ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบนชั้นที่ 6 ปราณที่มีความบริสุทธิ์ภายในห้องบ่มเพาะพลังมีความหนาแน่นอย่างมาก
บางคนเคยเห็นหลินเฟิงบ่มเพาะพลังอยู่ด้านนอกของห้องในชั้นที่ 6 ในตอนแรกพวกเขาตั้งใจจะไปยังชั้นที่สูงขึ้น แต่เนื่องจากพวกเขาพบกับฉากที่น่าสนใจจึงได้หยุดอยู่ที่ชั้น 6 และลืมเกี่ยวกับความคิดก่อนหน้านี้ นอกจากนี้บางคนในพวกเขายังถูกดึงดูดโดยห้องบ่มเพาะพลังที่กำลังจะเปิด
ถ้าพวกเขาสามารถได้รับหนึ่งในห้องบ่มเพาะพลังมาได้ ความเร็วในการบ่มเพาะพลังของพวกเขาจะก้าวกระโดดอย่างมาก
ในที่สุดแสงที่ในห้องก็หายไปอย่างสมบูรณ์ ประตูหินส่งเสียงดังในขณะที่มันเปิดออก ทุกคนเริ่มเคลื่อนตัวไปที่ประตูและจ้องมองไปยังประตูที่เปิดอยู่
ประตูหินเปิดออกด้วยตัวเอง ทุกคนต่างจับจ้องไปยังเงาร่างที่ก้าวออกมา มันเป็นชายหนุ่มที่มีดาบอยู่ด้านหลัง เมื่อเขาเห็นคนมากมาย รอยยิ้มแปลกๆและลึกลับก็บังเกิดบนใบหน้าของเขา
“พวกเจ้าทั้งหมดต้องการห้องนี้?” ชายหนุ่มกล่าว เขามีใบหน้าที่ชั่วร้ายอย่างมาก ไม่มีคนใดเอ่ยตอบแต่การแสดงออกทางสีหน้าของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าพวกเขาต้องการมันจริงๆ
“ดี ถ้าพวกเจ้าต้องการข้าก็จะยกมันให้กับพวกเจ้า” ชายหนุ่มยิ้มอย่างชั่วร้าย เขาเคลื่อนตัวไปด้านข้างเพื่อหลีกทางให้กับคนเหล่านั้น
ตอนนี้ภายในห้องนั้นว่าเปล่า ทุกคนต่างจ้องมองไปยังจุดเดียวกัน พวกเขาราวกับผู้ที่หิวโหยและพบเจอกับอาหารอันโอชะ
อย่างไรก็ตามแทนที่จะรีบวิ่งเข้าไปในห้องแต่กลับไม่มีผู้ใดเคลื่อนไหว พวกเขาต่างระวังตัวและไม่มีใครกล้าผลีผลาม
ไม่มีใครกล้าที่จะเคลื่อนไหวเพราะผู้ที่ก้าวเข้าไปในห้องคนแรกจะต้องถูกโจมตีอย่างแน่นอน แม้ว่าอาจจะเป็นคนรู้จักกันแต่ก็จะไม่มีความปรานี ความโลภของพวกเขาน่ากลัวอย่างมาก
ไม่มีใครเต็มใจที่จะเป็นคนแรกที่จะก้าวเข้าไปในห้อง
แน่นอนว่าทุกอย่างย่อมมีข้อยกเว้นเสมอ! ….และหลินเฟิงก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาเดินตรงไปยังห้องโดยปราศจากความกลัว
หลินเฟิงก้าวเดินอย่างธรรมชาติและผ่อนคลาย ขณะที่ยืนอยู่หน้าประตู เขาหันกลับไปและจ้องมองไปยังกลุ่มคน
“ข้าคือคนแรกที่มารอที่นี่ ห้องนี้เป็นของข้า พวกเจ้าควรจะมองหาที่อื่น”
กลุ่มคนจ้องมองไปยังหลินเฟิงด้วยสายตาที่เย็นชา คนแรก? แล้วมันมีความหมายอะไรกับพวกเขา? ในโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง ความแข็งแกร่งคือทุกอย่าง
นอกจากนี้หลินเฟิงยังให้พวกเขาไปหาห้องอื่น ตั้งแต่ชั้น 10 ลงมาแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีห้องว่างเหลืออยู่ สิ่งที่หลินเฟิงต้องการให้พวกเขาทำคือไล่ให้พวกเขาไปยังชั้นบนของหอคอย?
“ห้องนั้นไม่ใช่ของเจ้า ไสหัวไป” หนึ่งในนั้นกล่าวอย่างเย็นชา
“ฮ่าๆๆ หากเจ้าต้องการห้องนั้น อย่างแรกเจ้าก็ควรใส่หินบริสุทธิ์ลงไปก่อน” อีกคนพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย พวกเขาคิดว่าในช่วงที่หลินเฟิงใส่หินบริสุทธิ์เข้าไปจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการโจมตีเขา
หลินเฟิงเหลือบมองไปยังกลุ่มคน ยังไม่มีใครโจมตีเขา
ปราณที่เย็นยะเยือกถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของหลินเฟิงพร้อมกับจิตวิญญาณน้ำแข็งปรากฏขึ้นด้านหลังของเขา
จิตวิญญาณของเขายังไม่หยุดที่จะปลดปล่อยความเย็นออกมา ทุกอย่างถูกเปลี่ยนเป็นสีขาวราวกับชั้นน้ำแข็ง
นี่มันหนาวเย็นและทรงพลังเกินไป!
แต่มันก็ไม่ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับกลุ่มคนจนเกินไปนัก พวกเขาส่วนใหญ่ล้วนแต่แข็งแกร่ง
“ใครก็ตามที่ต้องการห้องนี้ พวกเจ้ามีอิสระที่จะเอามันไปจากข้า” หลินเฟิงกล่าวอย่างหยิ่งยโส อุณหภูมิเริ่มลงต่ำลงเรื่อยๆ!
ปราณดาบเริ่มหลั่งไหลออกมาจากร่างกายของหลินเฟิงและกระจายไปทั่วบรรยากาศพร้อมกับปราณน้ำแข็ง
ปราณน้ำแข็งของเขาเริ่มแหลมคมเหมือนกับปราณดาบ มันเกือบจะเฉือนผ่านผิวหนังของคนเหล่านั้น
ผมดำยาวของหลินเฟิงปลิวไสวด้วยแรงลมที่เกิดจากการโคจรพลังปราณ เขาดูคล้ายกับผู้บ่มเพาะพลังที่มากไปด้วยประสบการณ์และมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมอยู่บนใบหน้า
“อำนาจดาบ!” กลุ่มคนต่างตกตะลึงและหวาดกลัวต่ออำนาจดาบที่แข็งแกร่งที่หลบซ่อนอยู่ในพลังปราณ! ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมชายคนนี้ถึงกล้าที่จะหยิ่งยโส
แม้ว่าอำนาจดาบที่ออกมาจากร่างกายของหลินเฟิงจะเป็นเพียงความแข็งแกร่งของขอบเขตพลังปราณขั้นที่ 3 แต่มันก็ยังทรงพลังและแหลมคมอย่างมาก บางทีมันอาจจะแข็งแกร่งพอที่จะจัดการกับผู้บ่มเพาะพลังขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 4 บางคนได้
นอกจากนี้อำนาจดาบของเขายังออกมาพร้อมกับปราณน้ำแข็งซึ่งทำให้ยากอย่างมากที่นักบ่มเพาะพลังขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 4 จะจัดการกับเขาได้โดยง่าย
แต่ในกลุ่มคน ก็ยังมีผู้บ่มเพาะพลังขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 4 อยู่และพวกเขาก็จ้องมองมายังหลินเฟิง
บรรดาผู้ที่อยู่ในขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 3 เริ่มจากไปทีละคน พวกเขายอมแพ้ให้กับความแข็งแกร่งที่หลินเฟิงแสดงออกมา
“ข้าบอกให้พวกเจ้าโจมตีข้าแต่พวกเจ้าก็ไม่ทำ ข้าบอกให้พวกเจ้าจากไปพวกเจ้าก็ไม่ไป นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน! พวกเจ้าเป็นเพียงพวกใจโลเลและขี้ขลาด! พวกเจ้าไม่มีความกล้าหาญและความมุ่งมั่นในเส้นทางการบ่มเพาะพลังของตัวเอง” หลินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา
เขาก้าวไปอีก 2-3 ก้าว ปราณดาบและปราณน้ำแข็งที่ถูกปลดปล่อยจากร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
“แปดฝ่ามือพิฆาต!” หลินเฟิงโจมตีออกไปทั้ง 2 ฝ่ามือ มันผสานเข้ากับปราณดาบและน้ำแข็งจากนั้นก็พุ่งผ่านอากาศ น่าแปลกใจที่หลินเฟิงเป็นคนแรกที่โจมตีออกไป
กลุ่มคนเคลื่อนไหวในเวลาเดียวกันและสกัดกั้นแปดฝ่ามือพิฆาตของหลินเฟิง… แต่ทันใดนั้นหลินเฟิงก็พุ่งไปข้างหน้าและเกิดประกายแสงที่ดาบของเขา
เงาแสงพุ่งทะลวงผ่านอากาศด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
มีเพียงไม่กี่คนที่ไม่มีพลังเพียงพอที่จะป้องกันการโจมตีและถูกส่งกระเด็นไปด้านหลังพร้อมกับเลือดที่ไหลอาบไปทั่วร่าง
ผู้บ่มเพาะพลังขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 4 ทั้งหมดเหล่านี้ถูกโจมตีในเวลาเดียวกัน มันกลายเป็นฉากที่โกลาหลอย่างมาก
“ดาบแห่งสวรรค์!”
ปราณดาบสร้างกระแสลมที่บ้าคลั่งรอบดาบของหลินเฟิง ปราณน้ำแข็ง, ปราณดาบ, อำนาจดาบและดาบแห่งสวรรค์หลอมรวมเข้าด้วยกันโดยสมบูรณ์
อย่างไรก็ตามหลังจากที่กลุ่มคนเริ่มโจมตี พวกเขาพบว่ามันยากอย่างมาก ที่นี่มีคนมากเกินไป บางครั้งการโจมตีของบางคนก็หักล้างกันเองถึงแม้ว่าเป้าหมายจริงๆของพวกเขาจะเป็นหลินเฟิง มันกลายเป็นความวุ่นวาย
เกิดเสียงดังกระจายไปทั่วบรรยากาศและค่อยๆลดลงเรื่อยๆจนความสงบกลับมาอีกครั้ง พวกเขาทั้งหมดตกตะลึง คนจำนวนมากโจมตีหลินเฟิงแต่ก็ไม่อาจเขาชนะเขาได้ การโจมตีของพวกเขายุ่งเหยิงเพราะจำนวนคนที่มากเกินไป
“ข้าให้โอกาสครั้งที่ 2 ยังมีใครต้องการห้องนี้อยู่หรือไม่?” หลินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชาและเหลือบมองไปยังกลุ่มคน
พวกเขาต่างจับจ้องไปยังร่างของหลินเฟิง ไม่มีใครกล้าขยับ เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าไม่มีใครกล้าสู้ตัวต่อตัวกับหลินเฟิง
“ในเมื่อพวกเจ้าไม่กล้าที่จะต่อสู้กับข้า ถ้าเช่นนั้นก็อย่าได้พยายามที่จะขโมยห้องของข้า ถ้ายังมีอีก ครั้งหน้าพวกเจ้าทั้งหมดตาย” หลินเฟิงยังคนปลดปล่อยปราณที่เหน็บหนาวออกมา ไม่มีใครกล้าสงสัยในคำพูดของเขา ถ้าพวกเขายังพยายามที่จะขโมยห้องของหลินเฟิงอีกพวกเขาจะต้องถูกฆ่าอย่างแน่นอน
หลินเฟิงหันกลับไปและไม่ได้ให้ความสนใจกลุ่มคนเหล่านี้อีก เขาหยิบหินบริสุทธิ์ระดับกลาง 3 ก้อนและใส่ลงไปยังช่องที่ผนัง
ทันใดนั้น แสงปราณที่บริสุทธิ์ก็ปรากฏขึ้น ปราณจำนวนมหาศาลถูกอัดแน่นอยู่ในห้อง กลุ่มคนต่างมองด้วยความอิจฉา
กลุ่มคนเหล่านี้ดูเหมือนว่าต้องการที่จะโจมตีหลินเฟิงอีกครั้งแต่เมื่อพวกเขานึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนความคิดอย่างรวดเร็ว
พวกเขาแต่ละคนล้วนแต่เป็นผู้แข็งแกร่ง พวกเขาทะลวงผ่านสู่ขอบเขตพลังปราณขั้นที่ 4 แต่หลินเฟิงที่เป็นเพียงผู้บ่มเพาะพลังขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 3 กลับทำให้พวกเขาหวาดกลัวและไม่มีใครกล้าที่จะท้าทายเขาอีก
หากเรื่องนี้ถูกแพร่งพรายออกไปพวกเขาจะต้องเสียหน้าอย่างมาก คงไม่มีใครเชื่อว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ให้กับหลินเฟิงที่มีระดับการบ่มเพาะอ่อนแอกว่า
หลินเฟิงกำลังจะก้าวเข้าไปในห้องแต่ทันใดนั้นก็มีเสียงที่เย็นชาดังออกมา “หยุดเดี๋ยวนี้!”
หลินเฟิงหันกลับไปอย่างช้าๆและจ้องมองไปยังร่างของคนผู้หนึ่ง มันเป็นชายหนุ่มที่มีดาบยาวอยู่ด้านหนังซึ่งออกมาจากห้องในตอนแรก
“ดูเหมือนเจ้าจะหลงลืมอะไรไป” ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้า ซึ่งทำให้หลินเฟิงยิ้มอย่างแปลกๆ เขารู้สึกเบื่อหน่ายอย่างมาก
“ถ้าเจ้าอยากจะกล่าวอะไรก็เร็วๆเข้า อย่าทำให้ข้าเสียเวลา!” หลินเฟิงกล่าวด้วยความหงุดหงิด
ชายหนุ่มผู้ที่มีรอยยิ้มชั่วร้ายกล่าว “ตอนแรกข้าตั้งใจจะมอบห้องนี้ให้กับเจ้าถ้าหากเจ้ามอบหินบริสุทธิ์ระดับกลางให้กับข้า 3 ก้อนแต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว เจ้าต้องมอบหิน 6 ก้อนให้กับข้า นิฉะนั้นเจ้าจะต้องคืนห้องให้กับข้า!”
ม่านตาของหลินเฟิงหดลง คืนห้องให้กับเขา?
หินบริสุทธิ์ระดับกลาง 6 ก้อน? นี้มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน!
นอกจากนี้ ในตอนนี้หลินเฟิงกำลังใส่หินทั้ง 3 ก้อนลงไปในช่อง เขากลับไม่ได้พูดอะไรสักคำ เขารอคอยให้หลินเฟิงทำทุกอย่างเสร็จเพื่อที่เขาจะได้โจมตีและขโมยห้องไปจากหลินเฟิง
ชายคนนี้ได้คำนวณทุกอย่างไว้แล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขายืนอยู่ที่นั่นตลอดเวลา นี่มันไร้ยางอายอย่างมาก!
กลุ่มคนต่างโกรธเกรี้ยว ชายคนนี้ไร้ยางอายเกินไป พวกเขากำลังคิดว่าถ้าหากเรื่องแบบนี้เกิดกับพวกเขาแทนที่จะเป็นหลินเฟิงมันคงจะเป็นสิ่งที่มิอาจจะยอมรับได้
“อะไร? มีปัญหาอะไร?” ชายหนุ่มคนนั้นถามเมื่อเห็นหลินเฟิงไม่ตอบ
หลินเฟิงจ้องมองไปที่เขาและกล่าว “ตอนนี้ ข้าขอแนะนำให้เจ้าหนีไปให้ไกลที่สุด ไปให้พ้นจากสายตาของข้า”
ติดตามได้ที่ –