ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป‘อาจารย์ชิหลิง’ไม่ทราบว่าการบ่มเพาะพลังของ’เนี่ยหลี่’เป็นเช่นไร แต่สามารถสัมผัสได้ถึงการกลั่นพลังอันลึกซึ่งยิ่ง ที่จริงแล้วอัจฉริยะนั้นโดดเด่นออกมาจากหมู่คณะ ‘อาจารย์ชิหลิง’ได้ระลึกขึ้นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะสอนหนังสือสังฆราชแต่อย่างใด ดังนั้นเขาจึงเฝ้าสังเกตการณ์ก่อนที่จะเดินการต่อไป
ทุกคนเริ่มฝึกกายกันต่อ ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา นอกจาก’เนี่ยหลี่’ ทุกคนได้รับคำแนะนำจาก’อาจารย์ชิหลิง’และก้าวหน้าขึ้น ก่อนหน้านี้ที่’เนี่ยหลี่’ได้ เทคนิคการบ่มเพาะ เทพวิถีฟ้า ขณะนี้เขาได้เพ่งเล็งไปที่พลังกายซึ่งสามารถก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่’หลงยู่อิน’ฝึกพลังกายของนาง เธอได้เหลือบมอง’เนี่ยหลี่’ การฝึกฝนของ’เนี่ยหลี่’นั้นต่างจากคนรู้จักของนางในอดีตซึ่งกระตุ้มความสนใจของนาง ใจนางระเบิดไปด้วยจิตที่มุ่งมั่นจะต่อสู้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางจึงต้องลืมความละอายก่อนหน้านี้ไป
นางเพียงต้องการที่จะบอก’เนี่ยหลี่’ ถึงแม้ว่าเขาจะก้าวผ่านนางไปได้ในศิลาอันดับจิตวิญญาณแห่งแสงเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนางในเรื่องพละกำลัง นางต้องการที่จะคืนความน่าละอายนั้นกลับไปให้เขา อาการบาดเจ็บบนร่างนางนั้นยังปวดอยู่บ้าง แต่มันไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับนางนัก มันเป็นความเสื่อมเสียที่สุดภายในจิตใจของนางซึ่งไม่สามารถทนได้
นางต้องการเอาคืน’เนี้ยหลี่’เป็น 3 เท่า!
‘อาจารย์ชิหลิง’ผงกหัวและกล่าวขึ้นว่า
“พวกเจ้าเป็นเหล่าอัจฉริยะซึ่งกุมกำลังของผู้เยี่ยมยุทธระดับชะตาสวรรค์ไว้ ดังนั้นความเร็วในการบ่มพลังจักก้าวข้ามคนอื่นๆอย่างแน่นอน เหล่าอัจฉริยะในปีนี้เหนือกว่าที่ข้าคาดไว้อย่างมาก อย่างไรก็ตามพวกเจ้าต้องรักษาเกียรติยศและความอดทน จำไว้ว่าภายในอาณาจักรซากมังกร จักมีผู้มีพลังเหนือกว่าพวกเจ้า เจ้าอาจจะเป็นระดับสุดยอดภายในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ อย่างไรก็ตาม มีเหล่าอัจฉริยะมากมายนิกายอื่นในอาณาจักรซากมังกร กำลังฝึกฝนต่อเนื่องในขณะที่พวกเจ้าพัก เป้าหมายของพวกเจ้าคือก้าวข้ามพวกเขา!”
‘อาจารย์ชิหลิง’มองกลุ่มศิษย์และกล่าว
“ในตอนนี้เจ้าจักต้องรู้จักพละกำลังของเจ้าเอง พวกเราจะเริ่มซ้อมการประลอง พวกเจ้าแต่ละคนจักต้องหาคู่หูซ้อม จักดีที่สุดถ้าเลือกคู่หูที่มีพลังเทียบเท่าพวกเจ้าเอง”
‘ลู่เพียว’รู้สึกมึนงงชั่วขณะ
“ซ้อมประลอง?”
‘กู้เบ่ย’ที่ยืนอยู่ข้างเขายิ้มและพูดว่า
“น้องลู่ทำไมพวกเราไม่มาฝึกฝนด้วยกันล่ะ?
‘ลู่เพียว’ผงกหัวอย่างทันที
“ก็ดีนะ!”
เขาไม่เคยต้องการจะฝึกฝนกับ’เนี่ยหลี่’ ฝีมือต่างกันอยู่คนละโลกจากเขานัก
ไม่นานนักสตรีงามในอาภรณ์ขาวเดินมาหา’เนี่ยหลี่’ นางมีรูปร่างที่น่าริษยา แต่มีหน้าตาน่ารัก ถึงแม้จะน้อยกว่า’หลงยู่อิน’ นางก็ยังคงสวยอย่างยิ่ง
นางเอ่ยอย่างเขินอายว่า
“เนี่ยหลี่ ข้ากำลังหาคู่หูเพื่อฝึกซ้อม พวกเราจะไม่มาซ้อมด้วยกันหรือ?”
มีศิษย์ในชั้นเรียน 36 คน 11 คนนั้นเป็นสตรี นอกเหนือจากหลงยู่อินที่สันโดษ สตรีหลายนางก็มีปฏิกิริยาเล็กน้อย สตรีเหล่านี้สังเกตเหล่าหนุ่มสหายในชั้นเรียนอย่างจดจ่อ แน่นอนและไม่ต้องริสงสัยเลยว่า’เนี่ยหลี่’ก็อยู่ในรัศมีที่ถูกจับจอง
‘เนี่ยหลี่’อยู่ในลำดับ 3 ของศิลาอันดับจิตวิญญาณแห่งแสงและโค่น’หลงยู่อิน’อยู่ภายใต้เขา ความสามารถระดับนี้เป็นที่ประหลาดใจที่สุด ในการกลายเป็นเค้กแสนหวานของเหล่าสตรี
อย่างไรก็ตาม สตรีนางอื่นไม่กล้าที่จะเข้าหา’เนี่ยหลี่’ เว้นเสียแต่นาง นางมาจากตระกูลมั่นคั่ง ยิ่งเสียไปกว่านั้น นางมีรูปร่างที่สวยงาม ภายในชั้นเรียน นางเพียงแต่เป็นรองนางยู่อิน
สตรีงามซึ่งขอร้องเป็นคู่ซ้อมกับเขา ซึ่งเป็นการเชื้อเชิญที่ทรงเสน่ห์หา ‘ลู่เพียว’มองบนและขยิบตาให้’เนี่ยหลี่’ ทำไมตัวข้า’ลู่เพียว’ไม่สบโอกาสอันดีงามเช่นนี้
ทันใดนั้น ‘หลงยู่อิน’ก็เดินผ่านมา มอง ‘เหอ อินอิน’อย่างเย็นชาและเอ่ย
“เหอ อินอิน ถอยไป เขาเป็นคู่แข่งของข้า!”
‘เนี่ยหลี่’ทำหน้าบึ้งตึงคิ้วขมวดอย่างช่วยไม่ได้เมื่อ’หลงยู่อิน’ปรากฏ เด็กนี่ไม่รู้จักคำว่าหยุด! บทเรียนที่สั่งสอนนางไปก่อนหน้านี้ไม่เพียงพอรึ หรือนางเพียงต้องการบทเรียนมากกว่านี้? ‘หลงยู่อิน’อาจจะมีสายเลือดของมังกร แต่’เนี่ยหลี่’ไม่ได้เกรงที่จะสู้ตัวต่อตัวกับนางเลย
‘เหออินอิน’ รู้สึกบึ้งตึง ในชั้นเรียนทั้งหมดนี้ หล่อนเกลียด’หลงยู่อิน’ที่สุด ‘เหออินอิน’ต้องการประโยชน์และโอกาศอันดีงามให้’เนี่ยหลี่’เป็นหมาคอยติดตามชายกระโปรงของนาง
อย่างไรก็ตาม’หลงยุ่อิน’ฉวยโอกาสและทำลายทุกอย่าง ถึงแม้ว่าครอบครัวของ’เหออินอิน’จะไม่ใช่ระดับธรรมดาทั่วไป แต่ก็มิอาจเทียมตระกูลผนึกมังกร ดังนั้นนางจึงไม่กล้าที่จะยั่วยุ’หลงยู่อิน’
‘เหออินอิน’ทำปากจู๋ ยิ้มและเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่เปลี่ยนกระดูกทุกคนให้ละลาย
“พี่เนี่ยหลี่ งั้นข้าขอตัวก่อน ถ้ามีเวลาหลังจากชั้นเรียนพวกเรามาคุยกันนะ”
‘เนี่ยหลี่’ตอบอย่างเคยชิน
“ถ้าหากว่าข้าพอมีเวลาหล่ะนะ”
โดยทั่วไปแล้ว เขาไม่ได้ยอมจำนนต่อรูปร่างหน้าตาของนาง เขาเข้าใจว่า’หลงอินอิน’นั้นเป็นสตรีชั่วร้ายซ่อนเขี้ยวเล็บและขี้ริษยา ‘หลงยู่อิน’อาจจะหยาบคาย แต่อย่างน้อยนางก็ตรงไปตรงมาและตอบโต้ได้ง่ายดาย
‘หลงยู่อิน’ถอนหายใจรุนแรงขณะมอง’เหออินอิน’อย่างช่วยไม่ได้ ‘เหอ อินอิน’รู้สึกผิดหวังที่’เนี่ยหลี่’เย็นชากับเธอนัก นางมอง’หลงยู่อิน’อย่างขุ่นเคืองชั่วขณะก่อนจากไป
สตรีได้สนทนาวาทะกันด้วยเสียงนุ่มนวล
“เกิดอะไรขึ้นกับหลงยู่อิน?เมื่อคิดว่านางจับคู่ซ้อมกับเนี่ยหลี่แล้ว!นางอาจจะสนใจเขา!”
“พูดอะไรกันน่ะ?เจ้าไม่รู้เหตุการณ์ไม่กี่วันที่ผ่านมาหรอกหรือ? เนี่ยหลี่ล้มหลงยู่อินอย่างไร้เมตตาและดูถูกไว้ภายใต้เบื้องล่างและเฆี่ยนนาง 3 ครั้ง นางจะทนได้อย่างไรด้วยบุคลิกท่าทางอันภาคภูมิของนาง? นางเพียงต้องการแก้แค้นพี่เนี่ยหลี่!”
“เนี่ยหลี่เฆี่ยนหลงยู่อิน 3 ครั้ง? ข้าได้ฝึกบ่มพลังไม่กี่วันที่ผ่านมา ดังนั้นจึงไม่รู้! บอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวนี้เลย!”
“เนี่ยหลี่สุดยอดจริงๆ ที่สามารถทำให้หลงยู่อินพ่ายแพ้อย่างแสนสาหัส!”
สตรีบางกลุ่มนั้นได้ถกเถียงกันในเสียงที่นุ่มนวล
“ตอนนี้นางมาทวงคืนเกียรติของตนอีกครั้งหรือ?”
“หลงยู่อินนั้นสืบสายเลือดมังกร ตั้งแต่หล่อนมีพลังกายอันแข็งแกร่ง พี่เนี่ยหลี่ครั้งนี้จักต้องเจ็บตัวแน่นอน!”
หน้า’หลงยู่อิน’ที่ถูกทำให้ปวดร้าวขณะที่มอง’เนี่ยหลี่’ นางรู้สึกว่าบาดแผลบนหน้าอกของหล่อนและบั้นท้ายยังคงปวด กระดูกส่วนต่างๆก็รวดร้าว ความเจ็บปวดนี้แน่นอนว่าไม่สามารถลืมลงได้ เธอจะต้องคืนให้’เนี่ยหลี่’แน่นอน!
‘เนี่ยหลี่’เรียกนางว่าขยะว่าใช้แต่พลังอำนาจของตระกูลกดขี่ ดังนั้นนางต้องการที่จะพิสูจน์โดยปราศจากอิทธิพลของตระกูลว่านางก็ยังคงแกร่งกว่าเขามากนัก
‘อาจารย์ชิหลิง’ยิ้มอย่างขมขื่นขณะมอง’หลงยู่อิน’และ’เนี่ยหลี่’
‘เนี้ยหลี่’นั้นมีความสามารถที่อัจฉริยะมากเมื่อเทียบกับมนุษย์ทั่วไป โดยอิงจากการสังเกต ความสามารถของ’เนี่ยหลี่’นั้นเหนือกว่า’หลงยู่อิน’มาก
สำหรับ’หลงยู่อิน’แล้ว เด็กนั่นเกิดมาอย่างโดนเด่นและมีความสามารถที่น่าประหลาดใจ อย่างไรก็ตาม บุคลิกของหล่อนนั้นแข็งกร้าวเกินไปเล็กน้อยและไม่ยอมให้ใครหน้าไหนก้าวข้ามนาง ตอนนี้นางพบกับ’เนี่ยหลี่’ 2 คนนี้ต้องปะทะกันเป็นแน่
ไม่ว่าผลจะออกมาคือ’เนี่ยหลี่’จะสามารถปราบ’หลงยู่อิน’หรือนางล้ม’เนี่ยหลี่’ นางคงไม่หยุดแต่เพียงนี้เป็นแน่
“ในการซ้อมประลองต่อไป อนุญาตให้พวกเจ้าใช้เพียงพลังกายเพียงเท่านั้น พลังวิเศษนั้นห้ามโดยเด็ดขาด!”
‘อาจารย์ชิหลิง’กล่าวต่อ
“พละกำลังเป็นรากฐานของทุกสิ่งอย่าง ในการประลอง พวกเจ้าจะต้องตั้งมั่นแน่วแน่ในการเคลื่อนไหวภายในขอบเขตของพวกเจ้า”
‘กู้เบ่ย’เดินไปหา’เนี่ยหลี่’ ตีบ่าและยิ้มอย่างข่มขื่น
“เนี่ยหลี่ ขอให้เจ้าโชคดี! หลงยู่อินเป็นผู้สืบสายเลือดมังกร ดังนั้นนางจึงมีพลังกายที่ยิ่งใหญ่ ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง!”
‘เนี่ยหลี่’ยักไหล่
“ข้ารู้ว่าควรทำอย่างไร!”
เขาจะเกรงกลัว’หลงยู่อิน’ได้อย่างไร? ถึงแม้ว่าพลังกายของเขาจะด้อยกว่า’หลงยุ่อิน’ ‘เนี่ยหลี่’ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก!
‘หลงยู่อิน’มอง’เนี้ยหลี่’อย่างเย็นชา นางภูมิใจในพลังกายของหล่อนตลอดมา ถึงนางจะไม่สามารถชนะ’เนี่ยหลี่’บนศิลาอันดับจิตวิญญาณแห่งแสง นางไม่มีทางแพ้’เนี้ยหลี่’ในด้านพละกำลังแน่
ความสนใจการประลองนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆระหว่างพวกเขาทั้งสอง
‘อาจารย์ชิหลิง’ครุ่นคริดชั่วขณะ เขาได้กังวลเกี่ยวกับการประลองของ’เนี่ยหลี่’กับ’หลงยู่อิน’ การประลองของพวกเขาจะต้องเหนือการควบคุมและส่งผลเสียหายต่อห้องการบ่มพลัง เขากล่าวขึ้นว่า
“เจ้าถูกจำกัดเขตแดน 3 เมตรโดยสิ่งกีดขวางที่ข้าวางไว้นี้เป็นตัวกำหนด ขณะฝึกฝน พวกเจ้าสามารถเคลื่อนไหวภายในบริเวณนี้เท่านั้น!”
‘อาจารย์ชิหลิง’เริ่มวางสิ่งกีดขวางที่กฎระเบียบวางไว้ จุดมุ่งหมายผุดประกายขึ้นมาจากหลงยู่อินขณะมอง’เนี่ยหลี่’
“ความละอายที่เจ้าให้ข้า ข้าจะคืนทั้งหมดให้เจ้าหลายเท่า ท้ายสุดข้าจะโค่นเจ้า!”
เนี่ยหลี่ตอบรับอย่างสงบ
“ยินดีให้ลองทุกเมื่อ!”
เขาจะกลัว’หลงยู่อิน’ได้อย่างไร?
ศิษย์คนอื่นได้เริ่มการประลองขณะที่หลงยู่อินยืนด้วยท่าปกติที่เดิม นางเผยความรู้สึกที่จริงจังและร่างกายของนางโค้งเล็กน้อย
เหมือนพยัคฆ์สาวสะสมพลังและรอดูท่าทาง ร่างกายที่น่าพึงพอใจภายใต้อาภรณ์นั้นเติมปริ่มไปด้วยพลัง ขาทั้งสองข้างของหล่อนตรึงแน่น“ฮ่า!”
‘หลงยู่อิน’คำรามเบาและกระโดดขึ้นไปด้านบนทันที ขาซ้ายที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังแหวกลมขณะที่เพ่งจุดมุ่งหมายที่จะเตะไปยังหัวของ’เนี่ยหลี่’
*บู้ม บู้ม บู้มมมมมส์!*
เมื่อ’หลงยู่อิน’แหว่งเท้าของหล่อน ซึ่งเป็นผลให้เกิดเสียงระเบิดอันดังก้อง
‘เนี่ยหลี่’มองเท้าของ’หลงยู่อิน’ที่หมายจะเตะหัวของเขาจึงยกแขนขึ้นป้องกันด้วยพละกำลังมหาศาล ‘เนี่ยหลี่’ถอยไปหลายก้าวและรู้สึกบาดเจ็บที่แขน
พละกำลังของ’หลงยู่อิน’นั้นน่าประหลาดใจอย่างยิ่งอย่างแท้จริง ในขณะที่เท้าของนางกลับลงไปที่พื้น นางมีจุดหมายที่จะมอบลูกเตะให้’เนี่ยหลี่’อีกหลายชุด
ถ้า’เนี่ยหลี่’ต่อสู้’หลงยู่อิน’ด้วยกำลังกาย เขาจะไม่ใช่คู่ต่อสู่ของหล่อนเลย ไม่ต้องพูดถึงการโจมตีของ’หลงยู่อิน’ที่ต่อสู้เหมือนชีวิตนั้นแขวนบนเส้นด้าย นางนั้นพยายามข่มขู่ด้วยระดับพละกำลังของหล่อน
ขาของนางนั้นยาวมากและสร้างอานุภาพการเตะเป็นวง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าการโจมตีจะรุนแรงเพียงใด ถ้าเทียบด้วยพละกำลังกายอย่างเดียว ก็ยังมีช่องโหว่ในการชนะ ‘เนี่ยหลี่’ล่าถอยและหลบการเตะกลางอากาศครั้งที่ 2 ของ’หลงยู่อิน’ ขาของหล่อนเฉียดผ่านหน้าของ’เนี่ยหลี่’ไป
ในระหว่างที่พลาด ‘หลงยู่อิน’บิดตัวกลางอากาศและกวาดลูกเตะควงสว่านให้’เนี่ยหลี่’เป็นครั้งที่ 3
ขณะเตะทำให้หัวของ’เนี่ยหลี่’เป็นรอย เขาหลบทันทีและสวนกลับด้วยหมัดใส่ต้นขาด้านในของ’หลงยู่อิน’…
จบซะงั้น
อ่า…ได้แปลครั้งที่ 2 แล้ว รู้สึกตื่นเต้นมากๆเลย
ศัพท์เฉพาะท่าเตะก็แอบงงเล็กน้อย @@
หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะค้าบ 0 หวังว่าจะแปลแล้วผู้อ่านได้ฟิลลิ่งตามในฉากไม่น้อยเลย
ส่วนตัวแบบมันส์มาก ขอบคุณทิ่ติดตามอ่านนะฮะคลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: