I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Spirit Vessel (灵舟) ตอนที่ 11: เมล็ดพันธ์วิญญาณโลหิต

| Spirit Vessel (灵舟) | 648 | 2338 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
Spirit Vessel บทที่ 11
แปลไทยโดย : SwordGod

บทที่ 11: เมล็ดพันธ์วิญญาณโลหิต

ในสวนที่ตั้งอยู่ภายใน เมืองจวงถ่ายเซิ่นจิง
หัวหน้าอู๋ คุกเข่าลงบนพื้นหันหน้าไปทางชายชราคนหนึ่งในขณะที่บ่นว่า
“ซานเย่ เฟิงเฟยหยุน มันเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้มันมีพลังมากมายนัก ข้าไม่ใช่คู่มือของมัน “
ชายชรามีรูปร่างผอมและสวมเสื้อคลุมสีดำ แก้มซ้ายของเขามีรอยแผลเป็นที่ไม่อาจระบุได้มันเป็นสัญญาณของการฝ่อของกล้ามเนื้อผิวหนังของมนุษย์ มันไม่อาจบ่งบอกใบหน้าเคล้าหน้าเดิมได้
ผมบนศีรษะของเขานั้นเป็นสีเทาแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะอายุประมาณหกสิบปี แต่ หัวหน้าอู๋ รู้ว่าอายุที่แท้จริงของซานเย่ได้เกินหนึ่งร้อยปีแล้ว ความแข็งแกร่งของเขายากจนหยั่งถึง มันเคยเห็น ซานเย่ ใช้นิ้วเพียงนิ้วเดียว สังหาร นายพลเกราะหนักมาแล้ว วิชาที่เขาใช้นั้นช่างลึกล้ำและน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
ซานเย่ ยิ้มด้วยใบหน้าที่เย้ยหยันแล้วพูดว่า
“มันยังบอกว่ามันต้องการพบข้าในวันเกิดด้วยใช่มั้ย?”
“ซานเย่ ท่านรู้ด้วยหรอ?”
หัวหน้าอู๋ ประหลาดใจที่ได้ยิน
ซานเย่ พูดว่า
“ในเมืองจวงถ่ายเซิ่นจิง ในทุกๆสถานที่นี้ล้วนหน้าต่างมีหูประตูมีปาก เจ้าก็ลุกขึ้นได้แล้ว! เฟิงเฟยหยุนมันแปลกจริงๆ ดูเหมือนว่ามันจะได้รับการฝึกฝน บางทีเฟิงว่านเผิง อาจจะสอน ‘วิถีแห่งความแข็งแกร่ง’? “
ดวงตาเก่าแก่ของเขาเต็มไปด้วยแสงสว่างลึกราวกับว่าเขากำลังใคร่ครวญถึงบางสิ่งบางอย่าง
หัวหน้าอู๋ ยืนขึ้นจากพื้นและพูดอย่างโง่เขลาว่า
“หาก ท่านซานเย่ ลงมือท่านแค่ใช้เพียงแค่นิ้วเดียวก็สามารถดีดเจ้าเฟิงเฟยหยุนลงหลุมได้แล้ว”
ซานเย่ จ้องเขม็งมันอย่างน่าหวาดผวา ภายในใจของ หัวหน้าอู๋ เต้นระรัวเหงื่อกแตกซิก เหงื่อแตกพลั่งพลูไหลรินลงกลางหน้าผากมันยังสงสัยว่ามันพูดอะไรผิดไปรึไม่
ซานเย่ หันกลับไปมองมันอย่างเย็นชา
“เมื่อสามปีก่อน เฟิงว่านเผิง ฝึกวิชา วิถีวายุโหม ถึงขั้นที่ 5 และบรรลุ รากฐานอมตะ รับกลาง สำหรับรุ่นที่สี่ของ ตระกูลเฟิง ถือว่าโดเด่นที่สุดแม้ว่าข้าจะลงมือเอง แต่ก็ไม่รับประกันว่าจะทำได้สำเร็จ ไม่ต้องพูดถึง ตาแก่ ที่อยู่ข้างกายมัน หากสู้กับทั้งสองคนนั่น ข้าไม่มีพลังพอที่จะป้องกันตัวเองได้ “
“หากว่าเราย้ายไปอยู่ ฝั่งใดฝั่งนึง มันจะเป็นการรบกวนสับสนวุ่นวายไปเปล่าๆ มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรสำหรับข้า นำข่าวนี้ ไปแจ้ง เฟิงสุ่ยหยู ข้าเชื่อว่าเขาน่าจะมีวิธีดีๆกำจัดเฟิงเฟยหยุน ปล่อยให้ตระกูลเฟิงมันกัดกันเอง ไม่มีอะไรที่จะยอดเยี่ยมไปยิ่งกว่านี้อีกแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! “
” แผนการของมันช่างเจ้าเล่ห์จริงๆ แต่อยู่ต่อหน้าข้าแล้วมันก็แค่ไก่อ่อน “
ซานเย่ เผยรอยยิ้มที่เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
***
ก่อนที่ เสี่ยวเยว่เอ๋อ จะฟื้นขึ้นมา เฟิงเฟยหยุนก็ได้ออกจากโรงน้ำชาไปแล้ว
เมื่อ เฟิงเฟยหยุน กลับมาที่คฤหาสน์ผู้ว่าการดวงอาทิตย์ก็ตกเรียบร้อยแล้ว
ก่อนที่มันจะกลับบ้าน มันแวะไปที่ ตึกหยินโกว และใช้เหรียญทองพันเหรียญเพื่อซื้อ “เมล็ดพันธ์วิญญาณโลหิต” นี่คือพืชวิญญาณที่เติบโตขึ้นท่ามกลางลาวา เมื่อคนทั่วไปบริโภคมันการไหลเวียนของเลือดจะเร็วขึ้นและหัวใจจะเต้นถี่จนร่างกายระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
หากเป็นผู้บ่มเพาะระดับล่างใช้มันอย่างฉับพลัน มันก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะทำให้เส้นชีพจรแตกร้าวและตันเถียรแตกสลายได้
หากใครที่ยังไม่ถึงขั้น รากฐานอมตะ การปลูกฝังนี้ จะเป็นเหมือนพิษที่บริสุทธิ์ แต่สำหรับ ผู้บ่มเพาะ รากฐานอมตะ นี่คือขุมทรัพย์จิตวิญญาณในการปรับแต่งร่างกาย
โดยปกติแล้ว เฟิงเฟยหยุน ยังไม่ได้เข้าสู่ ขั้น รากฐานอมตะ ตอนนี้มัน อยู่ขั้น เขตแดนวิญญาณก่อตั้ง เท่านั้น ตามกฎปกติหากมันกิน เมล็ดพันธ์วิญญาณโลหิต หากไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัส
แต่ทว่าส่วนใหญ่แล้วมันบ่มเพาะพลังกายด้วยวิถี กายวิหคเพลิงอมตะ เมล็ดพันธ์วิญญาณโลหิต จึงไม่อาจหมุนเวียนได้เร็วนัก เมื่อการไหลเวียนของโลหิตเบาบางลงก็จะเหมือนกับว่าเป็นกระบวนการกรองเลือดของเฟิงเฟยหยุนแทนที่จะทำให้เกิดอันตราย การไหลเวียนเร็วขึ้นการปฏิบัติก็จะเร็วขึ้น
เฟิงเฟยหยุน เปิดกล่องหยกสีดำ ด้านในประกอบด้วยชิ้นน้ำแข็งที่มีเมล็ดสีแดงอยู่ตรงกลางพร้อมด้วยใบเล็กใหญ่เท่ากับสองนิ้ว มันเป็นผลึกใสและโปร่งใสเหมือนแกะสลักเลือดด้วยหยก
นี่คือเมล็ดพันธุ์วิญญาณโลหิต!
แต่เม็ดเลือดวิญญาณดลหิตนี้ไม่ถึงระดับของสหญ้าวิญาณ อย่งมากก็เทียบได้กับหญ้าปกติที่มีประสิทธิภาพที่แข็งแกร่ง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงมีมูลค่าเพียงหนึ่งพันเหรียญทองเท่านั้น ถ้ามันเป็นหญ้าวิญญาณที่แท้จริงแล้วราคาต่ำสุดจะเป็นหนึ่งแสนเหรียญทองมันเป็นสมบัติล้ำค่า
หญ้าวิญญาณเหมือนชื่อที่กล่าวมา มันมีสติเป็นเอกลักษณ์ มันได้ผลิตภูมิปัญญาของตัวเองและสามารถหนีไปได้ หญ้าวิญญาณชั้นยอดไม่กี่ต้นอาจกลายเป็นมนุษย์ได้และเริ่มเข้าสู่เส้นทางการบ่มเพาะ
“หัวหน้าอู๋ มันเป็นเพียงสมุนชั้นปลายแถว เป็นไปได้ว่า จะต้องมีนักบ่มเพาะบางคนคอยเป็นเงาส่งเสริมมันอยู่เบื้องหลัง หวังว่า เมล็ดพันธ์วิญญาณโลหิต นี่จะสามารถทำให้ข้าบรรลุไปยังก้าวต่อไปได้นะ “
วิญญาณของเฟิงเฟยหยุนนั้นกำลังเติบโตขึ้น วันนี้เมื่อมันสู้กับ หัวหน้าอู๋ มันรู้สึกว่าในเมืองจวงถ่ายเซิ่นจิง มีใครบางคนที่คอยสอดแนมมัน การบ่มเพาะของคนคนนี้สูงมากและจิตวิญญาณของมันก็มีเจตนาร้ายไม่เป็นมิตร
ถึงแม้การบ่มเพาะของเขาจะสูงกว่า เฟิงเฟยหยุน ก็ตามก็ตาม เฟิงเฟยหยุน ยังสามารถตรวจจับการสอดแนมทางจิตวิญญาณได้
เจ้าของจิตวิญญาณนั้นไม่ได้เคลื่อนไหว เขารีบถอยกลับไปในช่วงสุดท้ายของการต่อสู้
นี่เป็นเหตุผลที่ เฟิงเฟยหยุน ต้องเร่งเร้าพัฒนาตัวเองให้เร็วที่สุด เพราะคนๆนั้นไม่ได้มีเจตนาที่เป็นมิตรเลย ไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องพุ่งเป้ามาที่มันแน่ เฟิงเฟยหยุน ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเสี่ยงกับ เมล็ดพันธ์วิญญาณโลหิต เท่านั้นและหวังว่ามันจะช่วยเพิ่มการบ่มเพาะของมันให้รุดหน้า
ตราบใดที่มีพลังเพียงพอมันก็จะไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น
“แรงกดดันของ เมล็ดพันธ์วิญญาณโลหิต มันอาจจะมีมากกว่าหญ้าวิญญาณตอนนี้ข้าอาจจะไม่สารถมารถรองรับพลังของมันได้ข้าต้องการความช่วยเหลือจากภายนอก “
เฟิงเฟยหยุน ปิดกล่องสีดำและเปิดประตูเพื่อเดินออกไปข้างนอก ท้องฟ้ามืดสนิทและคืนนี้ก็หนาวพอๆกับน้ำเย็น
โคมไฟของคฤหาสน์สว่างขึ้นเหนือโคมไฟระย้า เสียงหัวเราะของผู้หญิงหลายคนอาจจะได้ยินในห้องนอนที่ห่างไกล มันเป็นเรือนนอนของแม่บ้าน
เมื่อก่อน เฟิงเฟยหยุน มักจะไปที่นั่น ตราบเท่าที่แม่บ้านมีความงามเพียงเล็กน้อยนางจะถูก ทำให้มัวหมอง แต่นับตั้งแต่ดวงวิญญาณของเขาถูกรวมกับคนอื่น ๆ เฟิงเฟยหยุน มันไม่ได้ไปที่นั่นอีกต่อไป
บางครั้งบางเวลา
เศษซากยังสามารถกลายเป็นคนที่ดี!
นับวันยิ่งผ่านพ้นไปภายในใจของ เฟิงเฟยหยุนยิ่งสับสนปนเปกันไปหมดและไม่สามารถอธิบายได้ แต่มันไม่ได้หยุดที่นี่ มันเดินผ่านสวนไปตามก้อนกรวดสีขาวไปจนถึงบ่อที่ตกแต่งด้วยภูเขาเทียม
มันยืนขึ้นที่ริมน้ำและมองไปที่พื้นน้ำเป็นประกาย เฟิงเฟยหยุน เปิดกล่องสีดำอีกครั้ง เมล็ดพันธ์วิญญาณโลหิต คล้ายกับเปลวไฟขนาดเล็ก เปล่งปลั่งในคืนที่มืดสนิทด้วยการสัมผัสสีแดง
“ด้วยอุณหภูมิที่เย็นและความดันของน้ำที่อยู่ด้านบนสุดเป็นลักษณะพิเศษของ กายวิหคเพลิงอมตะ ข้าน่าจะสามารถต้านทานความสามารถของ เมล็ดพันธ์วิญญาณโลหิต ได้”
เฟิงเฟยหยุน กิน เมล็ดพันธ์วิญญาณโลหิต เข้าไปทันทีแล้วกระโดดลงไปในน้ำเย็นในบ่อที่มืดทั้งตัว
“ซึ่ม!”
เมื่อหยาดน้ำกระซ่านเซ็นขึ้นไปในอากาศ ตัวมันก็ดำดิ่งลึกลงไปประมาณ เจ็ดถึงแปดเมตร มันนั่งลงบ่มเพาะก่อให้เกิดบนพื้นดินโคลนที่ด้านล่างของบ่อ
เฟิงเฟยหยุน มีวิชาการหายใจพิเศษ ซึ่งอาจทำให้มันอยู่ในก้นบ่อนำ้ได้ทั้งวันโดยไม่หายใจ
หลังจากกลืนเมล็ดพันธ์วิญญาณโลหิตมันก็รู้สึกเหมือนมันกลืนกินเปลวไฟ มันเปิเส้นชีพจรหมุนเวียนเส้นโลหิตทั่วร่างกายของมันเกิดเสียงดัง เปรี๊ยะๆ หลาครั้ง
การไหลเวียนของกระแสเลือดของมันเริ่มหมุนวนเร็วขึ้นเช่นเดียวกับอุณภูมิร่างของของมันมีเส้นใยเล็กๆจำนวนมากที่ไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือดของมัน
เฟิงเฟยหยุน เริ่มสวดคาถาไหลไปตามครรลอง กายวิหคเพลิงอมตะ มันได้ปลูกฝังในระดับแรกของการกลั่นโลหิต เลือดของมันบริสุทธิ์อยู่แล้วและมีสีแดงเข้ม ระดับที่สองเมื่อเทียบกับอันดับแรกนั้นยากกว่าสิบเท่า
อย่างไรก็ตามเมื่อการบ่มเพาะประสบความสำเร็จคุณภาพของเลือดก็จะดีขึ้นอย่างมาก ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะทำให้โลกตกตะลึง
การเปลี่ยนเลือดสีแดงเข้มเข้าไปในเลือดดำจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในคุณภาพของเลือดและจากนั้นพลังงานจิตของมันภายในร่างกายก็จะเปลี่ยนไปด้วย
อะหนึ่งจะพูดได้ว่าถ้า เฟิงเฟยหยุน ประสบความสำเร็จในขั้นตอนที่สองของ กลั่นโลหิต มันจะก้าวข้าม ระดับกลางเขตแดนวิญญาณ ตรงไปยังจุดสูงสุดของ เขตแดนวิญญาณ หรือในขั้นสูงกว่า
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้จะได้รับความช่วยเหลือจาก เมล็ดพันธ์วิญญาณโลหิต แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุระดับสอง กลั่นโลหิต ในช่วงข้ามคืน
“ตูม!”
ทันใดนั้นสิ่งที่อยู่นอกความคาดหมายของ เฟิงเฟยหยุน ก็เกิดขึ้น การไหลเวียนของโลหิตในร่างกายของมันก็กลับตาลปัตรไปอย่างรวดเร็วและสถานที่แห่งการรวบรวมเลือดไม่ได้เป็นหัวใจของมัน แต่อยู่ที่มือขวาของมัน
“เกิดอะไรขึ้น?”
เฟิงเฟยหยุน รู้สึกประหลาดใจ
กระแสเลือดไหลย้อนกลับ อันตรายมากยิ่งกว่า ชีพจรไหลย้อนกลับ เสียอีก
ภาพเงาของ นาวาวิญญาณ ในมือขวาของเฟิงเฟยหยุนเริ่มเปล่งแสงกระพริบปริบๆราวกับว่ามันกำลังจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
เรือที่ได้เดินทางผ่านข้ามช่องว่างมิติเวลาได้ ได้รับการจัดอันดับให้อยู่เหนือ 18 ตำนานสมบัติศักดิ์สิทธิ์ล้ำค่า เฟิงเฟยหยุน ไม่สามารถปลุกมันขึ้นมาได้ด้วยพลังวิญญาณของมันแต่ด้วการกระตุ้นเลือดของมันกลับมีปฏิกิริยาก็เกิดขึ้น!
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments