I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Peerless Martial God ตอนที่ 154 เรื่องอื้อฉาว

| Peerless Martial God | 1495 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 

เมื่อผู้ดูแลพูดจบ ทำให้ฝูงชนรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

 

คนที่สามารถทำให้มันเชื่องสามารถนำมันกลับไปด้วยได้! นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บ่มเพาะพลังทุกคนในลานประลองรู้สึกสนใจ! การเป็นเจ้าของสัตว์อสูรจะทำให้ผู้บ่มเพาะพลังมีความสามารถในการต่อสู้ที่น่าหวาดกลัว

 

แต่ปัญหาคือการทำให้มันเชื่อง หากล้มเหลวอาจนำไปสู่ความตาย

 

ผู้คนส่วนใหญ่ในกลุ่มฝูงชนไม่เคยคิดที่จะต่อสู้กับสัตว์อสูรที่ทรงพลังแบบนี้ นอกจากนี้แม้แต่ผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 5 บางทีพวกเขาก็ไม่อาจต่อสู้กับมันได้ มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะมีชีวิตรอด หากต้องเข้าไปทำให้มันเชื่องเพียงคนเดียว

 

จากนั้น ผู้รับผิดชอบก็เริ่มพูดอีกครั้งว่า: “แน่นอนว่าผู้ที่สามารถเข้าไปในกรงได้จะต้องอยู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 5 เป็นอย่างน้อยเพื่อต่อสู้กับมัน หากระดับพลังต่ำกว่านั้นก็สามารถต่อสู้กับมันได้ แต่ข้าไม่แนะนำ ถ้าหากไม่สามารถทำให้มันเชื่องได้ ก็จะถูกมันสังหาร หากทำสำเร็จพวกข้าจะมอบหินบริสุทธ์ระดับกลาง 100 ก้อนให้เป็นรางวัล”

 

ผู้คนหลายคนถูกล่อลวงโดยของรางวัล

 

กลุ่มคนที่หลินเชียนมาด้วยนั้นทุกคนล้วนเป็นศิษย์ของลานศักดิ์สิทธิ์แห่งหิมะจันทรา ในขณะนั้นทุกคนต่างจ้องมองไปที่หลินเชียน

 

“มู่ฟ่าน ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการจับสิงโตเพลิงหรอกหรือ?” ศิษย์คนหนึ่งกล่าวกับมู่ฟ่าน เขาหลงรักสิงโตที่อยู่ในกรง

 

เขาทะลวงผ่านขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 5 ได้แล้วซึ่งเป็นระดับเดียวกับสิงโตเพลิง

 

“ศิษย์พี่มู่ฟ่าน หากท่านต้องการลองดู ข้าสามารถพูดคุยกับคนดูแลได้ แม้ว่าท่านจะพ่ายแพ้มันแต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพียงแต่อย่าได้บาดเจ็บพอ” ศิษย์อีกคนหนึ่งกล่าว

 

มู่ฟ่านถูกกระตุ้นมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ

 

หากในกลุ่มพวกเขาคนใดคนหนึ่งต้องเข้าไปในกรง ถ้างั้นมู่ฟ่านน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

 

ถ้าเขาชนะและทำให้สัตว์อสูรเชื่องได้ขณะต่อสู้ เขาสามารถนำมันกลับไปด้วยได้ ไม่เพียงแค่นั้นเขายังได้รับหินบริสุทธิ์ระดับปานกลาง 20 ก้อน ถึงแม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรตราบใดที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ แล้วใครจะปฏิเสธข้อเสนอที่น่าดึงดูดดังกล่าวได้?

 

ทันใดนั้น มู่ฟ่านก็ผ่อนคลายลงและพูดว่า: “ก็ได้ ข้าจะลองดู”

 

มู่ฟ่านดูสำราญใจ จากสิ่งที่เขาเข้าใจว่าศิษย์คนอื่นๆกำลังเสนอสิงโตให้เขาเป็นของขวัญ นั่นคือสิ่งที่มู่ฟ่านคิดอยู่ในหัว

 

“ศิษย์พี่มู่ฟ่าน ท่านเป็นคนที่กล้าหาญมาก” ศิษย์คนอื่นกล่าว

 

จากนั้นมู่ฟ่านก็กระโดดขึ้นไปในอากาศและลงมาที่กรง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโลภเมื่อมองไปที่สัตว์อสูร

 

“ช่างเป็นเทคนิคการเคลื่อนที่ที่ยอดเยี่ยมอะไรขนาดนี้ ศิษย์พี่มู่ฟ่าน! แสดงให้พวกเขาเห็นว่าศิษย์จากลานศักดิ์สิทธิ์แห่งหิมะจันทราของพวกเราทรงพลังแค่ไหน!” ศิษย์คนหนึ่งตะโกนเสียงดัง ทุกคนสามารถได้ยินสิ่งที่เขากล่าวได้

 

 “โอ้ พวกเขาเป็นศิษย์ของลานศักดิ์สิทธิ์แห่งหิมะจันทรานี่เอง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงแข็งแกร่ง”

 

“ศิษย์ของลานศักดิ์สิทธิ์แห่งหิมะจันทราล้วนเป็นบุคคลที่น่าอัศจรรย์ พวกเขาจะกลายเป็นบุคคลสำคัญที่สุดในอาณาจักรเมื่อเวลาผ่านไป”

 

ฝูงชนแสดงความคิดเห็นต่างๆนาๆ ทำให้ศิษย์ของลานศักดิ์สิทธิ์แห่งหิมะจันทรามีการแสดงออกที่หยิ่งยโสและภาคภูมิใจ เมื่อพวกเขาได้ฟังความคิดเห็นต่างๆ

 

ทำให้ศิษย์จากลานศักดิ์สิทธิ์แห่งหิมะจันทรารู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก

 

หน้าตาที่งดงามของหลินเชียนแสดงให้เห็นถึงความเย่อหยิ่งอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าอนาคตของนาง นางจะกลับบ้านพร้อมกับสวมเสื้อผ้าอันหรูหราและแสดงให้ทุกคนได้เห็นถึงเกียรติของนาง หลังจากที่นางออกจากเมืองหยางโจว

 

มู่ฟานกำลังเดินตรงไปที่ประตูกรงเพื่อเข้าไปข้างใน แต่จู่ๆก็มีร่างเงามาปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขา

 

ศิษย์ของลานศักดิ์สิทธิ์แห่งหิมะจันทราทุกคนๆจู่ๆก็โกรธที่เห็นชายหนุ่มมาขวางมู่ฟ่านเพื่อเข้าไปต่อสู้กับสิงโต ทำให้มู่ฟ่านโกรธมาก

 

คนผู้นั้นเหลือเพียงอีกก้าวหนึ่งเขาก็จะเข้าไปในกรงแล้ว เมื่อมู่ฟ่านเห็นเขาจึงตะโกนออกไปว่า: “หยุด!”

 

ร่างเงาเบื้องหน้าเขาหยุดลง เขาสวมหน้ากากเงินซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกถึงความหนาวเย็น

 

แน่นอนว่าคนๆนี้คือ หลินเฟิง

 

“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” หลินเฟิงกล่าวอย่างก้าวร้าว น้ำเสียงของมันจะฟังดูแปลกๆเมื่อเขากำลังสวมหน้ากากเงิน

 

“โอ้ เจ้าไม่เห็นรึว่าข้ามาถึงก่อน?” มู่ฟ่านกล่าวอย่างฉุนเฉียว เขาเชื่อว่าไม่มีใครอยู่ด้านหน้าเขาเมื่อเขาเดินไปที่กรง แต่หลินเฟิงมาจากด้านหลังเขาและเดินผ่านเขามา

 

“เจ้ากำลังจะพูดว่าเจ้าต้องการเข้าไปในกรง?” หลินเฟิงถามอย่างเย็นชา

 

ใบหน้าของมู่ฟ่านแสดงออกอย่างโกรธเกรี้ยว เขาไม่เคยพูดให้คนอื่นฟังนอกเหนือจากศิษย์สหายของเขาว่าเขาต้องการต่อสู้กับสิงโต

 

เมื่อหลินเฟิงเห็นมู่ฟ่านไม่ตอบกลับมา เขาจึงพูดต่อว่า: “หากเจ้าไม่ได้ป่าวประกาศว่าจะเป็นคนต่อสู้กับสิงโต เช่นนั้นกฎคือ: คนแรกที่เข้าไปในกรงจะเป็นคนที่ได้ต่อสู้”

 

ประกายแสงผ่านดวงตาของมู่ฟ่านและเขากล่าวว่า: “ศิษย์สหายของข้าเป็นศิษย์จากลานศักดิ์สิทธิ์แห่งหิมะจันทราต้องการให้ข้าต่อสู้กับเจ้าสิงโตนั้นจริงๆ ให้ข้าต่อสู้กับมันมิฉะนั้นข้าจะต้องเสียหน้าต่อหน้าพวกเขา”

 

เมื่อเขากำลังพูด มู่ฟ่านได้พูดคุยว่า “ลานศักดิ์แห่งหิมะจันทรา” เสียงดังฟังชัด เขาพูดคำเหล่านี้เสียงดังและช้าๆเพื่อให้มั่นใจว่าหลินเฟิงจะได้ยินสิ่งที่เขาพูดและเข้าใจความหมายที่เขาพูด

 

หลินเฟิงยิ้มออกมาและกล่าว ลานศักดิ์สิทธิ์หิมะจันทรา?

 

“ขอโทษที ข้าไม่เคยได้ยินลานศักดิ์สิทธิ์แห่งหิมะจันทรามาก่อนและนอกจากนี้ข้าไม่รู้จักเจ้า ดังนั้นข้าจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องสนใจว่าเจ้าจะเสียหน้าหรือไม่” หลินเฟิงกล่าว ในขณะนั้นผู้คนจำนวนมากรู้สึกประหลาดใจ เขาเป็นคนแปลกประหลาดอะไรขนาดนี้! เขาไม่เคยได้ยินชื่อลานศักดิ์สิทธิ์แห่งหิมะจันทรามาก่อน!

 

ศิษย์จากลานศักดิ์สิทธิ์แห่งหิมะจันทราทุกคนต่างลุกขึ้นยืนและจ้องมองหลินเฟิงอย่างโกรธเกรี้ยว ผู้ชายคนนี้มันบ้าไปแล้ว!

 

“อย่าทำอะไรที่เจ้าจะต้องมาเสียใจภายหลัง” มู่ฟ่านกล่าวขณะจ้องมองหลินเฟิงอย่างชั่วร้าย

 

หลินเฟิงหัวเราะและกล่าว: “ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าพูดจริงๆ ข้าไม่รู้จักว่าเจ้าพูดถึงอะไร”

 

จากนั้นหลินเฟิงก็หันหลังกลับไปและกำลังจะเดินเข้าไปในกรง

 

“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน!” ใครบางคนกล่าวอย่างร้อนรนขณะขัดจังหวะการเคลื่อนไหวของหลินเฟิง หลินเฟิงหยุด เขาหันหลังกลับไปและเห็นศิษย์ของลานศักดิ์สิทธิ์แห่งหิมะจันทราอีกคนหนึ่ง เขาเป็นหนึ่งในผู้คนที่ให้มู่ฟ่านเข้าไปต่อสู้กับสิงโต

 

“เจ้าต้องการอะไรอีก?” หลินเฟิงกล่าวขณะยิ้มอย่างเย็นชา

 

ศิษย์ทุกคนล้วนเป็นศิษย์ของลานศักดิ์สิทธิ์แห่งหิมะจันทรา พวกเขาเป็นศิษย์สหายของมู่ฟ่าน หลินเชียนก็เช่นกันนางนั่งอยู่ท่ามกลางพวกเขา

 

“ให้ศิษย์พี่มู่ฟ่านของข้าต่อสู้กับเจ้าสิงโตนี่ซะ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเย็นชาและไม่แยแส

 

เขาสวมใส่เสื้อชที่สวยงามและมีราคาแพง เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนที่มั่งคั่งและมาจากตระกูลที่ทรงพลัง

 

“เจ้าเป็นคนตัดสินว่าใครสามารถต่อสู้ในกรงได้หรือไม่ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” หลินเฟิงถามอย่างเย็นชา

 

“ข้าไม่ได้เป็นคนตัดสินใจ เจ้าสามารถถามผู้ที่รับผิดชอบได้ว่าใครมาก่อน” ชายหนุ่มกล่าวอย่างไม่แยแส น้ำเสียงของเขาค่อนข้างมั่นใจ ทุกคนต่างหันกลับไปมองชายผู้ที่นำสิงโตมาไว้ในกรง

 

ชายคนนั้นชี้ไปที่มู่ฟ่านและกล่าวอย่างไม่แยแสว่า: “เขาเป็นคนที่มาถึงกรงก่อน เขาจะเป็นคนสู้กับสัตว์อสูรตัวนี้”

 

เมื่อเขาได้ยิน ทำให้ปรากฏรอยยิ้มขนาดใหญ่บนใบหน้าของชายหนุ่มผู้ที่เพิ่งช่วยมู่ฟ่าน

 

เมื่อหลินเฟิงเห็นการแสดงออกที่หยิ่งยโสบนใบหน้าของมู่ฟ่าน และศิษย์คนอื่นๆที่มาจากลานศักดิ์สิทธิ์แห่งหิมะจันทรา เขาจึงกล่าวว่า: “เจ้าเป็นคนหนึ่งที่ตัดสินใจที่นี่ ดี ถ้างั้นข้าจะไม่กลับมาที่นี่อีก และข้าอยากจะแนะนำให้ทุกๆคนอย่าได้กลับมาที่นี่อีก ใช้จ่ายหินบริสุทธิ์เพื่อดูผู้แพ้ที่น่าสมเพช”

 

เมื่อชายหนุ่มได้ยินหลินเฟิง เขาขมวดคิ้วและกล่าวว่า: “เจ้าหมายถึงอะไร?”

 

“สิ่งที่ข้าพูดมันยังไม่ชัดเจนอีกรึ? ถ้างั้นข้าจะอธิบายให้เจ้าฟังอีกรอบ” หลินเฟิงกล่าวขณะยิ้มอยู่ภายใต้หน้ากากของเขา: “ข้าเคยได้ยินมาหลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นที่นี่ น่าแปลกนักที่มีใครบางคนที่พ่ายแพ้การต่อสู้ในกรงแต่ถูกช่วยไว้ เจ้าเชื่อมันไหม? ตอนแรกข้าก็ไม่เชื่อข่าวลือพวกนี้แต่ตอนนี้ข้าเห็นว่าเรื่องอื้อฉาวนี้ต้องเป็นเหตุการณ์ปกติที่เกิดขึ้น ลานประลองเชลยไม่ยอมใช้กฏที่พวกเขามี สถานที่แห่งนี้มันช่างน่าขบขันเสียจริง”

 

********************************************************

ติดตามได้ที่ – 

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments