ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปในขณะที่เหล่าอัจฉริยะที่อยู่ในห้องโถงด้านข้างแห่งนี้กำลังงงกันอยู่ ‘เนี่ยลี่’ก็กำลังจะเตรียมตัวกลับที่พักหลังได้เก็บตัวอักษรของเขาเรียบร้อยแล้ว
‘เนี่ยลี่’ยิ้มเล็กน้อยขณะที่ชำเลืองมองดู’หลงยู่อิน’อยู่ไกลๆ เขารู้นิสัยของ’หลงยู่อิน’เป็นอย่างดี ไม่เพียงแค่ให้’กู้เบ่ย’นั้นได้เข้าใจในตัวอักษรนั้น เขายังต้องการที่จะกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นในใจของ’หลงยู่อิน’
หลังจากนี้ไม่นาน นางจะค่อย ๆ คิดที่จะเข้ามาเข้าใกล้เขาด้วยใจที่สั่นไหว ในตอนนี้’เนี่ยลี่’ต้องการที่จะชี้แนะ’หลงยู่อิน’อย่างช้า ๆ เป็นการค่อย ๆเปลี่ยนนิสัยใจคอของนาง
การควบคุมคนที่หลงไหลในวิธีแห่งจอมยุทธเช่น’หลงยู่อิน’นั้นง่ายดายยิ่งนัก
นอกเหนือไปจากความพึงพอใจที่ได้กระตุ้นทั้งสองคนแล้ว ‘เนี่ยลี่’ยังสามารถที่จะกระตุ้นความสนใจจาก’เหยียนหยาง’และ ‘หมิงเยี่ย วู่ซวง’ ได้สำเร็จ แน่นอนว่าเขาเองนั้นก็ไม่อยากเชื่อว่า ‘เหยียนหยาง’ กับ’หมิงเยี่ย วู่ซวง’ จะสนอกสนใจจนออกมาเกินกว่าที่เขาคาดไว้ถึงเพียงนี้
“โปรคอยก่อน!”
‘เหยียนหยาง’จู่ๆก็ส่งเสียงเพื่อที่จะหยุด’เนี่ยลี่’เอาไว้
ทุกคนมองดู’เหยียนหยาง’ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ‘เนี่ยลี่’นั้นเก็บตัวอักษรของเขาเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่’เหยียนหยาง’พยายามจะทำในตอนนี้ คือสิ่งใดกัน?
‘เนี่ยลี่’มองไปที่เขาแล้วพูดขึ้นมาว่า
“ศิษย์พี่เหยียนหยาง มีสิ่งใดที่ท่านต้องการอีกงั้นหรือ?”
“ข้าต้องการที่จะขอซื้อตัวอังษรนี้ ข้าสงสัยว่าศิษย์น้องเนี่ยลี่ยินดีที่จะขายมันหรือไม่? ข้ายินดีที่จะเสนอราคาให้เป็นศิลาจิตวิญญาณหนึ่งแสนก้อน”
‘เหยียนหยาง’พูดออกไป แต่เดิมเขาคิดจะเสนอที่ราคาห้าหมื่นศิลาจิตวิญญาณ แต่หลังจากที่ได้ขบคิดดูแล้ว เขาตระหนักได้ว่าราคาแค่ห้าหมื่นศิลาจิตวิญญาณนั้นดูเหมือนว่าจะไม่เป็นการแสดงออกอย่างจริงใจ ดังนั้นเขาจึงได้เสนอราคาที่หนึ่งแสนศิลาจิตวิญญาณ
‘เหยียนหยาง’ยินดีที่จะเสนอราคาสำหรับตัวอักษรของ’เนี่ยลี่’ถึงหนึ่งแสนศิลาจิตวิญญาณงั้นเหรอ?
เหล่าอัจฉริยะที่อยู่ในห้องโถงด้านข้างแห่งนี้ถึงกับตกใจเป็นอย่างมาก หนึ่งแสนศิลาจิตวิญญาณสำหรับตัวอักษรแค่ตัวเดียว!
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ’เหยียนหยาง’
‘เนี่ยลี่’รู้สึกลังเลไปชั่วขณะ ศิลาจิตวิญญาณหนึ่งแสนก้อนนับว่าล่อใจไม่น้อย อย่างไรก็ตามที่ทุกคนนั้นเห็นว่ามันเป็นเพียงแค่ตัวอักษร
‘เนี่ยลี่’นั้นไม่ได้ขาดทุนเลยแม้แต่น้อยในการขายมัน ทำไมจะต้องปฏิเสธด้วยหล่ะ?
จากคำพูดของ’เหยียนหยาง’ทำให้’หลงเทียนหมิง’ตกใจยิ่งนัก เขาไม่อาจที่จะมองเห็นความล้ำลึกที่แฝงอยู่ในตัวอักษรของ’เนี่ยลี่’
ก่อนที่’เนี่ยลี่’จะม้วนเก็บไปเขาไม่อาจที่จะบอกได้ว่ามีสิ่งใดที่ล้ำลึกที่แฝงอยู่ในตัวอักษรนั้น แต่เขาก็ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า’เหยียนหยาง’ยินดีที่จะเสนอศิลาจิตวิญญาณแสนก้อนสำหรับมัน เขาไม่เข้าใจความคิดของ’เหยียนหยาง’เลยสักนิด เจตจำนงค์ที่แฝงอยู่ในตัวอักษรมีค่ามากกว่าศิลาจิตวิญญาณหนึ่งแสนก้อนงั้นเหรอ?
‘หมิงเยี่ย วู่ซวง’ จ้องมองไปที่’เนี่ยลี่’ แม้ว่านางนั้นไม่อาจจะเข้าถึงเจตจำนงค์ที่แฝงอยู่ได้ แต่นางก็สัมผัสได้ถึงเจตจงค์แห่งกระบี่ที่อยู่ในอักษรนี้ได้ มันจักต้องมีค่ามากกว่าศิลาจิตวิญญาณหนึ่งแสนก้อนเป็นน่
เมื่อเห็นหน่า’เนี่ยลี่’นั้นยังลังเล ‘เหยียนหยาง’จึงเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
“ถ้าหากศิษย์น้องเนี่ยลี่ ยังไม่เต็มใจที่จะขายมัน ถ้าเช่นนั้นหากข้าเสนอราคาให้เป็นศิลาจิตวิญญาณจำนวนหนึ่งแสนห้าหมื่นก้อนหล่ะ เจ้าจะว่าอย่างไร? ”
แม้ว่าจะเป็นราคานี้ก็ยังห่างไกลเมื่อเทียบกับความคุ้มค่าของตัวอักษรนี้
“ข้าหวังว่าศิษย์น้องเนี่ยลี่จะยินดีที่จะขายมัน!”
เห็นได้ชัดว่า’เหยียนหยาง’นั้นร้อนรนที่จะอยากได้ตัวอักษรนี้เป็นอย่างมาก ‘เนี่ยลี่’นั้นรู้ดีถึงมูลค่าที่แท้จริงของมัน คงจะแปลกอย่างมากถ้าหาก’เหยียนหยาง’ไม่ได้รู้สึกหมดหวังถ้าหากไม่ได้ครอบครองมัน ในตอนแรกเขามีความเข้าใจเกี่ยวกับมันแค่เล็กน้อยเท่านั้น
ก่อนที่’เนี่ยลี่’จะเก็บมันไปเมื่อได้ยินคำพูดของ’เหยียนหยาง’คิ้วของ’หลงเทียนหมิง’ถึงกับขมวด เขาทำได้เพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า
“ในเมื่อศิษย์น้องเนี่ยลี่ไม่ต้องการที่จะขายมัน เช่นนั้นแล้วศิษย์พี่เหยียนหยางก็ไม่ควรที่จะฝืนใจเขานะ”
‘หลงเทียนหมิง’รับรู้ได้ถึงความร้อนรนของ’เหยียนหยาง’ แค่เพียงความร้อนรนของเขาเพียงเท่านั้น ตัวอักษรนี้จักต้องมีค่ามากกว่า จิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำเป็นแน่
เพียงแค่ตัวอักษรแค่ตัวเดียว ‘หลงเทียนหมิง’มีนับพันหนทาง ที่จะเอามันมา ก่อนที่มันจะตกอยู่ในมือของ’เหยียนหยาง’
แน่นอนว่า ‘เนี่ยลี่’นั้นไม่ต้องการที่จะให้’หลงเทียนหมิง’ได้มันไปไม่ว่าทางใดก็ตาม เขาประสานมือของเขาพร้อมกับกล่าวว่า
“ศิษย์พี่หลง ศิษย์พี่ เหยียนหยาง พวกท่านกังวลมากเกินไปแล้ว ข้าสามารถเขียนขึ้นมาได้วันละนับสิบคำ มันก็เป็นเพียงแค่ตัวอักษรเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ถ้าหากศิษย์พี่ทั้งชายและหญิงต้องการมันหล่ะก็ ข้าสามารถเขียนให้คนละหนึ่งคำ”
หลังได้ยินคำพูดของ’เนี่ยลี่’ ทั้ง’หลงเทียนหมิง’ หรือแม้แต่ ‘เหยียนหยาง’ก็ถึงกับตกตะลึง ที่เขาสามารถเขียนตัวอักษรได้หลายตัวในหนึ่งวัน เพราะว่าเขามิได้ใช้วิถีแห่งเจตจำนงค์ใด ๆในการเขียนขึ้นมาแม้แต่น้อย!
แม้ว่า’หลงเทียนหมิง’จะไม่ต้องการให้’เหยียนหยาง’ไดมันไป เพราะเขาบอกได้เลยว่า’เหยียนหยาง’สามารถที่จะเข้าถึงเจตจำนงค์อันลึกล้ำที่แฝงอยู่ในตัวอักษรนั้น แต่’เนี่ยลี่’ได้บอกมาแล้วว่าสามารถเขียนกี่คำก็ได้ในหนึ่งวัน
ดังนั้นเขาก็ไม่อาจที่จะขัดขวาง’เหยียนหยาง’ได้อีกต่อไป เขารู้สึกท้อใจยิ่งนัก ‘เนี่ยลี่’นั้นมีเส้นใยอะไรอยู่ในหัวกันแน่ สำนวนจีนหมายถึง ฉลาดถึงเพียงนั้นเชียวเหรอ หรือว่าเขากำลังแกล้งโง่อยู่อย่างนั้นเหรอ?
‘เหยียนหยาง’มองที่’เนี่ยลี่’ ด้วยการจับจ้องอย่างจริงจังเพื่อที่จะเข้าใจความหมายแฝงในคำพูดของ’เนี่ยลี่’ ด้วยความจริงที่ว่า’เนี่ยลี่’นั้นสามารถเขียนตัวอักษรกี่คำก็ได้ในหนึ่งวัน แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณค่าของตัวอักษรที่อยู่ในมือของเขานั้นก็ไม่ได้ลดคุณค่าลงไปแม้แต่น้อย
“ไม่ว่าศิษย์น้องเนี่ยลี่จะสามารถเขียนอักษรได้กี่คำก็ตามในหนึ่งวัน ข้าก็ยินดีที่จะจ่ายศิลาจิตวิญญาณจำนวนหนึ่งแสนห้าหมื่นก้อนสำหรับมัน”
‘เหยียนหยาง’พูดด้วยความใจเย็น เขานั้นยึดมั่นในวิถีทางของตนเองเสมอ เขาเป็นคนที่จริงใจต่อมิตรสหาย ดังนั้นเขาจะยอมรับการเขียนอักษร อันล้ำค่าจาก’เนี่ยลี่’โดยไม่มีสิ่งตอบแทนได้อย่างไร?
เมื่อได้เห็นความจริงจังของ’เหยียนหยาง’ ‘เนี่ยลี่’ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เดิมทีนั้น’เนี่ยลี่’วางแผนที่จะสานสัมพันธ์อันดีกับ’เหยียนหยาง’
โดยที่ไม่ได้คิดว่าจะขายตัวอักษรเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่ขบคิดอยู่ชั่วครู่ ‘เนี่ยลี่’เอ่ยปากขึ้นว่า“ถ้าเป็นเช่นนั้น เมื่อศิษย์พี่เหยียนหยางยินดีที่จะจ่ายศิลาจิตวิญญาณจำนวนมากสำหรับมัน ข้าก็จะให้ของขวัญแก่ศิษย์พี่ด้วยตัวอักษรตัวที่สอง!”
‘เนี่ยลี่’เดินกลับไปที่โต๊ะ และครี่กระดาษออก และลงมือเขียนตัวอักษร “武” อ่านว่า หวู่ แปลว่า ยุทธ ยกตัวอย่าง 武侠ǔá : จอมยุทธ์ 武林ǔí : ยุทธภพลงไปอย่างรวดเร็ว ด้านล่างของตัวอักษร “กระบี่”
จากนั้นก็ม้วนเก็บและส่งให้’ฉินเยี่ย’ที่ยืนอยู่ด้านข้าง
“รบกวนส่งมันมอบให้กับศิษย์พี่เหยียนหยางด้วย!”
วิถีแห่งเจตจำนงค์ที่แฝงอยู่ในตัวอักษร “ยุทธ” นั้น ยิ่งล้ำลึกเสียยิ่งกว่า วิถีแห่งเจตจำนงค์ที่แฝงอยู่ใน ตัวอักษร “กระบี่” เสียอีก
‘ฉินเยี่ย’รับมาด้วยความยินดีอย่างสุภาพ นางถือมันด้วยมือทั้งสองข้างก่อนที่จะเดินไปหา’เหยียนหยาง’
ก่อนหน้านี้ นางมีความรู้สึกดูถูก’เนี่ยลี่’อยู่เล็กน้อย แต่ในตอนนี้ นางรู้ดีว่าไม่อาจที่จะมองข้ามเขาไปได้เลย นางรู้สึกนับถือเขาขึ้นมาเล็กน้อย และเริ่มที่จะปฏิบัติต่อ’เนี่ยลี่’ ดั่งคนที่มีระดับเดียวกับ’เหยียนเหยาง’
‘เหยียนหยาง’หยิบม้วนอักษรจาก’ฉินเยี่ย’ เมื่อเขาได้เห็นคำว่า “ยุทธ” ที่ถูกเขียนอยู่ด้านล่าง เขาก็รู้สึกราวกับได้รับประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม ทำให้ใจของเขารู้สึกหวั่นไหวเป็นอย่างมาก เขาม้วนกระดาษและนำมันเก็บไว้ในทันที
“ขอบใจเจ้ามาก ศิษย์น้องเนี่ยลี่”
ใจของ’เหยียนหยาง’นั้นตื่นตระหนกจนยากที่จะพรรณนาได้ อักษรคำว่า “ยุทธ” ดูเหมือนว่าจะล้ำลึกเสียยิ่งกว่าคำว่า “กระบี่” เสียอีก
‘เหยียนหยาง’ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า’เนี่ยลี่’จะมองของขวัญล้ำค่าเช่นนี้ให้แก่เขา เขาหยิบแหวนห้วงมิติของเขาพร้อมกล่าวอย่างจริงจังว่า“เมื่อเทียบกับอักษรทั้งสองคำที่ศิษย์น้องเนี่ยลี่เขียนให้ข้านั้น สิ่งของพวกนี้กล่าวได้ว่าช่างไร้ความหมาย นับจากนี้ไป ศิษย์น้องเนี่ยลี่ นับว่าเป็นสหายของข้า เหยียนหยาง!”
‘เหยียนหยาง’มองไปที่’ฉินเยี่ย’ จากนั้นก็พูดว่า
“แม่นางฉินเยี่ย รบกวนส่งสิ่งนี้ให้แก่เนี่ยลี่ด้วย”
‘เนี่ยลี่’รับแหวนห้วงมิติจาก’ฉินเยี่ย’ ด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าเช่นนั้น ข้ารู้สึกเป็นเกียรติยิ่งนักที่ได้เป็นสหายกับศิษย์พี่เหยียนหยาง!”
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจ พวกเขาไม่ได้มีความคิดใด ๆ เกี่ยวกับตัวอักษรที่สองที่’เนี่ยลี่’เขียนให้กับ’เหยียนหยาง’
เนื่องจากพวกเขาไม่อาจมองเห็นได้จากตำแหน่งที่พวกเขายืนอยู่ อย่างไรก็ตามจากการสังเกตุดูการแสดงออกของ’เหยียนหยาง’
มันจักต้องไม่เป็นอะไรที่ธรรมดาเป็นแน่แต่ถึงอย่างไร พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่อาจที่จะเข้าใจได้ตั้งแต่ตัวอักษรตัวแรกอยู่แล้ว แม้ว่าพวกเขาจะได้เห็นตัวอักษรตัวที่สอง มันก็ไร้ประโยชน์สำหรับพวกเขาอยู่ดี
‘หลงเทียนหมิง’รู้สึกหดหู่ยิ่งนักในใจของเขา ไม่ใช่เพียงแค่ เขาไม่อาจที่จะขัดขวางมิให้’เหยียนหยาง’ได้ตัวอักษรไปจาก’เนี่ยลี่’
‘เหยียนหยาง’กลับได้ตัวอักษรไปถึงสองตัว
‘หมิงเยี่ย วู่ซวง’ ยิ้มหวานพร้อมกับพูดว่า
“ข้าสงสัยว่าศิษย์น้องเนี่ยลี่ ยินดีที่จะเขียนอักษรให้ข้าสักคำหนึ่งได้หรือไม่ ข้ายินดีที่จะมอบศิลาจิตวิญญาณจำนวนหนึ่งแสนห้าหมื่นก้อนให้เช่นกัน! ”
“แน่นอน เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงคำติฉินว่าข้านั้นเห็นแก่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ข้าจะเขียนอักษรให้ศิษย์พี่หมิงเยี่ย สองตัวเช่นกัน!”
‘เนี่ยลี่’เขียนคำว่า “กระบี่” ขึ้นมาอีกรอบ และเขียนอีกคำ ด้วยคำว่า “皎” อ่านว่าเจี่ยว แปลว่า สดใส คำว่า “สดใส” เปรียบได้กับสว่างสดใสราวกับแสงจันทรา ในแง่วิถีแห่งเจตจำนงค์นั้น อยู่ในระดับเดียวกันกับคำว่า “ยุทธ”ของเหยียนหยาง
จากนั้น’เนี่ยลี่’ก็ได้รับศิลาจิตวิญญาณอีกหนึ่งแสนห้าหมื่นก้อนจาก ‘หมิงเยี่ย วู่ซวง’
“ศิษย์น้องเนี่ยลี่ ดูเหมือนว่าเจ้านั้นจะมีความรู้สึกดี ๆกับ ศิษย์น้องเซี่ยวหนิงเอ๋อ จากวันนี้ไป ข้าจะดูแลนางเป็นอย่างดี!”
‘หมิงเยี่ย วู่ซวง’ เหลือบมองไปยัง’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ในขณะที่นางยิ้มอยู่
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ ‘หมิงเยี่ย วู่ซวง’ แล้ว หญิงสาวที่มาจากสำนักบัญญัติสวรรค์ต่างก็หันมามอง’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ด้วยความริษยา ‘หมิงเยี่ย วู่ซวง’นั้นมีตำแหน่งพิเศษในสำนักบัญญัติสวรรค์ คือ เทพธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งสำนักบัญญัติสวรรค์ ภายใต้การดูแลเป็นพิเศษจาก’หมิงเยี่ย วู่ซวง’
‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ จะได้รับโอกาสอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเป็นแน่
ถึงแม้ว่า’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’จะมีพรสวรรค์อันที่น่าตกตะลึง และได้รับการดูแลจากบุคคลระดับสูง แต่ก็ไม่อาจเทียบได้กับการได้รับการดูแลจาก’หมิงเยี่ย วู่ซวง’
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าคงต้องขอขอบคุณศิษย์พี่หมิงเยี่ย วู่ซวงแล้ว!”
‘เนี่ยลี่’พูดในขณะที่เขาประสานมือคารวะ เขาคิดในใจว่า เขาสามารถที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับบุคคลทั้งสอง ด้วยตัวอักษรไม่กี่คำ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้รับศิลาจิตวิญญาณอีกถึงสามแสนก้อน
ช่างเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่านัก ทำไมเขาถึงนึกไม่ได้เลยนะว่า การขายตัวอักษรนั้น ได้กำไรดีเสียยิ่งกว่าการขายจิตอสูรในระดับสูงเสียอีก?
‘เยี่ยเชียน’ มองดู’เนี่ยลี่’ ทำการแลกเปลี่ยนซื้อขายกับ’เหยียนหยาง’และ’หมิงเยี่ย วู่ซวง’ เขารู้สึกว่าตนเองนั้นต่ำต้อยกว่า’เนี่ยลี่’เสียอีก ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ไม่นาน เขายังทำการเยาะเย้ย’เนี่ยลี่’แถมยังเรียกเขาว่า คนโง่เง่า
แต่สุดท้าย ‘เนี่ยลี่’เพียงแค่เขียนอักษรไม่กี่ตัว ก็สามารถที่จะได้ศิลาจิตวิญญาณมาถึงสามแสนก้อนจากสองคนนั่น
‘หลงเทียนหมิง’ถึงกับขมวดคิ้ว เพราะทั้ง’เหยียนหยาง’และ’หมิงเยี่ย วู่ซวง’ต่างก็ได้รับตัวอักษรของ’เนี่ยลี่’ เขายอมรับความพ่ายแพ้ เพราะเขาไม่อาจที่จะขัดขวางไม่ให่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
แต่สำหรับ’เนี่ยลี่’ มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่’หลงเทียนหมิง’นั้นจะยอมจ่ายศิลาจิตวิญญาณถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นก้อนเพื่อตัวอักษรนั่น
‘เนี่ยลี่’นั้นเป็นศิษย์ของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ หลังจากจบเรื่องนี้แล้ว ‘หลงเทียนหมิง’จะส่งใครบางคนไปเอาตัวอักษรมาจาก’เนี่ยลี่’
จะมีหนทางใดที่’เนี่ยลี่’จะไม่ส่งให้กับเขางั้นรึ?ไม่เพียงแค่ตัวอักษรตัวเดียวเท่านั้น ‘เนี่ยลี่’จะต้องให้ตัวอักษรบางคำสำหรับ’หลงเทียนหมิง’
‘เนี่ยลี่’จักต้องมอบให้กับเขามากยิ่งกว่านั้น นอกเสียจากว่า เขาจะไม่ต้องการอยู่ในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป
‘หลงเทียนหมิง’เริ่มที่จะสังเกตุ’เนี่ยลี่’ ถ้าหาก’เนี่ยลี่’นั้นมีพรสวรรค์บางอย่างจริง เขามีความคิดที่จะให้มาเป็นลูกน้องของเขา ความคิดนี้นับว่าไม่เลว ถ้าหากเขาต้องการที่จะบังคับ’เนี่ยลี่’
‘หลงเทียนหมิง’ก็ไม่อาจที่จะคิดทำเช่นนั้นได้ในตอนนี้ หลังจากวันนี้ไป เหล่าคนในระดับสูงจะต้องทราบข่าวว่า ‘เหยียนหยาง’ และ ‘หมิงเยี่ย วู่ซวง’ ได้ซื้อตัวอักษรไปจาก’เนี่ยลี่’ แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องดำเนินการเพื่อที่จะขออักษรบางคำเพื่อนำมาศึกษา
ด้วยความสามารถของ’เนี่ยลี่’ การที่จะพยายามติดต่อกับคนในระดับสูงนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ง่ายดายนัก ในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์นั้น
‘หลงเทียนหมิง’นั้นยังไม่อาจที่จะควบคุมได้หมดทุกอย่างอะไรคือสิ่งที่’หลงเทียนหมิง’จะต้องใส่ใจมากที่สุด นอกเหนือไปจากความสามารถในการเขียนอักษรของเขา แต่ถ้าหาก’เนี่ยลี่’ ไม่ได้บรรจุวิถีแห่งเจตจำนงค์ใด ๆแม้แต่น้อยลงในตัวอักษร ด้วยเหตุนั้น’หลงเทียนหมิง’ก็ไม่อาจที่จะมองเห็นด้วยการบ่มเพาะพลังของเขาอยู่ดี
แม้ว่า’เนี่ยลี่’นั้นจะเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งในเหล่าอัจฉริยะที่เข้ามาใหม่ก็ตาม เขาก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจของหลงเทียนหมิงเลยแม้แต่น้อย ถ้าหาก’เนี่ยลี่’นั้นเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงวิถีแห่งเจตจำนงค์ แล้วเหตุใด’เนี่ยลี่’จึงยังไม่บรรลุถึงระดับชะตาสวรรค์ หรือไม่ก็อาจเป็นไปได้ว่า’เนี่ยลี่’นั้นได้ปกปิดมันเอาไว้เช่นนั้นหรือ?
ในเมื่อ’หลงเทียนหมิง’ก็ไม่อาจที่จะมองดู’เนี่ยลี่’อย่างทะลุปรุโปร่ง เขาจึงตัดสินใจที่จะส่งคนของเขาให้ไปตรวจสอบ
หลังจากที่’เนี่ยลี่’เดินลงมาจากเวที เขาก็กลับไปที่โต๊ะของเขา และสบตากับ’หนิงเอ๋อ’ ‘กู้เบ่ย’ และคนอื่น ๆ ด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า และ’กู้เบ่ย’กับ’หลี่ชิงอวิ๋น’ ก็ให้การยอมรับ’เนี่ยลี่’อย่างที่ไม่มีอะไรติดค้างใจอีก
เมื่อ’เนี่ยลี่’กลับมา ‘มู่หลงหยี่’ ถึงกับกัดฟันของเขา ในซากโบราณแห่งความสะพรึง เขาทำทุกอย่างเพื่อที่จะขัดขวางไม่ให้’เนี่ยลี่’ได้ศิลาจิตวิญญาณ แต่ท้ายที่สุด แม้ว่าเขาจะพยายามขัดขวางอย่างหนัก แต่’เนี่ยลี่’กลับได้รับศิลาจิตวิญญาณสามแสนก้อนอย่างง่ายดายด้วยการเขียนอักษรไม่กี่คำ ความพยายามของเขาสูญเปล่าสิ้นดี
ด้วยจำนวนศิลาจิตวิญญาณถึงสามแสนก้อน แม้ว่า’มู่หลงหยี่’ จะใช้เวลาเก็บหลายสิบปี เขาก็ไม่อาจที่จะเก็บได้ถึงเพียงนั้นเลย
แปลโดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: