ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป‘เนี่ยหลี่’ แบ่งศิลาจิตวิญญาณจำนวนหนึ่งร้อยก้อนให้กับ’หลู่เปียว’ จากนั้นทั้งคู่จึงกลับไปยังที่พักของ’เซี่ยวหยู่’
‘เซี่ยวหยู่’ เงยหน้าขึ้นก็พบว่าทั้งคู่กลับมาแล้ว จึงถามขึ้น
“พวกเจ้าทั้งสองคนไปไหนมานะ? ข้าหาพวกเจ้าไม่เจอหลังจากที่ข้ากลับมาก็พบว่าพวกเจ้าหายไปแล้ว ข้าจึงได้ออกตามหาแต่ข้าก็ไม่รู้อยู่ดีว่าพวกเจ้าหายไปอยู่ที่ไหน!”
‘เนี่ยหลี่’สัมผัสได้ถึงความวิตกกังวลเล็กน้อยที่แสดงออกมาทางสีหน้าของ’เซี่ยวหยู่’ ‘เนี่ยหลี่’และ’เซี่ยวหยู่’ต่างเป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันและกันจึงไม่ได้ไว้ใจเขาเท่าที่ควร แต่เมื่อเร็วๆนี้ความคิดของ’เนี่ยหลี่’ที่มีต่อ’เซี่ยวหยู่’ก็ค่อยๆเปลี่ยนไป
‘เนี่ยหลี่’ตระหนักได้ว่าบุคคลเยี่ยง’เซี่ยวหยู่’ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร น่าจะสามารถเป็นเพื่อนกันได้ ถึงแม้ว่า’เซี่ยวหยู่’จะมีนิสัยคล้ายผู้หญิงไปบ้างก็ตามทีเถอะแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่มากมายอันใด
“พวกข้าแค่ออกไปเดินเล่นสำรวจพื้นที่และกลับมาพร้อมกับศิลาจิตวิญญาณบ้างเล็กน้อยเหล่านี้ก็เท่านั้นเอง!”
‘เนี่ยหลี่’โยนถุงที่บรรจุศิลาจิตวิญญาณไปให้’เซี่ยวหยู่’
‘เซี่ยวหยู่’รับกระเป๋านั้นไปสำรวจก็ต้องตกตะลึงขึ้นมาทันทีเพราะในถุงนี้มีศิลาจิตวิญญาณจำนวนห้าสิบหรือหกสิบก้อนเลยทีเดียว
‘เซี่ยวหยู่’ส่ายหัว
“นี่พวกเจ้าไปได้ศิลาจิตวิญญาณจำนวนมากขนาดนี้มาจากไหน?ข้าไม่สามารถรับมันไว้ได้หรอก!”
“พวกข้าแค่เดินเล่นไปเรื่อยๆ แล้วก็ได้รับศิลาจิตวิญญาณจำนวนห้าร้อยก้อน ในเมื่อเราเป็นพี่น้องกัน แล้วเจ้าจะเกรงใจไปทำไมกัน?”
‘หลู่เปียว’หัวเราะและเลียนแบบท่าทางของ ‘กู้เบ่ย’ และขณะที่กำลังพยายามจะโอบไหล่’เซี่ยวหยู่’อยู่นั้นเอง ‘เซี่ยวหยู่’ก็เคลื่อนตัวหลบด้วยความไวเหนือเสียง
ความประหลาดใจถาโถมเข้ามายัง’เซี่ยวหยู่’ ‘เซี่ยวหยู่’นึกภาพที่’เนี่ยหลี่’จะสามารถหาศิลาจิตวิญญาณจำนวนห้าร้อยก้อนได้อย่างไร
แล้ว’เซี่ยวหยู่’ก็ส่ายหัวอีกครั้ง“ไม่หละยังไงข้าก็รับศิลาจิตวิญญาณนี้เอาไว้ไม่ได้!พวกเจ้าเอามันคือไปเถอะ!”
หลังจากพูดจบ’เซี่ยวหยู่’ก็นำถุงที่บรรจุศิลาจิตวิญญาณส่งคืน’เนี่ยหลี่’
พริบตาเดียวกันนั้น’เนี่ยหลี่’คว้าข้อมือของ’เซี่ยวหยู่’เอาไว้แล้วยัดถุงศิลาจิตวิญญาณเข้ามาในมือของ’เซี่ยวหยู่’ พร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
“ก่อนหน้านี้เจ้าได้ให้ศิลาจิตวิญญาณแก่พวกข้าทั้งคู่ไว้ และพวกข้าก็ไม่ได้ปฏิเสธเจ้า แต่ในตอนนี้พวกข้ามีศิลาจิตวิญญาณมากมายสำหรับตัวพวกข้าเองแล้ว และก็พยายามจะให้เจ้าใช้มันร่วมกันกับพวกข้า หากเจ้ายังยืนยันจะปฏิเสธมันแล้วนี่หมายความว่าเจ้าไม่ได้เห็นพวกข้าเป็นเพื่อนรึ?”
‘เซี่ยวหยู่’ดึงมือกลับ ด้วยท่าทางเขินอายเล็กน้อย
“นั่นมันไม่เหมือนกันสักหน่อยข้า ข้าเพียงแค่ให้ศิลาจิตวิญญาณเจ้าเพียงสองก้อน แต่เจ้ากลับคืนข้าด้วยศิลาจิตวิญญาณจำนวนมาก”
“มันไม่เหมือนกันอย่างไร?”
‘เนี่ยหลี่’ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดต่อไป
“ในตอนนั้นเจ้ามีศิลาจิตวิญญาณอยู่หนึ่งโหล แต่เจ้าก็ให้พวกข้ามาถึงสอง และในตอนนี้พวกข้ามีศิลาจิตวิญญาณอยู่จำนวนห้าร้อยเป็นธรรมดาอยู่แล้วไม่ใช่รึที่จะมีส่วนแบ่งให้สำหรับเจ้า ไม่แตกต่างกัน! ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าตอนนี้พวกข้าสองคนต้องอาศัยเจ้าอยู่ หากเจ้ายังคงยืนกรานจะไม่รับมันไว้อีกพวกข้าสองคนจะออกจากที่นี่ทันที”
‘เซี่ยวหยู่’ลังเลไปชั่วขณะหนึ่งในที่สุดก็ตกลงพยักหน้า
“ก็ได้ ถ้างั้นข้าจะขอรับศิลาจิตวิญญาณนี้และขอทิ้งห่างพวกเจ้าไปก่อนเลยละกัน”
“เยี่ยม! ตอนนี้พวกข้าจะรีบกลับไปฝึกฝนบ่มเพาะพลัง เอาไว้ให้เจ้าทิ้งห่างพวกข้าให้ได้เสียก่อนเถิดเจ้าค่อยมาพูดในภายหลัง!”
พูดจบ’เนี่ยหลี่’ก็เดินกระหยิ่มยิ้มย่องกลับเข้าไปยังห้องพักของตัวเองทันทีโดยไม่รอการตอบกลับจาก’เซี่ยวหยู่’เลยแม้แต่น้อย
‘เซี่ยวหยู่’จ้องตาม’เนี่ยหลี่’ไปด้วยความรู้สึกที่ต้องการเอ่ยอะไรบางอย่าง แต่ก็นึกคำพูดที่ไม่ออก ได้แต่ฝืนกลืนมันลงท้องไป หลังจากนั้นจึงได้ก้มมองศิลาจิตวิญญาณที่อยู่ในมือ
เมื่อวานนี้’เนี่ยหลี่’ได้รับเพียงศิลาจิตวิญญาณจำนวนเพียงห้าก้อนเป็นค่าตอบแทนจากการรักษา แต่หลังจากนั้นเพียงวันเดียว ‘เนี่ยหลี่’กลับมาพร้อมศิลาจิตวิญญาณจำนวนมาก ‘เซี่ยวหยู่’ถึงกับใบ้กินเลยทีเดียว’หลู่เปียว’ก็ยิ้มให้’เซี่ยวหยู่’ก่อนจะเดินกลับห้องของตัวเองเช่นกัน
เมื่อกลับเข้ามาในห้องแล้ว’เนี่ยหลี่’ จึงนำจินตาน ออกมาไว้ตรงมุมห้อง ด้วยศิลาจิตวิญญาณจำนวนมากมายเช่นนี้ต้องสามารถยกระดับความแข็งแกร่งของเขาได้อย่างรวดเร็วแน่นอน!
‘ยู่หยาน’ก็ออกมาจากแขนเสื้อของ’เนี่ยหลี่’ นางซ่อนตัวอยู่ในแขนเสื้อของ’เนี่ยหลี่’ตลอดเวลาที่นางทำการบ่มเพาะพลัง จากสัมผัสของนางทำให้นางสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายของเนี่ยหลี่เป็นประโยชน์สำหรับนางอย่างมากในการบ่มเพาะพลัง
การบ่มเพาะพลังสวรรค์ภายในของ’เนี่ยหลี่’ มีความรวดเร็วกว่าภายนอกหลายเท่าตัว นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนางถึงเลือกซ่อนตัวและไม่ยอมเผยตัวออกมา
“พี่สาว ยู่หยานท่านสามารถใช้ศิลาจิตวิญญาณเหล่านี้ช่วยในการบ่มเพาะพลังของท่านได้!”
‘เนี่ยหลี่’ยิ้มและส่งกองศิลาจิตวิญญาณให้กับยู่หยาน
“ขอบคุณเจ้ามากเนี่ยหลี่ ข้ารู้ว่าศิลาจิตวิญญาณเหล่านี้มีค่ามากเพียงใด”
‘ยู่หยาน’มองมาที่’เนี่ยหลี่’ด้วยความรู้สึกปีติยิ่ง นับตั้งแต่นางได้ร่วมเดินทางพร้อม’เนี่ยหลี่’ นางจึงรู้ว่า’เนี่ยหลี่’ห่วงใยพวกพ้องของตนและยังเป็นคนที่น่านับถือมาก
‘เนี่ยหลี่’ยิ้ม
“พี่สาว ท่านจะสุภาพกับข้ามากเกินไปหรือเปล่า ? ท่านเองก็เป็นสักขีพยานด้วยมิใช่หรือว่าแค่เพียงทำการรักษาผู้คนนิดๆหน่อยๆก็ได้มาซึ่งศิลาจิตวิญญาณจำนวนห้าร้อยก้อน ในอนาคตข้ายังหาวิธีที่จะทำให้ได้มาซึ่งศิลาจิตวิญญาณจำนวนมากอยู่แล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องคิดมากเช่นนี้หรอก!”
ขณะที่มองไปยังรอยยิ้มสดใสของ’เนี่ยหลี่’นั้น ช่วยไม่ได้ที่หัวใจนางจะเกิดความรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมา หลังจากที่ได้ใช้ชีวิตมาเป็นเวลานาน ‘เนี่ยหลี่’เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ปฏิบัติต่อนางด้วยความจริงใจ!
‘ยู่หยาน’ร่อนตัวลงบนไหล่ของ’เนี่ยหลี่’ ปากน้อยๆของนางประทับลงบนแก้มของ’เนี่ยหลี่’และกล่าวว่า
“ไม่ว่าสิ่งใดข้ากต้องขอบคุณเจ้า หากไม่ใช่เพราะเจ้าแล้วตัวข้าคงจะต้องถูกผนึกอยู่ใตน้ำพุทมิฬนั่น”
รอบจูบของ’ยู่หยาน’ และกลิ่นหอมจางๆจากกายนาง ทำให้’เนี่ยหลี่’ถึงกับตะลึงไปในระยะสั้นๆ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่หอคอยทมิฬ’เนี่ยหลี่’รู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตัวของ’ยู่หยาน’
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน ‘ยู่หยาน’ อ่อนโยนขึ้นกว่าเดิมมากเมื่อเทียบกับตัวตนในอดีตของนาง นางมีอารมณ์ความรู้สึกคล้ายมนุษย์มากยิ่งขึ้น
‘เนี่ยหลี่’เผยให้เห็นรอยยิ้ม
“ถ้างั้นข้าขอตัวทำการฝึกฝนก่อนนะ พี่สาวยู่หยาน!”
‘เนี่ยหลี่’นำศิลาจิตวิญญาณออกมาและเริ่มดูดซับพลังงานสวรรค์ที่อยู่ภายใน โดยทำการดึงจิตวิญญาณเข้าไปในแดนวิญญาณของตัวเองเพื่อทำการปรับแต่งให้เป็นพลังของตน
‘ยู่หยาน’ ที่อยู่บนไหล่ของ’เนี่ยหลี่’ยังเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลายซับซ้อนกันอยู่ในความรู้สึกแสดงผ่านออกมาจากแววตาของนาง
ยามเมื่อนางเหลือบมอง’เนี่ยหลี่’ สีชมพูแดงก็เริ่มเติมเต็มไปทั่วใบหน้าของนาง นางสวมชุดผ้าไหมบ่งบอกถึงความบริสุทธิ์และสมบูรณ์แบบไปทั่วเรือนร่าง ขาเรียวยาวของนางทำให้เกิดความลุ่มหลงอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเมื่อเห็นว่า’เนี่ยหลี่’เริ่มเข้าสภาวะการบ่มเพาะพลังแล้ว นางจึงพุ่งตัวไปยังกองศิลาจิตวิญญาณเพื่อทำการบ่มเพาะพลังของนางต่อไป
ศิลาจิตวิญญาณที่ถูก’เนี่ยหลี่’ดูดซับ เหือดแห้งไปในพริบตา แต่พลังสวรรค์พุ่งตรงไปยังจุด ตันเถียน ของ’เนี่ยลี่’จนไม่เหลือเลยแม้แต่น้อย
เมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้น’เนี่ยหลี่’จึงทำการดูดซับ ก้อนที่สองต่อไป
ก้อนที่สอง….ก้อนที่สาม…
แม้หลังจากการดูดซับไปถึงสิบก้อนแล้วก็ตามที พลังงานจากศิลาจิตวิญญาณก็ถูกดูดซับตรงไปยังจุดตันเทียน เหมือนกับวัวที่วิ่งเข้าไปจมในทะเลลึก โดนไม่ก่อให้เกิดระลอกคลื่นให้กับขอบเขตวิญญาณของเนี่ยหลี่เลยแม้แต่นิด
ถึงกระนั้นเถาเลื้อยในจิตวิญญาณเนี่ยหลี่เริ่มเติบโตแข็งแกร่งจากพลังงานสวรรค์ที่ดูดซับเข้ามา ดอกไม้ค่อยๆเบ่งบานขึ้นมาเรื่อยๆกลายเป็นดอกไม้ที่สวยงามมากยิ่งขึ้นสำนวนจีน หายสาบสูญไปอย่างไม่มีความหวังที่จะหวนกลับมามันอาจจะเป็นเพราะพลังงานสวรรค์ที่ไปกระตุ้นการเติบโตของเถาเลื้อยนี้ เถาเลื้อยนี้ยังคงดูดซับพลังสวรรค์ต่อไปเรื่อยๆ
หลังจากเถาเลื้อยดูดซับพลังงานสวรรค์ ‘เนี่ยหลี่’ รู้สึกได้ว่าระดับพลังของเขามีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ช่วยไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นออกมา แต่เดิม’เนี่ยหลี่’คิดไว้ว่า ศิลาจิตวิญญาณจำนวนสองร้อยถึงสามร้อยก้อน ก็สามารถทำให้ฝึกฝนบ่มเพาะได้เป็นเวลานานแล้ว แต่ด้วยความเร็วในการดูดซับพลังงานสวรรค์ระดับนี้ มันไม่เร็วเกินไปหน่อยหรือ?
แม้ว่า’เนี่ยหลี่’จะไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับเถาเลื้อยในตัวมากนัก แต่ก็รู้สึกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของตนเช่นกัน ถ้ามันเจริญเติบโตขึ้นแน่นอนว่ามันสามารถทำให้ระดับการบ่มเพาะเพิ่มสูงขึ้นด้วย!
‘เนี่ยหลี่’ยังคงดูดซับพลังงานในศิลาจิตวิญญาณต่อไปเรื่อยๆ ก้อนที่ยี่สิบ…ก้อนที่สามสิบ
ปริมาณของศิลาจิตวิญญาณที่ถูกใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในฐานะที่เนี่ยหลี่ดูดซึมพลังงานสวรรค์ในปริมาณมาก ทำให้ระดับการบ่มเพาะพลังของ’เนี่ยหลี่’เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
อ้างอิงจากเดิมที่ระดับการบ่มเพาะของ’เนี่ยหลี่’ อยู่ที่จุดสูงระดับตำนานสี่ดาว กำลังจะก้าวสู่ ห้าดาวเร็วๆนี้ ตอนนี้ระยะห่างจากระดับชะตาสวรรค์ซึ่งเป็นเป้าหมายเร่งด่วนของ’เนี่ยหลี่’ลดลงอีกระยะหนึ่งแล้ว
เมื่อ’เนี่ยหลี่’ไปถึงระดับชะตาสวรรค์แล้ว ความเร็วการบ่มเพาะพลังจะเปลี่ยนไปจากเดิมมาก
โม้ไว้หลายตอนละ ไม่โหดจริงมีเลิกแปล
จินตาน ที่กำลังหลับอยู่ก็ตื่นขึ้นมาราวกับสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่าง เมื่อมันเห็นศิลาจิตวิญญาณที่ถูกดูดซับพลังงานไปจนว่างเปล่าแล้วมันก็ … กินศิลาพวกนั้นเหมือนกับเคี้ยวถั่วเล่นไม่มีผิด
‘เนี่ยหลี่’ที่ทำการบ่มเพาะพลังเป็นเวลานานไม่กล้าที่จะซึมซับพลังงานสวรรค์ที่มากเกินไปในคราเดียว หลังจากเสร็จสิ้นการบ่มเพาะพลังจึงได้ลืมตาขึ้น ก็สังเกตเห็นว่า จินตานได้กินศิลาจิตวิญญาณที่ว่างเปล่าไปแล้วกว่าครึ่ง
ส่งผลให้มีเศษหินกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกมุมห้อง ท้องของมันก็พองโตอวบอ้วนขึ้นแล้วกลิ้งไปมาด้วยความพึงพอใจ ที่แสดงออกมาให้เห็นทางสีหน้าของมัน
เจ้าตัวน้อยนี่ตะกละ เกินไปไหม กินแม้กระทั่งศิลาที่ว่างเปล่าพวกนี้!
‘เนี่ยหลี่’ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่จึงได้หยิบเอา ศิลาจิตวิญญาณที่ยังไม่ได้ดูดซับพลังสวรรค์ แล้วโยนใส่จินตาน
ขณะที่ศิลาจิตวิญญาณกำลังจะถึงตัวจินตานนั้น ทันใดนั้นเองเปลือกตาที่ปิดสนิทกลับตื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว จินถามคว้าเอาศิลาจิตวิญญาณไปในพริบตา พร้อมกับกอดมันไว้ราวกับสมบัติล้ำค่าที่กลัวจะถูกผู้อื่นแย่งชิง
จากนั้นมันก็เริ่มเคี้ยว…ศิลาจิตวิญญาณถูกกลืนกินหายวับไปไม่เหลือแม้แต่เศษก้อนเดียวให้เห็น
จินตานเลิกสนใจศิลาจิตวิญญาณแล้วหันมาจ้อง’เนี่ยหลี่’แทน
เจ้าตัวน้อย นี่รู้จริงเสียด้วยว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่ดี มันรู้ว่าศิลาที่ว่างเปล่าไม่สามารถเทียบรสชาติของศิลาที่มีพลังงานสวรรค์อัดแน่นอยู่
‘เนี่ยหลี่’ส่ายหัวพร้อมกล่าวว่า
“ข้าไม่ได้มีเจ้าสิ่งนี้มากนัก ตอนนี้ข้าสามารถให้เจ้าได้เพียงก้อนเดียว หากเจ้าต้องการมันเจ้าต้องเชื่อฟังข้า!”
จินตานพยักหน้ารัวๆเหมือนลูกเจี้ยบตามคำของ’เนี่ยหลี่’
เจ้าตัวน้อยนี่หลอกง่ายชะมัด แต่เมื่อ’เนี่ยหลี่’พยายามจะเปลี่ยนกลิ่นอายของจินตานที่แผ่ออกมาก ปรากฏว่าถูกขัดขวางด้วยพลังบางอย่าง เพื่อไม่ให้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ‘เนี่ยหลี่’จึงพยายามอีกครั้งแต่ครั้งนี้’เนี่ยหลี่’ได้ปล่อยพลังงานสวรรค์ไปแทน
‘เนี่ยหลี่’พยายามเปลี่ยนแปลงกลิ่นอายของจินตานอีกครั้ง และก็พบว่าตอนนี้จินตานไม่ได้ต่อต้าน ในขณะที่ปล่อยพลังงานสวรรค์ ‘เนี่ยหลี่’เริ่มตระหนักถึงความแข็งแกร่งทางสายเลือดของจินตานที่จินตนาการไม่ได้พลังอำนาจนี้แข็งแกร่ง ยิ่งกว่า กิเลนฟ้าเสียอีก
ความประหลาดใจสุมอยู่ในใจของ’เนี่ยหลี่’
‘เนี่ยหลี่’ไม่สามารถจินตนาการตัวตนของจินตานได้เลย จินตานเติบโตทีละนิดละนิดจากการดูดซับพลังสวรรค์ของ’เนี่ยหลี่’ ‘เนี่ยหลี่’ที่ส่งพลังงานสวรรค์เข้าไปในตัวจินตานทำให้พลังวิญญาณเข้าไปยังตัวของจินตาน เกิดเป็นสายสัมพันธ์วิญญาณระหว่าง’เนี่ยหลี่’และจินตาน
ในขณะที่เชื่อมวิญญาณอยู่นั้น’เนี่ยหลี่’รับรู้ทันทีว่า จินตานนั้นแข็งแกร่ง
เกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปนี้ เนี่ยรู้สึกได้เลย ว่าพลังวิญญาณของจินตานก็เข้ามากระแทบยังแดนวิญญาณตัวเองเช่นกัน
ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องรีบร้อน แม้ยังจะต้องอาศัยการปรับแต่งอีกเพื่อให้มีประสิทธิภาพที่สมบูรณ์ การทำตราประทับวิญญาณในแดนวิญญาณของจินตาน เพื่อเปลี่ยนมันให้เป็นสัตว์วิญญาณต้องทำอย่างช้าๆและค่อยเป็นค่อยไป
แปล…สินธุ์นวล
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ขอขอบคุณปกสวยๆจากคุณ
ด้วยครับผม ><ที่มา: