I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Peerless Martial God ตอนที่ 148 อาจารย์ผู้โกรธเกรี้ยว

| Peerless Martial God | 1524 | 2338 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 

ศิษย์ทั้งสองคนยังคงไม่เคลื่อนไหว ในขณะนั้นเขารู้สึกอับอายมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่นอกบริเวณที่พักของหลินเฟิงในขณะนั้นใครๆก็เห็นว่าเขาถูกทำร้าย

 

เขาคิดว่าเขาสามารถทำตัวหยาบคายได้เพราะอาจารย์เป็นคนส่งพวกเขามา แต่ท้ายที่สุดเขาก็ถูกทำให้อับอายและถูกบังคับให้ต้องรอข้างนอก

 

หลินเฟิงรู้ว่าศิษย์พวกนี้มาเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นในลานประลองเชลย

 

หลินเฟิงรู้ว่าไม่ช้าก็เร็วคนที่มาจากลานประลองเฉลยก็จะมาหาเขา

 

หลินเฟิงเดินกลับเข้าไปในห้องของเขาและใส่เสื้อคลุมของเขาแล้วเขาก็เดินไปที่ประตู

 

เสียงประตูเปิดออกดังเข้าไปในหูของหลินเฟิง

 

“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน” หลินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชาและไม่แยแส คนที่เปิดประตูนั้นก็คือเมิ่งฉิงนั้นเอง

 

“มีอะไรรึเปล่า? หลินเฟิงกล่าวขณะหันหลังกลับ เมิ่งฉิงได้ใส่ผ้าคลุมหน้าของนางอยู่บนหน้า นางค่อยๆเดินอย่างช้าๆตรงไปหาหลินเฟิง

 

“ข้าควรจะอยู่กับเจ้าทุกครั้งที่เจ้าออกไปข้างนอก” เมิ่งฉิงกล่าวซึ่งทำให้หลินเฟิงยิ้มอย่างบิดเบี้ยว แต่หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความอบอุ่น

 

“ก็ได้” หลินเฟิงกล่าวขณะพยักหน้า นางกังวลเรื่องความปลอดภัยของหลินเฟิง แต่นางไม่เคยพูดถึงมัน

 

ทั้งคู่เดินออกจากห้องและปิดประตู

 

ศิษย์มองไปที่หลินเฟิงและเมิ่งฉิงและกล่าวว่า “แล้วทาสทั้ง 2 คนล่ะ?”

 

“นำทางข้าไป” หลินเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดุดันทำให้ศิษย์ไม่กล้าพูดอะไรกลับมา

 

ระหว่างทางทุกๆคนต่างก็ชี้ไปที่ศิษย์ขณะที่หัวเราะ ซึ่งทำให้เขารู้สึกอับอายมากยิ่งขึ้น

 

ในขณะนั้นมีผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันอยู่นอกพระราชวัง ชายวัยกลางคนสวมเสื้อผ้าสีน้ำเงินกำลังยืนอยู่หน้ากลุ่มคน ซึ่งมันทำให้เขาดูสง่างามเป็นอย่างมาก

 

“เขามาแล้ว! หลินเฟิงมาแล้ว! “

 

ในขณะนั้นฝูงชนมองเห็นหลินเฟิงกำลังเดินมาอย่างช้าๆขณะออกมาจากภายในพระราชวัง

 

ข้างๆหลินเฟิงเป็นสาวน้อยที่งดงามเป็นอย่างมาก แม้ว่านางจะดูสง่างาม, อ่อนโยนและไร้เดียงสา แต่มีพลังปราณอันแปลกประหลาดออกมาจากร่างที่งดงามของนาง

 

อย่างไรก็ตามมีสองคนหายไป พวกทาสทั้งสองไม่ได้อยู่กับเขา

 

อาจารย์ในชุดคลุมดำมองไปที่ศิษย์คนหนึ่งที่เขาส่งไปหาหลินเฟิงและถามเขาว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

 

ศิษย์คนนั้นเกาหัวและไม่กล้าตอบ

 

“พวกเจ้ามันเศษขยะจริงๆ เรื่องง่ายๆแค่นี้ก็ไม่สามารถทำได้” อาจารย์ในชุดคลุมสีดำกล่าว จากนั้นเขาก็มองไปที่หลินเฟิงและถามว่า “เจ้าทำให้เกิดปัญหาที่ลานประลองเชลยแล้วยังลักพาตัวทาสสองคนและพาพวกมันมาที่สำนักใช่หรือไม่?”

 

“ข้าเป็นคนก่อปัญหาที่ลานประลองเชลย แต่ข้าไม่ได้เป็นคนลักพาตัวทาสสองคน ข้าเพียงแค่นำสหายสองคนของข้ากลับมาเท่านั้น” หลินเฟิงกล่าวขณะกำลังมองไปที่อาจารย์ในชุดคลุมสีดำ เพียงเพราะเขาพูดคำว่า “ทาส” ทำให้หลินเฟิงรู้สึกรังเกียจ

 

“ทาสยังไงก็คือทาส! แล้วพวกมันเป็นสหายของเจ้า?! .. แล้วข้าจะอนุญาตให้ทาสอย่างพวกมันเข้าสำนักได้ยังไงกัน?” อาจารย์ในชุดคลุมสีดำกล่าวไม่ไว้หน้าหลินเฟิง

 

“ถ้าเป็นเช่นนั้น อาจารย์ ข้าอยากจะถามท่านว่าสิ่งที่ทำให้คนกลายเป็นทาสคืออะไร? แล้วทาสคืออะไร?”

 

“ทาสคือคนที่ถูกทำสัญลักษณ์ว่าเป็นทรัพย์สินของใครบางคน เพราะพวกเขาถูกทำสัญลักษณ์ว่าต้องเป็นทาสตลอดไป” อาจารย์ตอบกลับ

 

“ถ้างั้น อาจารย์ ข้ามีคำถามอื่นๆอีกเพื่อถามท่าน ในตอนนี้มีทาสอยู่เบื้องหน้าท่าน ทำไมท่านถึงปล่อยให้เขาเข้าสำนัก?” หลินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา

 

“ห๊ะ?” ฝูงชนประหลาดใจ หลินเฟิงบ้าบิ่นจริงๆที่กล้าพูดเช่นนี้กับอาจารย์

 

อาจารย์ในชุดคลุมสีดำรู้สึกมึนงงและถามหลินเฟิงว่า : “เจ้าเห็นทาสตรงไหน?!”

 

“หืม?” หลินเฟิงยิ้มและชี้ไปที่คนที่สวมหน้ากากสีทองที่ยืนอยู่ข้างหลังชายที่สวมเสื้อสีฟ้า จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “ทำให้เขาถอดหน้ากากออกและท่านจะเห็นทาส”

 

ชายหนุ่มสวมหน้ากากสีทองคือ ไป๋เจ๋อ แล้วหลินเฟิงจะไม่รู้จักเขาได้อย่างไร?

 

“ข้าเข้าใจล่ะว่าสำนักสวรรค์มันเป็นเช่นไร ผู้คนไม่ได้ต้อนรับพวกข้าและศิษย์ยังไม่ได้รับการสอนมารยาท” ชายในเสื้อสีน้ำเงินกล่าว

 

ทันใดนั้น การแสดงออกทางสีหน้าของอาจารย์ในชุดคลุมสีดำกลายเป็นเยือกเย็น หลินเฟิงทำให้เขาเสียหน้าได้อย่างไร?

 

“ข้าบอกให้เจ้าไปพาตัวทาสทั้งสองออกมา เจ้าไม่ได้ยินข้าที่ข้าพูดรึไง?” อาจารย์ในชุดคลุมสีดำกล่าวขณะจ้องมองไปที่หลินเฟิง และมีปราณอันแข็งแกร่งออกมาจากร่างกายของเขา เขาดูดุดันเป็นอย่างมาก

 

หลินเฟิงรู้สึกประหลาดใจ เขายิ้มและกล่าวว่า “การที่มีอาจารย์อย่างท่านมันช่างเป็นเรื่องที่น่าอับอายต่อสำนักสวรรค์ คนพวกนี้มาและทำให้เกิดปัญหา แต่คนที่ท่านตำหนิกลับเป็นศิษย์ของท่านเอง ท่านทำให้ศิษย์ทุกคนที่อยู่ในสำนักแห่งนี้เสียหน้า  ถ้าท่านกล้าที่จะพยายามลงโทษข้าก็จะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของสำนักของเรา… และนั่นหมายความว่าท่านไม่ได้เป็นอาจารย์แต่เป็นสุนัขที่คอยเลียแข้งเลียขาตระกูลไป๋ “หลินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา

 

ทันใดนั้นได้มีพลังปราณอันแข็งแกร่งออกมาจากร่างของอาจารย์ที่อยู่ในชุดคลุมสีดำ  ทำให้ทั้งบรรยากาศเต็มไปด้วยปราณสังหาร หลินเฟิงกล้าทำให้เขาได้รับความอับอายต่อหน้าผู้คนจำนวนมากได้อย่างไร? เขาต้องการที่จะตาย?

 

“เจ้าอยากตายงั้นรึ?!” อาจารย์ตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด

 

“ตาย? ข้ายังหนุ่มยังแน่นข้ายังไม่อยากตายหรอก “หลินเฟิงตอบอย่างเย็นชา ทันใดนั้นเขาหยิบบัตรออกจากกระเป๋าของเขา ทำให้ทุกคนต่างประหลาดใจ

 

“ข้าไม่จำเป็นต้องเคารพกฎของสำนักสวรรค์ เพราะในวันที่ลงทะเบียนเมื่อข้ามาที่นี่ข้าได้พบกับอาจารย์ท่านหนึ่งที่ข้ารู้สึกไม่ชอบเลยจริงๆ แต่เมื่อข้าได้พบกับรองเจ้าสำนักเขาเป็นคนที่ดีพอที่จะเชิญข้าเข้าสำนัก และให้ข้าได้รับผลประโยชน์จากสำนักทั้งหมดโดยไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ เขายังกล่าวอีกว่าข้าสามารถพาใครก็ตามเข้ามาในสำนักก็ได้ ในวันนี้ ข้าไม่คิดว่าข้าจะพบกับอาจารย์อย่างเจ้าเร็วเช่นนี้ มันหายากจริงๆที่จะหาใครบางคนที่จะทำตัวเหมือนสุนัขตัวน้อยกับบุคคลภายนอก เจ้ามันเป็นความเสื่อมเสียต่อสำนักสวรรค์และสมาชิกทุกคนที่อยู่ในสำนัก”หลินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา

 

ฝูงชนทั้งหมดต่างมึนงง รองเจ้าสำนักของพวกเขาได้เชิญหลินเฟิงเข้าร่วมสำนักโดยไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาพาคนเข้ามาได้อย่างไร

 

อาจารย์ในชุดคลุมสีดำประหลาดใจ บัตรนั้นเป็นบัตรพิเศษที่มอบโดยรองเจ้าสำนักเอง

 

“เขาทำให้ข้าต้องอับอาย แล้วข้าจะกู้หน้ากลับมาได้อย่างไร? จะไม่มีใครเคารพข้าอีก” อาจารย์ในชุดคลุมสีดำคิด การแสดงออกในสายตาของเขากลายเป็นแหลมคมอย่างมาก

 

“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินว่าใครบางคนสามารถได้รับบัตรได้โดยไม่ต้องเป็นศิษย์ของสำนัก” อาจารย์กล่าว

 

จากนั้นเขาก็ตะโกนว่า “เจ้ากล้าขโมยบัตรจากรองเจ้าสำนักงั้นรึ! วันนี้ข้าจะมอบบทลงโทษให้กับเจ้าแทนรองเจ้าสำนัก “

 

“ขโมย??” หลินเฟิงประหลาดใจ เขาเห็นฝูงชนพยักหน้าซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเชื่อในตัวเขา หลินเฟิงถึงกลับพูดไม่ออก

 

“ท่านเป็นคนปัญญาอ่อนงั้นรึ? ท่านรู้หรือไม่ว่ารองเจ้าสำนักมีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน แล้วข้าจะไปขโมยบัตรจากเขาได้อย่างไร? ” หลินเฟิงหัวเราะเยาะเย้ยอาจารย์ ดูเหมือนอาจารย์พยายามข่มเหงหลินเฟิงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

“เจ้าเก่งที่หลอกลวงคนอื่น แต่มันไม่ได้ผลกับข้า ถ้าเจ้าคิดว่าเจ้าสามารถหนีไปได้ง่ายๆแล้วล่ะก็ ฝันไปเถอะ”อาจารย์กล่าวอย่างดุดัน

 

พลังปราณอันแข็งแกร่งไหลออกมาจากร่างของเขาและเขารีบพุ่งเข้าไปหาหลินเฟิง เขารีบพุ่งเข้าไปโจมตีอย่างรวดเร็วเพราะเขาไม่สามารถปล่อยให้หลินเฟิงพูดต่อไปได้มันเหลือทนสำหรับเขา เพราะทุกประโยคที่หลินเฟิงพูดมันทำให้เขาเสียหน้า

 

หลินเฟิงกำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างร้ายแรง เขาทำให้อจารย์โกรธเกรี้ยวอย่างมากจากการที่เขาไม่เคารพในตัวเขา

 

ในขณะนั้นหลินเฟิงมองอย่างไม่แยแส เบื้องหลังเขา ร่างเงาอันงดงามสง่าเคลื่อนที่มาอยู่เบื้องหน้าเขาอย่างรวดเร็ว

 

******************************************************************

ติดตามได้ที่ – 

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments