I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Peerless Martial God ตอนที่ 132 ดาบของหลินเฟิง

| Peerless Martial God | 1926 | 2365 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“ข้าแนะนำให้เจ้าหนีไปให้ไกลที่สุดให้พ้นจากสายตาของข้า”

 

ปราณอันแข็งแกร่งและเยือกเย็นออกมาพร้อมกับคำพูดของหลินเฟิง ทำให้รอยยิ้มของชายหนุ่มผู้นั้นจางหายไป การแสดงออกทางสีหน้าของเขากลายเป็นคมเหมือนดาบของเขา

 

“ข้าจะให้โอกาสสุดท้ายแก่เจ้า มอบหินบริสุทธิ์คุณภาพปานกลาง 12 ก้อนให้ข้าซะ” ชายหนุ่มคนนั้นกล่าวพร้อมกับถือดาบยาวของเขาในมือและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา พลังปราณมากมายมหาศาลปลดปล่อยออกมาจากดาบของเขาและร่างของเขา และเริ่มเดินเข้าไปหาหลินเฟิง

 

“การต่อสู้ระหว่างปรมจารย์ดาบ” ฝูนชนบางคนอุทานออกมา พวกเขาสังเกตเห็นว่าปราณดาบที่ปลดปล่อยออกมาจากชายหนุ่มและหลินเฟิงนั้นคล้ายๆกัน บางทีพวกเขาทั้งสองคนอาจมีจิตวิญญาณดาบ มิฉะนั้นปราณดาบของพวกเขาคงไม่ทรงพลังมากขนาดนี้ และหลินเฟิงก็ได้ปลดปล่อยอำนาจดาบออกมาเช่นกัน

 

“เจ้าคิดว่าอำนาจดาบอันน้อยนิดของเจ้าเพียงพอที่จะเอาชนะข้างั้นหรือ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจดาบที่ถูกใช้โดยคนอย่างเจ้า” ชายหนุ่มกล่าวด้วยใบหน้าที่ชั่วร้าย

 

เมื่อชายหนุ่มพูดจบ เขาปลดปล่อยอำนาจดาบมหาศาลออกมาและทำให้เกิดแรงลมขึ้นในอากาศขณะที่มันกลืนกินบรรยากาศ เสียงลมถูกฉีกขาดดังไปทั่วบรรยากาศ พลังของปราณดาบของเขาและอำนาจของเขาทำให้ทุกคนที่อยู่ในชั้นที่ 6 ของหอฝึกตนประหลาดใจ

 

อำนาจดาบแพร่กระจายไปทั่วทั้งบรรยากาศ ราวกับว่ามันสามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างได้ในเส้นทางของมัน

 

ชายหนุ่มผู้นี้มีระดับการบ่มเพาะพลังสูงกว่าหลินเฟิง เขาทะลวงผ่านขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 4 แล้ว เหมือนกับหลินเฟิงเขาสามารถอำนาจดาบได้ ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงหยิ่งยโสและก้าวร้าวขนาดนี้ เขามั่นใจว่าเขาสามารถยึดห้องของใครก็ได้ที่ใส่หินบริสุทธิ์ลงไปเพื่อเปิดห้อง

 

แต่หลินเฟิงกลับไม่ยอมมอบห้องให้เขา ชายหนุ่มจึงถือดาบเพื่อโจมตีหลินเฟิงและไล่เขาออกไป

 

“ดีจริงๆที่พวกเราไม่ได้เป็นเจ้าของห้องนั้น” คนในฝูงชนบางคนกล่าวอย่างมีความสุขที่หลินเฟิงทำให้พวกเขาหวาดกลัว มิฉะนั้นพวกเขาคงได้ต่อสู้กับชายหนุ่มที่เพิ่งปลดปล่อยอำนาจออกมาอย่างน่าเหลือเชื่อ เขาอยู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 4 และรู้วิธีใช้อำนาจดาบ พวกเขาไม่แข็งแกร่งพอที่จะสู้กับชายหนุ่ม

 

มันไม่เป็นเรื่องแปลกสำหรับหลินเฟิงแม้ว่าเขาจะได้แสดงทักษะบางอย่างก่อนหน้านี้ แน่นอนเขาไม่ต้องการพ่ายแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้ แล้วเขาจะสามารถทำอะไรกับอำนาจดังกล่าวได้อย่างไร?

 

“เจ้าพูดถูก! เจ้าคิดว่าอำนาจดาบเพียงแค่นั้นเพียงพอที่จะเอาชนะข้าได้งั้นรึ?” หลินเฟิงใช้คำพูดของชายหนุ่มพูดกลับ เขาก้าวไปข้างหน้า และดาบของเขาเริ่มแหวกว่ายผ่านอากาศขณะพุ่งไปข้างหน้า ทำให้ทุกคนมึนงง

 

ในสถานการณ์เช่นนี้หลินเฟิงไม่ได้คิดเรื่องมอบหินบริสุทธิ์ให้แก่ชายหนุ่ม และไม่คิดที่จะมอบห้องให้ กลับกันเขากลายเป็นดุดันมากขึ้น!

 

ชายหนุ่มก็รู้สึกมึนงงเช่นกัน เขาไม่คิดว่าหลินเฟิงต้องการสู้กับเขา

 

“เจ้าได้เลือกทางเดินของเจ้าแล้ว ดังนั้นข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถจับดาบได้อีก” ชายหนุ่มกล่าวขณะยิ้มอย่างยิ่งยโส

 

เสียงลมแหวกว่ายผ่านอากาศและแสงสีทองอันงดงามสว่างไสวไปทั่วชั้นที่ 6 ราวกับแสงของดวงอาทิตย์ในยามเช้า คมดาบของหลินเฟิงและดาบของชายหนุ่มปะทะกันทำให้เกิดเสียงดังอย่างมาก

 

“ดาบทองคำ!” ดาบของชายหนุ่มกลายเป็นทองและปลดปล่อยแสงสีอีกดวงหนึ่งที่งดงามมากราวกับแสงแดดในยามเช้า

 

“ดาบห่าฝนทองคำ!” ชายหนุ่มตะโกน ทันใดนั้นแสงระยิบระยับล้อมรอบดาบของเขาทำให้ดาบของเขาเปล่งแสงสว่างไสวมากขึ้นและหักเหแสงไปทั่วบรรยากาศ

 

“นี่มันเป็นทักษะดาบที่งดงามอะไรเช่นนี้! ข้าไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย” ผู้บ่มเพาะขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 4 บางคนในฝูงชนกล่าว ชายหนุ่มผู้ที่ถือดาบยาวเขาสามารถเป็นคนที่หยิ่งยโสได้ด้วยระดับทักษะของเขา

 

หลินเฟิงกำลังจะตาย พื้นที่บริเวณนี้แคบเกินไป มันทำให้เขาไม่สามารถหนีแสงจากดาบของชายหนุ่มได้ เขาไม่มีที่ใดเลยที่เขาสามารถหลบการโจมตีได้ และไม่มีทางเหลือที่จะหลบหนี

 

“ข้าจะสอนเจ้าว่าความหมายที่แท้จริงของปรมจารย์ดาบคืออะไร” ชายหนุ่มกล่าวอย่างหยิ่งยโสและปรากฏรอยยิ้มอันเย็นชาบนใบหน้าของเขา

 

ทักษะดาบห่าฝนทองคำทำให้รังสีของแสงตกจากชั้นบรรยากาศราวกับสายฝน หลินเฟิงผู้ที่ยืนอยู่ท่ามกลางการโจมตี เขาไม่ได้ถอยหนี และยังคงดูเฉยเมยเหมือนเดิม

 

อำนาจดาบของหลินเฟิงหายไปแล้ว โดยไม่มีร่องรอยใดๆ

 

“เขายอมแพ้แล้ว?” บางคนในฝูงชนกล่าว เมื่อพวกเขาเห็นอำนาจดาบของหลินเฟิงหายไป ทำให้พวกเขามึนงง ชายหนุ่มแข็งแกร่งมากและทำให้หลินเฟิงยอมแพ้ได้ หรือว่าเขาหยุดใช้อำนาจดาบของเขาเพราะรู้ว่าสู้ต่อไปก็ไร้ความหวัง

 

ไม่เพียงแต่ฝูงชนเท่านั้นที่มึนงง แต่ชายหนุ่มก็มึนงงเช่นกัน เหตุใดหลินเฟิงถึงหยุดปลดปล่อยอำนาจดาบของเขากัน? ทำให้ชายหนุ่มปรากฏรอยยิ้มอันหยิ่งยโสบนใบหน้าเมื่อเห็นอำนาจดาบของหลินเฟิงหายไป

 

รอยยิ้มอันหยิ่งยโสของเขาปรากฏอยู่ได้ไม่นาน ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นตกตะลึง

 

จู่ๆพลังของดาบก็กดทับตัวเขาทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

 

“นี่มันอะไรกัน?” ชายหนุ่มกลายเป็นหวาดกลัว

 

ปราณเริ่มกดดันมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มรู้สึกว่าเขากำลังหอบภายใต้แรงกดดัน นี่เป็นผลมาจากพลังของดาบที่หลอมรวมกันได้อย่างสมบูรณ์ มันเป็นการหลอมรวมระหว่างอำนาจดาบและปราณดาบให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

 

ชายหนุ่มมองหลินเฟิงที่ยังคงดูเฉยเมยเหมือนก่อนหน้านี้ หัวใจของชายหนุ่มเริ่มเต้นระรัวเมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“พลังดาบนี้มัน…” ชายหนุ่มเขาเป็นผู้ใช้ดาบดังนั้นเขาจึงรู้จักทักษะนี้

 

หลินเฟิงสามารถใช้พลังของดาบโจมตีได้แล้ว นั่นหมายความว่าเขาสามารถควบคุมพลังของดาบได้อย่างสมบูรณ์ เขาเป็นอัจฉริยะจริงๆ!

 

การโจมตีด้วยพลังของดาบต้องใช้อำนาจดาบและปราณดาบ แล้วใครจะสามารถต้านทานการโจมตีดังกล่าวได้?

 

การโจมตีของหลินเฟิงดูไม่ค่อยพิเศษอะไรมากนักแต่ใดนั้น ได้ปรากฏหลุมบนดาบของชายหนุ่มและทำให้ดาบของเขาแตกหักทันที

 

และทำให้ฝูงชนต่างสั่นเทาเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่น่าทึ่งนี้

 

เป็นไปได้ยังไงกัน?

 

ไม่มีใครสังเกตเห็นการโจมตีของหลินเฟิง มันดูธรรมดามาก แต่มันเพียงพอที่จะทำลายดาบห่าฝนทองคำ

 

“หนี!” การแสดงออกของชายหนุ่มจู่ๆก็เปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน เขาไม่มีเวลามากพอที่จะโจมตีอีกครั้งเพราะในเวลานั้นพลังดาบของหลินเฟิงได้กดทับตัวเขา ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถป้องกันได้

 

พายุราวกับน้ำวนที่ถูกสร้างจากพลังดาบออกมาจากร่างกายหลินเฟิง และพุ่งผ่านอากาศตรงไปยังชายหนุ่ม ร่างกายของเขาเริ่มสั่นเทาอย่างรุนแรง แล้วเขาก็ทรุดตัวลง

 

ในเวลาเดียวกัน ปลายดาบของหลินเฟิงก็อยู่ตรงอกของชายหนุ่มแล้ว

 

ทุกๆคนล้วนประหลาดใจและสั่นเทา ทุกสิ่งล้วนเกินความคาดหมายของพวกเขา หลินเฟิงเพียงแค่โจมตีครั้งเดียวก็สามารถเอาชนะพลังของฝ่ายตรงข้ามได้ และในตอนนี้ชีวิตของชายหนุ่มก็อยู่ในมือของหลินเฟิงแล้ว

 

“นี่คือทักษะทั้งหมดที่เจ้ามีอยู่งั้นรึ เจ้ากล้าดียังไงที่จะสอบทักษะดาบให้กับข้า?” หลินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา ทำให้ชายหนุ่มถึงกับพูดไม่ออก

 

ความจริงแล้ว ชายหนุ่มได้ทะลวงผ่านขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 4 และสามารถใช้อำนาจดาบได้ แต่หลินเฟิงเพียงแค่บรรลุขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 3 เท่านั้นและสามารถควบคุมอำนาจดาบได้อย่างสมบูรณ์แบบ และสามารถใช้อำนาจดาบผสานกับพลังปราณกลายเป็นพลังดาบ หลังจากที่ได้แสดงความสามารถของเขาต่อหน้าทุกคน ความอวดดีของเขาทำให้เขามีชื่อเสียงมากขึ้นภายในสำนัก

 

“ดาบของเจ้าไม่ได้แหลมคม แล้วเจ้าก็ไม่ได้มีค่าอะไร แต่เจ้ากลับทำตัวหยิ่งยโสเกินไป ขณะที่พยายามแสดงการโจมตีที่งดงาม เจ้าต้องมุ่งเน้นไปที่ดาบของเจ้าให้แหลมคมและแม่นยำ ตราบใดที่เจ้ายังใช้ดาบอยู่เจ้าก็ยังเป็นเพียงแค่มือใหม่” หลินเฟิงกล่าว ทักษะดาบคือความชำนาญ,ฝึกฝนขัดเกลา,เฉียบแหลม และรวดเร็ว มันไม่เกี่ยวกับความสวยงามไม่ว่าคนอื่นจะมองยังไงก็ตาม

 

“เจ้าตั้งใจจะทำอะไรกับข้า?” ชายหนุ่มกล่าวเขาเมินสิ่งที่หลินเฟิงพูดกับเขา เขาเกรงว่าหลินเฟิงจะสังหารเขา

 

เมื่อหลินเฟิงมองไปที่เขา เขาส่ายหัวด้วยใบหน้าที่โศกเศร้าและกล่าว: “เมื่อกี้นี้ เมื่อเจ้าทำตัวก้าวร้าวและข่มขู่ข้า ข้าคิดว่าเจ้าคือปรมจารย์ดาบที่แท้จริง แต่เจ้ากลับทำให้ข้าผิดหวัง เจ้าไม่นำคำแนะนำของข้าไปปรับปรุงทักษะดาบของเจ้า เจ้าเป็นคนไร้ยางอายที่ต้องการยืนเหนือผู้อื่นโดยใช้ดาบ ข้าคิดว่ามันจะเป็นการดีที่สุดหากเจ้าไม่จับดาบอีก…”

 

เมื่อหลินเฟิงพูดจบ ดาบยาวของเขาก็เรืองแสงขึ้นจากนั้นเขาก็ตัดมือที่ถือดาบของชายหนุ่ม ชายหนุ่มกรีดร้องอย่างเจ็บปวดขณะมองไปยังมือที่ขาดของเขา

 

“โหดร้าย ไร้ความปรานี” ผู้คนในกลุ่มฝูงชนกล่าว โชคดีที่พวกเขาไม่ได้ทำให้หลินเฟิงโกรธและโจมตีเขารอบสอง เขาน่าหวาดกลัวจริงๆ!

 

นัยน์ตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความโกรธและความเกลียดชังขณะจ้องมองหลินเฟิง แต่หลินเฟิงตอบกลับอย่างเย็นชาว่า: “ไม่จำเป็นต้องมองข้าด้วยสายตาเช่นนี้ เจ้าพูดเองนี่ว่าจะทำให้ข้าไม่สามารถจับดาบได้อีก ข้าก็แค่คืนคำที่เจ้าพูดไว้ให้กับเจ้า ถ้าเจ้าอยากจะตำหนิใครล่ะก็ แน่นอนว่าต้องเป็นตัวเจ้าเอง”

 

หลังจากนั้นหลินเฟิงก็หันหลังกลับและเข้าไปในห้องบ่มเพาะพลัง โดยไม่แม้แต่จะมองชายหนุ่มและฝูงชนคนอื่นๆ

 

ฝูงชนทุกคนล้วนมีหยาบเหงื่อไหลรินอยู่บนแผ่นหลัง หลินเฟิงทำถูกต้องแล้ว ถ้าพวกเขาแลกเปลี่ยนจุดยืนกับชายหนุ่ม หลินเฟิงสามารถที่จะตัดแขนขาของพวกเขาไป 1 ข้างได้ หลินเฟิงไม่ชอบความโหดร้าย แต่เขาไม่ชอบที่ถูกคนอื่นรุกราน

*****************************************************************

ติดตามได้ที่  – 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments