I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Peerless Martial God ตอนที่ 135 เฮยม๋อ

| Peerless Martial God | 1488 | 2338 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ชายในเสื้อคุมดำสามารถรับรู้ถึงปราณที่เย็นเยือกของหลินเฟิงที่พุ่งตรงมายังเขาได้ มันช่วยไม่ได้ที่เขาจะสั่นเทาด้วยความกลัว เหงื่อเริ่มชโลมไปทั่วแผ่นหลังของเขา

 

 “ทีนี่คือสำนักสวรรค์ ศิษย์สามารถที่จะสู้กันได้แต่ไม่สามารถเอาชีวิตอีกฝ่ายได้!” ชายในเสื้อคลุมดำกล่าว เขารู้สึกได้ถึงความตายที่กำลังคืบคานเข้ามาใกล้

 

 “ข้ารู้” หลินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา ชายในเสื้อคลุมดำผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขามีความหวังอีกครั้ง

 

 “แต่ข้าก็ยังรู้อีกว่าห้ามรบกวนผู้อื่นที่กำลังฝึกฝนอยู่ในห้องบ่มเพาะพลัง… แล้วเจ้ากำลังทำอะไรในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา?” คำกล่าวของหลินเฟิงทำให้ชายในชุดคลุมดำตื่นตระหนก

 

 “ข้ายอมรับว่าข้าละเมิดกฎแต่ถึงยังไงผลที่ตามมาก็ยังไม่เท่ากับการสังหารศิษย์ด้วยกัน การสังหารข้าจะทำให้เจ้าต้องได้รับโทษสูงสุด”

 

 “เจ้าพยายามที่จะขู่ข้า?” หลินเฟิงกล่าว ชายในเสื้อคุมดำเริ่มหวาดกลัวขึ้นเรื่อยๆ หน้าผากของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

 

 “นอกจากนี้ มันจะไปสำคัญอะไร?” หลินเฟิงเหลือบมองไปที่หลิ่วเฟยที่อ่อนล้าจากนั้นก็กล่าวต่อ “ข้าคิดว่าผลลัพธ์ที่จะตามมาจากการที่เจ้าล่วงเกินนางกว่า 3 เดือนมันร้ายแรงยิ่งกว่าการเอาชีวิตที่น่าสมเพชของเจ้าเสียอีก”

 

 “เจ้าไม่สามารถสังหารเขาได้” การพูดแทรกของชุยถิงดึงดูดความสนใจของหลินเฟิง หลินเฟิงหันกลับไปมองเขาเล็กน้อย

 

 “เจ้าจะสังหารเขาไม่ได้ มิฉะนั้นเจ้าจะต้องเสียใจ” ชุยถิงกล่าว

 

 “โทษทีที่ทำให้เจ้าต้องผิดหวัง ข้าไม่เคยเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป” หลินเฟิงเริ่มเคลื่อนตัวซึ่งทำให้ชุยถิงต้องตะโกนอย่างเร่งรีบ “เดี๋ยว รอเดี๋ยวก่อน!”

 

 “เจ้าอยากจะพูดอะไรอีก?” หลินเฟิงกล่าว

 

 “เขาคือน้องชายคนเล็กของเฮยม๋อ ถ้าเจ้าฆ่าเขา เฮยม๋อจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป”

 

 “เฮยม๋อ!” บางคนอุทานขึ้น พวกเขาต้องการที่จะดูว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น พวกเขาตื่นตระหนกเมื่อรู้ว่าชายในเสื้อคลุมดำคือน้องชายของเฮยม๋อ

 

หยวนซานที่อยู่ในกลุ่มคนเองก็ตื่นตระหนกเหมือนกับทุกคน เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับเฮยม๋อ

 

 “หลินเฟิง, เฮยม๋อคือ 1 ใน 10 ศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในสำนักสวรรค์! เขาแทบจะไม่เคยมาฝึกฝนที่นี่แต่เมื่อใดที่เขามา เขาจะต้องอยู่ชั้นล่างสุดอย่างแน่นอน!” หยวนซานกล่าวเตือนจากในกลุ่มคน เฮยม๋อไม่ใช่คนที่จะไปยั่วยุได้

 

 เกิดประกายแสงแวบผ่านในดวงตาของหลินเฟิง ชายในเสื้อคลุมดำรู้สึกโล่งใจ

 

 “ใช่ ข้าคือน้องชายของเฮยม๋อ ถ้าเจ้าสังหารข้า เขาจะต้องตามล่าเจ้าอย่างแน่นอน” ชายในเสื้อคลุมดำกล่าวเชิงข่มขู่

 

 “ปัญญาอ่อน” หลินเฟิงกล่าวเมื่อได้ยินคำขู่ของชายหนุ่ม หลินเฟิงยกดาบขึ้นและตัดคอของเขา ในตอนนี้เองทุกคนกลายเป็นตกตะลึงโดยสมบูรณ์

 

 ไม่มีใครคิดว่าหลินเฟิงจะกล้าทำเช่นนี้เมื่อได้ยินเกี่ยวกับเฮยม๋อ เขาสังหารน้องชายของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ในศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักโดยไม่ลังเล

 

 ชายในเสื้อคลุมดำไม่คิดว่าเขาต้องมาตายในสภาพอนาถเช่นนี้ เขาคิดว่าหลินเฟิงจะต้องลามือหากได้ยินชื่อพี่ชายของเขา

 

 ชายในเสื้อคลุมดำเสียใจอย่างมากกับสิ่งที่เขาทำลงไป เขาเกลียดตัวเองที่ไปยั่วยุหลินเฟิง จริงๆแล้วเขาไม่ได้เกลียดหลินเฟิงมากนักและหลินเฟิงเองก็ไม่ได้เกลียดเขา พวกเขาไม่ได้มีความบาดหมางกันจะกระทั่งเขาก่อเรื่องขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคิดว่าการตายก็เป็นบทลงโทษที่รุนแรงเกินไป

 

 “เป็นคนที่โหดเหี้ยมอะไรเช่นนี้” ชุยถิงถอนหายใจ เขาไม่คิดว่าหลินเฟิงจะกล้าสังหารชายหนุ่มหลังจากที่ได้ยินเรื่องของเฮยม๋อ

 

 หลินเฟิงหยิบเศษผ้าและเช็ดดาบของเขา จากนั้นเขาก็เก็บดาบลงไปก่อนที่จะเหลือบมองไปยังชุยถิง

 

 “ถ้าเขาไม่ใช่น้องชายของเฮยม๋อ เขาคงไม่กล้าที่จะอวดดีและฝ่าฝืนกฎของสำนัก ข้าพูดถูกไหม?” หลินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชาและมองไปที่ศพบนพื้น

 

 ชุยถิงประหลาดใจและพยักหน้า ปราศจากชื่อเสียงของเฮยม๋อ ชายในเสื้อคลุมดำคงไม่กล้าที่จะทำแบบนี้

 

 “เพราะฉะนั้นต้นเหตุของเรื่องก็คือเฮยม๋อ…. เขาคือคนที่ทำลายกฎของสำนัก เพราะเขา สหายของข้าจึงถูกคุกคามทั้งวันทั้งคืนเป็นเวลากว่าร้อยวัน… แต่เฮยม๋อก็คงจะไม่รับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น ข้าพูดถูกไหม?” หลินเฟิงกล่าว ชุยถิงตระหนักได้ในทันที ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมหลินเฟิงถึงได้สังหารชายในเสื้อคลุมดำ

 

 ไม่ใช่ว่าหลินเฟิงจะไม่นึกเกี่ยวกับเฮยม๋อเมื่อเขาสังหารชายในเสื้อคลุมดำ แต่จริงๆแล้วมันตรงกันข้าม หลินเฟิงไม่เพียงแค่คิดว่าเฮยม๋อคือผู้ที่ทำตัวเหนือกฎ เขาคิดว่าเป็นเพราะเขาจึงทำให้หลิ่วเฟยต้องถูกรังควานตลอดทั้งหนึ่งร้อยวัน นั่นเป็นเหตุผลที่หลินเฟิงสังหารชายหนุ่ม มันคือคำเตือน! เขากำลังจะบอกทุกคนในสำนักว่าใครก็ตามที่กล้าแตะต้องคนรอบตัวหรือสหายของเขาจะต้องจ่ายด้วยชีวิต!

 

 “ไปกันเถอะ” หลินเฟิงกล่าวกับหลิ่วเฟย หยวนซานและจิ้งยวิ๋นก็จากไปด้วยเช่นกัน ชุยถิงและศพของชายในเสื้อคลุมดำถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง

 

 “เจ้ามีนามว่าอะไร?” ชุยถิงถาม

 

 “หลินเฟิง” หลินเฟิงตอบในขณะที่กำลังเดินจากไป

 

 “หลินเฟิง…” ชุยถิงพึมพำ เขาจะต้องทำให้แน่ใจว่าไม่มีทางที่จะลืมชื่อนี้ กลุ่มคนต่างก็ต้องจดจำชื่อของหลินเฟิงไว้ด้วยเช่นกัน ใครจะสามารถลืมชื่อของคนที่กล้ายั่วยุเฮยม๋อ?

 

หลังจากหลินเฟิงและคนอื่นๆจากไป ชั้นที่ 10 ยังคงเต็มไปด้วยผู้คน มีคนจำนวนมากมารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้ นี่มันถือเป็นเรื่องใหญ่อย่างมากที่ใครบางคนกล้าที่จะสังหารผู้อื่นในหอคอยบ่มเพาะพลัง พวกเขาไม่รู้ว่าใครคือผู้ที่กล้าหาญเช่นนี้ ในตอนนั้นเองชายหนุ่มที่ดูชั่วร้ายก็กำลังเดินขึ้นไปยังชั้นที่ 10

 

 ชายหนุ่มที่ดูชั่วร้ายมาถึงยังชั้นที่ 10 และจ้องมองไปยังศพ ใบหน้าของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลง เขาดูสงบอย่างไม่น่าเชื่อ เขาคือพี่ชายของชายในเสื้อคลุมดำ เฮยม๋อ

 

 “ใครฆ่าเขา?” เฮยม๋อถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแส

 

 “หลินเฟิง” ชุยถิงตอบ “เขาแข็งแกร่งเกินไป ข้าไม่สามารถรับมือเขาได้”

 

 เฮยม๋อยังคงเงียบสงบและเหลือบมองไปยังศพ จากนั้นก็กล่าว “ทำให้เขามาที่ตระกูลของข้า… และจงไปตรวจสอบชื่อของเขาอีกครั้งจนกว่าจะแน่ใจว่านั่นเป็นชื่อจริงๆของเขา” เมื่อเฮยม๋อพูดเสร็จเขาก็หันหลังและเดินจากไป เขาเดินออกไปจากหอคอยโดยปราศจากคำพูด

 

…………

 

 เมื่อหลินเฟิงและคนอื่นๆเดินมาถึงในส่วนที่พัก เขาถอนหายใจออกมาและเตรียมที่จะกลับไปยังห้องของเขา

 

 “อย่าได้ใจร้อนที่จะไปหาอีกคน” เสียงที่อยู่ข้างกายของหลินเฟิงดังขึ้น

 

 หลินเฟิงประหลาดใจ เขายิ้มแปลกๆและมองไปยังหลิ่วเฟย

 

 “เจ้าโกรธหรือ?” หลินเฟิงยิ้มขณะจ้อมมองไปในดวงตาของนาง

 

 “ทำไมข้าต้องโกรธ?” หลิ่วเฟยตอบอย่างเย็นชาและหลบสายตาของหลินเฟิง

 

หลินเฟิงยิ้มที่มุมปาก “เจ้าพูดว่าไม่โกรธ แต่ทำไมข้าสามารถสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงของเจ้า?”

 

 “บางทีอาจจะเป็นเพราะหูของเจ้าสกปกเกินไปจนทำให้มันเพี้ยน” หลิ่วเฟยตอบ

 

 “อย่างนั้นหรือ?” หลินเฟิงทำได้เพียงเกาหัว จากนั้นเขาก็ยิ้มและกล่าว “พวกเราเพิ่งจะกลับมาจากการฝึก เห็นได้ชัดว่าพวกเราควรที่กลับไปที่ห้องนั่งเล่น…. แต่ดูเหมือนว่าเจ้าคิดว่าข้าทนไม่ได้ที่จะได้เจอกับเมิ่งฉิง? เป็นไปได้ไหมว่าเจ้าต้องการให้ข้าไปยังห้องของเจ้า?”

 

 “อย่าได้เพ้อฝัน!” หลิ่วเฟยกล่าวขณะกระทืบเท้าด้วยความโกรธ ชายคนนี้จะต้องมีปัญหาทางจิตแน่ๆ! จากนั้นนางก็รีบตรงไปยังห้องของนาง

 

 หลินเฟิงจ้องมองไปยังหลิ่วเฟยและยิ้ม แม้ว่านางจะอารมณ์เสียแต่นางก็ยังคงน่ารัก นางมักจะซ่อนความรู้สึกของตัวเอง

 

 หลินเฟิงเดินไปถึงที่พักของตัวเองและเคาะประตู

 

 “เข้ามา” เมิ่งฉิงกล่าวอย่างเย็นชา หลินเฟิงเข้ามาในทันที เขาจ้องมาไปที่เมิ่งฉิงที่กำลังนั่งอยู่ จากนั้นนางก็พูดขึ้น “โอ้ เจ้ากลับมาแล้ว”

 

 เมิ่งฉิงไม่ได้ปิดบังใบหน้าของนางอีกต่อไป หลินเฟิงสามารถมองเห็นใบหน้าของนางได้จากนั้นเขาก็ต้องถอนหายใจด้วยความฉุนเฉียว ทำไมพระเจ้าถึงได้สร้างสิ่งที่งดงามเช่นนี้? นี่มันโหดร้ายเกินไป

 

 “ในชีวิตเก่า คนที่ร่ำรวยที่สุดจะใช้สมบัติทั้งหมดเพื่อครอบครองสิ่งที่งดงามเช่นนี้” หลินเฟิงคิด เมื่ออยู่ต่อหน้าเมิ่งฉิง หากเขาสามารถทำให้นางยิ้มได้ทุกวันมันจะวิเศษขนาดไหน?

 

 “เกิดอะไรขึ้นในวันนั้น…. หรือว่ามันจะเกิดขึ้นอีกครั้ง?” หลินเฟิงถามขณะที่เดินตรงไปยังเมิ่งฉิง

 

เมิ่งฉิงจ้องมองไปที่หลินเฟิง จากนั้นนางก็กล่าว “ข้ายังไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเจ้า… มันจะเกิดขึ้นทุกๆ 6 เดือน”

 

ติดตามได้ที่ – 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments