I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 266 ผลการทดสอบ

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 2537 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ผู้ดูแลกู่รีบแก้ไขสถานการณ์

“นายน้อยฮัวหลิง แม้ว่าเขาจะทดสอบได้รากวิญญาณชั้นมนุษย์ระดับแปด และไม่สามารถเทียบได้กับศิษย์ทั้งหลายจากห้วงสวรรค์น้อย พรสวรรค์ของเขาก็ยังพอรับได้อยู่ ท่านไม่จำเป็นต้องขุ่นเคืองไป”

‘ฮัวหลิง’มองไปยังชายหนุ่มที่มีรากวิญญาณชั้นมนุษย์ระดับแปดอย่างเย็นชา

“เราไม่ต้องการขยะอย่างรากวิญญาณชั้นมนุษย์ในห้วงสวรรค์น้อยของข้า เจ้าจะเลือกไสหัวกลับบ้านไปเองหรือจะให้ข้าเตะส่งเจ้าไป? พวกขยะที่มีรากวิญญาณชั้นมนุษย์ไม่ควรโผล่หัวมาที่สถาบันวิญญาณฟ้าให้ตัวเองอับอายเปล่าๆ”

ได้ยินคำที่’ฮัวหลิง’ด่าประณามชายหนุ่มนั้น ‘กวนหยู่’ได้แต่กำหมดแน่น ด้วยเพราะคำพูดของ’ฮัวหลิง’นั้นมีเป้าหมายที่เขาโดยตรง ที่ผ่านมามีแต่เขาเป็นฝ่ายถากถางผู้อื่น แต่ตอนนี้ สถานะของเขากลับกลายเป็นฝ่ายถูกถากถางเสียงเอง ทำให้เขาอับอายจนแทบจะฆ่าตัวตายเสียตรงนั้นทีเดียว

นอกจาก’กวนหยู่’แล้ว ผู้คนรอบๆ ที่ทดสอบได้รากวิญญาณชั้นมนุษย์ต่างก็รู้สึกอับอายจนมองหน้าคนอื่นไม่ติด

‘เนี่ยหลี่’ตบไหล่’กวนหยู่’แล้วพูดว่า

“ไม่ต้องใส่ใจไปหรอก พวกเราเป็นผู้ฝึกตน มีชะตาต้องฝืนกฎฟ้าดินอยู่แล้ว หากไม่คิดจะฝืนกฎสวรรค์ จะฝึกตนไปทำไม”

สายตาขุ่นมัวของกวนหยู่ ค่อยๆกลับมาสดใสอีกครั้ง เขามอง’เนี่ยหลี่’อย่างสำนึกขอบคุณ

“เนี่ยหลี่ ขอบใจเจ้ามาก ก่อนหน้านี้ข้าพูดไม่ดีกับพวกเจ้าไว้ไม่น้อย แต่เจ้าก็ยังให้กำลังใจข้า ข้าจะไม่ยอมแพ้อีกแล้ว”

‘ฮัวหลิง’ที่ยืนอยู่ด้านข้างกวาดสายตาไปยัง’เนี่ยหลี่’และ’กวนหยู่’อย่างเย้ยหยัน

“ขยะย่อมเห็นใจขยะกันเองอยู่แล้ว ผู้ที่แข็งแกร่งต้องไม่รับความสมเพชจากผู้อื่น”

หลังจาก’ฮัวหลิง’ด่าจบ ชายหนุ่มที่มีรากวิญญาณชั้นมนุษย์ระดับแปดก็เดินจากไปอย่างเงียบงัน

“เจ้า เข้ามาทดสอบได้”

‘ผู้ดูแลกู่’ชี้ไปที่’ลู่เปียว’

ในที่สุดก็ถึงรอบทดสอบของเขา วินาทีนั้น แววขมขื่นปรากฎขึ้นบนใบหน้าของ’ลู่เปียว’ ระหว่างที่เขากำลังเดินเข้าหาลูกแก้ว จะเป็นโชคดีหรือโชคร้าย? แต่ต่อให้เป็นโชคร้ายก็หนีไม่พ้น จะช้าเร็วก็ต้องทำการทดสอบอยู่ดี

ชั่ววินาทีก่อนที่’ลู่เปียว’จะวางมือลงบนลูกแก้ว ก็เกิดเสียงฮือฮาดังมาจากนอกสนามสอบเสียก่อน

“เฮ้ย!! มีคนฆ่าตัวตายอยู่ข้างนอก!!”

“นั่นเขาคนที่มีรากวิญญาณชั้นมนุษย์ระดับแปดนี่!!”

“ข้าได้ยินว่าเขาทดสอบได้รากวิญญาณชั้นมนุษย์ระดับแปด หลังจากนั้นพอเขาถูกเหยียดหยามให้อับอายขายหน้า เขาก็รับไม่ได้จนถึงกับฆ่าตัวตายเลย”

ลูกศิษย์ที่รอทดสอบต่างก็ส่ายหน้าด้วยความเสียใจ แม้ว่ารากวิญญาณชั้นมนุษย์ระดับแปดจะไม่นับว่าโดดเด่นเป็นพิเศษ แต่ก็ยังอยู่ในขั้นที่ยอมรับได้ ไม่เห็นต้องฆ่าตัวตายเลย

จากที่ได้ยินจากข้างนอกนั้น ‘เนี่ยหลี่’ขมวดคิ้วคิดอยู่ครู่หนึ่ง ชายหนุ่มนั่นมิได้ฆ่าตัวตายเพราะผลการทดสอบ แต่ฆ่าตัวตายเพราะไม่อาจแบกรับความขายหน้าที่จะต้องกลับไปมือเปล่าต่างหาก เขาเลือกตายอยู่ที่นี่แต่กว่ากลับไปตายทั้งเป็น นี่นับว่าเป็นศักดิ์ศรีที่เขายึดมั่น

‘ฮัวหลิง’แค่นเสียงเย็นชา

“เขายอมตายดีกว่ากลับไป อย่างน้อยก็นับว่ายังมีดีอยู่บ้าง ไม่ได้เป็นขยะสมบูรณ์แบบ ไม่มีความจำเป็นต้องไปสงสารเขา”

คนอื่นๆ จากห้วงสวรรค์น้อยที่ยืนอยู่ข้างหลัง’ฮัวหลิง’ต่างมีสีหน้าแตกต่างกันออกไป จะอย่างไรเรื่องเช่นนี้นับว่าเกิดขึ้นกับพวกเขาเป็นปกติ

พอได้ยินที่’ฮัวหลิง’พูด ‘เซี่ยวหยู่’ถึงกับโทสะพลุ่งขึ้น

‘ลู่เปียว’และคนอื่นๆ ก็มองไปยัง’ฮัวหลิง’อย่างโกรธแค้น

ผู้ที่อยู่รอบๆ ต่างก็โมโหต่อคำพูดของ’ฮัวหลิง’ ทว่า นี่ป็นเรื่องภายในของห้วงสวรรค์น้อย ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถยิ่นมือเข้าไปยุ่งได้

สายตาของทุกคนหันเหกลับมาที่’ลู่เปียว’ ที่กำลังจะทำการทดสอบ ‘ฮัวหลิง’ดูถูก’ลู่เปียว’เห็นๆ จากการที่มุมปากของเขายกขึ้นอย่างเย้ยหยัน ดูจากการที่’ลูเปียว’เอาแต่หงอแล้ว พรสวรรค์ของเขาคงไม่เท่าไหร่

ทุกคนมุ่งความสนใจไปที่’ลู่เปียว’ ทำให้เขารู้สึกกดดัน จนต้องลอบภาวนาในใจขอให้ตนไม่ถูกส่งกลับ ก่อนจะวางมือลงบนลูกแก้ว

เมื่อครู่นี้เพิ่งมีคนฆ่าตัวตายไปหมาด แล้วตอนนี้ทุกคนกลับสนใจการทดสอบของลูเปียวกันหมด

‘ลู่เปียว’ใส่พลังของตนเข้าไปในลูกแก้ว จนมันสว่างขึ้นเรื่อยๆ พอมันเรืองแสงสีแดงลู่เปียวก็ปิดตา ตัยหอง ตัยหองแหงๆ เลยตู ได้สีแดงซะแล้ว นั่นเขารากวิญญาณชั้นมนุษย์

“ได้โปรด…อย่าต่ำกว่าระดับห้าเลยนะ เพี้ยง!!”

ทุกคนมุ่งความสนใจไปที่ลูกแก้ว มองไปยังแสงที่สว่างขึ้นเรื่อยๆ จนแสบตา แสงนั้นเจิดจ้าจนต้องยกมือขึ้นบังสายตา แล้วสีของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนจากสีชมพูเป็นแดงฉาน ก่อนจะเริ่มกลายเป็นสีม่วง จากนั้นสายใยในนั้นก็แตกออกเป็นห้าสาย

‘ลูเปียว’หรี่ตาแอบดูแล้วรีบผิดตาลง รู้สึกอยากร้องไห้

“ห้าเส้น!! แค่ห้าเส้น ตายแหง ตายแหงๆ!! ข้าต้องถูกส่งกลับ เหตุใดชีวิตรันทดขนาดนี้”

สีหน้าของ’ผู้ดูแลกู่’เปลี่ยนจากเยือกเย็นเป็นตื่นตะลึง สีม่วงเป็นสีที่บอกถึงรากวิญญาณชั้นฟ้า ยิ่งไปกว่านั่น นี่ยังนับว่าเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นสีม่วงที่เข้มขนาดนี้ นี่ยังไม่พูดถึงสายใยที่แยกตัวออกเป็นห้าเส้น เขาคือกรากวิญญาณชั้นฟ้าระดับห้า!!

‘ผู้ดูแลกู่’คุมการทดสอบผู้คนมามากมาย แต่สูงสุดที่เคยพบคือรากวิญญาณชั้นฟ้าระดับสามหนึ่งคน รากวิญญาณชั้นฟ้าระดับสองหนึ่งคน และรากวิญญาณชั้นฟ้าระดับหนึ่งหนึ่งคนเท่านั้น และทั้งหมดนั้นถูกจัดให้เป็นอัจฉริยะทั้งหมด

แต่เทียบกับ’ลูเปียว’แล้ว ไม่สิ เทียบกันกับ’ลูเปียว’ไม่ได้ด้วยซ้ำ!!

สีหน้าของ’ฮัวหลิง’เปลี่ยนจากเย้ยหยันเป็นตื่นตะลึง

นี่เขาเป็นไปไม่ได้ เจ้าเด็กนี่มีรากวิญญาณชั้นฟ้าระดับห้า!!

เขาไม่เคยคิดเลยว่าเด็กที่ดูบ้านๆ อย่างนี้จะมีรากวิญญาณชั้นฟ้าระดับห้า! เทียบกับคนที่มีรากวิญญาณชั้นฟ้าแล้ว พวกที่มีรากวิญญาณชั้นดินก็เป็นเพียงกลุ่มคนธรรมดา! เขาจะหยามกันเกินไปแล้ว ‘ฮัวหลิง’ถึงกับโทสะพลุ่งขึ้นเมื่อสงสัยว่าคนจากโลกใบเล็กพวกนี้โกงการสอบ

ในอาณาจักรมังกรพ่ายนี้ประกอบด้วยมหานครและห้วงมิติย่อยจำนวนนับไม่ถ้วน แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่จำนวนคนที่มีรากวิญญาณชั้นฟ้านั้นเรียกได้ว่าน้อยมากๆ ตอนนี้โลกใบเล็กกลับมีรากวิญญาณชั้นฟ้าปรากฎขึ้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นระดับห้า!!

หลังจากรออยู่นาน ‘ลูเปียว’ค่อยจำต้องลืมตา

“ทดสอบจบแล้วเหรอ?”

เขายังคงรอผู้’ดูแลกู่’พูดว่าส่งเขากลับ ทว่าเขาหลับตาเป็นเวลานานแต่กลับไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด

พอลืมตาขึ้น ‘ลู่เปียว’ค่อยรู้สึกได้ว่าสายตาทุกคนมองมาที่เขาคนเดียว บรรยากาศก็แปลกๆ จนเขาเองยังต้องเกาหัว นี่เขาเกิดอะไรขึ้นหล่ะเนี่ย? คนพวกนี้กินยาลืมเขย่าขวดหรือ? เหตุใดถึงตาโตนัก?

พอรู้สึกตัวว่า’ลูเปียว’มองเขาอยู่ ‘ผู้ดูแลกู่’ก็กระแอมกลบเกลื่อนแล้วประกาศว่า

“รากวิญญาณชั้นฟ้าระดับห้า ส่งไปยังเขตตะวันตก”

รากวิญญาณชั้นฟ้าระดับห้า? เดี๋ยวดิ? ใครอ่ะ? ลูเปียวมองไปรอบๆ

ต้องผ่านไปอีกครู่หนึ่งเขาจึงเรียกสติกลับมาได้ จากนั้น’ลูเปียว’ก็ยกนิ้วชี้เข้าตัวเองอย่างตกใจ

“ข้าเหรอ? รากวิญญาณชั้นฟ้าระดับห้าเนี่ยนะ?”

‘ลูเปียว’มองไปที่ลูกแก้ว ที่กำลังส่งแสงเป็นเส้นสายสีม่วงห้าเส้น กลายเป็นว่าข้ามีรากวิญญาณชั้นฟ้าไม่ใช่ชั้นมนุษย์ซะงั้น ทำเอาตกอกตกใจแทบตายแน่ะ

ข้าไม่รู้ตัวเลยจนตอนนี้ แต่กลายเป็นว่าข้าเป็นอัจฉริยะซะแล้ว!!

ที่ผ่านมา ข้าค่อนข้างเก็บเนื้อเก็บตัวเกินไปหน่อย

‘ลูเปียว’รู้สึกราวกับตัวจะลอย ขณะที่เดินกลับมาหา’เนี่ยหลี่’ แล้วพูดว่า

“เนี่ยหลี่ กลายเป็นว่าข้ามีรากวิญญาณชั้นฟ้าระดับห้าล่ะ!! เจ้าไม่เห็นจะบอกข้าเลย ก่อนหน้านี้ข้าขาสั่นแทบตายเพราะกลัวผลทดสอบนั่น”

‘เนี่ยหลี่’กลอกตารอบหนึ่งแล้วพูดว่า

“ข้าไม่มีผลึกญาณสวรรค์นี่ ข้าจะไปรู้ได้ไงว่าเจ้ามีรากวิญญาณชั้นฟ้าระดับห้า?”

‘ลู่เปียว’เกาหัวแกรกๆ พูดว่า

“อ้อ อย่างนั้นเหรอ แหะๆ”

อย่างน้อย เขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกส่งตัวกลับแล้วล่ะนะ

‘ฮัวหลิง’กำหมัดแน่นสายตามอง’ลูเปียว’อย่างกราดเกรี้ยว ‘ฮัวหลิง’เป็นคนใจคอคับแคบ ไม่อาจทนเห็นผู้อื่นดีกว่าตนได้ ดังนั้นเขาย่อมไม่พอใจยิ่งเมื่อเห็น’ลูเปียว’ทดสอบได้รากวิญญาณชั้นฟ้าระดับห้าแล้วมีท่าทีภาคภูมิใจ

‘ฮัวหลิง’ส่งสายตาไปที่’ผู้ดูแลกู่’แล้วพูดว่า

“ผู้ดูแลกู่เชิญทดสอบต่อ”

‘ผู้ดูแลกู่’ยิ้มแห้งๆ จะหาคนที่มีรากวิญญาณชั้นฟ้าสักคนในหมู่อัจฉริยะจากห้วงสวรรค์น้อยก็ยากแล้ว จะอย่างไรคนที่มีรากวิญญาณชั้นฟ้านั้นมีจำนวนน้อยยิ่ง

การทดสอบดำเนินต่อไป

เหล่าอัจฉริยะจากห้วงสวรรค์น้อยต่างก็รับการทดสอบจนครบ ส่วนใหญ่มีรากวิญญาณชั้นดิน มีเพียงคนเดียวที่มีรากวิญญาณชั้นฟ้าระดับหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นรากวิญญาณชั้นฟ้าอีกคน แต่ย่อมไม่อาจเทียบกับ’ลูเปียว’ได้

ฮัวหลิงรู้สึกเสียหน้ายิ่ง แม้ว่าฝ่ายเขาจะมีคนมากกว่า แต่ทุกคนไม่อาจนำมาอวดได้ ไม่ว่าเขาจะมีคนทั่วไปอยู่ในมือสักเท่าไหร่
ย่อมไม่อาจเปรียบเทียบได้กับอัจฉริยะเพียงคนเดียว นี่เป็นความจริง ต่อให้มียอดฝีมือชั้นชะตาฟ้าพันคน ก็ไม่อาจเทียบได้กับยอดฝีมือชั้นดาราฟ้าคนเดียว

“ถึงรอบเจ้าแล้ว โปรดมาเข้ารับการทดสอบ”

‘ผู้ดูแลกู่’มอง’เนี่ยหลี่’แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงเล็กน้อย ‘ลู่เปียว’กับ’เนี่ยหลี่’ดูจะเป็นเพื่อนสนิทกัน ด้วยรากวิญญาณชั้นฟ้าระดับห้าของ’ลู่เปียว’ ตราบเท่าที่เขาไม่เป็นเหมือน’เซี่ยวหยู่’ ที่ติดค้างอยู่ที่ระดับชะตาดิน เขาย่อมต้องประสบความสำเร็จในอนาคตอย่างสูง ดังนั้น’ผู้ดูแลกู่’ย่อมไม่กล้าล่วเกินคนที่มีอนาคตไกลเช่นนี้

‘เนี่ยหลี่’เดินไปยังลูกแก้ว เขารู้อยู่แล้วว่าตัวเองมีรากวิญญาณชั้นดินระดับเจ็ด ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องทดสอบก็รู้ได้ แต่เขาจำเป็นเข้ารับการทดสอบจึงจะมีคุณสมบัติเข้าเรียนในเขตตะวันตก

‘เนี่ยหลี่’วางมือลงบนลูกแก้วแล้วส่งพลังเข้าไป

ลูกแก้วเปล่งแสงสีแดงก่อนแล้วเขาก็เข้มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นสีม่วงเข้ม จากนั้นก็แตกออกเป็นสองเส้น สามเส้น สี่….

โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไปจนกระทั่งแปดเส้น ‘เนี่ยหลี่’บอกได้เลยว่าถ้าเขายังทดสอบต่อไปจะเป็นอย่างไร สีของเส้นแสงจะเปลี่ยนจากม่วงเป็นดำ ดังนั้นเขาจึงดึงมือออก

สนามสอบถึงกับเงียบจนเสียงเข็มตกสักเล่มยังได้ยิน

ทุกคนมองไปยังลูกแก้วอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

เมื่อครู่นี้ได้เจอรากวิญญาณชั้นฟ้าระดับห้าไปหมาดๆ คราวนี้กลับปรากฎผู้มีรากวิญญาณชั้นฟ้าระดับแปด!! น่าแตกตื่นไปแล้ว!!

ในสถาบันวิญญาณฟ้า นอกจากเขตกลางที่ไม่ทราบข้อมูลแล้ว ก็ไม่มีใครเลยที่มีรากวิญญาณชั้นฟ้าระดับแปดยอดฝีมือที่มีรากวิญญาณชั้นฟ้าระดับแปดทั้งหมดได้เข้าไปในเขตกลางกันหมดแล้ว

‘ผู้ดูแลกู่’ต้องหลังเหงื่อโทรมกาย ไม่เคยคิดเลยว่าการทดสอบที่เขาคุมจะมีรากวิญญาณชั้นฟ้าระดับแปดโผล่ขึ้นมา รากวิญญาณชั้นฟ้าระดับห้าหนึ่งคนและรากวิญญาณชั้นฟ้าระดับแปดหนึ่งคน โลกใบเล็กนี่เขาสถานที่รวมสัตว์ประหลาดหรือไร? กับมิติชั้นรองอื่นๆ ผู้คนสามารถเข้าออกได้ตามสะดวก แต่โลกใบเล็กกลับแตกต่างออกไป เขาถูกผนึกป้องกันไว้ไม่ให้ใครก็ตามเข้าไปได้

สายตาของ’ฮัวหลิง’ยังจ้องอยู่ที่ลูกแก้ว ถ้าสิ่งนี้เป็นการแหกตาเขาจะต้องรู้ให้ได้! แค่คิดว่ามีรากวิญญาณชั้นฟ้าปรากฎตัวอยู่ในฝั่งโลกใบเล็กเพิ่มขึ้นอีกคน แถมคราวนี้ยังเป็นรากวิญญาณชั้นฟ้าระดับแปดที่น่าตื่นตะลึง!!

อัจฉริยะพวกนี้ จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!!

ความจริงเพียงแค่’เซี่ยวหยู่’ที่ยังคงอยู่ระดับชะตาดินและยังไม่สามารถก้าวไปถึงชั้นชะตาฟ้าได้คนเดียวเขาก็ปวดหัวพอแล้ว คราวนี้ยังมีรากวิญญาณชั้นฟ้าระดับแปดสุมเข้ามาเพิ่มอีก หากการบ่มเพาะพลังของ’เนี่ยหลี่’ไม่เหมือน’เซี่ยวหยู่’ล่ะก็ เช่นนั้นระดับความเร็วในการบ่มเพาะพลังของเขาสมควรเร็วมากจนยากจะจินตนาการถึง

คนอื่นๆ ก็ตกใจอย่างใหญ่หลวง มีแต่’เนี่ยหลี่’ที่ขมวดคิ้วแน่น นี่เขาเกิดอะไรขึ้น? ในชาติก่อนเขาทดสอบได้รากวิญญาณชั้นดินระดับเจ็ดชัดๆ แต่ในชาตินี้ เขากลับมีรากวิญญาณชั้นฟ้าระดับแปด จะบอกว่าในชาตินี้พรสวรรค์ของเขาเปลี่ยนไปด้วยงั้นหรือ?

เป็นไปได้หรือไม่ว่า เถาเลื้อยในห้วงวิญญาณของเขาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้?…

จบตอน

แปลโดย

คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments