ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปปราณน้ำแข็งที่ทรงพลังเริ่มก่อตัวขึ้นราวกับว่ามันมาจากส่วนลึกของโลก
เวิ่นเหงาเสวี่ยที่นั่งอยู่ข้างๆหลินเฟิงประหลาดใจอย่างมาก การแสดงออกทางสีหน้าที่ของเขาแปลกประหลาดยิ่งขึ้นขณะที่จ้องมองไปยังหลินเฟิง
“หนาวเย็นอะไรเช่นนี้!” เวิ่นเหงาเสวี่ยมองไปที่หลินเฟิงด้วยดวงตาที่งดงามของเขา ทำไมหลินเฟิงถึงปลดปล่อยปราณน้ำแข็งออกมามากขนาดนี้?
ไม่เพียงเวิ่นเหงาเสวี่ยเท่านั้นที่ประหลาดใจแม้แต่หลิ่วเฟย, จิ้งยวิ๋น, ต้วนเฟิงและหยวนซาน พวกเขาต่างจ้องมองไปที่หลินเฟิง พวกเขาสามารถรับรู้ถึงไอเย็นที่หลินเฟิงปลดปล่อยออกมา มันทำให้พวกเขาราวกับถูกแช่แข็ง
มีเพียงจิ้งยวิ๋นเท่านั้นที่มองหลินเฟิงเพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่จะหันไปทางสัตว์ร้าย
นางมองไปที่ขาของสัตว์ร้าย ขาของมันถูกล่ามไว้ด้วยโซ่ ขาหน้าของมันมีลักษณะคล้ายกับมือมนุษย์ มันก็เหมือนกับทาสผู้บ่มเพาะพลัง มันมีสัญลักษณ์คำว่า “หาน” ถูกเขียนไว้บนใบหน้า
จิ้งยวิ๋นรู้สึกเหมือนเดจาวู นางพยายามจ้องมองไปที่สัตว์ร้ายและตระหนักได้ว่ามันมีลักษณะเหมือนมนุษย์
“หานหมาน!” จิ้งยวิ๋นกล่าวอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง นางลังเล สัตว์ร้ายตัวนี้จะเป็นหานหมานไปได้ยังไง?!
แต่เมื่อคาดคะเนจากปฏิกิริยาของหลินเฟิง จิ้งยวิ๋นคิดว่าความคิดของนางมีความเป็นไปได้อย่างมาก
ความเกลียดชังและความโกรธเกรี้ยวปรากฏอยู่บนใบหน้าของจิ้งยวิ๋น
“หืมม?” เวิ่นเหงาเสวี่ยประหลาดใจเมื่อเห็นการแสดงออกของจิ้งยวิ๋น
“เจ้าและหลินเฟิงรู้จักกับมัน?” เวิ่นเหงาเสวี่ยถาม
จิ้งยวิ๋นพยักหน้า “ใช่ เขาเป็นสหายของพวกเรา”
เมื่อได้ยินดังนั้นพวกเขาก็เข้าใจได้ในทันที ไม่แปลกใจเลยที่หลินเฟิงจะโกรธเกรี้ยวจนถึงขนาดที่ไม่สามารถควบคุมพลังของตัวเองได้
ชายคนหนึ่งที่ถูกทำให้กลายเป็นสัตว์ร้ายคือสหายของหลินเฟิง!
“ฮ่าๆๆ ไม่เพียงแต่พูดจาสวยหรู แต่พวกมันยังบอกว่าตัวเองเป็นสหายกับทาส สมแล้วที่เป็นพวกขอทาน! ฮ่าๆๆ” เมื่อได้ยินที่จิ้งยวิ๋นพูด พวกศิษย์ที่ศึกษาเรื่องการเมืองก็อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยพวกหลินเฟิง
“ฮ่าๆๆ สหายของพวกมันถูกปฏิบัติราวกับสัตว์เดรัจฉาน!” ชายในเสื้อคลุมสีเหลืองกล่าว
หลินเฟิงหันกลับไปมองเขาอย่างช้าๆ ทันใดนั้นสีหน้าของชายในเสื้อคลุมสีเหลืองก็กลายเป็นซีดขาว เขากำลังสั่นด้วยความกลัว
“น่าหวาดกลัวอะไรเช่นนี้!” ชายคนนั้นคิด
ดวงตาของหลินเฟิงมืดมนและไร้ความรู้สึก
“ไอขอทานสกปรก!” ชายในเสื้อคลุมสีเหลืองกัดฟันพูด เขาหวาดกลัวเพียงเพราะสายตาของหลินเฟิง มันเป็นไปได้ยังไง!
“ตู้มมม!”
หลินเฟิงบดขยี้ที่นั่งของเขาด้วยการทุบเพียงครั้งเดียว ที่นั่งเหล่านี้ล้วนแต่ทำมาจากหินแข็ง แต่หลินเฟิงสามารถทำลายมันได้อย่างง่ายดาย จากนั้นเขาก็เดินไปหาชายในเสื้อคลุมสีเหลือง
“ตู้มมมม!”
หลินเฟิงทำลายเก้าอี้อีกตัว หัวใจของชายในเสื้อคลุมสีเหลืองเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะความหวาดกลัว
ในที่สุดหลินเฟิงก็เดินมาถึง เขาจับคว้าไปที่คอของชายคนนั้น การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วราวกับสายฟ้ายากที่ชายคนนั้นจะหลบได้ หลินเฟิงยกร่างของเขาขึ้นด้วยมือเพียงข้างเดียว ชายในเสื้อคลุมสีเหลืองแทบจะหายใจไม่ออกจากการถูกจับโดยมือที่ทรงพลังของหลินเฟิง
“ตู้มมม!”
โดยไม่ลังเล หลินเฟิงจับชายคนนั้นทุบลงไปที่เก้าอี้หิน เสียงแตกหักจากร่างกายของเขาน่าสยดสยองอย่างมาก หลังจากนั้นหลินเฟิงก็ใช้เท้าเหยียบลงใบบนศีรษะของเขา ชายคนนั้นหอบหายใจอย่างหนักหน่วงเพราะแรงบดขยี้จากฝ่าเท้าของหลินเฟิง
เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตา ทุกคนต่างประหลาดใจ ศิษย์การเมืองเฝ้ามองฉากตรงหน้าถึงกับพูดไม่ออก พวกเขาตกตะลึงเพราะการกระทำของหลินเฟิง เมื่อพวกเขาสัมผัสได้ถึงปราณน้ำแข็งของหลินเฟิง พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะโจมตีเขา
“ถ้าเจ้าพูดมากกว่านี้แม้เพียงคำเดียว ข้าจะบดขยี้เจ้าให้ตายเหมือนกับแมลง” หลินเฟิงกล่าวด้วยโทนเสียงต่ำและจ้องเขม็งไปยังชายในเสื้อคลุมสีเหลืองที่อยู่ภายใต้ฝ่าเท้าของเขา เสียงของเขาฟังดูน่าขนลุกอย่างมาก
ทันใดนั้นชายในเสื้อคลุมสีเหลืองก็กระอักเลือดออกมาราวกับคนที่กำลังจะหมดสติ ตอนนี้เขาแทบจะไม่สามารถรับรู้อะไรได้แล้ว
“คนที่เจ้าด่าว่าเป็นขอทานกำลังเหยียบย่ำหัวของเจ้าอยู่ในตอนนี้ ทุกคนกำลังสนุกกับสิ่งที่เจ้าโดน มันก็เหมือนกับตอนที่เจ้าสนุกไปกับการดูเหล่าทาสถูกเข่นฆ่า ที่ต่างกันก็คือเหล่าทาสล้วนมีค่ามากกว่าเจ้า” หลินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็ยกเท้าขึ้นและไม่ได้ให้ความสนใจกับชายในเสื้อคลุมสีเหลืองอีก เขาเดินตรงไปยังกรง ปราณน้ำแข็งที่ออกมาจากตัวของเขาเริ่มหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ
ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่หลินเฟิงและสงสัยว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ทำไมเขาถึงต้องปลดปล่อยปราณที่น่าหวาดกลัวออกมา? ชายหนุ่มคนนี้น่ากลัวอย่างมาก! มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ผู้ที่อยู่ในกรงต่างเริ่มรู้สึกถึงความเย็นที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ชายชรารู้สึกตกตะลึงเมื่อสัมผัสได้ถึงไอเย็นที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของหลินเฟิง
ไป๋เจ๋อเองก็ตกตะลึงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาได้เห็นฉากที่เกิดขึ้นกับชายในเสื้อคลุมสีเหลือง นี่หลินเฟิงกลายเป็นบ้าไปแล้ว? ร่างของไป๋เจ๋อกำลังสั่นสะท้านไปด้วยความกลัว
เมื่อพั่วจวินเห็นหลินเฟิง หัวใจของเขาเริ่มเต้นระรัว
หลินเฟิง… มันเป็นหลินเฟิง… เขาคิดว่าคงจะไม่ได้เห็นคนที่เขารู้จักอีกต่อไปแล้ว
หานหมานเองก็เห็นหลินเฟิง การแสดงออกที่ราวกับสัตว์ร้ายในดวงตาของเขาจางหายไปและถูกแทนที่ด้วยความเศร้าหมอง เขาถูกบังคับให้ใช้ชีวิตเยี่ยงสัตว์ร้ายและต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดตลอดเวลา เขาไม่เคยคิดว่าเลยว่าจะได้พบกับหลินเฟิงอีกครั้ง หานหมานเกลียดต้วนเทียนหลางรวมถึงทุกคนที่อยู่ในลานประลองเชลยด้วย!
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนิกายหยุนไห่ ทั้งหานหมานและพั่วจวินต่างก็รอดชีวิต แต่ถ้าหานหมานรู้ว่าเขาจะต้องกลายมาเป็นทาสและต้องถูกบังคับให้อยู่ในที่แบบนี้ เขาคงเลือกที่จะตายตั้งแต่วันนั้นเสียมากกว่า
มีผู้รอดชีวิตมากมายที่ถูกจับเป็นเชลยและถูกขายเป็นทาส นั่นเป็นเหตุผลที่หานหมานต้องมาอยู่ในลานประลองเชลยแห่งนี้
ในช่วงที่อยู่ในลานประลองเชลย ชีวิตของหานหมานราวกับตายทั้งเป็น เขาถูกทำให้อับอายเยี่ยงสุนัข ถูกบังคับให้ต้องกลายเป็นสัตว์ร้าย ในที่แห่งนี้เขาต้องสังหารสหายไปมาก เขาถูกสั่งสอนว่าหากเขาไม่ฆ่าก็จะเป็นเขาเองที่ถูกฆ่า หานหมานแข็งแกร่งขึ้นและโหดเหี้ยมขึ้นเช่นกัน
แน่นอนว่าในตอนแรกหานหมานได้ขัดขืน แต่เพราะความพยายามที่จะขัดขืนของเขาทำให้เขาต้องมีชีวิตอยู่เยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน
ทันใดนั้น เมื่อเขาเห็นหลินเฟิง การแสดงออกของหานหมานค่อยๆเปลี่ยนไป น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากดวงตาของเขา
“หลินเฟิง พี่น้องข้า!” หานหมานกล่าวขณะที่ใช้มือกุมศีรษะด้วยความอับอาย เขารู้สึกละอายใจที่ต้องถูกเห็นในสภาพเยี่ยงนี้….. และเป็นอีกครั้งที่หลินเฟิงเข้ามาประจันหน้ากับเหล่าศัตรูเพื่อช่วยเหลือเขา
หานหมานรู้ดีว่าหลินเฟิงเป็นคนแบบไหน หลินเฟิงได้ไปยังหน้าผานรกเพื่อช่วยเหลือเขารวมทั้งเผชิญหน้ากับศัตรูบนลานประลองชีวิตแห่งชีวิตเพื่อช่วยชีวิตเขา หลินเฟิงไม่สนใจว่าพวกศัตรูจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาเห็นชีวิตของสหายสำคัญกว่าตัวเองเสมอ
….และตอนนี้ก็เช่นกัน หลินเฟิงกำลังเสี่ยงชีวิตเพื่อสหายของเขา
“พี่ชาย เจ้าคงจะทรมานมาก” การแสดงออกที่เย็นชาถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกอบอุ่น หานหมานยกศีรษะขึ้น น้ำตาของเขาไหลอาบมาบนแก้มอย่างไม่หยุด…
*********************************************
ติดตามได้ที่ –