นความคลั่งไคล้จากดวงตาของหยวนซาน หัวใจของนางเต็มไปด้วยความเสียใจ ทุกคนรู้ดีว่าวีรบุรุษอย่างหลิ่วช่างหลานเป็นอย่างไรแต่ไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์จริงๆที่เกิดขึ้นกับเขาแท้จริงแล้วแตกต่างอย่างมาก ไม่มีใครรู้ว่ามีบางคนในอาณาจักรต้องการที่จะกำจัดเขาและใช้อำนาจเพื่อตัวเอง

 

 “หลินเฟิง ข้าต้องการที่จะพักผ่อน” หลิ่วเฟยกล่าวอย่างใจเย็น หลินเฟิงทำได้เพียงถอนหายใจ เขาสามารถสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของนางได้

 

 “เจ้าจะอยู่ที่นี่หรือต้องการไปยังที่ของเจ้า? ที่นี่มีห้องว่าอีกมากมาย เจ้าสามารถเลือกได้” หลินเฟิงกล่าว

 

 “ไม่จำเป็น ข้าจะไปพักที่ห้องของเจ้า “ หลิ่วเฟยกล่าวอย่างไม่แยแสซึ่งทำให้ทุกคนตกตะลึง

 

 หลินเฟิงประหลาดใจ เขาถึงกับพูดไม่ออก ในตอนนี้สิ่งที่เขาคิดว่าซับซ้อนที่สุดในโลกนั้นก็คือผู้หญิง

 

 หลินเฟิงทำได้เพียงเกาหัวและกล่าว “นี่ไม่สะดวกเท่าไร เจ้าควรจะไปพักในที่ของเจ้ามากกว่า”

 

 “ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้รังเกียจ… หรือเจ้ารังเกียจ?” หลิ่วเฟยกล่าว “ห้องของเจ้าอยู่ไหน?”

 

 “ตรงนั้น” หลินเฟิงผู้ไม่มีทางเลือกชี้ไปยังห้องของตัวเอง

 

 ในตอนนั้นเอง หยวนซานรีบเดินไปด้านหน้าประตูห้องหลินเฟิงอย่างรวดเร็วและกล่าวขณะส่ายหัว “เจ้าควรจะเลือกพักที่อื่น”

 

 เมื่อหลินเฟิงเห็นหยวนซานขวางทางเข้าประตู มันทำให้เขาประหลาดใจ ทุกคนแสดงออกถึงความสงสัยบนใบหน้า จากนั้นต้วนเฟิงและจิ้งยวิ๋นก็พยักหน้าบอกว่าพวกเขาไม่เห็นด้วยที่หลิ่วเฟยจะอาศัยอยู่ห้องเดียวกับหลินเฟิง

 

 “ไม่จำเป็น ข้าจะพักที่นี่” หลิ่วเฟยเดินเข้าใกล้หยวนซาน จากนั้นหยวนซานก็กล่าว “หลินเฟิงสหายข้า เจ้าควรจะเข้าไปก่อน”

 

 “ก็ได้” หลินเฟิงพยักหน้า เขาตรงเข้าไปยังประตูหินบานใหญ่ จากนั้นก็เปิดและเข้าไปยังห้องของเขา หลิ่วเฟยเดินตามเข้าไป

 

 “นั่นใคร?!”

 

 “เป็นพลังที่แข็งแกร่งอะไรเช่นนี้!” หลินเฟิงคิด

 

 ในตอนนั้นเอง ปราณที่ทรงพลังก็ได้เข้าปะทะเข้ากับร่างกายของหลินเฟิง เขาแทบล้มทั้งยืน ในตอนนี้หลินเฟิงเข้าใจแล้วว่าทำไมหยวนซานจึงให้เขาเข้ามาก่อน!

 

 “ข้าเอง!” หลินเฟิงตะโกน ทันใดนั้นปราณที่ทรงพลังก็หายไป

 

 หลิ่วเฟยที่ยืนอยู่ข้างหลังของหลินเฟิงสั่นตั้งแต่หัวจรดเท้า แรงกดดันจากปราณเมื่อกี้เกือบทำให้นางหมดสติ นี่มันความแข็งแกร่งระดับไหนกัน!

 

 หยวนซานที่อยู่ข้างนอกมีรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวอยู่บนใบหน้า โชคดีที่เขาได้ขอให้หลินเฟิงเข้าไปก่อน หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะความกลัว หญิงสาวคนนั้นน่ากลัวเกินไป

 

 “ทำไมเจ้าไม่กลับมาให้เร็วกว่านี้?” เมิ่งฉิงกล่าวด้วยความเย็นชาจากภายในห้อง

 

 เมิ่งฉิงยังคงสวมผ้าคลุมหน้าปกปิดใบหน้าอันงดงามของนางเอาไว้ นางดูเหมือนธิดาศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก ราวกับว่านางอยู่เหนือสิ่งอื่นใดในโลก

 

 นางยังคงงดงาม!

 

 เมื่อหลิ่วเฟยเห็นเมิ่งฉิง ดวงตาของนางเบิกกว้างขึ้นในทันที

 

เช่นเดียวกัน เมื่อเมิ่งฉิงเห็นหลิ่วเฟย ดวงตาของนางถึงกับสั่นสะท้านอยู่ชั่วครู่และขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่ามันจะบ่งบอกว่านางไม่มีความสุขอย่างมาก!

 

ติดตามได้ที่ – 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments