I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Star Rank Hunter ตอนที่ 18 : ตระกูลที่ร่ำรวยเงินทอง แต่จนน้ำใจ

| Star Rank Hunter | 637 | 2365 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

มหาวิทยาลัยเซเว่นไลท์เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงไปทั่วกาแลคซี ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนทางด้านภูมิศาสตร์และการวางแผนผังเมือง ทรัพยากร และการจัดสรรอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งหมดนี้ล้วนแต่ไม่มีมหาลัยใดในสิบอาณาเขตการค้าเทียบได้

ที่นี่มีโซนการวิจัยและเทคโนโลยีที่เตรียมพร้อมไว้แน่นเต็มพื้นที่ มีโซนฝึกฝนที่เปิดกว้าง เมืองที่ไม่เคยหลับไหลพร้อมให้บริการพักผ่อนและความบันเทิง และเขตการค้าของที่มีของมากมายหลายประเภท พวกเขามีทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ มันเหมือนกับระบบที่สมบูรณ์แบบ

บริเวณมหาวิทยาลัยใกล้กับท่าโดยสารมากที่สุดและมีเขตที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่อยู่ติดๆกัน มีกลุ่มอาคารสูงและกลุ่มของบ้านพักตากอากาศเช่นกัน ตามคู่มือของเซเว่นไลท์ที่พักของนักศึกษาจะได้รับการจัดเตรียมจากมหาวิทยาลัยและไม่อนุญาตให้นักศึกษาเลือกตามใจตัวเอง แน่นอนว่าที่นี่มีบ้านหรูหลายแห่งและอาคารสำนักงานให้เช่ามากมาย ผู้คนสามารถเช่าอาคารเหล่านี้ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถของตนเอง เงินเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย สิ่งที่สำคัญมากคือระดับอำนาจของบัตรเซเว่นไลท์ หากคุณมีระดับบัตรเซเว่นไลท์อยู่ในระดับหนึ่งแล้วก็ คุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลใดๆเกี่ยวกับการเช่าอาคารเหล่านี้

ย่านของมหาวิทยาลัยตั้งอยู่กลางดาวเคราะห์และล้อมรอบด้วยเขตสถานบันเทิง เขตฝึกอบรม เขตการค้าและอื่นๆ ชิลลิน ไม่ได้ไปแถวโซนมหาวิทยาลัย เขาจะลงทะเบียนด้วยตัวเองที่นั่นโดยตรงหลังจากวนสำรวจรอบดาวเคราะห์แล้วทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงเดินทางตามป้ายบอกทางบนแผน ที่จุดหยุดรถอันแรกของรถไฟทัวร์รอบดาวเคราะห์จะเป็นที่เขตการค้า

บางทีอาจเป็นเพราะตอนนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาเร่งด่วนจึงมีคนพลุกพล่านอยู่เต็มรอบๆสถานีรถไฟ บางคนก็หลับตาลงขณะที่นั่งลงไป พิจารณาจากป้ายที่บริเวณหน้าอกของพวกเขา พวกเขาทั้งหมดนักศึกษาเกรดสามหรือสี่

ในเซเว่นไลท์มีการแบ่งเกรดเป็นเจ็ดเกรดตามระดับการศึกษาของแต่ละคน หนึ่งถึงสี่เกรดแรกเป็นการศึกษาขั้นพื้นฐานที่บังคับว่าจะต้องผ่านหากต้องการเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น นักศึกษาสามารถสมัครเรียนต่อชั้นที่สูงกว่าหลังจากสำเร็จการศึกษาทั้งสี่เกรดแล้วเท่านั้น แน่นอนผู้ที่มีผลการเรียนที่ดีพอและมีความประสงค์จะศึกษาต่อสามารถสมัครเรียนต่อไปได้ ในเซเว่นไลท์ผู้ที่มีระดับการศึกษาที่สูงจะเพลิดเพลินไปกับความร่ำรวย เหตุผลที่ไม่มีนักศึกษาเกรดห้าถึงเจ็ดเดินทางออกไปข้างนอกด้วยรถไฟเลย เนื่องจากพวกเขาทั้งหมดมีรถส่วนตัวซึ่งมันสะดวกกว่าการนั่งรถไฟหรือเช่ารถแท็กซี่

ตอนที่เขาพูดคุยกับคังแมนที่ท่าโดยสาร เขาได้เรียนรู้ว่าหลักสูตรการศึกษาของคังแมนคือแบบสี่บวกสาม ซึ่งเป็นหลักสูตรที่รวบรวมเข้าด้วยกันเพื่อการศึกษาเพิ่มเติม หลักสูตรนี้เปิดให้เฉพาะนักเรียนที่คัดเลือกมาเป็นพิเศษและการดูแลที่พวกเขาจะได้รับก็จะแตกต่างจากคนอื่นๆเช่นชิลลินและทุกคนที่มีบัตรเซเว่นไลท์สีแดงเข้ม ซึ่งเป็นอันดับขั้นพื้นฐานที่สุด แต่บัตรของคังแมนนั้นมีอันดับที่สูงกว่าคือสีส้ม มันจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาหากเทียบอันดับบัตรของเขากับคนอื่นๆ

เมื่อได้ยินการประกาศหยุดรถไฟ ชิลลินลุกขึ้นจากที่นั่งและแบกกระเป๋าไว้บนหลัง ขณะที่เขาเดินออกไป ชิลลินก็ต้องหยุดชะงักในทันที ด้วยความรู้สึกว่าเขานั้นมาผิดที่หรือเปล่า เขาอาจจะอ่านคำอธิบายของโซนการค้าในคู่มือของเซเว่นไลท์ผิดไป แต่ช่างดูแตกต่างจากความเป็นจริงที่คิดไว้มากๆ

 

สถานที่แห่งนี้เปรียบเหมือนอาณาจักรธุรกิจขนาดยักษ์

เขตการค้าเบื้องหน้าของเขาดูเหมือนเต็มไปด้วยการค้าที่รุงเรืองต่างๆมากมายที่ซับซ้อนและมีจำนวนนับไม่ถ้วน รถบินคึกคักวิ่งตัดกันไปมา กลุ่มผู้คนเสียงดังเฮฮา

นี่เป็นดาวเคราห์สำหรับมหาวิทยาลัยจริงๆหรือ? ทำไมมันไม่ได้ดูแตกต่างไปจากถนนที่เต็มไปด้วยการค้าขายบนดาวเคราะห์ในอาณาเขต D เลย ในตอนที่เขาไปพบกับไอฟรอน?

มีป้ายถนนจำนวนมากและป้ายโฆษณาที่นำทางผู้ที่มาถึงที่นี่ จอแสดงผลขนาดยักษ์ที่ลอยอยู่กลางอากาศจะมีโฆษณาเป็นระยะๆ หน้าจอโฆษณาดังกล่าวสามารถมองเห็นได้ทุกที่และครอบคลุมสิ่งของทุกอย่าง ตั้งแต่สินค้าขั้นพื้นฐานที่สุดในชีวิตประจำวันที่มีทั้งรองเท้าสเก็ตโรลเลอร์ รถบินที่มีหลากหลายรูปแบบไม่มีที่สิ้นสุด และภาพที่มีงดงามพอที่จะดึงดูดความสนใจได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ชิลลินสุ่มแวบไปแวบมาตามร้านค้าทั้งสองฝากฝั่งและรู้ได้ในทันทีว่าพวกเขาไม่มีสินค้าธรรมดาๆขายให้แก่คุณ เป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจอย่างมากในถนนพาณิชย์ระดับไฮเอนด์แห่งนี้ที่ขายแต่สินค้าที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีระดับสูง ซึ่งแน่นอนว่าสินค้าต่างๆจะต้องมีราคาสูงตามไปด้วย แม้ว่าชิลลินยังคงมีเงินออมในบัตรของเขาอยู่ในขณะนี้ แต่จริงๆแล้วเขาไม่สามารถหาซื้อสิ่งของที่เขาต้องการได้ที่นี้ โชคดีสำหรับเขาเขาไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งของเหล่านั้นในตอนนี้ก็ได้

อย่างไรก็ตามหลังจากเดินทางมาถึงห้างสรรพสินค้าและซื้อสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันบางอย่าง ชิลลินก็เดินไปตามทางของตลาดนัด ที่นี่ไม่มีร้านค้าอย่างเป็นทางการ แต่ละคนต่างก็เปิดแผงลอยบนถนนสายนี้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเหล่านักศึกษาเกรดสองทั้งหมด รายการที่จัดแสดงเป็นส่วนหนึ่งของรางวัลที่พวกเขาได้รับขณะทำงานภาคสนามนอกดาวเคราะห์หรือในระหว่างการสอบ

บางส่วนของสิ่งของเหล่านี้เป็นเพียงแค่ของชิ้นเล็กๆและของเล่นที่ไม่มีค่าอะไรเลย นอกจากเป็นของประดับตกแต่งภายในห้องนั่งเล่นของตัวเอง แต่ในหมู่สิ่งของเหล่านั้นก็มักจะมีของล้ำค่าเช่นเครื่องเพชรพลอยชิ้นเล็กๆปะปนอยู่ มีของจำนวนไม่น้อยที่นับว่าค่อนข้างมีราคา แม้กระทั่งโลหะมีค่าหรือก้อนพลังงานก็ยังมีขายที่นี่ หากสินค้าถูกส่งไปขายยังร้านค้าใหญ่ๆก็จะต้องเสียค่าธรรมเนียมบางส่วนในการฝากขาย ซึ่งเป็นเหตุผลให้หลายๆคนจัดการขายสินค้าด้วยตัวเอง

“นี่เป็นเปลือกหอยใหญ่ที่เราตกปลาเมื่อเราไปที่ Planet Sea Blue เมื่อเดือนที่แล้ว เมื่อลมพัดคุณก็สามารถได้ยินเสียงคลื่นทะเลและคุณจะมองไปที่สีนี้…”

“โอ้, กระผมแน่ใจว่าคุณชายท่านนี้ช่างมีสายตาที่เฉียบแหลม นี่คือแร่โลหะผสมที่เราขุดขึ้นมาได้ในระหว่างการสำรวจภาคพื้นดิน อาจารย์ผู้สอนที่นำทีมของเรากล่าวว่าอัตราส่วนขององค์ประกอบโลหะที่มีนัยสำคัญบางส่วนในแร่โลหะผสมนี้เกือบที่จะสมบูรณ์แบบแล้ว มันมีบทบาทสำคัญในการสร้างและซ่อมแซมอาวุธ รวมทั้งการปรับปรุงเกราะป้องกันบางส่วนในทางช่างกล….”

ชิลลินมองไปรอบๆ มีผู้คนขายสินค้ามากมายหลายรูปแบบ สำหรับบางคนนี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาทำการค้าขายเช่นนี้ แต่เห็นได้ชัดเจนว่าเหล่าผู้ที่ช่ำชองในการค้าขายต่างตะโกนส่งเสียงไปมาเรียกลูกค้า ฟังแล้วช่างเหมือนกันเสียงของนกร้องที่ประสานเสียงเคล้าคลอไปมา เบื้องหลังเสียงตะโกนและคำที่ฟังดูลื่นหูของพวกเขาเหล่านั้น เมื่อมองดูแล้วพวกเขาแทบจะไม่ต่างจากพวกพ่อค้ามืออาชีพทั่วๆไปเลย

สาวสวยที่คล่องแคล่วและช่ำชองจะทำการแสดงท่วงท่าลีลาเพื่อเรียกลูกค้าไปพร้อมกับโชว์สินค้าในมือของพวกเธอและด้วยการนำเสนอสินค้าที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้ อย่างน้อยที่สุดมันก็ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องหยุดชะงักและหันมาให้ความสนใจกับร้านค้าของสาวสวยพวกนี้มากกว่าร้านค้าของคนอื่นๆ ไม่มีใครสามารถปฎิเสธถึงอำนาจของความงดงามนี้ได้

ขณะที่ชิลลินตรวจสอบสินค้าในแผงลอยของชายคนหนึ่งอยู่ ก็ปรากฏบุคคลผู้หนึ่งยืนอยู่ถัดจากร้านที่เขาอยู่ เขาคนนั้นดูจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับชิลลิน ผมของเขาดูรกรุงรัง เขาสวมเสื้อกล้ามและกางเกงตัวใหญ่ลายดอกไม้ เท้าของเขาส่วมใส่รองเท้าแตะที่ถักด้วยหวายและมือของเขากำลังโบกสะบัดพัดที่ทำจากใบไม้ ชิลลินเคยเห็นพัดที่ทำจากใบไม้แบบนี้ที่แผงลอยร้านก่อนหน้านี้มาก่อน

ชายคนนี้นั่งลงที่หน้าแผงลอยและใช้มืออีกข้างหยิบจับสินค้า ดูเหมือนว่าเขาจะตรวจสอบวัตถุดิบของสินค้าหรือความสมบูรณ์ของมันอยู่

อย่างไรก็ตามชิลลินสังเกตเห็นว่าการแสดงออกของเจ้าของร้านแผงลอยมีท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อเขาเห็นชายคนนี้เข้ามาที่แผงลอยข้างๆ เขาเหมือนจะเปิดปากพูดอะไร แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

ชิลลินมีความรู้สึกว่าเจ้าของร้านมีความต้องการที่อยากจะม้วนแผงลอยของเขาเก็บไว้และวิ่งหนีไปทันที เหตุการณ์นี้กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของชิลลินขึ้นมา เขายืนอยู่ข้างๆและเฝ้าดูอย่างเงียบๆ

แต่เจ้าของร้านแผงลอยข้างๆเขานั้นดูจะไม่มีท่าทีตื่นตระหนกใดๆ เขาอธิบายอย่างกระตือรือร้นให้กับผู้ชายคนนี้ฟังเกี่ยวกับวัตถุดิบและที่มาของสินค้าที่ลูกค้าสนใจ

จากนั้น……. การต่อราคาที่น่าเศร้าก็เริ่มต้นขึ้น ชิลลินเห็นดวงตาที่แสดงถึงความน่าสงสารของพ่อค้าที่แสดงออกมา มันเปลี่ยนแปลงไปจากท่าทีที่เบิกบานใจก่อนหน้าของเขา เขาไม่ได้แสดงอารมณ์โกรธหรือฉุนเฉียวใดๆและกล่าวออกไปว่า “ลืมมันไปซะหนุ่มน้อย นายน่าจะเป็นนักเรียนใหม่ ฉันจะให้สิ่งนี้ คิดซะว่ามันเป็นของขวัญจากรุ่นพี่”

“ไม่ได้! ผมไม่ได้รู้จักหรือว่ามีบุญคุณอะไรกับคุณ แล้วผมจะรับของจากคุณได้อย่างไร มันดูจะเป็นเรื่องที่เหลวไหล? นอกจากนี้ถ้าคุณไม่รับเงินไว้ จิตใต้สำนึกของผมก็คงจะรู้สึกผิดต่อคุณ มโนธรรม… คุณยังมีสิ่งนั้นอยู่ไหม?” ชายหนุ่มที่เป็นลูกค้ากล่าว

ราคาสินค้าถูกต่อราคาหั่นลงจาก 500 เครดิต เหลือแค่ 50 เครดิต น้ำตาของพ่อค้าเกือบจะสาดกระเซ็นออกมาจากดวงตาของเขา ชายคนนั้นปฏิเสธเมื่อเขาพยายามจะมอบของขวัญให้ เพื่อที่ชายหนุ่มจะได้ออกไปจากร้านของเขาเสียที

ชายหนุ่มลวงเข้าไปในกระเป๋าของเขาและหยิบเงินออกมา 1,000 เครดิตกาแลคซี่ จากนั้นเขาก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋าอีกข้างหนึ่งและหยิบบัตรเซเว่นไลท์ออกมา รวมทั้งบัตรวีไอพีสองสามใบจากร้านค้าสุดหรูบางแห่งในศูนย์กลางของเขตการค้า

เขาใช้เวลาอยู่นานในการล้วงกระเป๋าเพื่อหาเงินที่จะมาจ่ายค่าสินค้าตามที่ได้ต่อราคาไป ก่อนที่สุดท้ายเขาจะจ่ายเป็นธนบัตรจำนวน 50 เครดิตกาแลคซี่ หลังจากไล่ต้อนพ่อค้าอย่างจนมุม

“นี่เงิน 50 เครดิตกาแลคซี่ อย่าพูดว่าผมฉกฉวยผลประโยชน์อะไรจากคุณ” ชายคนนั้นยิ้มอย่างไม่เป็นพิษเป็นภัย หลังจากนั้นเด็กหนุ่มเจ้าของร้านก็แสดงสีหน้าท่าทางเหมือนมีอาการท้องผูกเรื้อรังออกมา ชิลลินรับรู้ถึงความทุกข์ของเขาเพียงแค่มองดู

กองธนบัตรจำนวน 1,000 เครดิตกาแลคซี่ ก่อนหน้าที่ชายหนุ่มคนนั้นหยิบออกมาอาจจะมีมูลล่าไม่น้อยกว่า 20,000 เครดิตเสียด้วยซ้ำ? นอกจากนี้บัตรอื่นๆเหล่านั้นก็ยังไม่สามารถหามาได้ง่ายๆเพียงแค่ใช้เงินไม่กี่ล้านเครดิต แต่เขากลับทำตัวหมอบคลานอย่างกับคนที่มาจากครอบครัวเล็กๆและต่อราคาสินค้าจนเหลือแค่ 50 เครดิต พร้อมกับสวมหน้ากากว่า ‘ฉันเป็นคนดีให้คุณเห็น’ ถ้าชิลลินเป็นเจ้าของร้าน เขาคิดว่าเขาจะนิ่งเฉยไว้และปล่อยให้ไอ้คนสารเลวคนนี้พล่ามให้เสียเวลาไป

เจ้าของร้านผู้น่าสงสารได้ยกนิ้วขึ้นและชี้สาปแช่งไปที่ด้านหลังของชายคนนั้น เขาไม่สามารถแม้แต่จะพูดคำใดออกมาแทนความรู้สึกได้

ชิลลินเดินไปที่ด้านหลังของเด็กหนุ่มแผงลอยร้านข้างๆที่กำลังชี้นิ้วอันสั่นเทาสาปแช่งอยู่ เขาตบลงไปเบาๆบนหลังของเด็กหนุ่มพร้อมกับปลอบโยนว่า “ปล่อยมันไป พวกเฮงซวยเช่นนั้น นายไม่ใช่คนเดียวที่เจ็บช้ำน้ำใจ”

“ไอสารเลวคน….. เป็นใครกัน?”

“เพื่อนเอ๋ย, ฉันเพิ่งได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับมันมาเมื่อวานนี้จากอาจารย์ผู้สอน ฉันรู้ความจริงอยู่แล้ว แต่ฉันก็ยังหาเรื่องใส่ตัวเอง”

“บอกความจริงกับฉันมาว่าคืออะไร!”

“เขามีชื่อว่า ลังก์ แอนดรูว์”

“…..นามสกุลนี้ฟังดูคุ้นเคยมาก….” พ่อค้าผู้น่าสงสารขมวดคิ้วขึ้นก่อนที่ดวงตาของเขาจะเปิดกว้างและกล่าวว่า “แอนดรูว์… เขา… เขามาจากตระกูลที่เรียกกันว่า ‘พวกรวยเงินทอง แต่จนน้ำใจ’ ?!!!”

“อ๋อ….”

เคยมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น ณ ที่แห่งหนึ่ง

ชิลลินยิ้มและส่ายศีรษะไปมา

ชื่อเสียงของตระกูลแอนดรูว์ในกาแลคซีนั้นโด่งดังกว่าตระกูลดูแลนซ์ อันที่จริงแล้วความมั่งคั่งของตระกูลดูแลนซ์ไม่ได้ด้อยกว่าแม้แต่น้อย แต่เหตุผลที่ตระกูลแอนดรูว์มีชื่อเสียงมากกว่าเนื่องจากเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นโดยผู้นำตระกูลแอนดรูว์ได้ไปบ่นเกี่ยวกับชีวิตของพวกคนยากจนในงานเลี้ยงวันเกิดนายพลอาสุโสแห่งกาแลคซี่คนหนึ่ง และนายพลก็ได้กล่าวติดตลกว่า “ใช่คุณมันก็พวกยากจน ‘คุณมันพวกรวยเงินทอง แต่จนน้ำใจ’ คอยแต่จะเอาเปรียบพวกคนที่อ่อนแอ”

หลังจากนั้นชื่อของตระกูลที่ “รวยเงินทอง แต่จนน้ำใจ” จึงได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งกาแลคซี

 

 


*หายไปนานต้องขอโทษด้วยนะครับ สุขภาพผู้แปลช่วงนี้เอาแน่เอานอนไม่ค่อยจะได้

ฝากกดไลค์ กดติดตามเพจ ให้กำลังใจ และติดตามข่าวสารกันด้วยนะครับ :  

*หากมีคำติชมใดๆสามารถเสนอแนะเข้ามาได้ครับ ผิดพลาดประการใดผู้แปลต้องขออภัยผู้อ่านมา ณ ที่นี้ด้วย

*ถ้าอยากอ่านและให้ลงบ่อยๆช่วยกันคอมเม้นท์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะคร๊าบบบบบบบ

 

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments