ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป‘เซี่ยวหยู่’ที่กำลังเดินนำหน้าอยู่ในขั้นที่มากกว่าเงยหน้าขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวนางหนึ่งที่งดงามราวกับเทพธิดาก็ถึงกับตะลึง เขาถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ งดงามเหนือผู้ใดในใต้หล้าโดยแท้ แววตาคมกริบคู่นั้นที่ราวจะเจาะทะลุสู่หัวใจผู้คนได้อย่างง่ายดาย
นางยิ้มให้’เซี่ยวหยู่’จางๆก่อนที่เดินลงบันไดอย่างช้าๆ
การก้าวเท้าที่สง่างาม ของนางทำให้หัวใจของผู้ที่พบเห็นนั้นต้องเต้นอย่างบ้าคลั่ง เสื้อผ้าของนางปลิวไสวไปตามแรงลมทุกคนต่างจ้องมองนางอย่างเหม่อลอยในความงดงามของนาง ทันใดนั้นราวกับทุกสิ่งในโลกต้องมัวหมองให้กับนาง
นางเดินผ่าน’เซี่ยวหยู่’ไป แล้วเคลื่อนที่ไปยังทิศทางของที่’เนี่ยหลี่’และ’หลู่เปียว’อยู่ ดวงตาคมกริบจ้องมายัง’เนี่ยหลี่’อย่างชัดเจน เผยให้เห็นรอยยิ้มบริสุทธิ์จากมุมปากของนาง
“ยินดีที่ได้พบ เจ้าชื่ออะไร?เจ้ารู้จักข้าหรือไม่?”
ด้วยการจับจ้องที่ทะลุได้ทุกอย่าง
“ข้าไม่ทราบ”
‘เนี่ยหลี่’กล่าวพลางส่ายหัว ‘เนี่ยหลี่’จำได้ว่าอาจารย์เคยกล่าวไว้ว่าเขาเป็นภัยพิบัติต่อชีวิตนาง ดังนั้น’เนี่ยหลี่’ควรจะหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้นาง และปล่อยให้นางได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขจริงมั้ย?
หญิงสาวมองมาที่’เนี่ยหลี่’อย่างประหลาดใจ เขาไม่ทราบว่านางเป็นใคร? คิ้วของนางขมวดเป็นปมเล็กน้อย แม้ว่าระดับการบ่มเพาะพลังของนางจะไม่สูงมาก แต่นางเป็นผู้เดินอยู่บนเส้นทาง หยั่งรู้ชะตาสวรรค์ ดังนั้นนางสามารถจะคาดเดาชะตาของผู้ที่นางพบเห็นได้ แต่อย่างไรก็ตาม’เนี่ยหลี่’ราวกับเป็นผู้ที่ถูกละเว้น เมื่อนางพยายามจะทำนายชะตาของเขานางกลับพบกับความโกลาหลวุ่นวายสับสน
ทำไม’เนี่ยหลี่’ถึงได้จ้องมองมายังนางราวกับว่ารู้จักนางเป็นเวลานาน?การกระทำเหล่านั้นไม่น่าจะใช่การเสแสร้งทำ
นางรู้สึกคลุมเครือมากในความทรงจำของนาง ราวกับว่านางกับเขาเคยพบกันที่ไหนสักแห่งมาก่อน
นางเม้มริมฝีปากก่อนจะยิ้มออกมา
“ข้าชื่อ อิง เยว่หลู่ เจ้าละชื่ออะไร?”
‘เนี่ยหลี่’ถึงกับนิ่งไปชั่วครู่ ในชีวิตก่อนหน้าตอนที่เขาได้ฝึกฝนกับอาจารย์ อาจารย์ไม่แม้แต่จะเอ่ยชื่อจริงของนางออกมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เหตุใดนางจึงบอกชื่อนางให้กับคนแปลกหน้ารู้ในชีวิตนี้?
เมื่อเห็นหญิงงามนางนั้นเริ่มต้นที่จะพูดคุยกับ’เนี่ยหลี่’ก่อน ใบหน้าของเหล่านักเรียนเหล่านั้นก็เต็มไปด้วยความริษยา พวกเขาได้จ้องมองนางเป็นเวลานานแต่ไม่ก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้นาง ทำได้เพียงแต่ให้ความสนใจอยู่ห่างๆเพียงแค่นั้น แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่านางจะเป็นฝ่ายเริ่มเข้าใกล้กับ’เนี่ยหลี่’ก่อน หลังจากขบคิดอยู่พักหนึ่ง’เนี่ยหลี่’จึงตอบไปตามตรง
“ข้าชื่อเนี่ยหลี่!”
“เนี่ยหลี่ เนี่ยหลี่ ..”
‘อิงเยว่หลู่’ พึมพำกับตัวนางเอง
“ทำไมข้าถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้ยิ่งนัก ? มันเหมือนกับข้าเคยได้ยินมันมาจากที่ไหนมาก่อน”
‘เนี่ยหลี่’เงยหน้าขึ้นจ้องมองมายังนาง ที่แห่งใดกันที่อาจารย์จะได้ยินชื่อของเขา?
“อย่าใส่ใจเลย ข้าคงจำผิดไปเอง”
‘อิงเยว่หลู่’ ส่ายหัวของนาง พลางยิ้มสดใสออกมา รอยยิ้มที่สามารถทำให้ผู้คนยืนนิ่งเหม่อลอยเพียงแค่การมองนาง
‘เซี่ยวหยู่’ ที่กำลังอยู่ในขั้นที่หนึ่งร้อยหันกลับมา เมื่อเห็นว่า’เนี่ยหลี่’กับ’อิงเยว่หลู่’ คุยกันอย่างสนุกสนาน เขาชะงักการไปต่อของเขาเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองรอบๆและเดินไปที่’เนี่ยหลี่’กับ’หลู่เปียว’อยู่
“เนี่ยหลี่ เกิดอะไรขึ้น?เจ้ารู้จักนางด้วย?”
‘เซี่ยวหยู่’เหลือบมองไปที่ ‘อิงเยว่หลู่’ ด้วยสีหน้าระแวดระวัง ก่อนจะกระซิบบอก’เนี่ยหลี่’
“คนที่อยู่ในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์มีความซับซ้อน ที่มาของนางยังเป็นปริศนา เจ้าควรจะระวังตัวไว้”
เมื่อได้ยินคำของ’เซี่ยวหยู่’ ‘เนี่ยหลี่’ได้แต่ยิ้มตอบ ถึงแม้ว่าในชีวิตนี้ ‘อิงเยว่หลู่’จะไม่รู้จักเขา แต่เขาทราบดีถึงตัวตนของนาง หัวใจของนางเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ นางเป็นคนชนิดที่ยอมเต็มใจรับความเจ็บปวดแทนผู้อื่น
“เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่องนี้ นางไม่ได้เป็นภัยกับเรา”
‘เนี่ยหลี่’ยิ้มขณะที่ตอบ’เซี่ยวหยู่’
“เจ้าเพียงแค่พบกับนางเพียงเท่านั้น มิหนำซ้ำยังพึ่งพบ เจ้ามั่นใจได้อย่างงั้นหรือ?”
‘เซี่ยวหยู่’ขมวดคิ้วพร้อมตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
“ใช่”
‘เนี่ยหลี่’พยักหน้าตอบอย่างจริงใจ
เมื่อเห็นว่าดวงตาของ’เนี่ยหลี่’ตราตรึงอยู่กับหญิงนางนั้น โดยไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมจิตใจของ’เซี่ยวหยู่’ถึงเต็มไปด้วยความไม่พอใจหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
“หากเจ้าไว้ใจนางมากนักก็ตามใจ มันก็ไม่ใช่ธุระของข้า!”
‘เซี่ยวหยู่’ หันไปรอบๆก่อนจะก้าวขึ้นขั้นต่อไปอย่างไม่สนใจ’เนี่ยหลี่’
เมื่อมองไปยัง’เซี่ยวหยู่’ ‘เนี่ยหลี่’ถึงกับเกิดความสับสนขึ้นมาในใจ เกิดอะไรขึ้นกับเขา?
‘อิงเยว่หลู่’ มองไปที่’เซี่ยวหยู่’อีกครั้ง ก่อนปรากฏรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความหมายบนใบหน้านาง นางหันกลับไปมอง’เนี่ยหลี่’อีกครั้งแล้วยิ้มให้
“ดูเหมือนว่าสหายของเจ้าจะไม่ต้อนรับข้าเท่าไหร่นัก แต่อย่างไรเสีย ข้าก็ได้จำชื่อของเจ้าไว้แล้ว เนี่ยหลี่ ข้าเชื่อว่าเราจะต้องได้พบกันอีกครั้งในเวลาไม่นานนี้แน่นอน!”
‘อิงเยว่หลู่’ ยิ้มกริยาของนางเต็มไปด้วยความสงบ ในขณะที่นางเดินลงบันไดเสน่ของนางได้ดึงดูดสายตาผู้คนเอาไว้ให้มองได้มายังที่นางเพียงเท่านั้น นางช่างสง่างามอย่างแท้จริง
เหล่านักเรียนมองอิงเยว่หลู่จากไปก่อนจะหันมามองทาง’เนี่ยหลี่’ด้วยสายตาที่เป็นปฏิปักษ์ ในพวกเขาหลายคนได้รู้ว่านางคือ’อิงเยว่หลู่’อยู่แล้ว แต่พวกเขาสัมผัสได้ว่าตัวตนของนางนั้นไม่เป็นที่แน่ชัด บรรดาผู้ที่ไปถึงขั้นที่ 130 ได้นั้นย่อมไม่ธรรมดา
พวกเขาหลายคนมีความรู้สึกด้อยไม่คู่ควรเวลาที่มองไปยังนางเลยทิ้งความคิดที่จะเข้าใกล้นาง แต่ถึงอย่างนั้น ‘เนี่ยหลี่’กลับมีโอกาสได้พูดคุยกับนางผู้เปรียบเป็นเทพธิดาในดวงใจของพวกเขาทำให้พวกเขารู้สึกอิจฉาอย่างยิ่ง ‘หลู่เปียว’มอง’เนี่ยหลี่’อย่างขมขื่น
“เนี่ยหลี่ ดูเหมือนว่าเจ้าจะกลายเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของผู้คนไปแล้ว!”
นอกจาก’หลู่เปียว’จะไม่ทราบถึงวิธีการอันใดที่’เนี่ยหลี่’กระทำ เพื่อเทพธิดาคนนั้นมาคุยด้วย หรือว่า’เนี่ยหลี่’อาจจะมีสมบัติวิเศษติดตัวเอาไว้ทำให้มีเสน่ห์ดึงดูดได้แม้กระทั่งหญิงงามดุจเทพธิดาคนนั้น?
ในหัวเอ็งคิดแต่เรื่องนี้ใช่ม้ายย
“ไม่ต้องใส่ใจกับพวกนั้นหรอกน่า ไม่จำเป็นต้องไปสนใจสายตาผู้อื่นที่จ้องมานัก เจ้าควรจะกังวลกับตัวเจ้าเองมากกว่านะ หากเจ้าสามารถโดดเด่นได้มากกว่าผู้อื่น เจ้าก็จะไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับคนเหล่านั้นว่าจะคิดกับเจ้ายังไง”
‘เนี่ยหลี่’พูดขณะที่ก้าวขึ้นไปยังขั้นต่อไป
‘หลู่เปียว’ครุ่นคิดกับคำพูดของ’เนี่ยหลี่’ และทำให้เขาตระหนักได้มากขึ้น ทำไม’เนี่ยหลี่’ต้องพูดอะไรที่มันเป็นปรัชญาเข้าใจยากด้วยนะ? แต่เขาก็ยังคงเร่งก้าวขึ้นขั้นต่อไป ถึงจะไม่รู้เรื่องแต่ทำๆไปก่อนงั้นสินะ
‘เซี่ยวหยู่’ จัดระเบียบการหายใจของเขาในขณะที่เขามาถึงขั้นที่ 120 แต่เมื่อเขาพยายามจะก้าวไปยังขั้นที่สูงขึ้นปรากฏว่าเขาไม่สามารถทำได้ มันดูเหมือนว่าความเข้าใจเกี่ยวกับพลังฟ้าและดินของเขาน้อยกว่าเล็กน้อย
เมื่อเทียบกับหญิงสาวนางนั้น แม้ว่าไม่อยากจะยอมรับ แต่เขาก็ทำได้เพียงหยุดอยู่ที่ขั้นนั้น
‘เซี่ยวหยู่’ หันกลับมา มองไปที่’เนี่ยหลี่’และ’หลู่เปียว’ ก็รู้สึกหงุดหงิดอยู่ในใจเล็กน้อย ‘เนี่ยหลี่’แค่พบพานหญิงสาวและได้พูดคุยกันและเขาได้เตือน’เนี่ยหลี่’เกี่ยวกับนาง ‘เซี่ยวหยู่’หงุดหงิดจนต้องพ่นลมหายใจออกมา จากนั้นจึงได้เริ่มทำการบ่มเพาะพลังอยู่ที่ขั้นนั้นต่อไป
ภายนอกด่านจิตวิญญาณแห่งแสง
เกิดความโกลาหลวุ่นวายในหมู่คนที่อยู่ภายนอก
“นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน? เซี่ยวหยู่ขึ้นไปอยู่อันดับที่11!”
“นี่มันต้องผิดพลาด ต้องเป็นความผิดพลาด?! พวกเจ้าบางส่วนจงเข้าไปในด่านทดสอบจิตวิญญาณแห่งแสงและตรวจสอบดู
นี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้! ไปสืบดูว่าเซี่ยวหยู่มันใช้กลโกงอะไร?”‘ฮัวหลิง’คำรามออกมาด้วยความโกรธ เขาไม่เคยคาดคิดว่า’เซี่ยวหยู่’จะมีอันดับนำหน้าเขาไป
ไอ้ขยะ’เซี่ยวหยู่’มันทำได้ยังไง?
‘ฮัวหลิง’รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก เขาเคยมีความรู้สึกหวาดหวั่นต่อเซี่ยวหยู่ หลังจากการทดสอบรากวิญญาณแล้วเซี่ยวหยู่มีรากวิญญาณฟ้าขั้นที่ 7 ใครจะสามารถจินตนาการได้ถึงความสามารถที่ได้ระเบิดออกมา?ตอนนี้ความกลัวของเขาได้กระตุ้นความรู้สึกอยากสังหารใครสักคน
ในขณะที่’เอี๋ยนห่าว’ที่อยู่ห่างออกไปมองเห็นรายชื่อ’เซี่ยวหยู่’ในอันดับจิตวิญญาณแห่งแสงก็ต้องตกตะลึงเป็นอย่างมาก ชื่อของ’เซี่ยวหยู่’ไม่เคยปรากฏขึ้นในอันดับจิตวิญญาณแห่งแสง แม้กระทั่งอันดับที่ดีที่สุดที่เขาเคยทำได้นั่นก็คือ อันดับที่ 121
ถึงแม้ว่าอันดับของเขาจะถูกลดลงอย่างง่ายดาย แต่’เซี่ยวหยู่’กลับไปถึงอันที่ 11 !
นั่นคือความสูงที่ตัวเขาไม่สามารถจะเอื้อมถึง!
จากข้อมูลที่ผ่านๆมา ผู้ที่สามารถเข้ามายัง 20 อันดับแรกได้นั้น ได้กลายเป็นผู้เยี่ยมยุทธเมื่อเติบโตขึ้น และกลายเป็นผู้ที่สามารถควบคุมพื้นที่ของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ได้!
อยู่ดีๆก็เกิดช่องว่างระหว่าง’เอี๋ยนห่าว’กับ’เซี่ยวหยู่’
‘เอี๋ยนห่าว’กลายเป็นโง่งม เล็กน้อย ในอดีตที่ผ่านมาเขาคิดว่า’เซี่ยวหยู่’เป็นเพียงแค่เศษสวะไร้ค่าที่มีดีแค่รูปลักษณ์เพียงเท่านั้น
แต่ตอนนี้ปรากฏว่าขยะนั้นได้กลายเป็นเขาเสียเอง! เขาจะเทียบกับ’เซี่ยวหยู่’ได้อย่างไร?ทันใดนั้นก็มีเสียงปรากฏขึ้นจากอีกด้านหนึ่ง
“ดูเจ้าสองคนที่มาใหม่นั่นก็ได้เข้ามาอยู่ในอันดับจิตวิญญาณแห่งแสง!”
“เนี่ยหลี่และหลู่เปียวเหมือนสองคนนั้นจะมาจากโลกใบเล็ก!”
สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังอันดับจิตวิญญาณแห่งแสง อันดับของ’เนี่ยหลี่’และ’หลู่เปียว’กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง’หลู่เปียว’ได้หยุดอยู่ที่อันดับ 86 แต่’เนี่ยหลี่’ยังขยับเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
“โอ้สวรรค์!เขากำลังจะแซงอันดับของนายน้อยจินหยานแล้ว!”
สายตาทุกคนจับจ้องไปยังอันดับจิตวิญญาณแห่งแสง ‘เนี่ยหลี่’นั้นอยู่ที่อันดับ 16
พวกเขาแทบหยุดหายใจเมื่อเห็นทั้งสองคนเพิ่มอันดับจิตวิญญาณแห่งแสง ‘เนี่ยหลี่’และ’หลู่เปียว’เพิ่งจะมาใหม่ในปีนี้
ไม่เหมือน’หลงยู่อิน’และ’จินหยาน’ที่มีพื้นหลังเป็นตระกูลใหญ่ แต่พวกเขาก็ยังสามารถขึ้นไปในอันดับสูงได้นี่พวกเขาไม่คิดจะให้โอกาสกับผู้ที่มาก่อนเลยรึไง?คนที่มาจากโลกใบเล็ก ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!
หนึ่งคนอยู่อันดับที่ 11 ส่วนอีกคนอยู่อันดับที่ 16 ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่พวกเขาสามารถขึ้นมาอยู่ในอันดับจิตวิญญาณแห่งแสงได้
หากพวกเขาทำการบ่มเพาะพลังต่อเนื่องละก็ใครจะรู้ว่าพวกเขาสามารถไปได้ถึงขั้นไหน ? หากพวกเขาต้องการจะเข้าไปยัง10อันดับแรกนั่นก็ต้องเป็นการท้าทายสวรรค์แล้ว
สิบอันดับแรกเป็นความฝันของคนหลายคน!
นอกจากนี้รางวัลของมันก็มากพอที่จะทำให้ผู้ที่มองเห็นน้ำลายไหลแล้ว
ผู้ที่ได้รับการจัดอันดับอยู่ในสิบอันดับแรกแน่นอนทุกคนคืออัจฉริยะ เมื่อพวกเขาอยู่ในสิบอันดับแรกจะต้องเป็นที่ดึงดูดจากสถาบันอย่างแน่นอน ตระกูลจิน
‘จินหยาน’กำลังฝึกฝนเทคนิคการต่อสู้สัตว์อสูรของเขา คนรับใช้รีบวิ่งมารายงาน
“นายน้อย ข้ามีข่าวร้ายจะมาเรียนให้ท่าน”
‘จินหยาน’ขมวดคิ้วของเขาก่อนจะถามด้วยท่าทีขึงขัง
“เกิดอะไรขึ้น?”
“นายน้อยอันดับจิตวิญญาณแห่งแสงของท่านได้ ลดลงไปอยู่อันดับที่ 25”
“ใครเป็นคนที่นำหน้าข้าไป?เป็นผู้ใดกัน?”
‘จินหยาน’ยังอยู่ในท่าทีสงบ มันเป็นเรื่องปกติมากที่อันดับจะมีการเปลี่ยนแปลง เขาเพียงแค่ต้องการทราบอย่างละเอียดเท่านั้น
“คนหนึ่งชื่อว่าเซี่ยวหยู่ อยู่ในอันดับที่ 11 และเนี่ยหลี่อยู่อันดับที่ 16 !”
คนรับใช้รีบรายงาน
“เนี่ยหลี่?”
‘จินหยาน’ขมวดคิ้วสักครู่ เขาไม่เคยคาดคิดว่า’เนี่ยหลี่’ที่อยู่ระดับเดียวกับเขาจะก้าวนำหน้าเขาไป เขาเป็นคนที่ถูกจัดให้เป็นรองจาก’หลงยู่อิน’ หลังจากที่ทุกคนรู้ว่าเขาไม่สามารถแข่งขันกับนางได้และจัดให้เขาเป็นอันดับ สอง แต่ตอนนี้ความจริงที่’เนี่ยหลี่’ก้าวข้ามเขาไปทำให้เขาผิดหวังเล็กน้อย
แววตาของ’จินหยาน’เย็นยะเยือก เขาต้องไปที่ด่านจิตวิญญาณแห่งแสงเพื่อทำการฝึกฝน เขาต้องก้าวข้าม’เนี่ยหลี่’ไปให้ได้ และต้องบดขยี’เนี่ยหลี่’ด้วยฝ่าเท้าของเขาเอง!…
จบแล้วครับ
แปลโดย..สินธุ์นวล
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: