I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Star Rank Hunter ตอนที่ 7 : การโจรกรรม

| Star Rank Hunter | 635 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ณ ที่นั่งโดยสาร มันเป็นที่นั่งแบบสามที่ติดกันและไดแอสก็นั่งติดกับชิลลินทางด้านขวามือ ส่วนทางด้านซ้ายของชิลลิน เป็นเด็กหนุ่มคนอื่นที่น่าจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน

เด็กหนุ่มขยุกขยิกไปมาซ้ำๆตรงที่นั่งของเขา มองดูแล้วเขาน่าจะกำลังกังวลใจอยู่เล็กๆและเมื่อเขาเห็นชิลลินขมวดคิ้วเล็กน้อย ริมฝีปากของเขากระตุกและกล่าวว่า “พี่ชาย ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเส้นทางการบินของสเปซไลเนอร์จากดาวเคราะห์ เอ็กซ์-ซี หนึ่ง ศูนย์ ศูนย์ มันเป็นยานที่ได้รับการคำนวณมาอย่างแม่นยำ มันแตกต่างจากสเปซไลเนอร์จากดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ปัจจัยทางด้านความปลอดภัยของมันเองก็สูงเป็นสิบอันดับแรกอยู่เสมอ โอกาสที่จะวิ่งเข้าไปในความผิดปกติของสนามพลังแม่เหล็กนั้นมีโอกาสน้อยกว่า ศูนย์จุดศูนย์หนึ่งเปอร์เซ็นต์ และโอกาสที่จะพบกับโจรสลัดอวกาศนั้นยิ่งน้อยลงไปอีก นอกจากนี้เที่ยวบินจาก เอ็กซ์-ซี หนึ่ง ศูนย์ ศูนย์ ยังได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายพิเศษ…”

ในขณะที่ฟังคำส่วนใหญ่ของเด็กหนุ่มที่ปลอบโยนตัวเขาเอง ชิลลินสังเกตเห็นว่ามุมริมฝีปากของไดแอสกลับห้อยลงเล็กน้อย ไดแอสไม่สามารถช่วย แต่ก็รู้สึกได้ถึงร้อยยิ้มที่ไม่ค่อยพอใจและสาปแช่งของเขา

เมื่อยานกำลังเข้าสู่ประตูวาร์ป การสนทนาต่างๆก็เริ่มเงียบลงเนื่องจากเพื่อความสะดวกในการเดินทางของผู้โดยสารภายใต้เงื่อนไขต่างๆ ขณะเดียวกันชิลลินนั่งลงดึงผ้าห่มปิดตาและเริ่มนอนหลับ

ไดแอสรู้สึกตลกเมื่อเขาเฝ้าดูปฏิกิริยาของชิลลิน ผู้ชายตัวน้อยกำลังนอนหลับสนิท เขาต้องค่อนข้างเคยชินกับสถานการณ์นี้ ทั้งลักษณะทางร่างกายและจิตใจของเขามันค่อนข้างดีเลยทีเดียว

สิ่งที่ไดแอสไม่รู้ก็คือว่านี่เป็นครั้งแรกที่ซิลลินนอนหลับระหว่างการเดินทาง แต่แม้ว่าเขาจะกำลังนอนหลับอยู่เส้นผมหรือเส้นขนทุกเส้นบนร่างกายชิลลินนั้น ก็กำลังดูดซับสิ่งต่างๆรอบๆตัวอยู่เสมอ และมุ่งหมายที่จะสังหารหากเขาตื่นขึ้นมาพบว่ามีความผิดปกติแม้แต่น้อยนิด

อย่างไรก็ตามชิลลินนั้นนอนหลับได้ไม่นานแล้วตัวเขาก็ตื่นขึ้นอย่างฉับพลัน

“การแทรกแซงและพลังงานสนามแม่เหล็กมีผลต่อการควบคุมของยานและอัตราของพลังงานขับเคลื่อนก็ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติเช่นกัน ด้วยการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ในท้ายที่สุดระบบควบคุมก็ไม่อาจใช้การได้ ยานลำนี้กำลังจะออกจากเส้นทางประตูวาร์ป” ไดแอสประเมินสถานการณ์ก่อนที่เขาจะสงบลง “อาจเกิดจากการแทรกแซงภายนอก ถ้าการคาดเดาของข้าถูกต้อง ตอนนี้เราก็กำลังบินเข้าไปหายานโจรสลัดอวกาศ “

เมื่อเด็กข้างๆชิลลินได้ยินคำว่า ‘การแทรกแซงด้วยพลังงานสนามแม่เหล็กและกองโจร’ เขาก็เกิดรู้สึกกลัวขึ้นมามากจนทำให้ปรากฏใบหน้าที่ซีดเซียว และคำหลังของ ‘โจรสลัดอวกาศ’ จากไดแอสนั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นระเบิดที่หนักเหลือทนสำหรับเด็กชาย เพราะฉะนั้นเด็กที่น่าสงสารคนนั้นก็หน้ามืดไปในทันที

เสียงของไดแอสไม่ดังมากและมีเพียงคนทั้งสามเท่านั้นที่ได้ยินคำพูดของเขา แต่ผู้โดยสารคนอื่นๆ ก็ได้ตั้งสมมติฐานของตัวเองขึ้นมาด้วย จุดที่เห็นร่วมกันตอนนี้คือทุกคนต่างหวาดกลัว

หลังจากนั้นก็เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรงอีกครั้งพร้อมกับเสียงดังกระหึ่มของกระแสไฟฟ้าที่กึกก้องไปทั่วทั้งลำยาน

“ขอโทษสำหรับท่านผู้โดยสารที่น่ารักทุกท่าน ตอนนี้ยานลำนี้ได้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกข้าแล้ว ถ้าพวกแกยังไม่อยากจะตายกรุณาเชื่อฟังคำสั่งและนั่งอยู่ในที่ของพวกแก เพราะปืนที่อยู่ในมือของพวกข้าไม่ค่อยจะมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีสักเท่าไหร่กับสิ่งมีชีวิตเช่นมนุษย์ โอ้……อีกสิ่งหนึ่งที่ข้าไม่ชอบก็คือเสียงดัง เพราะฉะนั้นถ้าใครกรีดร้องออกมา พวกแกก็อาจจะเจอเศษเนื้อของพวกแกล่องลอยอยู่ในอวกาศก็เป็นได้ “

โจรสลัดอวกาศ!

ห้องโดยสารเต็มไปด้วยความกระวนกระวายและเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น

ชิลลินวิเคราะห์สถานการณ์ในใจของเขา เนื่องจากโจรเหล่านี้กล้าปล้นยานอวกาศ เอ็กซ์-ซี หนึ่ง ศูนย์ ศูนย์ ซึ่งหมายความว่าพวกมันต้องวางแผนมาอย่างพิถีพิถันสำหรับเรื่องนี้ พวกมันสามารถหลีกเลี่ยงการลาดตระเวนรักษาความปลอดภัย ปลดระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมดออกได้และบุกเข้ามาโดยไม่มีการต่อต้านใดๆหรือสร้างความปั่นป่วนขนาดใหญ่เช่นการระเบิด นั่นหมายความว่ามีโอกาสกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่พวกมันได้ลอบส่งสปายเข้ามาไว้บนยานอวกาศลำนี้เป็นเวลานานแล้ว นอกจากนี้เนื่องจากการคุ้มครองทางกฎหมายบางอย่าง ทุกคนที่กระทำการฆ่าผู้โดยสารจากสถานีปลายทางของยานสเปซไลเนอร์จะต้องถูกล่าสังหารอย่างเหี้ยมโหดโดยกองกำลังทหาร เมื่อพิจารณาจากเสียงของโจรในขั้นตอนของการปฏิบัติตัวตามสถานการณ์เหล่านี้ พวกมันไม่ได้วางแผนที่จะฆ่าคนบนยานลำนี้และแม้แต่ยามก็อาจจะแค่ถูกจับคุมตัวเอาไว้ในตอนนี้เท่านั้น อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรแน่นอนและโจรก็เป็นโจร ใครจะรู้ว่าพวกมันอาจจะพบคนที่ไม่สบอารมณ์และยิงทิ้งต่อหน้าต่อตของพวกมันก็เป็นได้?

เมื่อหันไปมองดู ไดแอสนั้นนั่งไขว่ห้างสบายๆอยู่ที่ด้านข้างของเขา ชิลลินคิดว่าเหตุการณ์ที่เป็นอยู่จะต้องเกี่ยวข้องกับคนเช่นผู้ชายคนนี้แน่นอน เขาถอนหายใจดูเหมือนว่าข้าจะติดอยู่ในกองเพลิง อย่างไรก็ตามชิลลินนั้นมีความอยากรู้อยากเห็นมากกว่าสิ่งอื่นใด เพียงเพื่อคนที่มียีนในระดับเอพวกมันวางแผนที่จะทำอย่างไร

ไม่นานหลังจากนั้นประมาณสิบนาที กลุ่มกองโจรสวมหน้ากากน่ากลัวเดินเข้ามาด้วยปืนที่ถืออยู่ในมือของพวกมันและพวกมันก็มุ่งหน้าตรงไปตรงหน้าของไดแอส มีปืนหลายสิบกระบอกชี้ไปที่ไดแอส

“ลุกขึ้นและมากับข้า!”

ไดแอสค่อนข้างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เขากางแขนออกและกางมือออกเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีเจตนาที่จะต่อต้าน

“โอ้ว……ใช่, ทันใดนั้นไดแอสก็หันไปทางชิลลินและกล่าวว่า “เฮ้ น้องชาย, นายช่วยดูแลอาหารของฉันให้หน่อยได้ไหม? ฉันยังกินเบอริโต้อวกาศไม่เสร็จเลย”

คิ้วของชิลลินขดและสบถคำพูดออกมา ไอ้กร๊_กเอ้ย! ผมรู้จักคุณดี? เรื่องที่คุณยังกินเบอริโต้ไม่เสร็จมันไม่ใช่ปัญหาของผม และใครมันจะบ้าไปคว้าเอาเบอริโต้ที่กินเหลืออยู่กว่าครึ่งแถมยังมีร่องรอยของฟันที่เคยกัดอยู่มากินภายใต้สถานการณ์เช่นนี้กัน? เห็นได้ชัดว่าคุณต้องการลากผมไปด้วย!

ขณะที่เขาคิด หัวหน้าของกลุ่มโจรก็ชี้ปืนมาที่ชิลลิน “พามันมาด้วยกัน!”

ชิลลินไม่ได้สงสัยเลยแม้แต่น้อยว่าดวงตาคู่นั้นที่ซ่อนอยู่หลังแว่นกันแดดของไดอาส มันเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์เหมือนหมาจิ้งจอก

คนอื่นๆในห้องโดยสารไม่กล้าที่จะหายใจลึกๆ กลัวว่าพวกโจรจะสังเกตเห็นพวกเขา

เมื่อมีปืนหลายสิบกระบอกชี้คุมตัวไว้ชิลลินและไดแอส ถูกนำตัวไปยังห้องควบคุมหลัก เมื่อมันเปิดออกกัปตันและคนขับยานก็หมดสติอยู่แล้วในมุมๆหนึ่ง ขณะที่ชิลลินคาดว่าโจรเหล่านี้ไม่ได้ฆ่าพวกเขาแม้ว่าจะไม่มีการบอกว่าเกิดอะไรขึ้นในภายหลัง

“เจ้านายเราพาเขามาแล้ว”

คนที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้กัปตันหมุนเก้าอี้หันมา เขาสวมหน้ากากแบบเดียวกันกับพวกโจรที่เหลือและกำลังเล่นปืนในมือ เขาไม่ได้มองชิลลินแม้แต่น้อย แต่กลับจ้องมองไปที่ไดแอส ตรงไหน “มันอยู่ที่ไหน?”

พวกเขาได้ค้นกระเป๋าเดินทางทั้งหมดที่เก็บไว้ในห้องสัมภาระแล้ว พวกเขาไม่พบสิ่งที่พวกเขากำลังมองหา

ไดแอสไม่ได้ทำตัวเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร “มันอยู่ที่ฉัน”

เขาหยุดเล่นปืนในขณะที่เขากล่าวอย่างเคร่งขรึม “เอามันออกมา”

ปืนเกือบยี่สิบกระบอกถูกชี้ไปที่ไดแอส ถ้าเขาทำหรือเคลื่อนไหวอะไรที่ดูผิดธรรมชาติเล็กน้อยก็จะถูกยิงในทันที

ไดแอสยักไหล่ของเขา “ข้าสามารถบอกเจ้าได้และให้ในสิ่งที่เจ้ากำลังมองหา แต่มันจะดีกว่าถ้าเจ้าเก็บปืนพวกนี้ไป ถ้าข้าตายไปเจ้าก็จะไม่ได้รับอะไรเลย”

ในขณะที่พูดไดแอสสะบัดมือของเขาครั้งเดียวปรากฏแหวนสีเงินเลื่อนออกจากแขนของเขาไปที่ข้อมือ เขาสัมผัสที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของแหวนมันพลันกลายเป็นสร้อยข้อมือขนาดกว้างสามเซนติเมตร

แหวนห้วงมิติ! มันมีคุณภาพดีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แหวนวงนี้มีมูลค่ามากกว่ายานทั้งลำ!

พวกโจรเหล่านี้รู้ข้อมูลของมัน แม้จะอยู่ภายใต้หน้ากากชิลลินรู้ว่าดวงตาของพวกมันเต็มไปด้วยความโลภ

ไดแอสหยิบกระเป๋าเอกสารสีดำขนาดใหญ่ขึ้นมา ชิลลินเคยเห็นกระเป๋าเอกสารนี้มาก่อนที่ร้านอาหาร แต่เขาไม่คาดคิดไว้จริงๆว่ากระเป๋าที่ไดแอสเดินถือไปไหนมาไหนอยู่อย่างสบายใจจะเป็นเป้าหมายของพวกโจร ชิลลินไม่ได้สงสัยถึงมูลค่าของสิ่งที่อยู่ข้างในเลยแม้แต่น้อย แต่ไดแอสนั้นไม่ใช่เพื่อนของเขา มันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่จะไม่ได้สนใจ!

เขาทำมันอย่างตั้งใจ ทำเพื่อมันโดยสิ้นเชิง!

กล้ามเนื้อในร่างกายของชิลลินทุกเซลล์เตรียมพร้อม ชายคนนี้เป็นคนเจ้าเล่ห์เหมือนสุนัขจิ้งจอก ไดแอสไม่มีทางที่ของสิ่งนี้แก่พวกโจรได้ง่ายๆ

หลังจากไดแอสเอากระเป๋าออกมา เขาโยนมันลงไปยังคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ของกัปตันยาน เช่นเดียวกันขณะที่อีกฝ่ายกำลังจะจับมัน ไฟทั้งหมดภายในห้องควบคุมก็ดับทันที

แม่งเอ๊ย! ข้ารู้ว่าเจ้าจะทำมัน!

ก่อนที่ไฟจะปิด ชิลลินสังเกตเห็นแสงแฟลชจากจุดบนสร้อยข้อมือของไดแอส ในเวลาเดียวกันมีเสียงแปลกๆดังออกมา คนส่วนใหญ่ไม่ได้สังเกตเห็นสัญญาณรบกวนเหล่านี้ แต่ชิปที่อยู่ภายในตัวของชิลลิน ทำปฏิกิริยากับมันซึ่งเป็นเหตุผลที่ชิลลินเกิดการตอบสนองต่อเหตุการณ์นี้ในครั้งแรกทันทีคือการหนีออกไปจากที่นี่

ตามที่คาดไว้, เสียงปืนดังขึ้นท่ามกลางห้องที่มืดมิด เกิดประกายไฟบินไปทั่วทุกแห่ง

ไดแอสลงมือแล้ว!

ชิลลินไม่จำเป็นต้องใส่แว่นสายตาในตอนกลางคืนเลย ดวงตาของเขาสามารถปรับได้โดยอัตโนมัติเมื่อเซลล์เยื่อบุผิวคอลัมนิสต์โตขึ้นในเรตินาของเขาและรูม่านตาของเขาก็ขยายกว้างถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของผิวรอบดวงตา แสงจากปืนเพียงนัดเดียวก็เพียงพอสำหรับชิลลินเพื่อดูทุกอย่างภายในห้องควบคุมได้อย่างมีความชัดเจนสมบูรณ์ ไม่ต้องพูดถึงปืนจำนวนมากที่ยิงในเวลาเดียวกัน สำหรับชิลลินมันก็เหมือนกับมีคนติดตั้งไฟฉายอยู่ภายในห้อง

ไดแอสได้อาศัยความสามารถของยีนในระดับเอ เคลื่อนไหวอย่างคมชัดไปยังจุดหมายที่แม่นยำและยอดเยี่ยมด้วยการโจมตีในทุกๆครั้งของเขา เขาไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธใดๆเพื่อจัดการพวกโจรเหล่านี้ ภายในช่วงเวลาแค่เพียงอึดใจเดียวพวกโจรก็ได้ถูกจัดการไปเป็นจำนวนมาก เขาไม่ได้ฆ่าพวกโจรแม้แต่คนเดียว แต่กลับมัดพวกมันเอาไว้

ชิลลินไม่เชื่อว่าไดแอสจะเป็นคนที่มีความเมตตา จากมุมมองของนักล่า โจรคนหนึ่งที่ยังมีชีวิตย่อมจะมีค่ามากกว่าตายไปแล้ว

โจรคนหนึ่งเอาแหล่งไฟสำรองออกมา แต่แม้จะมีแสงพวกมันก็ยังพบว่ามันยากที่จะจับตัวของไดแอส เขานั้นเร็วเกินไป ทำให้พวกมันไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดใดๆ โจรเหล่านี้ไม่อาจที่จะคาดคิดมาก่อนได้ว่าภายในห้องควบคุมทั้งห้องจะมืดดับสนิทหมด พวกมันไม่ได้เอาแว่นตาอินฟราเรดหรือแว่นตาสแกนอิเล็กตรอนมาด้วย

การต่อสู้ทั้งหมดใช้เวลาไม่เกินสิบวินาที มันจะไม่เป็นการพูดเกินจริงสักนิดเลยที่จะบอกว่าโจรเหล่านี้ได้ประสบพบเจอเข้ากับภัยพิบัติที่ร้ายแรง ความแตกต่างระหว่างความแข็งแกร่งของพวกมันกับเขาเป็นสิ่งที่ชัดเจนมากเกินไป

โจรคนสุดท้ายฉลาดพอที่จะจับลูกเรือคนหนึ่งที่โดนมัดและสลบอยู่ข้างหน้ามาใช้เป็นตัวประกัน แต่ก่อนที่มันจะพูดก็ปรากฏเสียงเสียงแหบแตกออกมาจากลำคอของมัน และมันก็กลายเพียงคนเดียวที่ตายจากการต่อสู้ในห้องควบคุมนี้

“ข้าเกลียด, เวลาที่มีคนมาข่มขู่ข้า” น้ำเสียงของไดแอสพูดออกมาด้วยความสงบนิ่งราวกับว่าเขากำลังทำเรื่องธรรมดาๆที่ใครๆรู้จักกันทั่วไป

เมื่อการต่อสู้จบลงแหล่งกำเนิดแสงทั้งหมดก็ได้กลับมาทำงานใหม่อีกครั้ง เมื่อไฟกลับคืนสู่ห้องควบคุม สายตาของชิลลินก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ไดอัสไม่ได้หันมองไปชิลลินที่ยืนอยู่ข้างๆเขา ขณะที่เขากำลังจองมองไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ที่กางออก ก่อนที่พวกเขาจะเห็นจุดพิกัดบอกตำแหน่งบนหน้าจอ พิกัดเหล่านั้นเริ่มเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วก่อนที่มันจะล็อคลงบนสองตำแหน่งของการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว มันคือพิกัดบอกตำแหน่งของโจรที่ควรจะยืนเฝ้าระวังในจุดต่างๆภายในยานลำนี้ ก่อนที่พวกมันจะวิ่งหนีหลังจากตระหนักว่าสถานการณ์ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก

เมื่อเขาล็อคเป้าหมายไว้ทั้งหมดแล้ว ไดแอสไม่ลังเลใจที่จะยิงตอร์ปิโดโฟตอนที่ติดตั้งอยู่บนยานลำนี้ ริมฝีปากของชิลลิขดตัวเล็กน้อยด้วยความสงสัย มันไม่ได้มีการใส่รหัสผ่านป้องกันก่อนที่จะทำการเปิดใช้งานตอร์ปิโดโฟตอนของยานให้สามารถทำงานได้เช่นนั้นหรือ? ทำไมเขาถึงได้ผ่านการป้องจากระบบได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้?

เกิดการระเบิดที่สดใสสว่างไสวเหมือนเปลวไฟเป็นจำนวนมากติดต่อกัน และในไม่ช้ายานรบที่หลบหนีของเหล่ากองโจรก็ปลิวกระเด็นไกลออกไปไม่เหลือชิ้นดี

“เย้!” ไดแอสฮัมเพลงและเต้นออกมา เมื่อเขาเดินไปหยิบกระเป๋าเอกสารที่ตกอยู่บนพื้น เขาก็มาถึงที่ด้านหน้าของชิลลินและกล่าวว่า “ทีมรักษาความปลอดภัยกำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่นาที โอ้, ชิลลินมันไม่ได้อยู่ในสถานที่ฉันจะพูดแบบนี้แต่นายควรที่จะแสดงท่าทีที่ตื่นตระหนกเล็กน้อย เมื่อนายเห็นโจรและแสดงอาการอันหวาดกลัวต่อสายตาของปากกระบอกปืนของพวกมัน นายไม่ควรจะมองดูเหตุการณ์อย่างนิ่งสงบราวกับว่าใบหน้าของนายเป็นอัมพาต เพราะท่าทางและการแสดงออกของผู้โดยสารทุกคนจะถูกบันทึกไว้โดยกล้องรักษาความปลอดภัยของยาน การที่นายแสดงออกเช่นนั้นเป็นเรื่องที่น่าสงสัยอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นทีมรักษาความปลอดภัยจะนำนายกลับไปและสอบปากคำนายอย่างไร้ความปราณี”

ไดแอส จงใจเน้นคำว่า ‘โหดเหี้ยม’

ชิลลินเหลือบมองไปที่ไดแอสเล็กน้อย “ดังนั้น? คุณไม่ได้ตั้งใจนั่งข้างผมด้วยอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องแบบนี้เช่นนั้นหรือ? “

ไดแอสหัวเราะออกมาและไม่ได้ปฏิเสธ

“นายรู้หรือไม่ว่าบริษัทสายการบินและทีมรักษาความปลอดภัยจะให้ค่าชดเชยแก่ผู้โดยสารหากพบกับการโจรกรรม ถ้าหากนายอยากจะทำร้ายตัวเอง พวกเขาก็จะจ่ายเงินมากยิ่งขึ้น “

ชิลลินไม่มีปฏิกิริยาใดๆต่อการสนทนาดังกล่าว………

 

 

———————————————————————————————————————————————————————————-

 

 

ฝากกดไลค์ กดติดตามเพจ ให้กำลังใจ และติดตามข่าวสารกันด้วยนะครับ :  

*หากมีคำติชมใดๆสามารถเสนอแนะเข้ามาได้ครับ ผิดพลาดประการใดผู้แปลต้องขออภัยผู้อ่านมา ณ ที่นี้ด้วย

*ถ้าอยากอ่านและให้ลงบ่อยๆช่วยกันคอมเม้นท์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะคร๊าบบบบบบบ

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments