I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Peerless Martial God ตอนที่ 147 แขกผู้มาเยือน

| Peerless Martial God | 1512 | 2367 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ด้านนอกของสำนัก มีคนจำนวนหนึ่งกำลังมุ่งตรงไปยังประตูหลัก

 

 ผู้นำกลุ่มผู้อยู่ในชุดสีฟ้าและสวมหน้ากากที่งดงาม เขาเป็นชายวันกลางคนที่มีปราณอันเยือกเย็นกระจายออกมาจากร่าง ในบรรดาผู้ที่ติดตามมามีบางคนซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดในลานประลองเชลย

 

 ในบรรดากลุ่มคนของตระกูลไป๋เหล่านี้ มีชายหนุ่มหนึ่งคนที่สวมหน้ากากสีทอง มือของเขาถูกพันด้วยผ้าพันแผล แววตาของเขาราวกับปีศาจ มันทำให้ดูชั่วร้ายอย่างมาก

 

 ทันใดนั้นเอง มีร่างเงา 2 ร่างกระโจนลงมาขวางทางของพวกเขาเอาไว้ “มีเพียงศิษย์ของสำนักและผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่จะเข้าไปในสำนักได้ คนอื่นไม่มีสิทธิ์!”

 

 ชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อผ้าสีฟ้าก้าวออกไป ผมของเขาปลิวไสวไปตามสายลม

 

 “ไสหัวไป” ชายวัยกลางคนในชุดสีฟ้ากล่าว เขาเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวก็สามารถผลัก 2 คนนั้นออกไปได้อย่างง่ายดาย เมื่อเห็นเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

 

 “ขอบเขตปฐพี!”

 

 กลุ่มคนเดินเข้าไปในสำนักสวรรค์ ยามทั้ง 2 คนลุกขึ้นและเริ่มเดิน

 

 ชายวัยกลางคนที่อยู่ขอบเขตปฐพีต้องไม่ได้มีจุดประสงค์ที่ดีแน่นอน

 

เหล่าสมาชิกตระกูลไป๋เดินไปถึงหนึ่งในพระราชวัง มันคือสถานที่ที่ศิษย์ผู้ศึกษาวิชาทหารอาศัยอยู่

 

 “หยุด!”

 

 ทันใดนั้นก็ได้มีคนกลุ่มใหญ่เดินมาอยู่หน้ากลุ่มของคนตระกูลไป๋

 

 ชายวันกลางคนขมวดคิ้ว “ออกไปให้พ้นจากทางของข้า”

 

 “เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? กล้าดียังไงถึงไม่เคารพกฎของสำนัก?” หนึ่งในนั้นกล่าวอย่างเย็นชา

 

ชายวัยกลางคนมองไปที่เขาและกล่าว “เอาคนที่คุยรู้เรื่องออกมา”

 

 “เจ้าต้องการอะไร? แล้วเจ้ามาที่นี่ทำไม?” ทันใดนั้นชายที่อยู่ในเสื้อคลุมดำก็กล่าวออกมา

 

 “ข้าต้องการให้พวกเจ้าส่งตัวใครบางคนมา” ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างไม่แยแส

 

 “ส่งตัวใครบางคน?” ชายในเสื้อคลุมดำยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าว “ไม่เพียงแต่เจ้าจะไม่เคารพกฎ แต่เจ้ายังกล้าขอให้ข้าส่งตัวศิษย์ของสำนักให้เจ้า?”

 

 ชายวันกลางคนยิ้ม ทันใดนั้นเขาก็ยกมือขึ้นมาจากนั้นก็ปรากฏแสงสว่างรอบๆมือของเขา

 

 เมื่อชายในเสื้อคลุมดำเห็นแสงที่อยู่บนมือของชายวัยกลางคน การแสดงออกทางสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที

 

 “เจ้าบอกว่าคนนอกไม่มีสิทธิ์เข้ามาในสำนักสวรรค์ ถ้าเช่นนั้นข้าก็อยากที่จะถามเจ้าเหมือนกัน เจ้าอนุญาตให้ศิษย์ของเจ้าไปที่ลานประลองเชลยของข้าและยังให้พวกมันสังหารคนในตระกูลของไป๋ทั้งยังขโมยทาสของข้ามาอีก 2 คน? เจ้าคงจะช่วยอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้?” ชายวัยกลางคนกล่าว น้ำเสียงของเขาทรงพลังอย่างมาก แรงกดดันที่น่ากลัวแผ่ออกมาจากร่ายกายของเขาอย่างต่อเนื่อง

 

 “ถ้าเจ้าไม่ยอมส่งตัวผู้ที่ขโมยทาสของข้ามา ข้าคงต้องระบายโทสะออกมาบ้าง”

 

 ใบหน้าของชายในเสื้อคลุมดำบิดเบี้ยว เขาเป็นอาจารย์ของสำนักสวรรค์และมีสถานะที่สูงมาก แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่อาจรับมือกับชายวัยกลางคนคนนี้ได้และกลุ่มคนที่ติดตามเขามาก็ไม่อาจนับได้ว่าธรรมดา

 

 “ใครคือผู้ก่อปัญหาให้เจ้า?” ชายในเสื้อคลุมดำถาม

 

 “ศิษย์ทหารทนามว่าหลินเฟิง และศิษย์อีกคน เวิ่นเหงาเสวี่ย…”

 

 “เวิ่นเหงาเสวี่ย?!” ชายในเสื้อคลุมดำประหลาดใจ ชายวัยกลางคนกล่าว “คนที่จะต้องรับผิดชอบการกระทำส่วนใหญ่ก็คือหลินเฟิง เจ้าไม่จำเป็นต้องส่งตัวเวิ่นเหงาเสวี่ยมา… แต่หลินเฟิงและทาสอีก 2 คน เจ้าจะต้องนำพวกมันมาให้ข้าในทันที”

 

 แม้ว่าชายวัยกลางคนจะมีสถานะที่สูงมากแต่เขารู้ดีว่าไม่อาจทำอะไรเวิ่นเหงาเสวี่ยได้ ทางสำนักสวรรค์จะไม่ยอมส่งมอบเขามาให้อย่างแน่นอน

 

 “ไปบอกให้หลินเฟิงและทาสอีก 2 คนให้ออกมา” ชายในเสื้อคลุมดำกล่าวกับชาย 2 คนที่ยืนอยู่ข้างกายเขา

 

 ดูเหมือนว่าชายวัยกลางคนจะรู้สึกพึงพอใจ ดวงตาของชายหนุ่มที่สวมหน้ากากสีทองส่องประกายที่ชั่วร้ายออกมา

 

 หลินเฟิงนั่งสมาธิอยู่ภายในห้อง ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นทำให้เขาลืมตาขึ้นมา

 

 “หลินเฟิงออกมา!” เสียงตะโกนที่หยาบคายดังขึ้น หลินเฟิงประหลาดใจ สำนักสวรรค์มีกฎที่ว่า ไม่ว่าผู้ใดก็ตามไม่อาจที่จะเข้ามาในส่วนที่พักของผู้อื่นได้หากไม่ได้รับอนุญาต

 

 หลินเฟิงลุกขึ้นยืน เขารู้สึกดีขึ้นแต่การพื้นฟูอาการบาดเจ็บของเขายังไม่สมบูรณ์

 

หลินเฟิงมองไปยังชายที่เรียกเขา เขาเองก็เป็นศิษย์ของสำนัก

 

 “เจ้าคือหลินเฟิง?” ศิษย์คนนั้นกล่าวอย่างไม่แยแส

 

 “ใช่ แล้วทำไม?” หลินเฟิงถามขณะขมวดคิ้ว

 

 “โง่เขลาสิ้นดี  มันคิดว่าตัวเองสามารถทำอะไรก็ได้เพียงเพราะเป็นสหายกับเวิ่นเหงาเสวี่ย ในตอนแรกมันไปยั่วยุเฮยม๋อและตอนนี้ยังไปสร้างปัญญาที่ลานประลองเชลย” ศิษย์คนนั้นคิด

 

คนทั้ง 2 คิดว่าที่หลินเฟิงกล้าทำแบบนี้เป็นเพราะเขาเป็นสหายของเวิ่นเหงาเสวี่ย พวกเขาคิดว่าหลินเฟิงเป็นเหมือนกับสุนัขที่จะต้องคอยให้เจ้านายมาตามแก้ไขปัญญาที่ตัวเองก่อขึ้น

 

 “ตอนนี้ นำทาสที่เจ้าขโมยจากลานประลองเชลยมา มีบางคนต้องการที่จะพบกับเจ้า” ศิษย์อีกคนกล่าว หลักจากที่พูดจบเขาก็เริ่มเดินจากไป

 

 “เดี๋ยว เดี๋ยว!” หลินเฟิงกล่าว

 

“มีอะไร?”

 

 “ดูเหมือนว่าเจ้าจะลืมบางอย่าง?”

 

 “ลืมอะไร?” ชายคนนั้นกล่าว จากนั้นเขาก็ยักไหล่และกล่าวต่อ “ก็ไม่นิ ข้าไม่ได้ลืมอะไร”

 

 “เจ้าลืมแน่นอน” หลินเฟิงกล่าวอย่างหนักแน่น

 

ชายคนนั้นเริ่มที่จะมีโทสะ “เจ้ากำลังล้อเล่นกับข้า?”

 

 “ข้าไม่ชอบล้อเล่น เจ้าตรงมายังห้องของข้าและยังทำท่าทางหยาบคาย แล้วเจ้ายังไม่คิดที่จะขอโทษข้า?” หลินเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา

 

 “ขอโทษเจ้า?” ศิษย์คนนั้นยิ้มราวกับว่ากำลังฟังเรื่องตลก จากนั้นเขาก็เมินเฉยต่อหลินเฟิงและก้าวเดินเพื่อที่จะจากไป

 

 ทันใดนั้น ปราณที่เยือกเย็นก็เข้าปะทะกับร่างกายของเขาและบดขยี้ตัวเขาไว้ เขาตกตะลึงอย่างมากและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

 

 ศิษย์คนนั้นหันไปและพบว่าหลินเฟิงกำลังก้าวเดินมาหาเขาอย่างช้าๆ ร่างกายของหลินเฟิงกำลังปลดปล่อยปราณน้ำแข็งที่ทรงพลังออกมา

 

 “เจ้ากำลังจะทำอะไร?”

 

 “ข้าเพียงแค่ไม่ชอบคนที่ทำตัวหยาบคาบกับข้า” หลินเฟิงกล่าว ปราณที่เขาปลดปล่อยออกมาเริ่มที่จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

 

 ศิษย์คนนั้นตกอยู่ในความหวาดกลัวอย่างสิ้นเชิง เขาไม่มีทางต่อกรกับหลินเฟิงได้ในแง่ของความแข็งแกร่ง

 

 “ข้ามาที่นี่ในนามของอาจารย์ เจ้าเพียงแค่ตามข้ามา” เขากล่าว

 

 “แน่นอน ในตอนแรกข้าอาจจะไปกับเจ้า แต่เจ้าละเมิดกฎของสำนักและแสดงพฤติกรรมหยาบคายในพื้นที่ของข้า ถ้าเจ้าวางแผนที่จะโน้มน้าวข้าให้ไปกับเจ้า เจ้าคงต้องผิดหวังแล้ว เจ้าทำตัวหยาบคายกับข้าแล้วยังจะให้ข้าฟังคำพูดของเจ้า? คนอื่นๆจะไม่หัวเราะข้าหรือไงที่ข้าต้องทำตามที่เจ้าบอกทั้งๆที่เจ้าแสดงพฤติกรรมต่ำๆในพื้นที่ของข้า?” คำพูดของหลินเฟิงแฝงไว้ด้วยปราณที่เยือกเย็น อุณหภูมิรอบๆตัวเขาเริ่มลดต่ำลงเรื่อยๆ

 

 ชายคนนั้นหวาดกลัวอย่างมาก หลินเฟิงเพียงแค่ยกกำปั้นและต่อยออกไป

 

 “ย๊ากก” ศิษย์คนนั้นตะโกนออกมา เขาปล่อยหมัดพุ่งตรงไปที่หลินเฟิง ปราณที่เขาปล่อยออกมาทำให้บรรยากาศสั่นสะเทือน เมื่อกำปั้นของพวกเขาเข้าปะทะกัน เขาสามารถรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่มือของเขาในทันที

 

 “ไสหัวไป” หลินเฟิงเตะออกมาไปอย่างแรง ศิษย์คนดังกล่าวถูกส่งบินออกไปด้านนอกและถูกปกคลุมโดยชั้นน้ำแข็ง

 

 “เศษขยะขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 3 กล้าที่จะมาหยิ่งยโสในพื้นที่ของข้า” หลินเฟิงตะโกน “รออยู่ข้างนอก ถ้าเจ้าก้าวเข้ามาในพื้นที่ของข้าอีกครั้งข้าจะทำให้เจ้าพิการ”

 

ติดตามได้ที่ – 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments