ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปSpirit Vessel บทที่ 19
แปลไทยโดย : SwordGod
บทที่ 19: แหวนวิญญาณไร้ขอบเขต
เปลวไฟภายใน คฤหาสห์อินทรีโลหิต พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ไฟลุกโชนสว่างจ้าละลานตาและมันก็ไม่รู้ว่าจะดับลงเมื่อใด
คนรับใช้ซึ่งเดิมทีถูกมัดติดกับเสาได้รับการช่วยเหลือมานานแล้วและผู้คุ้มกัน5000คนถือธงสีดำซุ่มโจมตีนอกคฤหาสน์มานานแล้ว
“ฆ่า!”
“คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายของแก๊งกงเล็บอินทรี!”
“นายน้อยเฟิงผู้มากด้วยพรสวรรค์และฉลาดหลักแหลม ท่านบั่นหัวของซานเย่ทำลายแก็งกรงเล็บอินทรีและท่านได้ปกป้องประชาชนจากความชั่วร้าย! “
“ฆ่าพวกมันให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่เศษซาก!”
***
ผู้คุ้มกันเมือง5000คนที่ติดตั้งชุดเกราะสีดำกำหอกอยู่ในมือแน่นขี่พยัคฆ์แดงพุ่งเข้าไปที่นั่นมันดุร้ายเหมือนมังกรทมิฬ ที่ใดก็ตามที่มังกรดำสัมผัสร่างกายมันจะดิ่งลงไปที่พื้นทีละหนึ่ง
ท่วงทำนองสาปส่งของพวกทลายฟ้าสะเทือนดิน
ได้มีการกำหนดไว้แล้วว่า คืนนี้เมืองจวงถ่ายเซิ่นจิงจะไม่สงบ มันถูกปกคลุมเต็มไปด้สยควันสีขาวเนื่องจากมันกลายเป็นสนามรบอย่างสมบูรณ์แบบด้วยกองกำลังทหารที่มีขวัญกำลังใจสูงเป็นรุ้ง
ซานแย่ถุกสังหารแล้วผู้ใดยอมมอบตัวผู้นั้นจะได้รับการปล่อยตัว!”
มีใครบางคนเอาเสื้อผ้าของซานเย่ที่ชุ่มไปด้วยเลือดแขวนไว้บนปลายหอกและตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง แก็งกงเล็บอินทรีที่อยู่ในความหวาดผวาก็ยิ่งกลัวเข้าไปอีกขวัญกำลังใจของพวกเขาแตกกระเจิดกระเจิงไม่มีเหลือพวกเขาสูญเสียความตั้งใจที่จะสู้กับผู้คุ้มกันเมือง
ในสงครามครั้งนี้เฟิงเฟยหยุนแทบจะไม่ต้องลงแรงอะไรมากมายนักเลย แม้ว่าแก๊งกรงเล็บอินทรีจะมีสมาชิกอยู่หลายพันคนแต่สุดท้ายพวกเขาก็ถูกทำลายย่อยยับ ก่อนอื่นมันให้กองกำลัง5000คนซ่อนตัวอยู่รอบนอกคฤหาสห์เพื่อทำให้ซานเย่สับสน แล้วซ่อนกลุ่มยอดฝีมือในรถของขวัญที่ซานเย่นำเข้ามาภายในคฤหาส์ แล้วโจมตีอยู่ด้านหลังจากนั้นมันก็ให้จอมยุทธจากตึกหยินโกวสังหารซานเย่เพื่อข่มขวัญเหล่าสมาชิกแก๊งกงเล็บอินทรีไม่ให้มีขวัญกำลังใจในการต่อสู้
การปิดล้อมคฤหาสห์เป็นเรื่องรองถัดจากนั้น ***
ทำให้ศัตรูสูญเสียความเชื่อมั่นของพวกเขานั่นคือครึ่งหนึ่งของการต่อสู้
สงครามของซูหยุนนั้นสมบูรณ์แบบและการวางแผนกลยุทธอย่างแยบยลมันเสี่ยงแทรกซึมเข้ามาในรังของศัตรู การใช้ตัวมันเองเป็นเหยื่อล่อดึงดูดความสนใจของซานเย่เป็กุญแจสำคัญ
ภายในเวลาเพียงหนึ่งก้านธูปสงครามนี้ได้จบลง ศพถูกทิ้งไว้ในคฤหาสห์อินทรีโลหิตกว่าหนึ่งพันและสมาชิกแก๊งที่เหลือได้ยอมจำนนทั้งหมด พวกเขาได้รับการคุ้มกันโดยเจ้าหน้าไปยังคุกของ เมืองจวงถ่ายเซิ่นจิง
เมื่อสงครามสิ้นสุดลง เฟิงว่านเผิง ผู้วางกลยุทธเก่อ และเฟิงสุ่ยหยู รีบวิ่งไป ชายผิวหนังดำคลับนั่งยองๆเรียงรายตามสองข้างทางถนนบ่งบอกสัญญาณว่ายอมจำนนโยเอามือไพร่หลังศรีษะ
นี่คือแก๊งกรงเล็บอินทรีที่สร้างความหวาดกลัวต่อประชาชนแน่หรอ?
เฟิงสุ่ยหยู แทบจะไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง มันขมวดคิ้วสีแดงทั้งสองข้างหัวใจของมันเต็มไปด้วยความคับแค้นใจ
“เฟิงเฟยหยุนมันโง่งมอย่างกับอะไรมันไปเรียนรู้กลยุทธพวกนี้มาจากไหนกัน? ไหนจะความกล้าหาญของมันอีก? มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง! “
อย่างไรก็ตามหลักฐานมันก็กองอยู่ตรงหน้ามันมันต้องยอมรับว่า เฟิงเฟยหยุน เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ทางทหาร มันมีสติปัญญาที่เป็นเลิศและมันไม่ใช่คนธรรมดาๆ
ในขณะที่ เฟิงเฟยหยุน กลายเป็นอัจแริยะ เฟิงสุ่ยหยู ก็ยิ่งวิตกกังวลมากขึ้นไปอีก จิตสังหารฉายแสงออกมาจาดวงตาของมันวูบหนึ่ง
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ผู้วางกลยุทธเก่อ ได้สังเกตุเห็นความฉลาดเแลียวและการเติบโตของ เฟิงเฟยหยุน ในหัวใจของเขาลาบปลื้มแล้ว ถอนหายใจ
“แผนการถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียน ภายในจิตใจเข้มแข็ง การล้อมคฤหาสห์ ลวงศัตรู ถึงแม้จะเป็นข้าก็คงไม่อาจทำออกมาได้สมบูรณ์แบบขนาดนี้ได้ ท่านผู้ว่า อนาคตของนายน้อย เฟยหยุน งจะไร้ขีดจำกัดแน่ๆ หาก นายน้อยเข้าร่วสภาเหล็กยุทธศาตร์ทางทหาร เขาจะต้องเป็นคลื่นลูกไหญ่ เขาจะผงาดขึ้นเฉกเช่น วิหคเพลิง ที่โบยบินอยู่ในเก้าสวรรค์
ความรู้สึกของ เฟิงว่านเผิง ในขณะนั้นมันยิ่งกว่าคำว่าตื่นตระหนก ในดวงตาของเขามีความรู้สึกสับสนมากมายนิ้วมือของเขาแตะไปที่เกราะตรงหน้าอกหลายต่อหลายครั้ง เขาเงยหน้าขึ้นฟ้าแล้วพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือว่า
“เฟิงเชี่ยน เจ้าเห็นมั้ย? เฟยหยุน โตขึ้นแล้ว เจ้าเห็นอย่างนี้แล้ว เจ้าจะยิ้มแค่หนเดียวมั้ย? “
ลำคอของ เฟิงว่านเผิง สั่นเทา น้ำจากดวงตาทั้งสองข้างของเขาไหลบ่าเป็นธารน้ำ แต่มันกลั่นออกมาจากความปลื้มปีติ
เขาตื่นเต้นมาก! เขาไม่สามารถหยุดความสุขได้แม้ว่าเขาจะพยายามแล้วก็ตาม!
***
คืนนี้เป็นเหมือนผ้าไหมที่ละเอียดอ่อนกลืนผืนฟ้าใต้สวรรค์และปกคลุมโลกทั้งโลก
เฟิงเฟยหยุน บินออกจากทะเลเพลิงผ่านกำแพงสูงและหายตัวไปในป่าเล็ก ๆ นอกคฤหาสน์ ในมือของเขาเป็นแหวนประดับสีดำและมีแกะสลักจากอักขระรูนโบราณหกหรือแปดตัว ***
แหวนสีดำถูกพรากไปจากมือศพของซานเย่
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแหวนประดับเท่านั้นมันหนักมากกว่าสิบจิน ความหนาแน่นเมื่อเทียบกับเหล็กกล้าดำมีมากกว่าหลายสิบเท่า
“สมบัติล้ำค่าจิตวิญญาณไม่อาจมองข้ามได้แม้แต่น้อย แต่นอกเหนือจากน้ำหนักหนักของมันที่หนัก ข้าไม่รู้สึกถึงความลับอื่นๆที่ซ่อนอยู่ข้างในได้
เฟิงเฟยหยุน ถือแหวนประดับสีดำไว้ในมือ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดพลังจิตหรือการใส่เลือดลงไปก็ไม่มีสัญญาณของการเปลี่ยนแปลง ราวกับว่ามันเป็นหินกรวดธรรมดา ๆ
“อักขระรูณโบราณเหล่านี้มัน … ค่อนข้างลึกลับ!”
นัยน์ตาของมัน สังเกตุเห็นอักขระรูณโบราณ 7ตัวที่ฝังอยู่บนตัวแหวน แต่ละคำมีขนาดฝหญ่เท่ากับขาแมลงวันตัวใหญ่ ด้วยสายตาของคนธรรมดาคนหนึ่งจะไม่สามารถระบุคำเหล่านี้ได้ แม้แต่กับระดับการบ่มเพาะในปัจจุบันของเฟิงเฟยหยุน มันก็แทบจะไม่สามารถมองเห็นพวกมันได้ อย่างไรก็ตามมันไม่รู้จักพวกมันหรือความหมายของพวกมัน
7 คำนี้มีความโบราณอย่างมาก มันเหมือนกับเป็น 7 สัญลักษณ์ที่เก่าแก่
โอ้!
เฟิงเฟยหยุน อุทานออกมาเบาๆ เมื่อมันใส่แหวนประดับไว้ในฝ่ามือขวา มันรู้สึกว่านาวาวิญญาณที่ซ่อนอยู่ในมือของมันกระตุก มันเริ่มที่จะกระโดดไปรอบ ๆ มันเหมือนกับนาวาวิญญาณได้กระโดดเข้าไปในเส้นเลือดของมันและคิดล่องเรือเล่น
บางทีอาจจะมีความเกี่ยวพันกันระหว่างแหวนวิญญาณไร้ขอบเขต กับ นาวาวิญญาณฟ้าครามทองแดง?
ตอนนี้ เฟยหยุน ทั้งคู่ตกใจและตื่นตระหนก นาวาวิญญาณนั้นลึกลับอย่างแท้จริง เพื่อให้สามารถผสานกับร่างกายได้อย่างแน่นอนสิ่งนี้มีเพียง สมบัติวิญญาณเซียนศักดิ์สิทธิ์ เท่านั้นที่สามารถทำได้ หากแหวนวิญญาณไร้ขอบเขตสามารถเชื่อมต่อกับนาวาวิญญาณได้มันจะไม่เป็นเพียงแค่สมบัติล้ำค่าที่เสมือนจิตวิญญาณ
เฟิงเฟยหยุน เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นนำแหวนไว้บนฝ่ามือขวาของมันด้านบนของนาวาวิญญาณและเหตุการณ์มหัศจรรย์ก็ได้เกิดขึ้น
อักขระรูณ7ตัวค่อยๆหมุนวนอย่างช้าๆราวกับว่ามันเป็นมัจฉาแหวกว่ายอยู่ในมหาสุทร
“ฉัวะ!”
“ฉัวะ!”
มีแสงสีดำเบ่งบานออกจากแหวนไม่มีที่สิ้นสุด มันราวกับว่าพวกมันเป็นสายของอักขระสีดำชั่วร้ายทำให้คืนที่มืดมิดจะยิ่งมืดมนและน่ากลัว
ส่วนที่เหลือของนางวาวิญญาณฟ้าครามทองแดง ในฝ่ามือของ เฟยหยุน ซึ่งหายไปในกระแสเลือดของมันแล้วก็ปล่อยแสงสีฟ้าสดใสเหมือนโคมไฟ
รัศมีสีดำและแสงสีฟ้าสดใสปรากฏตัวขึ้นในเวลาเดียวกันภายในฝ่ามือของเฟิงเฟยหยุน!
“โฮก! โฮก! โฮก! โฮก!….โฮก! “
ภุติผี 7 ตนบินออกจากแหวนวิญญาณไร้ขอบเขตไม่หยุด พวกมันกลายเป็นภาพที่แตกต่างกันเจ็ดภาพลึกลับ “แผนผังแม่น้ำม้ามังกร” “แปด คำอักขระสามตัวภาษาลึกลับ” “สี่หม้อหยางโบราณ” “เจดีย์วิญญาณนรก” “ราชาเหินสวรรค์”, “งานเลี้ยงร้อยผี” และ “หมื่นแสง”
โชคดีที่ความรู้ของ เฟิงเฟยหยุน กว้างขวางมิฉะนั้นมันจะต้องขนหัวลุกจากฉากนี้ ทั้งเจ็ดภาพวาดสร้างความกดดันของพระเจ้าและความคิดที่อยู่เบื้องหลังพวกมันนั้นลึกซึ้ง เพียงแค่เส้นใยที่เรียบง่ายของพลังของพวกมันก็ทำให้บุคคลหนึ่งมีปัญหากับการหายใจแล้ว
เจ็ดคำที่มาจากอักขระรูณโบราณได้กลายเป็นภาพวาดเจ็ดภาพที่แตกต่างกันไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมไม่มีใครคิดออก หากไม่มีนาวาวิญญาณช่วยเหลือมัน ต่อให้เฟิงเฟยหยุนใช้เวลาทั้งชีวิตของมันก็ไม่มีทางไขความลับนี้ออก
“ตูม!”
เจ็ดภาพวาดโบราณลอยอยู่ในอากาศแตกกระจายออกมา พวกมันกลายเป็นควันสีดำขนาดเล็กและพวกมันก็ลอยกลับเข้าไปในแหวนวิญญาณไร้ขอบเขต พวกมันกลายเป็นอัขระรูณ7ตัวโบราณที่สลักไว้บนแหวน
เฟิงเฟยหยุน ไม่มีเวลาคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ภายในร่างกายของมันเป็นอีกท้องฟ้าหนึ่งแตกป่นปี้และแผ่นดินขยับเปลี่ยน
ส่วนที่เหลือของนาวาวิญญาณยังจมลงไปในร่างของมันและรอยประทับของนาวาวิญญาณก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ในขณะเดียวกันเลือดของ เฟยหยุน ก็เดือดพล่าน มีแสงสีฟ้าอยู่ภายในเส้นเลือดของมันและเลือดของมันเริ่มกลายเป็นสีดำเหมือนหมึก ซ่อนด้วยแสงระยิบระยับอันมหัศจรรย์เผยให้เห็นรัศมีลึกลับสีดำแพรวพราว
“ตูม!”
ตันเถียร เฟิงเฟยหยุน ประทุออกมา เส้นใยจิตวิญญาณในตันเถียรของมันได้ขยายอย่างรวดเร็วและพลังงานจิตวิญญาณในเลือดของมันก็ไหลอย่างบ้าคลั่งอยู่ภายใน
แต่ละเส้นใยของจิตวิญญาณมีลักษณะคล้ายกับแม่น้ำสายเล็ก ๆ ที่ผสานเข้ากับทะเลที่ใหญ่ที่สุดเท่าแม่น้ำเหลือง
วิถีทางจิตวิญญาณที่เชื่อมต่อหัวใจกับสมองทำให้มันหายใจถี่เพิ่มขึ้นเก้าครั้งในช่วงเวลาสั้น ๆ มันเหมือนกับว่ามีน้ำตกที่ไหลบ่าตกลงสู่กระแสเลือดของมัน
นี่เป็นสัญญาณของความสำเร็จของ เขตแดนวิญญาณที่ยิ่งใหญ่!
เฟิงเฟยหยุน ก้าวเข้าสู่จุดสูงสุดของ เขตแดนวิญญาณ
ทุกสิ่งทุกอย่างยังไม่จบลงเพียงแค่นั้น นาวาวิญญาณฟ้าครามทองแดงl ซึ่งเล็กกว่าเมื่อเทียบกับเมล็ดข้าวที่ไหลผ่านกระแสเลือดของมัน การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงแบบเต็มรูปแบบของแต่ละครั้งทำให้พลังงานวิญญาณเพิ่มขึ้นสองเท่าภายในร่างของ เฟิงเฟยหยุน
นาวาวิญญาณ เปรียบเหมือนสระจิตวิญญาณสำหรับมัน มันไหลล่องไปตามกระแสเลือดของเฟิงเฟยหยุน ไม่อาจรู้ได้ว่ามันจะไปหยุดตรงที่ใด
การเติบโตของการบ่มเพาะของเฟิงเฟยหยุนก้าวหน้าขึ้นทีละเล็กทีละน้อย!
วิถีทางจิตวิญญาณในตัวมันที่เชื่อมต่อกับหัวใจของมันก็มีการเปลี่ยนแปลงที่ลึกลับขึ้นใหม่ มันค่อยๆย่อลงในรูปแบบของต้นกล้าพืชที่เป็นอมตะ นี่คือกระบวนการที่จะผละไปจาก “เขตแดนวิญญาณ” ขึ้นเป็น “รากฐานอมตะ”
ผู้ฝึกตนที่บ่มเพาะมานานหลาย10ปีติดอยู่ตรงที่คอขวดนี้ แต่เฟิงเฟยหยุนยืมพลังของนาวาวิญญาณ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่ามันจะทลวงการขวางกั้นนี้ขึ้นไปได้ ร่างกายของมันตอนนี้เริ่มสร้างรากฐานที่เป็นอมตะของมัน
เมื่อรากฐานอมตะถูกควบแน่นแล้วมันก็จะอยู่ในขั้นตอนแรกเข้าสู่เส้นทางที่แท้จริงของการฝึกตน เราสามารถฝึกฝนเวทมนต์มากมายและนาวทางอันน่าเหลือเชื่อเช่น “ดาบโหย”, “ระบี่วายุ”, “จักษุพันลี้”, “หูฟังรอบทิศ”, “ก้าวย่างนที” และ “ตะปบข้ามมิติ”
เมื่อถึงขั้นรากฐานอมตะแล้วพวกเขาก็จะได้รับสัตว์อสูรวิญญาณเป็นผู้รับใช้ ขุดหินวิญญาณลึกลับ ค้นหาพืชวิญญาณ และปรับแต่งยาจิตวิญญาณ …
พลังของผู้ฝึกฝน รากฐานอมะ มีมากกว่า เขตแดนวิญญาณ ถึง10เท่า
ระดับที่สองของโลกแห่การฝึกฝนนี้คือ เขตแดนรากฐานอมตะ เขตแดนรากฐานอมตะนี้คือจุดเริ่มต้น เป็นแก่นแท้ของการเป็นอมตะที่แท้จริง
การบรรลุ ระดับรากฐานอมตะ จะได้รับอนุญาติให้เป็นผู้ว่าการ ปกครองเมืองๆหนึ่งและเป็นผู้ปกครองภุมิภาคที่แท้จริง ในแต่ละนิกาย เมื่อบ่มเพาะถึงระดับแล้วเราจะสามารถออกไปฝึกฝนและท่องยุทธภพได้