ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปเมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านั้นจากผู้เยี่ยมยุทธชุดคลุมดำ ทุกคนต่างตกตะลึง
ผู้ที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขาคือจ้าวนครใต้พิภพที่พวกเขาเคยได้ยินเพียงตำนานเล่าขาน จริงๆหน่ะหรือ?‘ยู่หยาน’ที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของ’เนี่ยหลี่’เองก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของจ้าวนครใต้พิภพและคนอื่นๆที่ยืนอยู่เบื้องหลังของเขา นางเองก็ตกตะลึงสุดๆ กลายเป็นว่าในนครใต้พิภพนี้ยังมีผู้เยี่ยมยุทธระดับเทพวิญญาณอยู่ถึง 7 คน
‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
“เซี่ยวหยู่ ความสัมพันธ์ของเจ้ากับเจ้านครใต้พิภพ…?”
‘เซี่ยวหยู่’หันไปหา’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ และอธิบายพร้อมกับร้อยยิ้ม
“เจ้านครใต้พิภพคือพ่อบุญธรรมของข้าและยังเป็นผู้ที่เลี้ยงดูข้าอย่างเมตตา”
กลายเป็นว่า’เซี่ยวหยู่’นั้นมีภูมิหลังที่น่ากลัวมาก ไม่แปลกเลยที่ก่อนหน้านี้ ‘เซี่ยวหยู่’เคยพูดไว้ว่าในนครใต้พิภพนี้ไม่มีใครแตะต้องเขาได้
จ้าวนครใต้พิภพมองไปยังพวกเขาทุกคนแล้วยิ้ม
“พวกเจ้าทุกคนล้วนมีความสามารถตามที่เราได้คัดเลือกจากในนครใต้พิภพนี้ ในบางครั้งพวกเจ้ายังคงไม่แน่ใจเกี่ยวกับอนาคตของพวกเจ้าเอง แต่นับจากตอนนี้เป็นต้นไป พวกเจ้าทุกคนจะถูกแนะนำให้รู้จักกับดินแดนใหม่ๆทั้งหมด”
“โลกที่เรากำลังอาศัยอยู่นั้นถูกเรียกว่าโลกใบเล็ก เป็นเพียงเสี้ยวเล็กๆของอาณาจักรซากมังกรเท่านั้น นอกจากนี้ระดับตำนานที่พวกเจ้าอยู่ในตอนนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของการฝึกบ่มเพาะพลัง เหนือไปกว่าระดับตำนานยังมี ชะตาสวรรค์ ดาราสวรรค์ แก่นแท้สวรรค์ มังกรแห่งเต๋า และเทพยุทธ เทพสงคราม”
จากคำพูดเหล่านั้น ความตกตะลึงปรากฏขึ้นในดวงตาของ’คังหมิง’และคนอื่นๆ ถ้างั้นในโลกใบเล็กนี้คือเศษเสี้ยวหนึ่งของโลกใบใหญ่ๆหน่ะสิ นอกจากนั้นเขายังได้รู้อีกว่ามีขั้นที่เหนือไปกว่าระดับตำนาน
‘จ้าวนครใต้พิภพ’พูดต่อ
“ที่นั่นมีนิกายอยู่มากมายในอาณาจักรซากมังกร ใครก็ตามที่อยู่ในนิกายใดนิกายหนึ่ง สามารถกำจัดเหล่าผู้เยี่ยมยุทธทั้งหมดในโลกใบเล็กนี้ได้อย่างง่ายดาย และเหตุผลเดียวที่โลกใบเล็กนี้อยู่อย่างสงบสุขได้เพราะมีเพียงผู้ที่อยู่ภายในโลกใบเล็กเท่านั้นที่สามารถออกไปได้ อย่างไรก็ตามผู้ที่อยู่ภายนอกโลกใบเล็กนี้จะไม่สามารถเข้ามาได้ ประตูที่เชี่ยมต่อระหว่างโลกใบเล็กนี้กับภายนอกนั้นจะเปิดออกทุกๆ 5 ปี มีเพียงผู้ที่เกิดภายในโลกใบเล็กนี้ที่สามารถข้ามไป-มาได้ตามต้องการ”
ในชีวิตก่อนของเขา ‘เนี่ยหลี่’ได้เดินทางผ่านประตูไปยังอาณาจักรซากมังกรและโลกใบใหม่ทั้งหมด
จากคำพูดของ’จ้าวนครใต้พิภพ’ ‘คังหมิง’ ‘มู่เย่’และ’ฮวาฮัว’ นั้นเปี่ยมไปด้วยความหวังและความปรารถนาที่จะร่วมเดินทางไปยังอาณาจักรซากมังกร เพื่อดูว่าโลกนี้เป็นอย่างไร?
‘จ้าวนครใต้พิภพ’กวาดสายตาไปยังทุกคน
“ผู้เยี่ยมยุทธทั้ง 6 นี้มีจุดมุ่งหมายเดียวกันกับข้า พวกเข้าคือผู้เยี่ยมยุทธที่เกิดในโลกใบเล็ก พวกเจ้าทุกคนได้ถูกเลือกให้เป็นลูกศิษย์ของผู้เยี่ยมยุทธเหล่านี้แล้ว หากพวกเจ้าเต็มใจที่จะทำพันธสัญญาระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์และประทับผนึกวิญญาณแล้ว หลังจากนั้นอาจารย์ของพวกเจ้าจะพาพวกเจ้าไปยังอาณาจักรซากมังกร ที่นั่น พวกจะได้เข้าร่วมนิกายต่างๆ เรียนรู้ถึงเทคนิคการบ่มเพาะพลังในขั้นที่เหนือกว่า และกลายเป็นสุดยอดผู้เยี่ยมยุทธ!”
ในเมื่อเป็นผู้ฝึกบ่มเพาะพลัง นี่เป็นข้อเสนอสุดแสนเย้ายวนที่ไม่อาจปฏิเสธได้
เมื่อผนึกวิญญาณถูกสร้างขึ้น สายใยระหว่างอาจารย์กับศิษย์ก็เป็นอันสมบูรณ์ ในอาณาจักรซากมังกร การหลอกลวงและทรยศอาจารย์ถือเป็นบาปที่ไม่อาจอภัยได้!
‘ตู่เซอ’ กระซิบข้างหู’เนี่ยหลี่’
“เนี่ยหลี่ นี่เราจะได้ไปยังอาณาจักรซากมังกรอย่างนั้นหรือ?”
‘เนี่ยหลี่’พยักหน้าแล้วมองไปยังจอมมารที่ยืนอยู่ห่างออกไป จากนั้นก็พูดขึ้น
“มันจำเป็นที่เราจะต้องไปยังอาณาจักรซากมังกรมิฉะนั้น อีก5ปีข้างหน้าพวกจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องเมืองกลอรี่จากอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น”
หากพวกเขายังอยู่ในโลกใบเล็กนี้ ในขณะที่จอมมารได้ไปยังอาณาจักรซากมังกร อีก 5 ปีต่อมาจอมมารนั้นคงทำลายล้างเมืองกลอรี่ได้อย่างง่ายดาย
ประกายแห่งความเศร้าสร้อยปรากฏขึ้นภายในดวงตาของตู่เซอ
“แล้วเราสามารถกล่าวคำอำลาพ่อแม่ของเราสักเล็กน้อยก่อนไปจะได้มั้ย?”
‘เนี่ยหลี่’ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า
“ท่านจ้าวนครใต้พิภพควรให้เวลาสักหน่อยเพื่อทำสิ่งเหล่านั้น!”
ในเมื่อท่านจ้าวนครใต้พิภพคือผู้ตัดสินใจ เขายิ้มและตอบกลับไป
”ก่อนที่เราจะมุ่งสู่อาณาจักรซากมังกร ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าเพียงไม่กี่เดือน ในการอยู่กับครอบครัว นอกจากนั้นหากใครก็ตามที่ยังมีความปรารถนาอื่นอีกก่อนที่จะเดินทางไปยังอาณาจักรซากมังกร พวกเราจะช่วยทำให้พวกเจ้าสมปรารถนาอย่างสุดความสามารถ!”
ทันใดนั้น ‘คังหมิง’ก็ก้าวออกมา โค้งคำนับและถามขึ้น
“นายท่านผู้ยิ่งใหญ่ ข้าอยากจะทราบว่าใครกันที่จะมาเป็นอาจารย์ของเรา? พวกเราจะได้เลือกอาจารย์เองอย่างนั้นหรือ?”
‘จ้าวนครใต้พิภพ’ส่ายหัวและตอบ
“ผู้ที่จะได้เป็นอาจารย์ของพวกเจ้าได้ถูกตัดสินแล้ว หากพวกเจ้าคนใดไม่เต็มใจ ก็สามารถกลับออกไปได้เลย!”
ได้ยินดังนั้น ‘คังหมิง’เงียบไปในทันที พวกเขาไม่มีสิทธิ์ในการเลือก อันที่จริง แค่นี้ก็ทำให้พวกเขาปราบปลื้มสุดๆแล้ว กับการที่มีผู้เยี่ยมยุทธระดับนี้รับพวกเขาเป็นศิษย์ ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะร้อนใจว่าใครกันที่จะมาเป็นอาจารย์ของพวกเขา
‘เอียจื้ออวิ้น’ ‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’และคนอื่นกังวลเล็กน้อย เนื่องจากพวกเขามีกันหลายคน เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีอาจารย์คนเดียวกัน นี่พวกจะต้องแยกจากกันอย่างนั้นหรือ?
‘เอียจื้ออวิ้น’และ’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’แทบจะหันไปมอง’เนี่ยหลี่’พร้อมกัน ที่นั่นคืออาณาจักรซากมังกรอันแสนห่างไกลที่เคยพูดถึง พวกเขามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับประสบการณ์ที่จะได้รับจากที่นั่น
‘จ้าวนครใต้พิภพ’กวาดสายตาไปยังทุกคน
“หลังจากที่พวกเจ้ากลายเป็นลูกศิษย์แล้ว อาจารย์ของพวกเจ้าจะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับอาณาจักรซากมังกรให้ฟัง
อย่างไรก็ตามที่ข้าต้องบอกตั้งแต่ตอนนี้เลยก็คือ พวกเจ้าจะได้ไปอยู่ในนิกายใดนั้นไม่ปัญหา พวกเจ้านั้นมาจากโลกใบเล็กนี้ พวกเจ้านั้นห้ามลืมที่มาของตนเองหรือทรยศหลังหลังอาจารย์ของพวกเจ้าเป็นอันขาด! มิฉะนั้นแล้วพวกเราจะใช้พลังอำนาจทั้งหมดของพวกเรา กำจัดเจ้าเอง!”เมื่อสัมผัสความน่าสะพรึงอันเย็นเยียบจากดวงตาของเขา ทุกคนรีบพยักหน้าในทันที
หญิงสาวผู้แสนงดงามที่ยืนอยู่ข้างหลังจ้าวนครใต้พิภพ เผยรอยยิ้มออกมาและมองไปยัง’เอียจื้ออวิ้น’ ‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’และ’เสี่ยวซุ่ย’
“เจ้า เจ้าและเจ้ามาตรงนี้! นับแต่นี้ไปพวกเจ้าเป็นศิษย์ของข้า!”
เมื่อเปรียบเทียบกับเหล่าผู้เยี่ยมยุทธคนอื่น สาวงามคนนี้ดูใจดีและสุภาพมากกว่า จากจุดนี้’เนี่ยหลี่’สามารถวางใจได้ง่ายขึ้นหาก’เอียจื้ออวิ้น’ ‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’และ’เสี่ยวซุ่ย’ได้ติดตามผู้หญิงคนนี้ไป
ไม่นานนักผู้เยี่ยมยุทธคนอื่นๆก็ได้เลือกลูกศิษย์ทั้ง 3 จนครบ ‘ตู่เซอ’ ‘ฮวาฮัว’และ’คังหมิง’ได้เข้าร่วมกับผู้เยี่ยมยุทธผมสีฟ้า ‘ต้วนเจี้ยน’ ‘จอมมาร’และ’มู่เย่’ได้รวมอยู่กลุ่มเดียวกัน
‘เนี่ยหลี่’ ‘ลู่เปียว’และชายอายุราวๆ 20 ระดับเซียนคนหนึ่งอยู่กลุ่มเดียวกัน พวกเขาทั้ง 3 ได้เป็นศิษย์ของจ้าวนครใต้พิภพ
แม้ว่าผนึกวิญญาณนั้นจะประทับข้อตกลงที่แน่นอนลงบนตัวลูกศิษย์ ตัวอาจารย์เองจะถูกประทับข้อตกลงด้วยเช่นกัน ในอาณาจักรซากมังกร ผู้ใดก็ตามที่สร้างผนึกวิญญาณล้วนถูกประทับสายสัมพันธ์ศิษย์-อาจารย์อย่างเหนียวแน่น ตัวอาจารย์เองจะต้องไม่ปล่อยให้ศิษย์ตกอยู่ในอันตรายเป็นอันขาด ‘เนี่ยหลี่’สามารถวางใจได้เมื่อสร้างผนึกวิญญาณกับจ้าวนครใต้พิภพ
“อีก 3 เดือนนับจากนี้จะเป็นเวลาเพื่อให้พวกเจ้าได้กล่าวลาครอบครัวสักเล็กน้อย และเมื่อประตูเปิดออกพวกเจ้าทุกคนจะต้องมุ่งหน้าสู่นิกายของตน”
‘จ้าวนครใต้พิภพ’กล่าวกับทุกคน ขณะที่มองไปยังแขนเสื้อของ’เนี่ยหลี่’
‘เนี่ยหลี่’เข้าได้ทันทีว่าเจ้านครใต้พิภพรู้ว่าในตอนนี้’ยู่หยาน’ซ่อนตัวอยู่ใต้แขนเสื้อของ’เนี่ยหลี่’ อย่างไรก็ตามจ้าวนครใต้พิภพนั้นได้แต่มองโดยที่ไม่พูดอะไร
‘จ้าวนครใต้พิภพ’มองไปที่เนี่ยหลี่และอีกสองคนพร้อมทั้งกล่าว
“นับแต่นี้เป็นต้นไป พวกเจ้าทั้งสามคนจะมีข้าเป็นอาจารย์!”
‘เนี่ยหลี่’ก้าวไปข้างหน้า ป้องมือขึ้น
“ท่านอาจารย์ก่อนจะไปยังอาณาจักรซากมังกร ข้ามีคำขอต่อท่าน ข้าจะยินดีเป็นอย่างยิ่งหากท่านเห็นชอบ”
“คำขออะไรกันรึ?”
‘จ้าวนครใต้พิภพ’ถาม
“ตัวข้านั้นมาจากภายนอกดินแดนใต้พิภพ เป็นสถานที่ที่เรียกว่าเมืองกลอรี่ ในขณะที่ข้าไม่อยู่ ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านอาจารย์จะช่วยปกป้องเมืองกลอรี่นั้นให้ปลอดภัยอย่างสุดความสามารถ!”
‘เนี่ยหลี่’กล่าวด้วยความเคารพ
เขาตัดสินใจแล้วว่าจะซื่อสัตย์ต่อ’จ้าวนครใต้พิภพ’ ตั้งแต่สายสัมพันธ์ศิษย์-อาจารย์ถูกสร้างขึ้น แม้ว่า’จ้าวนครใต้พิภพ’จะตอบตงลงแน่นอนเพราะการปกป้องเมืองกลอรี่ไม่นับว่าเป็นปัญหาด้วยซ้ำ สำหรับ’จ้าวนครใต้พิภพ’
“โอ้? เมืองกลอรี่งั้นรึ?”
เมื่อ’จ้าวนครใต้พิภพ’ได้ยินคำพูดของ’เนี่ยหลี่’ เขานั้นตกใจเล็กน้อย เขายิ้มขึ้นอย่างมีนัยยะและกล่าวตอบ
“เมืองของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในโลกหลัก เพียงหนึ่งเดียว นอกจากนั้นเมืองกลอรี่ยังสามารถดำรงอยู่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ด้วยตนเอง และยังไม่ถูกทำลายโดยสัตว์อสูร เจ้าไม่คิดรึว่าเหล่าผู้เยี่ยมยุทธที่มีอยู่น้อยนิดจะไม่มีความสามารถพอปกป้องตัวเอง? วางใจได้ ข้าได้ถูกไว้วานจากเพื่อนคนหนึ่งมานานแล้ว หากข้ายังมีชีวิตอยู่จะไม่มีใครหน้าไหนแตะต้องเมืองกลอรี่ได้!”
มีคนเคยร้องขอการปกป้องเมืองกลอรี่จากจ้าวนครใต้พิภพมาก่อน?
‘เนี่ยหลี่’งุนงงไปชั่วขณะ แต่เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เขาคิดว่าคงจะจริง เมืองกลอรี่นั้นประสบกับภัยพิบัติมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ยังรอดมาได้ เรื่องแบบนี้มันไม่ปกติแน่นอน เพราะฉะนั้นจะต้องมีคนคอยปกป้องเมืองกลอรี่อยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ‘เนี่ย’ยังสงสัยเกี่ยวกับชายลึกลับที่ร้องขอให้จ้าวนครใต้พิภพปกป้องเมืองกลอรี่อยู่
ถ้าอย่างนั้นแล้ว ทำไมเมืองกลอรี่ถึงถูกทำลายลงในชีวิตที่แล้วของเขากันหล่ะ? รึว่าในชีวิตที่แล้วของเขา ‘จ้าวนครใต้พิภพ’จะ…
ภายในใจของ’เนี่ยหลี่’เต็มไปด้วยความสับสน แต่ในเมื่อท่าน’จ้าวนครใต้พิภพ’ต้องการเก็บเป็นความลับและไม่อยากพูดถึงมัน
‘เนี่ยหลี่’จึงหยุดคำถามของเขาไว้ ดูเหมือนว่าคำตอบของปริศณานั้นจะยังคงปลอดภัยในอนาคตเมื่อเวลาผ่านไปพิธีรับลูกศิษย์ก็จบลง ทุกได้สร้างผนึกวิญญาณกับอาจารย์ของตน
‘เซี่ยวหยู่’หันไปยิ้มให้แก่’เนี่ยหลี่’
“เมื่อเราไปถึงนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรซากมังกรแล้ว น้องชายเนี่ยหลี่ เจ้าต้องคอยตามข้านะ!”
‘เนี่ยหล่’ยักไหล่
“มันก็คงจะต้องเป็นอย่างนั้นแหละ”
ก่อนหน้านี้ เนี่ยหลี่ไม่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของ’เซี่ยวหยู่’ เขาจึงต้องคอยระวัง’เซี่ยวหยู่’ไว้ แต่ตอนนี้เขารู้ถึงความสัมพันธ์ของ’เซี่ยวหยู่’กับจ้าวนครใต้พิภพแล้ว เขาจึงไม่ต้องคอยระวังอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม’เนี่ยหลี่’ยังคงไม่ชอบทัศนคติแบบผู้หญิงของ’เซี่ยวหยู่’
คิดว่าเขาเป็นกระเทยสินะ…บักหลี่เอ๊ย!!!
“งั้น อีกสามเดือนค่อยพบกันใหม่!”
‘เซี่ยวหยู่’หัวเราะร่า
อีก 3 เดือนพวกเขาจะต้องมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรซากมังกร! ใน 3 เดือนนี้เป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่จะได้อยู่ในโลกใบเล็กนี้ พวกเขาจะได้กลับมาอีกครั้งในอีก 5 ปีข้างหน้า
หลังจากจบพิธี ผู้ที่ถูกเลือกโดย 7 ผู้เยี่ยมยุทธก็กล่าวคำอำลา และกลับไปหาครอบครัวของตน
“เนี่ยหลี่ เราจะกลับกันเลยใช้มั้ย?”
‘ตู่เซอ’ถาม’เนี่ยหลี่’ เพราะหลังจากนี้พวกเขาจะต้องใช้ชีวิตในอาณาจักรซากมังกรถึง 5 ปี! ทุกคนต่างก็คาดหวังคำตอบจาก’เนี่ยหลี่’
‘เนี่ยหลี่’ครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วตอบกลับ
“แน่นอน พวกเราจะกลับไปยังเมืองกลอรี่กัน แต่ก่อนกลับ เรายังมีอีกที่หนึ่งที่ต้องไป!”
“ที่ไหนกัน?”
ทุกคนต่างก็มอง’เนี่ยหลี่’ด้วยความสงสัย
“พระราชวังทะเลทราย!”
‘เนี่ยหลี่’พูดขณะที่มองออกไปยังเส้นทางข้างหน้า ก่อนที่เขาจะไปยังอาณาจักรซากมังกร เขาจะต้องไปยังสถานที่แห่งนั้นก่อน!
พระราชวังทะเลทราย? ทุกคนต่างงุนงงกับชื่อที่พึ่งได้ยิน พวกเขาประหลาดใจมาก พระราชวังทะเลทรายที่’เนี่ยหลี่’พูดถึงเป็นอย่างไรกัน? ทำไม’เนี่ยหลี่’จะต้องไปที่นั่นกัน?
…จบตอน…
แปลโดย ไอยรา ณ กุญชร
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: