ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปณ โลกภายนอก ทางเหนือของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ ทะเลสาบแห่งเทพหลิงหยี่ หยกกังวาล
ทะเลสาบแห่งเทพ หลิงหยี่ เป็นทะเลสาบเล็กๆใต้ภูเขาที่ลอยอยู่ และมีน้ำไหลออกมาจากทางด้านข้าง ที่ทะเลสาบใต้ภูเขานี้ในบางครั้งก็จะสร้างศิลาจิตวิญญาณขึ้นมา
ทะเลสาบแห่งเทพนั้นจะดูดซับพลังงานสวรรค์ที่อยู่โดยรอบไปเป็นจำนวนมาก และใช้มันในการผลิตศิลาจิตวิญญาณ แต่เพราะว่ามีทะเลสาบแห่งเทพอยู่โดยรอบ ทำให้อาณาจักรซากมังกรมีพลังงานสวรรค์อยู่อย่างเบาบาง ทว่า ผู้คนจะได้รับพลังงานสวรรค์จากศิลาวิญญาณที่ผลิตจากทะเลสาบแห่งเทพพวกนี้แทน
ทะเลสาบแห่งเทพ ก็ราวกับดอกไม้หรือพืชที่มีอายุขัย ทะเลสาบแห่งเทพนั้น ในช่วงสามพันปีแรกจะอุดมสมบูรณ์ที่สุด และในช่วงที่อุดมสมบูรณ์ ในแต่ละปีนั้นก็จะสร้างศิลาจิตวิญญาณขึ้นมาจำนวนมาก และหลังจากผ่านสามพันปีไปแล้ว ทะเลสาบแห่งเทพก็จะค่อยๆเหือดแห้งไป
ทะเลสาบแห่งเทพ หลิงหยี่ มีอายุกว่าห้าพันปีแล้ว ส่วนใหญ่ในทุกๆปีก็จะผลิตศิลาจิตวิญญาณได้ไม่กี่พันก้อน ซึ่งก็เป็นธรรมดาที่กองกำลังขนาดใหญ่จะไม่ได้ให้ความสนใจต่อ ทะเลสาบแห่งเทพ หลิงหยี่ ดังนั้น ทะเลสาบแห่งเทพ แห่งนี้จึงถูกครอบครองโดย’ฮัวหลิง’และคนของเขา
‘ฮัวหลิง’นั้น นั้นได้ตรวจตราอยู่บริเวณรอบ ๆ ทะเลสาบแห่งเทพหลิงหยี่ เมื่อเขาที่ได้รับข่าวดี เขาก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง เรื่องแรกคือ ทะเลสาบแห่งเทพหลิงหยี่ มีสัญญาณว่ากำลังค่อย ๆฟื้นตัว เรื่องที่สอง ‘เซี่ยวหยู่’นั้นถูกสังหารโดยคนของเขา ทั้งสองข่าวนี้ทำให้’ฮัวหลิง’เป็นสุขยิ่งนัก
มันก็นานมาแล้ว ‘ฮัวหลิง’นั้นไม่อาจที่จะยืนอยู่ข้าง’เซี่ยวหยู่’ได้ ‘เซี่ยวหยู่’มักจะมองดูเขาด้วยความดูถูก ด้วยสายตาที่เย็นชา และแสดงออกด้วยท่าทีที่มีทิฐิ ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับพวกผู้ชาย ‘เซี่ยวหยู่’นั้น ดูดีเสียยิ่งกว่าหญิงสาว ทุกๆครั้งที่เขาออกมา ก็จะถึงดูดความสนใจของสาวๆเหลือเกิน ซึ่งเรื่องนั้นทำให้’ฮัวหลิง’รู้สึกแค้นเคืองยิ่งนัก
“เซี่ยวหยู่ เจ้าหาเรื่องเองนะ ในภายภาคหน้า เมื่อเขาออกมายังโลกภายนอกอีกครั้ง ข้ามั่นใจว่า เขาจะถูกสังหารในทุกครั้งที่ข้าได้เห็นเขา ใครใช้ให้พ่อของเจ้ามาขัดขวางการแย่งชิงตำแหน่งกับพ่อของข้ากันหล่ะ?”
‘ฮัวหลิง’พ่นลมหายใจอย่างเย็นชา จากนั้นก็หันไปมองที่ ทะเลสาบแห่งเทพหลิงหยี่ นี่นับเป็นรากฐานของเขาในโลกภายนอกนี้ ทุกๆปี เขาได้รับศิลาจิตวิญญาณหลายพันก้อนจากมัน แม้ว่ามันจะไม่ได้มากมายเป็นเงินก้อนใหญ่ แต่ก็นับว่าไม่เลวเลยทีเดียว
‘ฮัวหลิง’ มีลูกน้องอยู่หกสิบคน ทุกคนจะได้รับส่วนแบ่งไม่น้อยในแต่ละปี ไม่ใช่เพียงแค่การบ่มเพาะพลัง พวกเขาจักต้องคอยเฝ้าระวังทะเลสาบแห่งเทพด้วย เนื่องจากพวกเขาไม่มีกองกำลังมากพอที่จะไปต่อสู้แย่งชิงให้ได้มากกว่านี้
แน่นอนว่า พวกเขามิได้เป็นกองกำลังเดียวจากห้วงสวรรค์น้อยเท่านั้น ในส่วนลึกของโลกภายนอกยังมียอดฝีมืออื่นๆจากห้วงสวรรค์น้อย ที่ครอบครองทะเลสาบแห่งเทพของตนเองอยู่
ในขณะที่พวกเขากำลังบ่มเพาะพลังอยู่นั้น พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของพลังสามจุด
ดวงตาของ’ฮัวหลิง’เป็นประกาย ตามหลังด้วยเสียงหัวเราะดังกึกก้อง
“เซี่ยวหยู่ ขยะเช่นเจ้ายังกล้าที่จะเสนอหน้ามาแถวนี้อีกงั้นเหรอ? ดูท่าทางว่าเจ้าจะเบื่อชีวิตเต็มทนแล้ว เจ้าคิดว่าพาคนมาอีกสองคนแล้วจะทำอะไรได้อย่างนั้นเหรอ?”
‘ฮัวหลิง’สามารถรับรู้ได้ชัดเจนถึงกำลังของคนที่อยู่ด้านหลังของ’เซี่ยวหยู่’ จริงๆแล้วก็ไม่ได้เกินไปกว่ายอดฝีมือจากโลกใบเล็ก
และคนของพวก’เซี่ยวหยู่’ในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ก็มีเพียงแค่น้อยนิดแม้ว่าพวกเขาจะสังหาร’เซี่ยวหยู่’ก็ไม่มีใครที่’เซี่ยวหยู่’จะไปขอความช่วยเหลือได้
แต่ทว่า ‘เซี่ยวหยู่’เองก็กล้ามิใช่น้อยที่มาที่นี่! หัวเขาคงจะถูกประตูหนีบมาเป็นแน่
สำนวนจีนเป็นการดูถูกว่า ทำอะไรโง่ ๆ เพราะหัวได้รับการกระทบกระเทือนมา
เนี่ยลี่ เซี่ยวหยู่ และ ลู่เพียว ยืนอยู่บนท้องฟ้า และมองดูคนที่เฝ้าประจำการ ทะเลสาบแห่งเทพ หลิงหยี่
‘เนี่ยลี่’จ้องมองไปที่’ฮัวหลิง’จากที่ไกลๆ
“ฮัวหลิงเจ้าออกมาเดี๋ยวนี้!”
‘ลู่เพียว’ ตะโกนไปทางทะเลสาบแห่งเทพ หลิงหยี่
*วูบ!* *วูบ!* *วูบ!*
คนกว่าหกสิบคนก็ทะยานขึ้นมาบนท้องฟ้า
ดวงตาของ’ฮัวหลิง’จับจ้องไปที่คนทั้งสาม และที่มุมปากของเขาก็เผยรอยยิ้มอันเย็นชา
“เซี่ยวหยู่ ดูเหมือนว่าเจ้านั้นต้องการที่จะตายมากกว่านี้ ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตาย เจ้าก็ส่งมาพร้อมกับชีวิตที่แสนสั้นของทั้งสองคนนั่นมาพร้อมกันเลย!”
“ฮัวหลิง เจ้าใช้คนจำนวนมากจัดการกับเซี่ยวหยู่ เจ้านี่ช่างไร้ยางอายสิ้นดี!”
‘ลู่เพียง’ยกมือซ้ายจับที่เอวของตัวเอง ขณะที่มือข้างขวาของเขาชี้ไปที่’ฮัวหลิง’
“เราจะชำระหนี้แค้นนี้ด้วยวิธีไหนกันดี? เจ้าจะยอมถูกชำระคืนด้วยวิธีเดียวกัน หรือว่าจะหมอบคลานและขอยอมรับความผิดที่พวกเจ้าก่อขึ้น? ”
“ชำระคืนงั้นเหรอ? หมอบคลาน และยอมรับความผิดงั้นหรือ?”
‘ฮัวหลิง’หัวเราะ ราวกับได้ยินเรื่องตลก
“สมองของพวกเจ้านั้นถูกแช่น้ำมาหรือไงกัน? หรือเจ้าคิดว่าที่โลกภายนอกนี้ จะเหมือนกันสถาบันวิญญาณฟ้าหรือไง ? เจ้าพวกโง่ทั้งสาม!”
สมองแช่น้ำ สำนวนจีน ความหมายเดียวกันกับสมองเต้าหู้
ทุกคนที่อยู่ด้านหลัง’ฮัวหลิง’ ต่างก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา พวกเขาทั้งสามคนช่างไร้สาระยิ่งนัก พวกเขามากันแค่สามคนยังจะพูดจาตลกอะไรเช่นนี้อยู่อีกงั้นเหรอ?
‘เนี่ยลี่’ยังมีท่าทีที่สงบ ในขณะที่สายตาของเขากวาดสายตามองไปที่ฮัวหลิงและคนของเขา
“เจ้าทำร้ายคนของข้า สำหรับเรื่องนี้ เจ้าจักต้องชดใช้ให้สมราคา ทิ้งทุกอย่างที่เจ้ามีเอาไว้เบื้อหลัง นั่นจะเป็นค่าชดเชยสำหรับเซี่ยวหยู่ ถ้าทำเช่นนั้น ข้าอาจจะไว้ชีวิตพวกเจ้าทุกคน”
หลังจากคำพูดของ’เนี่ยลี่’ ใบหน้าของเซี่ยวหยู่อดไม่ได้ที่จะร้อยผ่าว เขาถึงกับก้มหน้าหลบ ใครเล่าจะรู้ว่าเขานั้นคิดสิ่งใดอยู่?
“ไร้สาระ เจ้าต้องการค่าชดเชยงั้นเหรอ? ในโลกภายนอกนี้ ผู้อ่อนแอ ย่อมเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่ง เจ้าคงจะเบื่อชีวิตเป็นแน่แท้
ตั้งแต่ที่กล้ามาอวดดีต่อหน้าข้า ทั้งๆที่ไม่มีกองกำลังแม้จะหนีไปเสียด้วยซ้ำ”‘ฮัวหลิง’ โบกมือของเขา ขณะที่เขากำลังพูด
“เหล่าพี่น้อง ส่งพวกขยะนี่กลับไปที่ห้องโถงวิญญาณ”
คนทั้งหกสิบคน ห้อมล้อม’เนี่ยลี่’เพื่อนของเขาอย่างรวดเร็ว
“มันก็คงเป็นดั่งที่เจ้าพูด ผู้อ่อนแอ ย่อมเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่ง ถ้าเป็นเช่นนั้น คงไม่ผิดอะไรถ้าข้าเองก็จะทำแบบนั้นเช่นกัน!”
‘เนี่ยลี่’ยักไหล่ขณะที่จ้องมองฮัวหลิงด้วยสายตาที่เย็นชา
เมื่อ’เนี่ยลี่’พูดจบ กลิ่นอายอันทรงพลังได้แผ่ออกมาปิดทางหนีและ จับตรึง’ฮัวหลิง’และลูกน้องของเขาเอาไว้
มันเป็นการจัดการด้วยพลังอำนาจอย่างสมบูรณ์!
‘หลี่ชิงอวิ๋น’ ได้ส่งเหล่ายอดฝีมือระดับดาราสวรรค์ และมีหนึ่งคนที่เป็นยอดฝีมือในระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์ ที่พร้อมจะรับฟังคำสั่งจาก’เนี่ยลี่’ ส่วนลูกน้องของฮัวหลิงนั้น พวกเขาเป็นเพียงยอดฝีมือระดับชะตาสวรรค์ พวกเขาทั้งหมดเรียกได้ว่าห่างชั้นกันยิ่งนัก
‘ฮัวหลิง’หันหน้าของเขามองดูรอบๆ ด้วยความลำบาก เขาตระหนักได้ทันทีว่า กำลังถูกล้อมกรอบไปด้วย ยอดฝีมือไม่น้อยกว่าสองร้อยคน ‘ฮัวหลิง’ จำได้ว่าหนึ่งในคนที่นำพวกเขามา เป็นคนของ’หลี่ชิงอวิ๋น’
“ฮัวหลิง ดูเหมือนว่าในหัวของเจ้าจะมีสนิมอยู่ไม่น้อยนะ นายท่านชิงอวิ๋น ได้บอกว่าให้พวกเจ้านั้นอยู่ห่างจากเนี่ยลี่ แต่ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะไม่สนใจ ถ้าเช่นนั้นก็จงอย่าได้ตำหนิพวกข้า”
‘หลีหู่’ พูดด้วยน้ำเสียงที่ขึงขังและปลดปล่อยกลิ่นอายออกมากดดัน’ฮัวหลิง’และคนของเขา
ภายใต้ความกดดันที่น่ากลัวนี้ ‘ฮัวหลิง’ แทบจะกระอักเลือดออกมา ด้วยความรู้สึกอันหดหู่ นี่กลับกลายเป็นว่า’เนี่ยลี่’ได้นำคนมาช่วยจัดการกับเขา
แต่ว่า ถึงแม้’เนี่ยลี่’กับ’หลี่ชิงอวิ๋น’จะมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจเล็กๆน้อย ๆ แต่’เนี่ยลี่’ใช้วิธีไหนกัน ‘หลี่ชิงอวิ๋น’จึงยอมส่งคนจำนวนมากมาเพื่อช่วยเหลือเขา? ‘ฮัวหลิง’ ไม่อาจจะคิดออกได้เลย เพราะถึงอย่างไร’เนี่ยลี่’นั้นก็ไม่ได้มีตระกูลไหนหนุนหลังเลยเสียด้วยซ้ำ
กองกำลังเส้นทางสวรรค์ ของ’หลี่ชิงอวิ๋น’ นั้นแข็งแกร่งยิ่งนัก ในหมู่ของกองกำลังของคนรุ่นใหม่ มันไม่ใช่สิ่งที่’ฮัวหลิง’สามารถที่จะเผชิญหน้าได้!
“นายท่านชิงอวิ๋นและข้านั้นไม่ได้มีเรื่องขัดแย้งกัน แล้วเหตุใดจึงได้ช่วยพวกเขาต่อสู้กับข้า? ”
‘ฮัวหลิง’จ้องมองไปที่ ‘หลีหู่’ ขณะที่ถามด้วยน้ำเสียงอันหดหู่
“เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับเจ้า ในตอนนี้ พวกเรารับคำสั่งของนายน้อยเนี่ยลี่ ชตะชีวิตของพวกเจ้าทั้งหมดอยู่ในกำมือของเขาแล้ว!”
‘หลีหู่’ พูดอย่างเย้ยหยัน ถ้าหากมิใช่คำสั่งของ ‘หลี่ชิงอวิ๋น’แล้ว คนอย่าง’ฮัวหลิง’นั้น ไม่มีค่าพอที่จะให้เสียเวลาด้วยเลยแม้แต่น้อย
“สังหารพวกมันให้หมด!”
‘เนี่ยลี่’พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง จริง ๆ แล้วมันก็เป็นดังที่’ฮัวหลิง’ได้พูดไว้ นี่คือกฏของโลกภายนอก ผู้อ่อนแอ ย่อมเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่ง จำนวนคนนับไม่ถ้วนที่แก่งแย่งและสังหารผู้อื่น ดังนั้นจักต้องทำการบ่มเพาะพลังให้สูงมากขึ้นกว่านี้ เพื่อที่พวกเขาจะได้แข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก
คนพวกนี้สังหาร’เซี่ยวหยู่’ อย่างที่มีคนกล่าวไว้
“ถ้าหากเจ้าให้เขาไประยะทางหนึ่งคืบ พวกเขาจะร้องขอหนึ่งลี้”
สำนวนจีน เทียบได้กับ ได้คืบจะเอาศอก เนี่ยลี่กับพวกของเขาก็ไม่มีข้อยกเว้น พวกเขาจะกลับไปลับคมเขี้ยวเพื่อที่จะกัดกินหัวหลิงและคนของเขา ให้สาสมกับที่มาทำให้พวกเขานั้นเจ็บแค้น
เหล่าลูกน้องของ’หลี่ชิงอวิ๋น’ ปิดล้อมคนของ’ฮัวหลิง’ไว้
ภายใต้คำสั่งเพื่อจะไม่ให้เกิดเรื่องอันตรายขึ้น ‘หลี่ชิงอวิ๋น’ จึงได้จัดคนสองร้อยคนให้แก่’เนี่ยลี่’ ส่วนใหญ่จะมีระดับดาราสวรรค์ และมีระดับแก่นแท้สวรรค์อีกหนึ่งคน ซึ่งก็คือ ‘หลีหู่’
‘ฮัวหลิง’นั้นเข้าใจดีว่า ถึงจะทำตัวนอบน้อมไปก็ไม่มีประโยชน์ ใบหน้าของเขาแสดงถึงความเย็นชาขณะที่จ้องมองไปที่ ‘หลีหู่’
“ข้านั้นไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมหลี่ชิงอวิ๋น ถึงต้องมาช่วยเจ้าพวกสามคนนี้มาจัดการกับข้า! ที่ข้าจะบอกไว้ก็คือ คนในห้วงสวรรค์น้อย จักไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่าย ๆ แน่นอน ถ้าหากเจ้านั้นสังหารพวกข้า พวกเจ้าจักต้องเจอกับยอดฝีมือในห้วงสวรรค์น้อยของพวกข้า หลี่ชิงอวิ๋น เป็นแค่ผู้สืบทอดลำดับที่สามของตระกูลเถ้าอัคคี! การก่อศัตรูให้มากขึ้นก็นับว่าหาเรื่องใส่ตัวก็เท่านั้น ไม่ได้มีประโยชน์อันใดในการแย่งชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลเลยแม้แต่น้อย”
‘ฮัวหลิง’ พยายามที่จะเกลี่ยกล่อม’หลีหู่’ แต่คำพูดของเขานั้นช่างไร้ประโยชน์เสียจริง
ถ้าหากเป็นผู้อื่นที่มิใช่’เนี่ยลี่’แล้ว แน่นอนว่า’หลี่ชิงอวิ๋น’ จังต้องไมส่งคนของเขาจำนวนมากเพื่อที่จะมากำจัด’ฮัวหลิง’และ เป็นการเสี่ยงที่จะสร้างศัตรูเพิ่มขึ้นเป็นแน่ แต่ทว่า นี่เป็นคำร้องขอจาก’เนี่ยลี่’
‘เนี่ยลี่’นั้นได้มอบจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้าแก่เขา เพื่อพิจารณาดูแล้วเรื่องนี้ก็นับว่าเล็กน้อยเท่านั้น
‘หลีหู่’ ยิ้มอย่างไม่สนใจ
“เจ้าคิดจะข่มขู่พวกข้างั้นเหรอ? กองกำลังเส้นทางสวรรค์ ไม่เคยเกรงกลัวผู้ใดมาก่อน ถ้าหากเจ้านั้นคิดจะเริ่มก่อสงคราม ก็เอาตามที่เจ้าต้องการได้เลย! ”
ความหวังสุดท้ายของ’ฮิวหลิง’แตกเป็นเสี่ยง ๆ ด้วยคำพูดของ’หลีหู่’
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ในวันนี้ข้า ฮัวหลิงก็คงจะต้องตาย แต่ถึงอย่างไร ข้าจักต้องหาหนทางในการล้างหนี้แค้นนี้แน่นอน!”
สำหรับเหล่าคนที่ลอยอยู่กลางอากาศ ‘หลีหู่’ปล่อยพลังออกมาจากฝ่ามือ
*ตูม* *ตูม* *ตูม*
‘ฮัวหลิง’และคนของเขา ระเบิดออกและกลายเป็นฝนเลือดร่วงหล่นจากท้องฟ้า
นี่ก็เรียกว่าได้เป็นการสังหารหมู่วิธีหนึ่ง
‘ลู่เพียว’คิดในใจ หลังจากที่ได้รู้จัก’หลีหู่’มาช่วงเวลาหนึ่ง เขารู้ดีว่า’หลีหู่’นั้นจงรักภักดีกับ’หลี่ชิงอวิ๋น’ยิ่งนัก และคอยติดตามเค้าราวกับว่าเป็นข้ารับใช้ แต่ทว่า เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าหลีหู่นั้นจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
แม้่แต่เหล่ายอดฝีมือระดับชะตาสวรรค์ ยังถูกเขาสังหารได้หมดในเวลาไม่ถึงนาที ความแข็งแกร่งของ’หลีหู้’นั้นเหนือกว่า ‘ฮัวหลิง’และคนของเขามากนัก การสังหาร’ฮัวหลิง’กับพวก ก็นับว่าเป็นการล้างแค้นให้เซี่ยวหยู่ได้เช่นกัน
“นายน้อยเนี่ยลี่ นี่คือแหวนห้วงมิติ ที่เก็บมาได้จากพวกฮัวหลิง!”
‘หลีหู่’ดึงมาจากกลางอากาศ มันเป็นของ’ฮัวหลิง’ และพวกของเขา จากนั้นก็ส่งมันให้กับ’เนี่ยลี่’
ถ้าหากตายในโลกภายนอก ทุกอย่างที่มีอยู่จะร่วงหล่นไว้ตรงที่ตาย รวมไปถึงแหวนห้วงมิติหรือของวิเศษต่างๆ ทุกอย่างจะถูกทิ้งไว้และเก็บไปโดยคนที่มาพบเจอ ดังนั้นจึงจะไม่ค่อยที่จะมีใครนำสมบัติมีค่าติดตัวมามากนัก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแหวนห้วงมิติของ’ฮัวหลิง’และคนของเขา จึงไม่ค่อยมีสิ่งของดีๆอยู่ข้างใน
‘เนี่ยลี่’มองไปยัง ‘หลีหู่’ พร้อมกับยิ้ม
“ขอบคุณพวกท่านมากเหล่าพี่น้อง กองกำลังเส้นทางสวรรค์ที่ได้ช่วยเหลือในครั้งนี้ ในเมื่อพวกเหล่าพี่น้องของท่านได้ช่วยเหลือเรา ข้าจะให้พวกท่านกลับไปมือเปล่าได้อย่างไร ขอให้ท่านทำการแบ่งปันให้กับพวกพี่น้องของท่านด้วย”
ด้วยการขยับแขนขวาของเขา ‘เนี่ยลี่’โยนแหวนห้องมิติของเขา ที่มีศิลาจิตวิญญาณจำนวนมากให้กับ’หลีหู่’ ‘หลีหู่’รีบรับแล้วมองตาม
“งานนี้เราได้รับมอบหมายจากนายน้อยของเรา แล้วเราจะรับสิ่งตอบแทนจากท่านได้อย่างไร?”
“ไม่ต้องกังวล ข้าควรจะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว พวกท่านได้ทำธุระให้ข้า ดังนั้นข้าก็ควรที่จะตอบแทนค่าเสียเวลาที่ต้องเดินทางมาไกล ถ้าไม่เช่นนั้น จะดูว่าข้านั้นเป็นคนใจแคบเกินไป ข้าจะพูดกับหลี่ชิงอวิ๋นเอง ถ้าหากว่าท่านไม่ยอมรับมันไป จะเป็นการว่าท่านนั้น ไม่ยอมไว้หน้าข้าเลยนะ!”
‘เนี่ยลี่’พูดอย่างตรงไปตรงมาพร้อมกับหัวเราะ
‘หลี่หู่’ขบคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะตัดสินใจไม่ปฏิเสธที่จะรับแหวนห้วงมิติ เขาจึงทำการเก็บมันไว้
“พวกท่านรอข้าตรงนี้สักครู่ ข้าจะกลับมาในอีกไม่ช้า”
‘เนี่ยลี่’ทะยาน ไปยัง ทะเลสาบแห่งเทพหลิงหยี่
แปลโดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: