ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปSpirit Vessel บทที่ 18
แปลไทยโดย : SwordGod
บทที่ 18: เสียงเพลงที่บีบหัวใจ
เฟิงเฟยหยุน เดินเข้าไปในสถานที่ๆเป็นตำนานและอันตรายที่สุดในเมืองจวงถ่ายเซิ่นจิงอย่างช้าๆ คฤหาสห์อินทรีโลหิต
รถลากคันใหญ่28คันถุกนำไปโดยหัวหน้าอู๋ที่ลานหลังคฤหาสห์
คนรับใช้หนึ่งร้อยสามสิบหกคนที่ถูกจับได้ถูกมัดติดอยู่กับเสาและพวกเขาก็สูญเสียความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่
เฟิงเฟยหยุน มองไปที่เหล่าตนรับใช้ที่โดนมัดไว้เหล่านั้น ซายเย่ ผู้ที่นั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ มีข่าวลือว่า ซานเย่ อายุนับร้อยปี มันเป็นปีศาจเฒ่าที่ไม่มีวันตาย
ซานเย่ นั่งอยู่บนเก้าอี้ใหญ่สบายๆที่ทำจากงาช้าง ลมพัดผ้าคลุมสีดำของมันปลิวไหวๆอยู่บนร่าง มีรอยแผลเป็นซีดๆที่แก้มซ้ายของมันและทำให้มันดูเหมือนผีในเวลากลางคืนน่ากลัวมาก
ใครคนหนึ่ง ต้องจ่ายด้วยราคาที่สูงมากเพื่อฝึกฝน จักรษุมารบูรณะสวรรค์!
ทำไมมันต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่ดูไม่เหมือนมนุษย์หรือผี? ทำไมมันต้องการทรมานเช่นนี้?
“วันนี้น่าจะเป็นวันมงคล ครบรอบวาระของ ท่านซานเย่ และนี่เป็นวิธีการรับแขกของท่านงั้นหรือ? “
“ฮ่า ฮ่า! ไปนำน้ำชามาให้คุณชายเฟิง เร็วเข้า! “
ราวกับว่าซานเย่ไม่ได้สังเกตเห็นความหมายที่อยู่เบื้องหลังคำพูดของ เฟยหยุน มันยังสวมรอยยิ้มไว้บนหน้ามันค่อยไลูบไล้แหวนสีดำที่หัวแม่มือของมัน แหวนประดับสีดำส่องประกายรัศมีมีสีดำ บนตัวแหวนมีอักขระรูนโบราณเล็กๆที่ดูเหมือนปั้นเป็นหน้า7หน้าส่งกลิ่นอายลึกลับ
ซานเย่ได้ขโมยแหวนประดับสีดำชิ้นนี้มาจากอารามเซิ่นหลัว มันเป็นสมบัติล้ำค่าของจิตวิญญาณและแข็งมาก แม้แต่ดาบที่แหลมคมก็ไม่สามารถทิ้งรอยไว้ได้ แม้ว่าจะใส่มันลงในไฟวิญญาณพยายามที่จะหลอมมันรูปร่างมันก็ไม่มมีอะไรเปลี่ยนแปลง
เมื่อหกสิบปีก่อนเนื่องจากการขโมยแหวนวิญญาณไร้ขอบเขต ซานเย่ ต้องหนีหัวซุกหัวซุนจากอารามเซิ่นหลัวมายังเมืองจวงถ่ายเซิ่นจิงซึ่งห่างออกมานับพันลี้
อย่างไรก็ตามหลังจากที่มันได้ขโมยแหวนวิญญาณไร้ขอบเขตเสร็จแล้วมันก็เต็มไปด้วยความเสียใจ แหวนวิญญาณไร้ขอบเขตซึ่งอยู่นอกอำนาจของมันซึ่งมีค่ามากกว่าขุมทรัพย์เวทมนต์ปกติหลายเท่าไม่มีการทำงานใดๆ มันสามารถถือได้ว่าเป็นสมบัติเสมือนจิตวิญญาณเท่านั้น
เพียงเพราะมันมีสมบัติกึ่งจิตวิญญาณมันต้องหลบซ่อนจากผู้เชี่ยวชาญของอารามเซิ่นหลัว เป็นเวลาหกสิบปี มันไม่ได้คุ้มค่า
“แหวนวิญญาณไร้ขอบเขต เป็นสมบัติลับสุดยอดจากอารามเซิ่นหลัว ข้าเคยได้ยินจากผู้อาวุโสเซิ่นหลัวว่าต้นกำเนิดของมันนั้นลึกลับมาก มันถูกขุดขึ้นมาจากสถานที่ฝังศพโบราณที่เต็มไปด้วยอันตรายมากมายเหลือคณานับ มันไม่ได้เป็นเพียงแค่สมบัติล้ำค่าจิตวิญญาณ มันต้องมีความสามารถที่ซ่อนอยู่ที่ข้าก็ยังนึกไม่ถึง “
ตาของ เฟิงเฟยหยุน สังเกตเห็นนิ้วหัวแม่มือของ ซานเย่ บนแหวนสีดำและคิดว่าน่าจะเป็นสมบัติล้ำค่าที่อยู่ในมือของซานเย่
สมบัติล้ำค่าจิตวิญญาณมีพลังมากต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เฟิงเฟยหยุน สงสัยว่ายอดฝีมือ ตึกหยินโกว มาถึงแล้วหรือยัง?
เฟิงเฟยหยุน ทำตัวนิ่งๆและไม่แยแส แต่มันก็เริ่มกังวลใจ หากยอดฝีมือของตึกหยินโกวไม่ปรากฏแผนกลยุทธของมันจะไม่สมบูรณ์และสูญเปล่า
ในการเผชิญหน้ากับ ซานเย่ แค่พ่อบ้านหลิว ยังไม่พอ
วันนี้เป็นวันเกิดของ ซานเย่ คนระดับล่าง แห่งเมืองจวงถ่ายเซิ่นจิง ควรมาอวยพร แม้ขณะนี้ม่านกลางคืนถูกดึงลงมาอย่างช้า แต่หาได้มีแขกคนไหนปรากฏออกมาเลย มีแต่เฟิงเฟยหยุน พ่อบ้านหลิว ที่อยู่ในห้องโถงใหญ่
งานฉลองรกร้างมาก!
ผู้ชายสวมชุดสีดำพร้อมเข็มขัดสีแดงรอบเอวเดินลาดตระเวนห้องโถง การจ้องมองของพวกเขาเต็มไปด้วยอันตรายที่แขวนรอยยิ้มไว้อยู่บนใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบี่ใหญ่ที่ส่องแสงแพรวพราวเป็นพิเศษที่พวกเขากอดไว้ในมือ
ลมหนาวพัดไปทำให้ เฟิงเฟยหยุน หนาวเข้ากระดูก มันเงยหน้าขึ้นและเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยพลังชั่วร้ายจากซานเย่
ดวงตาเต็มไปด้วยความชั่วร้ายและรู้สึกคล้ายกับมีดเปื้อนเลือดที่แทงเข้าไปในวิญญาณของเฟิงเฟยหยุน ถ้าเป็นคนธรรมดาจิตวิญญาณของพวกเขาคงจะหลุดออกจากร่างไปแล้ว
ยังไงก็ตามเฟิงเฟยหยุนดำรงชีวิตของวิหคเพลิง จิตวิญญาณของมันนั้นมีพลังมาก แม้การบ่มเพาะของซานเย่จะมากกว่านี้ถึง10เท่าก็ไม่ได้ระแคะระคายจิตวิญญาณของมันเลย
“โอ้! ไอ้เด็กคนนี้ค่อนข้างจะแปลก แม้แต่ จักรษุมารบูรณะสวรรค์ ยังไม่ส่งผลใดๆกับมัน มันต้องสวมสมบัติวิญญาณที่ต่อต้านแรงกดดันของ จักรษุมารบูรณะสวรรณื ได้แน่ๆ “
หัวใจของซานเย่เริ่มตื่นตระหนกมากขึ้น มันไม่เชื่อว่า เฟิงเฟยหยุน จะใช้พลังของมันเองต่อต้าน จักรษุมารบูรณะสวรรค์ มันสันนิษฐานว่าเขากำลังใช้เครื่องมือภายนอกเพื่อป้องกันการโจมตีที่มองไม่เห็นของมัน
จักรษุมารบูรณะสวรรค์ เป็นหนึ่งในสิบสองวิชาที่ชั่วร้ายของอารามเซิ่นหลัว แม้ว่าซานเย่ยังไม่บรรลุผลสำเร็จ แต่อำนาจมันก็ไม่ธรรมดา
นัยน์ตาของซานเย่สว่างขึ้นเมื่อมันพร้อมที่จะใช้พลังเต็มที่ของมัน ตั้งใจจะฆ่าด้วยสายตา
ธรรมชาติของเฟิงเฟยหยุนไม่ได้รอเป็นปลาบนเขื่ยง มันยืนขึ้น มันไม่ได้ก้าวถอยหลัง แต่กลับเดินเข้าไปแทน ด้วยมือสองไพร่หลังอย่างสง่างามมันเดินตรงไปหาซานเยและกล่าวว่า “ซานเย่ความเมตตาของท่านในวันนี้ทำให้ข้าผิดหวังมาก ๆ อ้าาา!”
ดวงตาที่ชัดเจนของเฟิงเฟยหยุนและนัยน์ตาดำของมันจ้องดวงตา จักรษุมารบูรณะสวรรค์ ของซานเย่ มันไม่ได้หลบลี้หนีจากแสงจ้าในสายตาเขา แต่มันกลับสวมร้อยยิ้มไว้บนใบหน้าแทน
ใช้ดวงตามนุษย์เพื่อเผชิญกับ จักรษุมารบูรณะสวรรค์!
ซานเย่ ยิ้มไม่ออกแม้มันจะพยายามแค่ไหน นี่เป็นเรื่องแปลกประหลาดจริงๆ! แม้จะมีสมบัติล้ำค่าในร่างกายของมัน แต่ก็ไม่มีทางที่จะต้าน จักรษุมารบูรณะสวรรค์ ระยะเผาขนได้!
แล้วไหนมันยังจ้อง จักรษุมารบูรณะสวรรค์ อีก!
นี่มันคืออะไรกัน?
ภายในจิตใจของซานเย่เต็มไปด้วยความกลัว จะปล่อยให้ไอ้เด็กบ้านี่เติบโตไม่ได้! มิฉะนั้นในอนาคตมันจะกลายเป็นภัยพิบัติอย่างแน่นอน
“ปัง!” นิ้วของ ซานเย่ ทำลายมุมโต๊ะทำให้มันกลายเป็นฝุ่นผงและรอยยิ้มอันน่ากลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่คลายตัวของมัน”เฟิงเฟยหยุนแกคิดว่าแกเป็นแขกของข้าหรือไงห๊ะ? อย่าคิดนะว่าข้าไม่รู้ว่าแกมาที่นี่ทำไม แม้แต่บิดาของแก เฟิงว่านเผิง ยังไม่กล้าทำลายแก๊งกรงเล็บอินทรี ของข้าเลย แล้วเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมยังแกจะทำได้หรอ?
ซานเย่ลุกขึ้นยืนและส่งสัญญาณด้วยมือ มีคนสวมผ้าสีดำมาจากทุกทิศทุกทั้งหมดถือกระบี่เหล็กสีดำเต็มไปด้วยจิตสังหารอย่างรุนแรง พวกเขาล้อม เฟิงเฟยหยุน และ พ่อบ้านหลิว
พ่อบ้านหลิวลอยมายืนตรงหน้าเฟิงเฟยหยุนเพื่อปกป้องมัน ใบหน้าของเขาเคร่งเครียจมาก
เฟิงเฟยหยุนยังเรียบเฉยไม่เปลี่ยนแปลงมันค่อยๆเดินจากข้างหลังพ่อบ้านหลิวมายืนอยู่ตรงหน้าเขา มันสวมรอยยิ้มไว้บนหน้าแล้วบอกว่า “ท่านอายุเกินร้อยกว่าปีแล้ว แต่ท่านยังทำเป็นกระต่ายตื่นตูมอยู่อีกหรอ? ท่านไม่น่าหัวเสียเลยนี่นา “
เฟิงเฟยหยุน ไม่ได้ปกปิดร้อยยิ้มดูถูกในสายตาของมัน ทำให้ทุกคนรู้ถึงความร้ายกาจของมัน
“แกหมายความว่ายังไง?”
“ตูม!”
เสียงดังอย่างน่ากลัวจากคฤหาสน์อินทรีโลหิต พร้อมกับกองกำลังทำลายล้างที่สามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างได้
“ตูมมมม !”
แม้แต่พื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือนเมื่อเกิดการระเบิดอึกทึกครึกโครมขึ้น คฤหาสห์ล้มพับลงมา เกิดเสาเพลิงขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้คฤหาสห์อินทรีโลหิตจมอยู่ในทะเลของเปลวเพลิง
ชายชุดดำสวมหน้ากากก่อนหน้านั้นต่างก็สั่นกลัวหวาดผวา มีบางคนใบหน้าขาวซีด พวกเขาวิ่งหนีไปท่ามกลางภัยพิบัติ เสียงกรีดร้องระงมดั่งโรงเชือดสุกร
“มันเริ่มแล้วสินะ?”
“ซานเย่ ครับ ไอ้เด็กเวร เฟิงเฟยหยุน มันได้ซุกซ่อนกองกำลังชั้นยอดไว้ในรถลาก28คันพร้อมทั้งน้ำมันไฟและผลึกระเบิดสายฟ้า ครับท่าน ตอนนี้ คฤหาสห์อินทรีโลหิตถูกทำลายลงแล้ว ครับท่าน “
หัวหน้าอู๋ทรุเข่าลงตรงหน้า ซานเย่ ใบหน้าดำคล้ำด้วยไฟผลาญเส้นผมของมันถูกไฟไหม้ ปากของมันพ่นควันออกมา เป็นภาพที่น่าเวทนานัก
“เลี้ยงเสียข้าวสุก!”
ร่างของซานเย่สั่นสะท้านด้วยความคลั่งแค้น ยกฝ่ามือสวรรค์ออกมาเกิดเป็นชั้นเมฆสีดำสนิทฉีกกระชากหัวหน้าอู๋ออกเป็นชิ้น ๆ เลือดและเนื้อกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้น
รถขนาดใหญ่ยี่สิบแปดคันมีสี่หีบแต่ละหีบมีชายสองคนซ่อนอยู่ภายใน ดังนั้นยอดรวมเป็นสองร้อยยี่สิบสี่คนที่ซ่อนอยู่
กองกำลัง224คนเป็นยอดฝีมือชั้นสูง ทำลายแกนกลางของแก็งกรงเล็บอินทรี
***
ไฟไหม้ต่อไปเรื่อย ๆ และเผาไหม้อย่างรุนแรงมากขึ้น
แสงไฟสว่างไสวในคืนนั้นทำให้ เมืองจวงถ่ายเซิ่นจิง สว่างมาก
กำแพงของ คฤหาสห์อินทรีโลหิต มีขนาดใหญ่และแข็งแกง่แม้กระทั่งผลึกระเบิดสายฟ้าก็ไม่อาจทำลายพวกมันได้ มันเคยเป็นป้อมปราการที่ไม่อาจทำลายได้ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นที่ฝังศพของสมาชิกแก๊งกรงเล็บอินทรีพวกเขาไม่สามารถหลบหนีได้แม้ว่าจะพยายามก็ตาม
ซานเย่ หัวเราะอย่างบ้าคลั่งก่อนที่จะพูดว่า “เฟิงเฟยหยุน ข้ามองเจ้าต่ำไป แต่ยังไงๆหากเจ้าจะฆ่าข้าละก็ แค่นี้มันยังไม่พอ! “
“ตูม!”
ซานเย่ ทยานขึ้นไปร่างทั้งร่างของมันก็บินขึ้นสู่ท้องฟ้าตรงไปยังด้านบนของกำแพงที่สูงหลายสิบเมตร มันกางแขนออกและพลังวิญญาณสีดำสองเส้นออกมาจากนิ้วมือของมันเหมือนดวงอาทิตย์สีดำขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ในท้องฟ้า
2อักขระรูนเวทมนต์ศักดิ์สิทธิ์และวิญญาณผีครอบคลุมรอบๆ2พลังงานวิญญาณสีดำ หนึ่งคือ “ตำราภูติ” และอีกส่วนคือ “ดาบศึก”
มันสร้างแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวเขย่าจิตวิญญาณของผู้คน
“โอ้! ซานเย่ จะเปิด รูปแบบโลหิตกักวิญญาณ ขืนปล่อยให้มันทำสำเร็จมีหวังพวกเราทุกคนจะตายที่นี่ “
เฟิงเฟยหยุนบินออกมาจากกองเพลิงด้วยกระบี่มังกรแดงในมือของมันพร้อมกับความโกรธ มันมุ่งหน้าไปทางด้านบนของกำแพง ต้องการหยุดก่รเปิดรูปแบบโลหิตกลืนวิญญาณของซานเย่
พ่อบ้านหลิวสู้กับนักรบชุดดำสองสามร้อยคนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้ เฟิงเฟยหยุนต้องเพิ่งตัวเองเท่านั้น
ตอนนี้การบ่มเพาะของเฟิงเฟยหยุนอยู่เขตแดนวิญญาญกลาง ก้าวหนึ่งไปไกลถึง5จ้างซึ่งก้าวแต่ละก้าวจวนเจียนจะเหมือนกับบินได้ ***
ซานเย่ยืนอยู่ด้านบนกำแพงสูงนับสิบเมตร ดวงตาของมันเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ด้วยมือทั้งสองข้างพับเข้าหาหน้าอกพร้อมตะโกนว่า”จงเปิด รูปแบบโลหิตกักวิญญาณ!”
ผมสีขาวของมันขยายเหยียดตรงสองอักขระรูนที่แขนของมันหลอมรวมกันสร้างรูปแบบมหัศจรรย์พลังของมันสามารถทำลายฟ้าแยกธรณีได้ เหมือนว่ามันคือ เทพ ผู้ทำลายล้าง
สองอักขระรูนแสนมหัศจรรย์และพลังวิญญาณของพวกมันกลายเป็นหัวของมนุษย์ขนาดยักษ์ที่มีขนาดใหญ่เท่ากับหลุมดำ ดูเหมือนว่ามันจะกลืนโลกได้
“ตูม!”
พลังของมันกลายเป็นสิบเท่า เหมือนพายุทอร์นาโดเสียงกรีดร้องดั่งสัตว์อสูรและคำรามเหมือนทะเลกลายเป็นคลื่นยักษ์ แม้แต่ผืนปฐพียังเกิดรอยร้าวสร้างช่องลึกแคบๆ ราวกับว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นจากใต้ดิน
เฟิงเฟยหยุน ไม่สามารถเคลื่อนไหวจากความกดดันได้ มันปักกระบี่ลงบนพื้นและจับมันไว้แน่นเพื่อที่มันจะไม่โดนคลื่นพลังพัดมันปลิวไป
ร่างของใบมีดครูดดัง ครืดๆเสียงแตกจากการเสียดสีขระที่ร่างของมันถูกผลักให้ถอยหลังอย่างช้าๆ
เดิมที ซานเย่ อยู่ขั้นรากฐานอมตะและนั่นเป็นขั้นที่สูงกว่าซูหยุน3ระดับขั้น บวกกับ รูปแบบโลหิตกักวิญญาณ ทำให้ความแข็งแกร่งมันแหกกฏสวรรค์ มีอำนาจมากเกินกว่าใครจะสามารถต้านทานได้!
“เสียงเพลงทีบีบหัวใจนี่มัน โอ้วว ช่างคุ้นหูข้ายิ่งนัก”
มีคนกำลังเล่นพินและท่วงทำนองสละสลวยสัมผัสจิตใจของพวกเขา
เสียงอันดังจากเสียงกระหึ่มดังมาจากเบื้องบนและทะลุท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาล รัศมีคลื่นเผยมาจากด้านบนเหมือนใบมีดโกน
ร่างของซานเย่จู่ ๆ ก็ตกใจและกลายเป็นคนไม่ไหวติง มันเหมือนกับว่าเขาเป็นหิน
“เฉือน”
ร่างของซานเย่ถูกแบ่งออกเป็นสองซีกเช่นมีดาบอันแหลมคมที่มองไม่เห็นผ่ามันออกจากด้านบน
เลือดสดๆไหลไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
ศพของซานเย่ตกลงมาจากกำแพงเละเป็นชิ้น ๆ
ยอดฝีมือขั้นกลางรากฐานอมตะ ตายจากหนึ่งการโจมตีของพิน?
ทุกคนตกใจ แล้วใครกันที่เป็นคนเล่นพิน?
พ่อบ้านหลิวกลัว! ห่างออกไป เฟิงเฟยหยุน ก็ตกใจ!
เฟิงเฟยหยุนพร้อมด้วยกระบี่มังกรแดงในมือก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ มันถูมือที่เย็นของมันเข้าด้วยกันมองไปทางด้านนอกของ คฤหาสห์อินทรีโลหิต และเขากล่าวว่า “ว้าว การบ่มเพาะของท่านยายช่างสูงส่งแท้ๆ น่าจะเกินขอบเขต รากฐานอมตะไปไกลลิบเลยนะเนี่ยนะ ไม่ง่ายเลยๆ “
“ตูม!”
เช่นเดียวกับที่ เฟิงเฟยหยุน พูดเสร็จเสียงระเบิดดังขึ้น
กำแพงหนาทึบเริ่มร้าวและพังทลายกลายเป็นผงปกคลุมพื้นดิน
ทุกคนสูดหายใจลึก เสียงพินนี้พิเศษมาก มันฆ่าซานเย่ ทำลาย รูปแบบโลหิตกักวิญญาณ และมันก็ทำลายกำแพง
นี่ … นี่คือพลังของมนุษย์อย่างนั้นหรอ?