ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปล่าที่ 2 : ดั่งเช่นหนูตะเภา
จมูกของชิลลินมีสัมผัสรับรู้ที่เชียบไวเป็นอย่างมาก ทำให้เขาสามารถแยกแยะและวิเคราะห์กลิ่นต่างๆได้ และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ
บุคคลที่ใช้น้ำยาเหล่านี้ต้องเป็นคนที่มีความสามารถ พวกเขากำลังทำการวิจัย งานอดิเรกหรือด้วยเหตุผลอื่นใด?
กลิ่นเหล่านี้ไม่ได้มาจากฝนที่อยู่ข้างนอก แต่มาจากกลิ่นอื่นๆที่ผสมปนเปกันในทิศทางของลมและการล่องลอยมาตามอากาศ เขาสามารถตรวจสอบได้ว่ากลิ่นที่มีความเฉพาะเจาะจงนี้มาจากภายในอาคาร แต่ใครจะใช้ตัวทำปฏิกิริยาแบบเก่าดังกล่าวในอาคารที่ถูกทิ้งร้างเช่นนี้?
ชิลลินติดตามกลิ่นที่ว่าไปและพบท่อที่มีความกว้างขนาดเท่ากับนิ้วหัวแม่มืออยู่ท่ามกลางกองขยะ ชิลลินไม่ได้เดินเข้าไปไกลจนเกินไป ก่อนที่เขาจะพบว่าส่วนที่เหลือนั้นถูกซุกซ่อนไว้ภายในอีกด้านหนึ่งของกำแพง
มันถูกซ่อนไว้เป็นอย่างดี
เขาเปิดไฟฉายขนาดกระทัดรัดในระยะใกล้ มีแสงสีฟ้าอ่อนส่องลงไปบนผนัง ท่อถูกติดตั้งและฝังอยู่ข้างในกำแพงอย่างชัดเจน หลังจากทำการตรวจสอบแล้ว ชิลลินก็เริ่มมีความอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้น
น่าสนใจ
นอกเหนือไปจากท่อนี้แล้ว ชิลลินยังพบอีกหลายอย่าง และพวกมันถูกปกปิดซุกซ่อนไว้เป็นอย่างดี
ชิลลินเริ่มระมัดระวังมากขึ้น แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องดีที่สุดหากรีบออกไปจากที่นี่ในทันที แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ชิลลินรู้สึกแปลกๆ เขาถูกกระตุ้นให้ต้องค้นหาความจริงของเรื่องนี้ให้พบจากความปราถนาลึกๆภายในจิตใจ
เขาเดินผ่านเส้นทางที่คดเคี้ยวหลายเส้นทาง บางครั้งชินลินก็ต้องปีนผ่านช่องระบายอากาศเก่าๆเข้าไป เมื่อมาถึงยังชั้นแรกภายในอาคาร ชิลลินเปิดฝาครอบที่ซุกซ่อนอยู่และเดินลงบันไดแคบๆไปยังพื้นที่ด้านล่าง และมุ่งหน้าลึกเข้าไปด้านใน
บรรยากาศโดยรอบช่างดูเงียบสงัด แต่ก็ไม่ใช่ความเงียบโดยสมบูรณ์ นี่เป็นช่วงเวลาที่ต้องใช้ความระมัดระวังตัว ชิลลินรู้สึกว่าไม่น่าจะมีใครอยู่ในบริเวณใกล้เคียงนี้รอบๆตัว เขาจึงเปิดไฟฉายและมุ่งหน้าเดินต่อลึกเข้าไปยังภายใน
เมื่อพบว่ามีจำนวนท่อทอดยาวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ชิลลินเข้าใจดีว่า เขากำลังใกล้และใกล้เข้าไปยังเป้าหมายมากขึ้น ในทุกๆขณะ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆและปิดไฟฉาย แม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้สึกว่ามีใครอยู่ข้างหน้าเขา แต่สัญชาตญาณของเขาก็บอกเขาว่าเส้นทางต่อไปข้างหน้าของเขาจะไม่ราบรื่น ถึงแม้พลังงานของไฟฉายจะสามารถส่องไปได้ไกลถึงสิบเมตร ชิลลินก็ยังคงระวัดระวังตัวและปิดไฟฉายลง
ทุกๆที่เต็มไปด้วยความมืดมิด ชิลลินพึ่งพาการไหลเวียนของอากาศเพื่อตัดสินใจในทิศทางที่เขาจะไปและหลีกเลี่ยงอุปสรรคสิ่งกีดขวางต่างๆ ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาพื้นที่รอบๆตัวของเขาค่อยๆกว้างขวางขึ้นและเริ่มปรากฏให้เห็นไฟอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเท่าเล็บมือขึ้นเป็นจำนวนมาก ด้วยแสงไฟเขาสามารถมองเห็นได้ว่าสถานที่แห่งนี้มีอยู่มาเป็นระยะเวลานานและยังมีชั้นของฝุ่นอยู่ด้านบนของแผ่นแสงอิเล็กทรอนิกส์เหล่านั้น แม้ว่าจะไม่หนามาก แต่ก็พอคาดเดาได้ว่าไม่มีใครมาที่นี่เป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนแล้ว
เมื่อมองดูจุดแสงไฟบนผนัง ชิลลินเริ่มรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาในทันที
มีบางอย่างผิดปกติ บางอย่างผิดปกติจริงๆ! สถานที่แห่งนี้ดูคล้ายกับกับดัก…! กับดัก!
เกิดความรู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงถาโถมเข้ามาและไม่มีความคิดอื่นใด ชิลลินหันหลังกลับและวิ่งในทันที สัญชาตญาณของนักล่าของเขากำลังบอกเขาว่าเขาไม่อาจคาดเดาอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในทุกๆวินาทีหน้านี้
ทันใดนั้นปรากฏแผ่นเหล็กหนาพิเศษที่ตัดเส้นทางการหลบหนีของเขาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ด้วยการหมุนฝ่ามือปรากฏมีดสั้นขึ้นบนมือของชิลลิน เขาสามารถตัดแผ่นเหล็กด้วยมีดสั้นเลเซอร์ได้ แต่มันจะทำให้เสียเวลาเป็นอย่างมากและการไหลอย่างรวดเร็วของพลังงานมีดสั้นจะแสดงตำแหน่งที่เขาอยู่อย่างชัดเจน ชิลลินค่อยๆมองออกไปยังด้านหน้าโดยหันหลังให้กับแผ่นเหล็ก เขารู้ว่าต้องมีคนอยู่ที่นั่น
ตัก, ตัก, ตัก …
เสียงฝีเท้าเดินใกล้เข้ามาหาเขาโดยไม่มีเจตนาที่จะปกปิดเลย
ตืดดดด
ลำแสงเปิดขึ้นและทางเดินสว่างขึ้นทันที
ชิลลินหรี่ตาของเขาลงและตั้งสติอย่างรวดเร็วจากความรู้สึกวิตกกังวลที่เกิดจากการสัมผัสกับแสงจ้าอย่างฉับพลัน แต่ชายที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเขาดูเหมือนจะไม่มีความรีบร้อนใดๆ ในขณะที่รอให้ชิลลินฟื้นตัว
เขาเป็นชายชราคนหนึ่งที่ดูคล้ายกับผู้มียีนในระดับเอฟและน่าจะมีอายุเกือบๆร้อยปี ซึ่งบอกได้เลยว่าเหมือนเขาจะตายได้ในทุกๆขณะ ผิวของชายชรามีสีน้ำตาลเหลือง เขามีร่างกายที่แห้งเหี่ยวและแขนเห็นกล้ามเนื้อลีบได้อย่างชัดเจน ชิลลินไม่สามารถมองเห็นสายตาของชายชราได้อย่างชัดเจนเพราะเขาสวมแว่นตา แต่นี่เป็นชายชราที่ดูแล้วน่าหดหู่ ซึ่งทำให้ร่างกายทุกส่วนของชิลลินสั่นสะท้าน
ชายชราก้าวเดินอย่างช้าๆไปทางชิลลิน สบายๆเหมือนเดินเล่นในสวนสาธารณะ
ชิลลินกระโดดถอยหลังไปอย่างรวดเร็วในทันที นี่เป็นความเร็วที่น่าเหลือเชื่อที่สุดของเขา มันเทียบเท่ากับคนที่มียีนระดับดีได้เลยที่เดียว
ชิ้งงงงงงง!
เสียงปะทะของโลหะดังขึ้น
ข้างๆเส้นเลือดแดงของชายชราคนหนึ่งมีมือที่คล้ายกิ่งก้านจับปลายดาบไว้อย่างแน่นหนา พลังงานของดาบสั้นพลาสม่าหรือดาบสั้นเลเซอร์มีขนาดใหญ่มาก ชิลลินตั้งท่าเตรียมพร้อมซัดอาวุธลับและมีดสั้นออกไปเพื่อจะจัดการอย่างรวดเร็วและไม่ให้มีร่องรอย แต่แม้กระทั่งมีดสั้นเหล็กกล้าผสมพิเศษของเขาที่โจมตีออกไปก็ถูกบล็อกเอาไว้ ไม่, มันง่ายดายเกินไปที่ถูกหยุดไว้ได้โดยชายชราใกล้ตายเช่นนี้!
ประสบการณ์ชีวิตและการผ่านความตายมากว่าสามปีในฐานะนักล่าของเขาหมดความหมาย ชิลลินไม่มีแม้เพียงเวลาคิด นี่ไม่ใช่ศัตรูที่เขาจะสามารถเผชิญหน้าได้ วิ่ง——!
แต่ก่อนที่ชิลลินจะทันได้เคลื่อนไหวใดๆ ทันใดนั้นร่างการของเขาก็ถูกสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นสายโลหะเหลวมัดตรึงร่างของเขาไว้ เมื่อชิลลินมองไปยังต้นกำเนิดของสิ่งนี้ เขารู้สึกตกใจที่พบว่าพวกมันออกมาจากนิ้วมือทั้งห้าของชายชราคนผู้นั้น พูดให้ถูกต้องมันเป็นสิ่งที่แผ่ขยายออกมาจากชายชราคนนั้น!
เขาเป็นคนหรือไม่? เครื่องจักร? กลายพันธุ์? หรือสิ่งใดๆที่ไม่รู้จัก?
มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนสัมผัสกับก้อนน้ำแข็งที่เย็นยะเยือก ชิลลินสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของลมหายใจแห่งความตาย ทุกรูขุมขนของเขาเต็มไปด้วยความหนาวเย็น
มีดอัลลอยปรากฏขึ้น ชายชราใช้นิ้วอันผอมบางบีบคอและยกชิลลินออกจากพื้นง่ายดายเหมือนลูกไก่
ทั้งแขนและขาของเขาถูกมัดตรึงไว้ หลอดเลือดที่คอของเขาถูกบีบจากแรงของชายชรา
“ฮ่าฮ่า, เจ้ามาได้เวลาเหมาะจริงๆ” เมื่อฟังจากเสียงก็ทราบได้ทันทีว่าชายชรามีความสุขมาก แม้จะใจร้อนเล็กน้อยสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป
ถ้าคนที่ถูกบีบอยู่นี้เป็นคนปกติ ตาของพวกเขาก็คงจะกลิ้งทะลักออกมานานแล้ว แต่ชิลลินยังคงมีจิตที่มั่นคงและแรงกายหลงเหลือเพื่อที่จะคิดหาทางออกจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ของเขา
ชายชราจ้องไปยังชิลลินและรู้สึกยินดีมากยิ่งขึ้น
ชิลลินคิดว่าสถานที่เช่นนี้ทำไมจึงถูกซ่อนอยู่ใต้เมือง
ห้องลับนี้ต้องมีอยู่มานานแล้วไม่ต่ำกว่าสามสิบถึงห้าสิบปีและมันซับซ้อนกว่าที่ชิลลินเคยคิดมาก่อน ทั้งการป้องกันและการซุกซ่อนนั้นทำได้ดีเป็นพิเศษ มัยถูกซ่อนไว้เป็นเวลาหลายปีโดยที่ไม่มีใครรู้เห็น หรือบางทีคนที่ได้พบกับสถานที่แห่งนี้นั้นตายไปหมดแล้ว
ชิลลินมองทางด้านข้างของห้องโล่งและเห็นชายหลายคนใส่ถังเก็บของเหลวตัวอย่างไว้ด้านใน ลักษณะที่บิดเบี้ยวบนใบหน้าของพวกเขาทำให้ชิลลินเย็นลงไปถึงกระดูก เขาเห็นว่าคนเหล่านี้ได้รับความทุกข์ทรมานที่สุดจะทนได้ก่อนที่จะเสียชีวิตไป
บางทีชิลลินอาจจะกลายเป็นหนึ่งในพวกเขาในไม่กี่วินาทีถัดไป
ชายชราไม่ได้ตั้งใจที่จะฆ่าชิลลินในทันที เขาควบคุมความแรงในการบีบรัดได้เป็นอย่างดี เขาไม่เพียงแต่จะทำให้ชิลลินไม่สามารถขยับหลบหนีไปไหนได้แต่ยังทำให้แน่ใจว่าสมรรถภาพทางกายจะไม่เกิดความเสียหายเช่นกัน
สำหรับเหตุผลที่ชายชราบอกว่าชิลลินมาได้เวลาเหมาะสม นี่เป็นเพราะชิลลินเดินเข้าไปยังประตูตรงหน้าของเขาเช่นเดียวกับหนูตะเภา ก่อนที่ภายหลังมันจะตายและถูกวางไว้ในถังน้ำ
ชิลลินถูกนำเข้าไปยังห้องที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือ โต๊ะที่มุมห้องเต็มไปด้วยกระป๋องและขวด เขาได้ระบุว่าก๊าซบางชนิดหมดได้หมดไปแล้วจากท่อและเป็นสารเคมีที่ใช้ในการปลูกถ่ายดีเอ็นเอ
ในยุคและเวลานี้แทบจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แต่คนแก่ดั้งเดิมจะรู้วิธีเพื่อปลูกถ่ายดีเอ็นเอ ชิลลินได้ทำการทดลองที่คล้ายกันมาก่อน แต่ก็เป็นเพียงความอยากรู้อยากเห็นและเขาไม่ได้ศึกษาในเชิงลึก
ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันเครื่องมือที่มีขนาดเท่าฝ่ามือคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับการปลูกถ่ายดีเอ็นเอ มันรวดเร็วแม่นยำและยังสามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมได้อีกด้วย แต่ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปลูกถ่ายและวิเคราะห์ พวกเขาทั้งหมดจำเป็นต้องได้รับการจดทะเบียนและตรวจสอบภายใต้ชื่อจริง อุปกรณ์ทุกเครื่องมีหมายเลขทะเบียน ชิปผูกมัดและการเชื่อมต่อข้อมูล
เนื่องจากชายชราได้เลือกที่จะปลูกถ่ายด้วยตนเอง นั่นหมายความว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับการวิจัยที่ผิดกฎหมายซึ่งจะทำให้เขากลายเป็นคนที่ถูกต้องการตัว แต่ไม่ว่าชิลลินจะทำลายสมองของเขาด้วยวิธีอย่างไร เขาก็ไม่สามารถหาข้อมูลที่ต้องการมากที่สุดเกี่ยวกับชายก่อนหน้านี้ได้ รายชื่อของผู้ที่ถูกต้องการตัวมากที่สุดในโลกนั้นเปิดกว้างสำหรับทุกคนโดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยง มีเพียงข้อมูลสองอย่างที่อยู่ด้านบนของหมายจับ : หนึ่งคือรูปถ่ายของพวกเขาและของรางวัลอื่นๆที่จะได้
เนื่องจากห้องปฏิบัติการนี้อยู่ใต้ดินและมันถูกปกคลุมไปด้วยชั้นกำแพงที่หนามาก ดังนั้นจึงไม่ได้ถูกตรวจพบโดย ‘ตาแห่งท้องฟ้า’ ข้อมูลของเครื่องมือเหล่านี้ถูกตัดขาดออกจากโลกภายนอกด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถตรวจสอบได้
ชายชราคนนี้ตั้งใจจะทำอะไร?
เขาวางชิลลินไว้บนโต๊ะสีขาวที่ลอยอยู่ ชายชรากดปุ่มบนเครื่องมือ ข้อมือของชินลินและแขนขาถูกกระแทกด้วยตัวล็อคที่ปรากฏบนโต๊ะ มีสายบางๆปรากฏบนโต๊ะเลื้อยผ่านเสื้อผ้าและพุ่งเข้าสู่ร่างของชิลลินในทันที ชิลลินกลายเป็นหนูตะเภาที่เรียงรายไปด้วยหลอดนับไม่ถ้วน ที่ด้านหนึ่งตัวเขาเต็มไปด้วยหลอด สีแดงบางๆและหลอดสีฟ้าบางๆ ตัวเลขที่แสดงค่าบนหน้าจอเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากชินลินถูกมัดไว้อยู่ด้านบนของโต๊ะและไม่สามารถขยับได้เลยแม้แต่นิ้วมือของเขา หลังจากฉีดน้ำเหนียวๆและของเหลวที่เย็นลงไปในร่างกายชิลลิน เขาเคาะปุ่มควบคุมเครื่องมืออย่างรวดเร็วเพื่อรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากเครื่องมืออื่นๆ
ความเจ็บปวด อาการปวดที่น่ากลัวซึมผ่านเข้าไปในกระดูก มือของเขากำลังสั่น เลือดและทุกอย่างในร่างกายของเขาไหลเวียนอย่างผิดปกติ ทุกๆวินาทีมันกำลังท้าทายขีดจำกัดของเขา เส้นประสาทของเขาและจิตใจของเขาเกือบจะถูกทำลายในทันที แต่หลังจากช่วงเวลาว่างสั้นๆชิลลินก็ยังสามารถประคองสติของเขาทีละเล็กทีละน้อยเอาไว้ได้ มิฉะนั้นเพียงเวลาอันไม่นาน ชิลลินนจะกลายเป็นสมาชิกของตัวอย่างทดลองเหล่านั้น
สารที่มีลักษณะคล้ายของเหลวเหนียวเป็นสารชีวเคมีพิเศษ ลักษณะบางส่วนของมันคล้ายกับพาหะและอาจรวมเข้ากับโครโมโซมของร่างกายมนุษย์และมีการทำซ้ำแบบซิงโครนัสและเกิดการแบ่งตัว
หน้าที่หลักของหลอดสีแดงคือการเหนี่ยวนำ มันช่วยพยุงชีวิต ในเวลาเดียวกันมันเหนี่ยวนำการเผาผลาญอาหารของร่างกายเพื่อเร่งการแบ่งเซลล์ ในทางกลับกันหลอดสีฟ้าควบคุมการตายของเซลล์ มันฆ่าเซลล์ที่ไม่สามารถมีชีวิตรอดได้
ชายชรามองดูค่าที่สูงขึ้นบนหน้าจอและปล่อยหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นเขาก็หันลูกบิดในมือของเขาสิบองศาตามเข็มนาฬิกาและสำหรับทุกสิบองศาอัตราการเหนี่ยวนำจะเพิ่มขึ้นในระดับใหม่และอัตราการใช้งานของชิปก็จะเพิ่มขึ้น
บริเวณสมองส่วนฮิปโปแคมปัสมีความถี่ของการสื่อสารระหว่างเซลล์และอื่นๆมากขึ้น เกิดข้อมูลในการแสดงผลออกมาซ้ำๆ ผลที่ได้ทั้งหมดทำให้ชายชรารู้สึกตื่นเต้นอย่างเหลือเชื่อ
เส้นประสาทของชิลลินถูกทำร้ายอีกครั้งด้วยคลื่นแห่งความเจ็บปวดที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมและจากนั้นเขาก็ตั้งใจให้แน่วแน่อีกครั้ง
“ไม่เลว ผลที่ได้ช่างยอดเยี่ยม!” ชายชราไม่คาดคิดว่าในยีนระดับเอฟจะสามารถมาได้ไกลขนาดนี้ ชายชราเริ่มพูดกับตัวเองขณะที่มองดูลูกบิดที่หันไปทางหนึ่งร้อยแปดสิบองศา แต่คำพูดของเขาก็ขัดแย้งกับความตื่นเต้นในตัวของเขาอย่างเห็นชัดเจน
ระดับร้อยแปดสิบองศาหมายความว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของชิปได้ถูกเปิดใช้งานและผู้ชายคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ตัวเลขที่กะพริบบนหน้าจอจะทำให้เกิดเสียงสั่นสะเทือนในคำพูดของชายชรา ในอดีตหนูตะเภาที่สามารถทนได้เกินกว่าร้อยแปดสิบองศานั้นมีไม่ถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมด และนั่นหมายความว่าความทนทานทางกายภาพของเขาที่มียีนระดับเอฟนี้มีความสามารถเทียบเท่ากับยีนระดับดี
แต่เขาจะมีอายุได้นานแค่ไหน? ทุกครั้งที่เขาเพิ่มพลังงานไปอีกสิบองศาจะมีชุดของข้อมูลที่น่าตื่นตกใจ ทำให้ชายชราไม่อาจจะเชื่อได้ลง แต่เขาไม่ได้สนใจเรื่องการอยู่รอดของชิลลิน
ชิลลินยังคงมองหาโอกาสที่จะหลบหนีท่ามกลางคลื่นที่โถมเข้ามาโจมตีด้วยความเจ็บปวด
———————————————————————————————————————————————————————-
ฝากกดไลค์ กดติดตามเพจ และติดตามข่าวสารด้วยนะครับ : https://www.facebook.com/Star-Rank-Hunter-นักล่าอันดับดารา-885221738283809/
*หากมีคำติชมใดๆสามารถเสนอแนะเข้ามาได้ครับ ผิดพลาดประการใดผู้แปลต้องขออภัยผู้อ่านมา ณ ที่นี้ด้วย