ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“ข้าจะเป็นคู่ต่อสู้คนต่อไปเอง!” แม้ว่าหลินเฟิงจะไม่ได้ตะโกนเสียงดัง แต่มันก็ดังพอที่จะให้ทุกคนได้ยิน
ทุกคนต่างประหลาดใจเมื่อมองไปที่หลินเฟิง เขาต้องการที่จะสู้กับกิ้งก่าอสูรที่อยู่ในระดับ4! แต่เขายังเป็นเพียงแค่ผู้เยาว์เท่านั้น!
บรรดาผู้ที่กล้าเข้ามาในกรงต่างตระหนักได้ถึงความแข็งแกร่งของตัวเอง พวกเขาไม่โง่เขลาพอที่จะนำชีวิตของตัวเองมาเป็นของเล่น….. แต่กิ้งก่าอสูรได้สังหารผู้บ่มเพาะพลังไปถึง 28 คน ซึ่งหมายความว่ามันมีความแข็งแกร่งที่น่าหวาดกลัวอย่างมาก!
ผู้บ่มเพาะพลังขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 4 ที่ต้องการต่อสู้กับกิ้งก่าอสูรจะต้องแบกรับความเสี่ยงอย่างมาก แม้แต่นักสู้ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 5 ทั่วไปก็ยากที่จะต่อกรกับมัน
ไม่เคยมีใครที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 4 เคยเอาชนะกิ้งก่าอสูรได้ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาตั้งรางวัลเป็นหินบริสุทธิ์ระดับปานกลาง 100 ก้อนเพราะไม่มีใครสามารถเอามันไปได้นั่นเอง
ไป๋เจ๋อยิ้มเมื่อเห็นหลินเฟิงยืนขึ้น
“น่าเสียดาย! เจ้าคงจะตายก่อนที่จะได้ต่อสู้กับเฮยม๋อ… น่าผิดหวังยิ่งนัก” ชายที่สวมเสื้อคลุมสีเหลืองหัวเราะ การท้าทายกิ้งก่าอสูรเท่ากับการรนหาที่ตาย
“เกิดเป็นขอทาน ก็ต้องตายเยี่ยงขอทาน… แค่หินเพียงไม่กี่ก้อนถึงกับต้องเอาชีวิตมาเสี่ยง เจ้าไม่เพียงแต่จะต้องตายแต่เจ้าจะต้องสูญเสียหินบริสุทธิ์อันน้อยนิดของเจ้าไปด้วย”
หลินเฟิงจ้องมองไปยังชายที่สวมเสื้อคลุมสีเหลืองด้วยความเย็นชา
“พวกเราสามารถยืมลานประลองเชลยเพื่อให้ผู้บ่มเพาะพลัง 2 คนมาต่อสู้เป็นตายกันได้ จะเป็นไปได้ไหม หากข้าจะขอท้าเจ้า?” หลินเฟิงกล่าวด้วยเสียงที่ดังกังวาน
ชายหนุ่มในเสื้อคลุมสีเหลืองตกตะลึงและถึงกับพูดไม่ออก
“เจ้าจะสู้หรือไม่? เจ้ายังคงพล่ามไม่หยุด เศษขยะที่ดีแต่ปากคงไม่มีอะไรมากไปกว่าคนขี้ขลาด” หลินเฟิงกล่าวอย่างเดือดดาล ชายในเสื้อคลุมสีเหลือโกรธจนหน้าแดง สายตาเยาะเย้ยของผู้คนที่จ้องมอมายังเขาทำให้เขาโกรธยิ่งขึ้นไปอีก เขาจ้องมองอย่างชั่วร้ายไปที่หลินเฟิง
“ก็แต่สวะตัวหนึ่ง น่าสมเพชยิ่งนัก” เวิ่นเหงาเสวี่ยหัวเราะพร้อมกับถากถาง
หลินเฟิงคิดว่ามันคงจะไร้ประโยชน์ จากนั้นเขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับชายคนนั้นอีก หลินเฟิงเดินไปยังด้านข้างของกรงและตรงไปยังชายชรา
ชายชราเปิดประตูกรงเพื่อให้หลินเฟิงเข้าไป เมื่อหลินเฟิงย่างเท้าเข้าไป เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันในทันที มันเป็นความรู้สึกที่อึดอัดอย่างมาก
เมื่อกิ้งก่าอสูรเห็นหลินเฟิงเข้ามา มันส่งเสียงคำรามออกไป สัตว์อสูรระดับจิตวิญญาณมีความฉลาดอย่างมาก พวกมันรู้ว่าใครคือศัตรูและยังรู้ว่าถ้าไม่สามารถสังหารหลินเฟิงได้ ก็จะเป็นตัวมันเองที่ต้องตาย
สายตาของมันเยือกเย็นอย่างมาก มันค่อยๆคลานอย่างช้าๆและตรงไปยังหลินเฟิง
หลินเฟิงจ้องมองไปยังกิ้งก่าอสูรที่เข้ามาใกล้ เขายังคงสงบและไม่ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย
แต่ทันใดนั้นเองร่างที่ใหญ่โตของกิ้งก่าอสูรก็กระโดดขึ้นไปบนอากาศและพุ่งลงมาหาหลินเฟิงด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ!
“แปดฝ่ามือพิฆาต!”
หลินเฟิงปลดปล่อยการโจมตีด้วยฝ่ามือทั้ง 2 ข้าง ตอนนี้เขาสามารถใช้มันได้อย่างเชี่ยวชาญ! ด้วยหนึ่งการโจมตีเขาสามารถสังหารผู้บ่มเพาะพลังขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 4 ได้อย่างง่ายดาย
แต่ที่น่าตกใจ กิ้งก่าอสูรไม่ได้หลบเลี่ยงการโจมตีของหลินเฟิง มันกางกรงเล็บออกมาและป้องกันการโจมตีของหลินเฟิงแทน มันลดทอนพลังโจมตีของหลินเฟิงได้ แน่นอนว่าแปดฝ่ามือพิฆาตเป็นการโจมตีที่ทรงพลังและเป็นไปไม่ได้เลยที่กิ้งก่าอสูรจะสลายการโจมตีนั้นได้อย่างสมบูรณ์ ฝ่ามือพุ่งเข้าปะทะกับร่างของกิ้งก่าอสูรและส่งมันบินกลับไป มันกรีดร้องออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด อย่างไรก็ตามสิ่งที่หลินเฟิงประหลาดใจก็คือมันไม่ได้รับบาดเจ็บเลย
“อย่างที่คิด พลังป้องกันของมันแข็งแกร่งมาก ไม่สงสัยเลยว่าทำไมมันถึงสามารถสังหารผู้บ่มเพาะพลังทั้ง 28 คนได้” หลินเฟิงคิด
กิ้งก่าอสูรคำรามออกมา ดวงตาของมันเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นมันก็พุ่งเข้าหาหลินเฟิงอีกครั้ง!
ครั้งนี้หลินเฟิงไม่ได้ใช้แปดฝ่ามือพิฆาต แต่กลับกัน เขาปลดปล่อยปราณดาบที่แข็งแกร่งออกมาและสร้างพายุในอากาศ ดูเหมือนว่าร่างกายของกิ้งก่าอสูรกำลังถูกบดขยี้ด้วยปราณที่ทรงพลัง
“กร๊ากกกกกก…..” ปราณดาบที่แหลมคมทำให้กิ้งก่าอสูรกรีดร้องออกมา กรงเล็บของมันพุ่งตรงไปยังหลินเฟิงด้วยความแม่นยำ
หากหลินเฟิงสัมผัสเข้ากับกรงเล็บเหล่านั้นเขาจะต้องถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
ทันใดนั้น หลินเฟิงก็พุ่งตรงไปที่กิ้งก่าอสูรและอยู่ใกล้กับกรงเล็บของมันอย่างมากจากนั้นเขาก็ขยับมือเล็กน้อย
“เขากำลังทำอะไร?!”
“เขากำลังจะใช้มือป้องกันกรงเล็บของกิ้งก่าอสูร?”
“เขาบ้าไปแล้ว! มันเท่ากับรนหาที่ตาย”
ฝูงชนต่างแสดงความคิดเห็นออกมา พวกเขาส่วนใหญ่ต่างตกตะลึง มีหลายคนที่เคยถูกกรงเล็บของกิ้งก่าอสูรฉีกเป็นชิ้นๆ กรงเล็บของมันแหลมคมยิ่งกว่าดาบ
ในที่สุดมือของหลินเฟิงก็ปะทะเข้ากับกรงเล็บ ทันใดนั้นจู่ๆประกายแสงสีขาวก็ส่องไปทั่วทั้งกรง
ฝูงชนต่างตกตะลึง ดูเหมือนว่าหลินเฟิงจะไม่ได้รับบาดเจ็บแต่กิ้งก่าอสูรกำลังกรีดร้องออกมาด้วยความทรมาน
“เป็นไปได้ยังไง? หรือว่ามือของเขาจะแหลมคมยิ่งกว่ากรงเล็บของกิ้งก่าอสูร?” ฝูงชนต่างมึนงง
หลินเฟิงเดินเข้าไปใกล้กิ้งก่าอสูรขึ้นเรื่อยๆ น่าแปลกใจที่เขาต้องการต่อสู้ระยะประชิดกับกิ้งก่าอสูร! พวกเขาทั้งสองต่างเคลื่อนที่ด้วยความเร็วราวกับแสง
“กร๊ากกกกกก!” ทันใดนั้นหยดเลือดก็สาดกระเซ็นไปทั่วอากาศ เกิดแผลขนาดใหญ่บนร่างของกิ้งก่าอสูร
“เป็นการโจมตีที่น่าหวาดกลัวอะไรเช่นนี้… ทั้งยังใช้ออกด้วยมือเพียงข้างเดียว… เขารวบรวมปราณดาบไว้ที่มือและทำให้มันแหลมคนยิ่งกว่าดาบจริงๆ!” หนึ่งในผู้บ่มเพาะพลังกล่าว ความพยายามของเหล่าผู้บ่มเพาะพลังขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 4 ก่อนหน้านี้กลายเป็นเรื่องไร้สาระเมื่อหลินเฟิงสามารถทำมันได้ง่ายๆด้วยมือเปล่าของเขา!
เมื่อเห็นดังนั้น ไป๋เจ๋อและชายหนุ่มในเสื้อคลุมสีเหลืองต่างตกตะลึงและโกรธเกรี้ยว พวกเขาไม่คิดว่าหลินเฟิงจะแข็งแกร่งขนาดนี้
“เห็นได้ชัดว่าวันนั้นเขาซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้” ไป๋เจ๋อสั่นสะท้านและรู้สึกว่าตัวเองหน้าสมเพช เขาตระหนักได้ถึงความแข็งแกร่งของหลินเฟิง ในวันนั้นเขาได้เรียกหลินเฟิงว่าขอทานหลายต่อหลายครั้ง แต่ในตอนนี้เขารู้แล้วว่าไม่สามารถนำตัวเองไปเทียบกับหลินเฟิงได้แม้แต่เสี้ยวเดียว เขาไม่มีวันเอาชนะหลินเฟิงได้ไม่ว่าตระกูลจะมอบทรัพยากรให้เขามาแค่ไหนก็ตาม
หลินเฟิงไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นกำลังคิดอะไรกันอยู่ เขาเพียงต้องการเอาชนะกิ้งก่าอสูร เขาสามารถควบคุมปราณดาบไปไว้ที่มือ แต่มันก็ไม่ทรงพลังเท่ากับการโจมตีด้วยดาบจริงๆของเขาแต่มันก็เป็นการโจมตีที่ไม่อาจดูแคลนได้
ทุกครั้งที่มือของหลินเฟิงสัมผัสกับกิ้งก่าอสูร เลือดของมันจะต้องซาดกระเซ็นไปทั่วกรง
“กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก….!!!!” หลังจากนั้นไม่นาน กิ้งก่าอสูรก็สูญเสียเลือดไปมาก มันกรีดร้องอย่างน่าสยดสยองออกมา
“ข้าคงต้องหยุดเล่นกับเจ้าแล้ว” หลินเฟิงคิด เขาเดินเข้าไปใกล้กิ้งก่าอสูร ทันใดนั้น ปราณดาบขนาดมหึมาก็ออกมาจากมือของเขาและลงมือตัดหัวของกิ้งก่าอสูรเพื่อปลดปล่อยมันจากความทุกข์ทรมาน
“หืมมมม!!” ฝูงชนต่างตกตะลึงอีกครั้ง “แข็งแกร่งยิ่งนัก! เขาใช้เพียงแค่มือเดียวเป็นเหมือนกับดาบ!”
“เจ้าชนะแล้ว นี่คือหินบริสุทธิ์ระดับปานกลาง 20 ก้อน” ชายชราเดินเข้าไปในกรงพร้อมกับมอบหินบริสุทธิ์ให้หลินเฟิง หลินเฟิงรับหินไว้และออกมาโดยไม่เหลือบมองไปที่ชายชรา
หลินเฟิงมองไปที่อีกด้านซึ่งทาสผู้บ่มเพาะพลังกำลังต่อสู้อยู่ ในครั้งนี้ ทาสผู้บ่มเพาะพลังอีกคนถูกฆ่าตาย
ทั้ง 2 ส่วนถูกขั้นไว้ด้วยประตูเหล็ก หากมันเปิดออก ทั้งทาสและสัตว์อสูรจะได้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน
เมื่อหลินเฟิงออกมาข้างนอก เขารู้สึกดีขึ้นมากเพราะข้างในกรงเต็มไปด้วยแรงกดดัน
หลินเฟิงกลับไปยังที่นั่งของเขา เขาเหลือบมองไปที่ชายในเสื้อคลุมสีเหลืองด้วยท่าทายเย้ยหยันก่อนที่จะนั่งลง
ทั้งสองส่วนของกรง มีชายชราสองคำได้นำสัตว์อสูรตัวใหม่และทาสคนใหม่เข้ามา ผมของทาสยุ่งเหยิงและปกปิดใบหน้าของเขาจนแทบจะมองไม่เห็น เขาถูกใส่กุญแจมือและเท้าก็ถูกล่ามโซ่จึงทำให้เกิดเสียงดังเมื่อเขาก้าวเดิน
ทันใดนั้นทาสก็เงยหน้าขึ้นและทำให้สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้ มีตัวอักษรอยู่ที่ใบหน้าของเขา : จวิน! ( 军 กองทัพ)
**********************************************
ติดตามได้ที่ –