I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Peerless Martial God ตอนที่ 144 เงาสังหาร!

| Peerless Martial God | 1442 | 2360 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 

พี่ชาย? ชายชราประหลาดใจเมื่อได้ยินบทสนทนาระหว่างพวกเขา ทำให้ใบหน้าของชายชรากลายเป็นชั่วร้ายขึ้น หลินเฟิงประหลาดใจที่รู้ว่าทาสผู้นี้เป็นสหายของเขา ชายชรามองไปที่หลินเฟิงที่กำลังเดินตรงไป จากนั้นเขาเดินเข้าไปหาหลินเฟิงเพื่อขัดขวางไม่ให้เขาเดินต่อและกล่าวว่า: “มันไม่สำคัญว่าเจ้าจะเป็นเพื่อนกันมาก่อนหรือไม่ แต่ชีวิตที่เหลือของเขาจะต้องเป็นทาสตลอดไป”

 

“หากข้าประทับตราสัญลักษณ์บนใบหน้าของเจ้า เจ้าก็จะกลายเป็นทาสด้วยเช่นกัน?” หลินเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นอย่างมาก

 

ชายชรายิ้มและกล่าวว่า: “เจ้าอยากตาย?”

 

“ถ้าข้าจะต้องตาย นั่นหมายความว่าจะต้องมีคนมาสังหารข้าหลังจากข้าสังหารเจ้า” หลินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา ทันใดนั้นพลังปราณอันหนาวเย็นออกมาจากร่างกายของเขาและเริ่มพุ่งเข้าหาชายชรา”

 

“เจ้ากำลังประเมินตัวเองสูงเกินไป” ชายชรากล่าวขณะยิ้ม ทันใดนั้นร่างกายของเขาพุ่งเข้าหาหลินเฟิงราวกับพายุ

 

“ดาบเดียวสังหาร!” หลินเฟิงใช้ทักษะดาบเดียวสังหาร เขาเข้าใจทักษะนี้อย่างถ่องแท้ มันเป็นทักษะที่รวดเร็วเป็นอย่างมาก มากพอเพื่อสังหารฝ่ายตรงข้ามเพียงการโจมตีครั้งเดียว

 

แต่ชายชราไม่สนใจการโจมตีของหลินเฟิง และหลบหลีกการโจมตีขณะที่เดินเข้าใกล้หลินเฟิง จากนั้นชายชราก็ปล่อยหมัดของเขาออกไปที่หน้าอกของหลินเฟิง

 

“อ๊าก!” เลือดกระเด็นออกมาจากปากของหลินเฟิง และทำให้เขากระเด็นไปข้างหลัง

 

“ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 7!” ฝูงชนรู้สึกมึนงง ชายชราแข็งแกร่งมาก เขาบรรลุขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 7 แล้ว และเมื่อเทียบกับหลินเฟิง ความแตกต่างมันห่างชั้นกันเกินไป หลินเฟิงจะไม่สามารถทนการโจมตีอีกครั้งได้

 

แต่หลินเฟิงลุกขึ้นอีกครั้ง เขาเริ่มพุ่งเข้าหาชายชราอีกครั้ง เขายังคงดูเยือกเย็นและมุ่งมั่นเหมือนเช่นเคย

 

บรรยากาศรอบๆกรงเต็มไปด้วยพลังปราณอันหนาวเย็น

 

“เจ้าเป็นคนที่มีพรสวรรค์และมีอนาคตแต่น่าเสียดายที่เจ้าต้องมาตายที่นี่ ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากช่วยสงเคราะห์เจ้า” ชายชรากล่าวเมื่อเห็นหลินเฟิงเดินเข้ามาหาเขาอีกครั้ง จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาและกล่าวว่า: “เจ้าอยู่แค่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 4 เจ้าไม่มีทางสัมผัสข้าได้ แม้แต่ครั้งเดียว…แต่เจ้าคิดจะสังหารข้า? ฝันไปเถอะ!”

 

“ไม่ต้องสังหารมัน ประทับตราบนตัวมันแล้วทำให้มันเป็นทาสก็พอ แบบนี้มันไม่ดีกว่าหรือ?” ไป๋เจ๋อกล่าว ชายชรารู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินจากนั้นเขาก็ยิ้มและกล่าว : “นายน้อย ท่านฉลาดจริงๆ แน่นอนสิ่งที่นายน้อยพูดเป็นความคิดที่ดีมาก! เขาแข็งแกร่งกว่าสัตว์ร้ายอย่างงหานหมาน…มันน่าจะเป็นฉากที่ยอดเยี่ยมที่ได้เห็นเขาต่อสู้ในฐานะทาส”

 

“จัดการซะ” ไป๋เจ๋อกล่าวขณะจ้องมองหลินเฟิงอย่างชั่วร้าย

 

หลินเฟิงไม่ได้แม้แต่จะมองไป๋เจ๋อ เขายังคงเดินต่อไป ทุกย่างก้าวที่เขาก้าวเดินมันเต็มไปด้วยความมุ่งมั่งและความเยือกเย็น

 

“อ๊ากกกกกกกกกกก!” หานหมานคำรามราวกับสัตว์เดรัจฉาน เขาโกรธจนตัวสั่นแต่ชายวัยกลางคนถือโซ่ของเขาไว้ ทำให้หานหมานไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

 

ชายชราโจมตีหลินเฟิงอีกครั้ง เลือดสาดกระเซ็นออกมาจากปากหลินเฟิงอีกครั้ง ร่างกายของหลินเฟิงถูกซัดปลิวออกไปและกระแทกกำแพงกรงอย่างรุนแรงจนทำให้กรงสั่นสะเทือน

 

เหมือนที่ชายชราได้กล่าวไว้ หลินเฟิงแข็งแกร่งก็จริงแต่เขาอยู่แค่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 4 เขาไม่มีทางสู้กับใครก็ตามที่อยู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 7 ได้

 

เมื่อหลิ่วเฟยและคนอื่นๆเห็นร่างของหลินเฟิงถูกซัดปลิวไป พวกเขาต่างลุกขึ้นยืนและเดินตรงไปที่กรง

 

“ช้าก่อน!” เวิ่นเหงาเสวี่ยกล่าวเตือนไม่ให้พวกเขาเดินไปต่อ

 

“อย่าขวางทางข้า” หลิ่วเฟยกล่าว เวิ่นเหงาเสวี่ยทำได้เพียงยิ้มอย่างบิดเบี้ยวเท่านั้น

 

“หลินเฟิงไม่มีทางชนะการต่อสู้ครั้งนี้ได้ ถ้าเจ้าไปมีแต่เจ้าจะตกตายไปพร้อมกับเขา”

 

“อย่าขวางทางข้า!” หลิ่วเฟยกล่าวอย่างเย็นชาและไม่สนใจสิ่งที่เวิ่นเหงาเสวี่ยกล่าว

 

“ข้าจะไปเอง” เวิ่นเหงาเสวี่ยกล่าวขณะส่ายหัว ทันใดนั้นร่างกายของเขากลายเป็นภาพลวงตาและบินไปที่กรง เมื่อเขามาถึงที่ขอบกรงแล้ว เขาไม่ได้เข้าไปข้างใน เพราะเขามีความรู้สึกว่าหลินเฟิงไม่มีทางที่จะถูกจัดการได้ง่ายๆ

 

เวิ่นเหงาเสวี่ยรู้สึกประทับใจการกระทำของหลินเฟิง ชายผู้นี้ยอมเสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อสหายของเขา…

 

พั่วจวินก็สัมผัสได้เช่นกัน ตราสัญลักษณ์บนใบหน้าของเขาเคลื่อนไหวไปพร้อมกับกล้ามเนื้อบนหน้าของเขา บุคคลอย่างหลินเฟิงควรได้รับความเคารพจากทุกคน

 

ดวงตาของหลินเฟิงกลายเป็นดำสนิท เขาเดินตรงไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ภายในใจของเขา เขาไม่มีความรู้สึกหรืออารมณ์ใดๆเลย มีแต่ความมืดมิดเท่านั้น

 

“ตาย!” หลินเฟิงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว ดาบในมือของเขามีหมอกควันสีเทาอยู่รอบๆดาบ

 

“นี่คือทั้งหมดของเจ้าแล้ว?” ชายชรากล่าวขณะหัวเราะเยาะเย้ย เขาผสานมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกันและปลดปล่อยสายลมราวกับพายุออกมา

 

ปราณสังหารไหลออกมาจากร่างกายของหลินเฟิงไม่หยุดหย่อน ดาบของหลินเฟิงสั่นไหวอย่างรุนแรง

 

ในขณะนั้น หลินเฟิงฟันดาบของเขาออกไปแหวกว่ายผ่านอากาศตรงไปที่ชายชรา มันตัดผ่านอากาศด้วยความเร็วและสบั้นทุกอย่างที่ขวางทางมัน

 

“เจ้าพยายามไปเพื่ออะไร?” ชายชรากล่าวอย่างไม่เกรงกลัว เมื่อดาบของหลินเฟิงมาอยู่ที่หน้าชายชรา จู่ๆมันก็หยุดลง

 

“ลาก่อน!” ชายชราตะโกนซึ่งทำให้ดาบยาวของหลินเฟิงกระเด็นไปไกล ในขณะนั้นหลินเฟิงอยู่เบื้องหน้าชายชรา และแทงมือของเขาไปข้างหน้า มันทั้งแหลมคมและแม่นยำราวกับดาบ

 

“ตายซะ!” ชายชรากล่าวพร้อมกับปรากฏรอยยิ้มอันเย็นชาตรงมุมปากของเขา เขาสลายปราณดาบของหลินเฟิงและปล่อยหมัดไปที่หลินเฟิงอีกครั้ง ทำให้หลินเฟิงกระอักเลือดออกมาจากปาก

 

อย่างไรก็ตามหลินเฟิงได้จับแขนทั้งสองข้างของชายชราไว้ไม่ปล่อย ทำให้ทุกคนประหลาดใจ

 

“เขากำลังจะทำอะไร?”

 

บางทีหลินเฟิงอาจตายเพราะสาเหตุนี้ การกระทำของเขานั้นผิดพลาดมหันต์

 

ดูเหมือนว่าจะมีบาดแผลขนาดใหญ่บนหน้าอกของหลินเฟิงที่ถูกชายชราโจมตี และเขามีเลือดท่วมตัว ฉากนี้มันน่าหวาดกลัวมาก

 

แต่หลินเฟิงไม่ปล่อยแขนของชายชรา เขาจับแขนของชายชราไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้างของเขา

 

ทุกๆคนต่างจ้องมองไปที่หลินเฟิง บ้าระห่ำอะไรขนาดนี้! นี่อาจเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของเขาแล้ว

 

เลือดบางส่วนของหลินเฟิงกระเด็นไปโดนหานหมาน หัวใจของเขาเริ่มห้ำหั่นกันและหายใจอย่างหนักหน่วง

 

เกิดฝุ่นละอองอยู่ข้างล่างหานหมาน ทันใดนั้นพื้นดินเริ่มสั่นสะเทือน สายตาของเขาเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ดวงตาสีแดงของเขาค่อยๆเปลี่ยนกลายเป็นสีเหลืองน้ำตาลอย่างช้าๆ มันดูคล้ายกับสัตว์ป่าที่กระหายเลือด

 

“อ๊ากกกกกกก!” เสียงคำรามราวกับสัตว์ร้ายดังออกมาจากปากของหานหมาน และพื้นดินเริ่มสั่นไหวรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และมีฝุ่นสีเหลืองกระจายขึ้นไปบนอากาศมากขึ้น และมีชั้นทรายปกคลุมร่างกายของหานหมาน

 

ชายวัยกลางคนที่อยู่บนหลังหานหมานสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น หัวใจของเขาเริ่มเต้นเร็มขึ้นและเร็วขึ้น

 

“เกิดอะไรขึ้น?” เมื่อชายวัยกลางคนเห็นฝุ่นบินอยู่ลอยๆตัวเขา ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ

 

ทันใดนั้น โซ่ที่ล่ามหานหมานแตกกระจายกลายเป็นชิ้นเล็กๆนับพันชิ้น

 

เมื่อชายชราและหลินเฟิงกำลังต่อสู้กันอยู่ และเห็นเหตุการณ์นี้ขึ้น ทำให้พวกเขาทั้งสองต่างมึนงง

 

“หือ?” ชายชรารู้สึกประหลาดใจ เขาไม่เข้าใจว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น

 

“จิตวิญญาณสวรรค์!” ทันใดนั้นแสงระยิบระยับสดใสราวกับดวงอาทิตย์ปรากฏออกมาจากร่างกายของหลินเฟิง

 

ตั้งแต่ที่จิตวิญญาณสวรรค์ของหลินเฟิงตื่นขึ้นมา เขาไม่เคยใช้ประโยชน์ของความสามารถของจิตวิญญาณนี้มาก่อน นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เขาได้ใช้

 

ชายชราหลับตาลงเล็กน้อย เขาต้องการที่จะถอยร่น แต่หลินเฟิงยังคงจับแขนเขาอยู่

 

ทันใดนั้น ชายชรากระโดดขึ้นไปในอากาศ พร้อมกับหลินเฟิง  

 

“ตาย!” หลินเฟิงพูดเสียงต่ำ เขาสามารถมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างชัดเจน เพราะจิตวิญญาณสวรรค์ของเขา ทุกๆการเคลื่อนไหวของชายชราหลินเฟิงสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน

 

ในเวลาเดียวกัน ร่างกายของหลินเฟิงกลายเป็นเงา แสงระยิบระยับปรากฏขึ้นและทันใดนั้น ได้มีสายเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วอากาศ

 

“เงานั่นมัน!” ฝูงชนตกใจกับสิ่งที่พวกเขาได้เห็น หลินเฟิงเกือบจะหายตัวไปอย่างสมบูรณ์ด้วยเงาของเขา!

 

“เพียงเพราะเจ้าแข็งแกร่ง นั่นไม่ได้หมายความว่าข้าจะไม่สามารถสังหารเจ้าได้!” กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ชายชรากำลังกุมมืออยู่ที่คอของเขาขณะที่เลือดไหลผ่านนิ้วของเขา เขาค่อยๆล้มลงบนพื้นอย่างช้าๆ!

 

*********************************************

ติดตามได้ที่ – 

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments