I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Spirit Vessel (灵舟) ตอนที่ 9: สองผีร้าย

| Spirit Vessel (灵舟) | 720 | 2362 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

Spirit Vessel บทที่ 9

แปลไทยโดย : SwordGod

บทที่ 9: สองผีร้าย

ในโรงน้ำชามีความรู้สึกของความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากเตาผิงภายใต้เตา ที่ด้านบนของเตามีหม้อชาที่ต้มเดือดห้าใบที่มีควันขาวออกมาจากด้านบน นี้นำกลิ่นที่รุนแรงของชาตลบอบอวลไปทั่วห้อง

เสี่ยวเยว่เอ๋อ มีรูปร่างเล็กกระทัดรัดดังนั้นนางจึงสูงกว่าเตาเพียงเล็กน้อย สวมผ้ากันเปื้อนขาดๆพับชายแขนเสื้อขึ้นเผยให้เห็นแขนเรียวเล็กดั่งหยก มือที่ละเอียดอ่อนนี้กำลังดูแลลูกค้าด้วยการชงชา

เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ขยันขันแข็ง หน้าผากของนางเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อและหน้าตาน่ารักของนางแดงก่ำจากการอยู่ไกล้กับเตาไฟ

“เสี่ยวเยว่เอ๋อ เหมาเจี้ยน สองถ้วยได้รึยัง ? 

ชายชราคนหนึ่งวิ่งเข้าไปหา เสี่ยวเยว่เอ๋อ ขณะที่ทำความสะอาดโต๊ะ

ศีรษะของเขายังคงปกคลุมด้วยผ้าพันแผล อย่างไรก็ตามเนื่องจากนี่เป็นวิถีชีวิตของเขา เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องละเลยความเจ็บปวดและทำงาน

“ได้แล้ว! ได้แล้ว! เหมาเจี้ยนสองถ้วยมาแล้วๆ! “

เสี่ยวเยว่เอ๋อ ถือถ้วยชาเหมาเจี้ยนมาสองใบด้วยมือที่แดงก่ำด้วยความร้อนจากถ้วยชา นางดึงมือน้อยๆของนางขึ้นมาจับที่ใบหูแล้ววิ่งกลับไปทำงานต่อ

“เสี่ยวเยว่ จัดชุดใหญ่ เก็บตังค์ด้วย เฮ้อ นี่ข้าติดหนี้ท่านเท่าไหร่แล้ว? “

บางคนก็หยอกล้อ

“สองเหรียญทองแดง โต็ะที่ติดกันด้วย! ท่านปู่ไปเก็บเงิน! “

แม้ว่า เสี่ยวเยว่เอ๋อ จะทำงานไม่หยุดนิ่ง แต่ทว่านางยังมีรอยยิ้มที่เฉิฉายตลอดเวลา เหมือนอย่างกับว่านางไม่รู้ว่าความเหนื่อยล้าคืออะไร

เฟิงเฟยหยุน ที่แอบมองนาง ยังยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ มันค่อยๆเดินไปที่โรงน้ำชาและนั่งลงที่โต๊ะแล้วมันก็ตะโกนสั่ง

“เจ้เล้ก เสี่ยวเยว่เอ๋อ ขอชาถ้วยนึง!”

“จ้า ช่าหนึ่งถ้วยนะ … “

เสียงของ เสี่ยวเยว่เอ๋อ หยุดกึกลง แล้วรีบหันควับกลับมาที่โต๊ะแล้วเห็น เฟิงเฟยหยุน นั่งลงที่โต๊ะ ช่วยไม่ได้ที่มือนางได้แต่สั่นพับๆจนกาในมือของนางร่วงลงพื้นแตกกระจาย

ทำไมคนชั่วคนนี้ถึงมาที่นี่อีก?

ส่วนที่เหลือภายในร้าน จ้อง เฟิงเฟยหยุน ดั่งกับเทพแห่ภัยภิบัติ

“โอ้ฟ้าสวรรค์! นี่เพิ่งจะเงียบไปได้แค่สามวัน คุณชายเฟิงจะทำชั่วอีกแล้ว! “

“วิ่งเร็ววิ่ง!”

ทุกคนกลัวมาก พวกเขาไม่สนใจชาของพวกเขาอีกต่อไปทุกคนในร้านโกยแนบ โรงน้ำชาที่มีชีวิตชีวา บัดนี้ กลับกลายเป็นรกร้างแล้ว

เหลือแค่เพียง ตาเฒ่าหลัว กับ เสี่ยวเยว่เอ๋อ เท่านั้นที่กำลังเหลือบตามองอย่างหวาดผวา

“อ้าว แม่คุณ! ทำไมเจ้าต้องกลัวด้วยเล่า? รีบๆไปเอาชามาให้นายน้อยสิ เจ้าคิดว่าข้าจะมาทำลายร้านค้า โทรมๆแบบนี้ได้อีกหรอ? “

เฟิงผิง ที่อยู่ด้านหลัง เฟิงเฟยหยุน พูดออกมาโผงผางด้วยใบหน้าที่กราดเกรี้ยวของมัน เฟิงอัน ดึงแขนเสื้อขึ้นราวกับว่ามันกำลังจะเข้าไปซัดกับใคร

เสี่ยวหนิงเอ่อเลียริมฝีปากที่แห้งมานานกระพริบตาปริบๆอ้อนวอนเหมือนลูกสุนัข

“คุณชายเฟิง ได้โปรดข้าขอร้องละ อย่างทำลายโรงน้ำชานี้เลยน่ะ นี่คือทั้งชีวิตของพวกเรา หากไม่มีมันพวกเราคงต้องตายเพราะความหิว “

เฟิงเฟยหยุน จ้องมองไปที่นางที่กำลังอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร ภายในใจของมันกำลังรู้สึกขบขันยิ่งนัก

“ข้าอยากจะดื่มชาฝีมือเจ้า ถ้าเจ้าทำมาให้ข้า ข้าจะให้เจ้าหนึ่งเหรียญทอง เจ้าต้องการทำการค้านี้หรือเปล่า “

“หนึ่งเหรียญทองต่อถ้วย?”

เสี่ยวเยว่เอ๋อ ตาแทบถล่นออกจากเบ้าด้วยความที่ไม่เชื่อคำพูดของ เฟิงเฟยหยุน เหรียญทองหนึ่งเหริยญสำหรับเศษฐีแล้วมันเป็นแค่ของเล่นแต่สำหรับนางแล้วมันพอประทั้งชีวิตพวกนางได้ตลอดทั้งปีเลยทีเดียว

เฟิงเฟยหยุน วาดรอยยิ้มไว้บนใบหน้าอันหล่อเหลาของมันมือข้างหนึ่งมันคว้าลงไปในกระเป๋าหยิบเหรียญที่มีน้ำหนักประมาณหนึ่งหรือสองจิน

“ปัง!”

มันโยนเหรียญลงบนโต๊ะและบอกว่า

“ตราบใดที่ตัวเจ้าเป็นคนชงมันมันจะเป็นของเจ้าหนึ่งถ้วยต่อหนึ่งเหริญ”

เสี่ยวเยว่เอ๋อ นางไม่เข้าใจ เฟิงเฟยหยุน คนๆนี้ตั้งใจจะทำอะไร?

สุดท้ายสายตาของนางก็หยุดอยู่ตรงที่โต๊ะพร้อมกับเอ่ยว่า

“ท่านไม่อาจที่จะกลับคำพูด! แล้ว…แล้วท่านก็ห้ามรังแกข้ากับท่านปู่! “

“หากเจ้ากล้าที่จะตั้งเงื่อนไขอีก เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าตอนนี้ข้า จะรังแกเจ้า?”

เฟิงเฟยหยุน หัวเราะแฮะๆถูมือของมันเบาเพื่อทำให้เด็กน้อยตกใจ

ตาเฒ่าหลัว กลัวว่า เสี่ยวเยว่เอ๋อ จะทำให้ เฟิงเฟยหยุน โมโห เขาจึงพูดแทรกขึ้นมา

“เสี่ยวเยว่เอ๋อ เจ้าจะทำให้คุณชายเฟิงขุ่นเคืองทำไม? ไปๆๆไปเอาชามาสิ! “

เสี่ยวเยว่เอ๋อ ตกใจมาก ภายในใจของนางยังจำภาพติดตาในคืนนั้น นางนึกขึ้นได้ว่ามือของนางยังรู้สึกเจ็บจากการข่วนอยู่เลย ช่วยไม่ได้ท่นางยังรู้สึกร้อนๆหนาวๆที่หน้าอกของนาง ขณะที่นางเดินไปที่เตาอย่างเงียบๆ ตาเฒ่าหลัว เดินผ่านไป ขอขมา เฟิงเฟยหยุน ไม่หยุดหย่อน

เฟิงเฟยหยุน ไม่ได้โกรธนางจริงๆแค่มันแกล้งหยอกเย้าเล่นเฉย นี่อาจจะเป็น อิทธิพล ของเฟิงเฟยหยุน คนเก่า

“ตาเฒ่าหลัว เมื่อไหร่แกจะจ่ายเงินของเดือนนี้?”

นอกโรงน้ำชามีเสียอันเย็นชาโหวกแหวกขึ้น

เฟิงเฟยหยุน นั่งอยู่ที่โต๊ะ มันเหลือบไปเห็นชายฉกรรน์ห้าหรือหกคนด้านนอกโรงน้ำชา พวกเขาทั้งหมดคาดเข็มขัดสีดำแดงสายตาเหมือนเหยี่ยวชั่วร้าย

มีชายคนหนึ่งที่มีรูปร่างใหญ่โตและมีผิวสีแทนมีแต่มัดกล้าม มันเหมือนกับว่าคนๆนี้เต็มไปด้วยพลังที่พร้อมจะระเบิดได้ มันรู้สึกได้ว่าหมัดของคนๆนี้สามารถระเบิดหัวคนได้

นี่คือกลุ่มอันธพาลในเมืองจวงถ่ายเซิ่นจิง และหัวหน้าของมันชื่อว่า อู๋

ในมือของเขามีโซ่หนาราวๆแขนและยาวประมาณสองเมตร ปลายโซ่ถูกห่อรอบหัวสิงโตที่ดุร้าย ร่างสิงโตที่ดุร้ายใหญ่โตเหมือนช้างและมันดูราวกับว่ามันมีอำนาจที่น่าพิศวง

ขาของมันมีขนาดใหญ่เท่าเสาและดวงตาทั้งสองของมันก็แดงเหมือนเปลวเพลิง หนึ่งการโจมตีของมันเพียงพอที่จะโค่นล้มผนังหนาห้าเมตร

นี่คือ สิงโตทองคำนัยน์ตาแดง หัวหน้า อู๋ ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อซื้อมันจาก “ค่ายเจ้าสัตว์อสูร” สัตว์อสูรยักษ์ แค่ตัวเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะครองเมืองจวงถ่ายเซิ่นจิง เถ้าแก่ร้านทั้งหมดต้องจ่ายค่าคุ้มครองพวกเขา

“โฮกก!”

สิงโตทองคำนัยน์ตาแดง โก่งหลังคำรามออกมา เสียงของมันดังสะท้อนไปทั่วครึ่งหนึ่งของ เมืองจวงถ่ายเซิ่นจิง แม้แต่พื้นก็สั่นสะเทือนเล็กน้อยและถ้วยชาในร้านก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ

เมื่อได้ยินเสียงคำรามของสัตว์อสูรทุกคนรู้ว่า หัวหน้าอู๋ มาถึงแล้ว ทั้งสองข้างถนนไร้ผู้คนสัญจรแต่กระนั้นยังมีคนที่อยากรู้ความวุ่นวายรอบๆไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่หัวหน้าอู๋จะมาเก็บค่าคุ้มครองด้วยตัวเอง

ตาเฒ่าหลัว คร่ำครวญถึงชตากรรมของมัน ทำไมวันนี้สองวายร้ายต้องมาที่นี่วันนี้ด้วย? มันช่างซวยสุดๆ!

ตาเม่าาหลัว รีบวิ่งไปหลังร้านหยิบเหรียญในกระเป๋าเสื้อของมันออกมา  มันยิ้ม

“มันได้เตรียมเอาไว้แล้ว! สามร้อยเหรียญทองแดงไม่ขาดไม่เกิน! ทั้งหมดอยู่ในนี้แล้วข้าไม่เหลือเลย! “

ตาเฒ่าหลัว เหลือบตามองไปยังสัตว์อสูรอย่างช่วยไม่ได้ มันรู้สึกตัวสั่นสะท้านไปทั่วร่างกาย ปากของมันมันใหญ่พอๆที่จะบดขยี้ร่างของคนๆหนึ่งได้เลย มันทำให้จิตวิญญาณเขาตก จนต้องผงะถอยไปสองสามก้าว

หัวหน้าอู๋ หยิบกระเป๋าและโยนเงินเหรียญลงในถุงพื้นที่ มันได้สร้างความสับสนวุ่นวายขึ้นแล้ว

“มีแค่นี้หรอ? ตาเฒ่าหลัว เจ้ากล้ามากที่จ่ายเงินข้ามาแค่นี้ แกคิดว่าข้าเป็นขอทานรึงัยห๊ะ? “

หัวหน้าอู๋ แผดเสียงลั่น

 

ชายชราเม็ดเหงื่อกแตกพลักเต็มหน้าผากพูดออกมาอย่างไวว่า

เดือนที่แล้วสามร้อยเหริญ ข้าไม่ได้ตกหล่นแม้แต่เหริญเดียวเลย “

หัวหน้าอู๋ ยิ้มและพูดว่า

“อาทิตย์นี้เปนวันเกิดของ ซานเย่ ทุกหลังคาต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 500 เหรียญเป็นของขวัญ ตาเฒ่าหลัว หากเจ้ายังมีน้ำใจละก็ เจ้าน่าจะเข้าใจแล้วจ่ายเพิ่มมาซ่ะดีๆนะ แล้วชีวิตของเจ้าจะสุขสบาย “

เฒ่าหลัว ประกอบกิจการร้านชาเล็กๆในแต่ละเดินมีรายได้แค่ 1000 เหริยญทองแดงเท่านั้น จ่าย 300 ให้กับหัวหน้า อู๋ ที่เหลือนั้นแทบจะไม่พอด้วยซ้ำ

แต่ว่า มันยังต้องการเหริญเพิ่มพิเศษสำหรับเดือนนี้อีก500? แล้วพวกเขาจะอยู่รอดได้ยังไงกัน?

เฟิงเฟยหยุน ดีดกระบี่หนักของมัน เก๊งๆ บนโต๊ะเบาๆแล้วพูดว่า

“ไอ้สัมภเวษี ซานเย่ นี่มันเป็นใครกัน? มันยิ่งใหญ่ถึงขนาดที่ว่า วันเกิดของมันทุกบ้านต้องจ่ายเงินให้ด้วยหรอ? “

เฟิงผิงตอบ

ซานเย่ มันเป็นคนลึกลับ มันเป็นนักเลอันดับหนึ่งในเมืองจวงถ่ายเซิ่นจิง แล้วมันยังเชี่ยวชาญด้าน ตลาดมืด ค้าทาส ซ่อง บ่อน และกลุ่มมือสังหาร หลายๆคนจึงกลัวมัน “

“คนในเมืองมักพุดกันว่า” หากนายน้อยเฟิงโมโห ภรรยาและลูกสาวจะหายสาบสูญ หากซานเย่โมโห บ้านทั้งหลังจะแตกสลายยับเยิน “

เฟิงอัน เสริม

นายน้อยเฟิง และ ซานเย่ เป็นกลุ่มสองผีร้ายในเมืองจงถ่ายเซิ่นจิง หนึ่งปราถนาผู้หญิงอีกคนปราถณาชีวิต

เฟิงเฟยหยุน ประหลาดใจ ไม่ไม่รู้มาก่อนเลยว่ามันจะโด่งดังขนาดนี้!

สองผีร้าย? น่าสนใจมาก!

เฟิงผิงยังพุดต่อ

“ไอ้เจ้า หัวหน้าอู๋ นี่มันเป็นมือขวาของซานเย่ มันเป็นหัวหน้าแก๊ง กงเล็บอินทรีย์ มีลุกน้องอยู่ประมาณพันกว่าคน ไม่มีอะไรที่มันทำไม่ได้ “

“มันไม่เหมือนกับข้าหรอ?”

เฟิงเฟยหยุน พูด

ไม่ๆมันเทียบกันกับนายน้อยไม่ได้ อย่างน้อเวลาท่านสนุกกับสาวๆท่านยังพอมีเมตตา แต่ไอ้นี่มันมันไม่ได้เล่นคนเดียวแต่มันเล่นกันทั้งกลุ่มจนกว่าผู้หญิงจะตาย “

เฟิงผิง ตอบ ตอบ

เฟิงเฟยหยุน คิดว่ามันเลวแล้วนะ แต่ถ้าเปรียบกับไอ้หัวหน้าอู๋นี่มันดูเหมือนว่าตัวมันนี่เป็นนักบุญไปเลย

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments