ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป‘หลงยู่อิน’มีความอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมากเกี่ยวกับเทคนิคการบ่มเพาะพลังของ’เนี่ยหลี่’ และความรู้ซึ้งเกี่ยวกับวิถีแห่งการต่อสู้ของเขา นี่เป็นขอบเขตวิถีแห่งการต่อสู้ที่นางไม่เคยเข้าถึงได้มาก่อน!
‘หลงยู่อิน’เต็มไปด้วยความชื่นชมที่มีต่อ’เนี่ยหลี่’
หลังจาก’เนี่ยหลี่’ของให้นางเริ่มต่อสู้เพื่อตำแหน่งผู้นำของตระกูลผนึกมังกร นางได้ส่งข่าวไปยังลูกน้องเก่าของบิดาของนาง พวกเขาจะกลับมาในอีกไม่นาน ‘หลงยู่อิน’ เงยหน้าขึ้นมอง’เนี่ยหลี่’
และในขั้นตอนต่อไป ‘เนี่ยหลี่’จะช่วยนางทะลวงเส้นชีพจรของนาง ‘เนี่ยหลี่’ได้นำชุดเข็มออกมาจากแหวนห้วงมิติของเขา
‘หลงยู่อิน’มีความรู้สึกเป็นกังวล ใบหน้าของนางเหมือนจะรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นเล็กน้อย และใจนางก็เริ่มที่จะเต้นแรงขึ้น เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่นางได้อยู่กับผู้ชายในห้องสองต่อสอง
หลังจากที่’เนี่ยหลี่’ได้เตรียมการไว้เรียบร้อยแล้วเขาหันไปหา’หลงยู่อิน’และกล่าวว่า
“ถอดเสื้อผ้าของเจ้าออก”
“อะไรนะ?”
‘หลงยู่อิน’ร้องออกมาด้วยความตกใจ
“หากเจ้าไม่ถอดเสื้อผ้าของเจ้าออก ข้าจะฝังเข็มลงบนตัวเจ้าได้อย่างไรเล่า?”
‘เนี่ยหลี่’กล่าว และเนื่องจากนางเป็นเด็กสาว ดังนั้น’เนี่ยหลี่’จึงไม่ได้ใส่ใจกับทีท่าของ’หลงยู่อิน’เท่าไรนัก
ใบหน้าของ’หลงยู่อิน’ยิ่งแดงมากขึ้นเรื่องๆลามไปจนถึงลำคอ หลังจากนั้นไม่นานนัก นางขบริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะถอดชุดของนางออก เมื่อปราศจากผ้าไหมแล้วก็เผยให้เห็นผิวกายที่เรียบเนียนตรงบริเวณไหล่ของนาง ผ้าพันแผลสีขาวถูกพันไว้แน่นรอบหน้าอกของนาง แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังเผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าอวบอิ่มน่าอัศจรรย์อย่างเต็มรูปแบบ
มันช่างเป็นสิ่งที่ยากจะจินตนาการเสียเหลือเกินว่าหากมันถูกปลดปล่อยจนหมดจะตระการตาเพียงใด
นางเงยหน้าชำเลืองตามอง’เนี่ยหลี่’อย่างลังเล แต่ในเมื่อ’เนี่ยหลี่’ยังไม่ได้เอ่ยอันใดออกมา นางก็ยื่นมือของนางเพื่อที่จะปลดผ้าพันแผลที่พันรอบอกของนางเอาไว้
“แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว!”
‘เนี่ยหลี่’หยุดการกระทำของนางทันที เขาไม่สามารถห้ามหยาดเหงื่อไม่ให้มันไหลออกมาได้เลย นี่เพียงพอแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องให้นางทำเพิ่มเติมใดๆ ที่จะฝังเข็มนาง และหากในความเป็นจริง ถ้านางปลดเปลื้องมันออกหมดแล้วหละก็ เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะควบคุมตนเองได้มากเพียงใด
‘หลงยู่อิน’ดึงมือของนางกลับ แต่ยังมีทีท่ากังวล โชคดีที่ผ้าพันรอบอกของนางจะไม่ถูกปลดออก มิฉะนั้นยากที่จะบอกว่าจะทำให้อึดอัดใจเพียงใด
‘เนี่ยหลี่’เดินไปที่ด้านข้างของนาง ภายใต้แสงของเทียน ผิวของนางราวกับเพชรพลอยที่ถูกเจียระไนขึ้นมาอย่างประณีต นางใช้ริบบิ้นสีฟ้ากลัดมวยผม ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ของนางให้มากขึ้นยิ่งไปอีก
และเมื่อ’เนี่ยหลี่’เดินมาที่เบื้องหลังของนาง สายตาของเขาก็จับจองไปยังคอระหงส์ของ’หลงยู่อิน’ที่ขาวเนียนยิ่งกว่าไข่มุก เขานำเข็มที่ยาวและเรียวบางค่อยๆฝังลงไปบริเวณกลางกระดูกสันหลังของนาง เบี่ยงออกไปทางซ้ายเล็กน้อย
“อือ”
เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่หลงยู่อินจะครางออกมาเสียงเบา ภายในสภาวะปกตินางไม่ควรจะรู้สึกเจ็บปวด จากเข็มนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นางมีสายเลือดมังกรไหลเวียนอยู่ในตัว แต่ยามเมื่อเนี่ยหลี่ฝังเข็มลงบนร่างนาง ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงก็ไหลเข้าสู่ร่างกายของนาง มันให้ความรู้สึกราวกับถูกหมดนับหมื่นตัวรุมกัดอยู่ก็ว่าได้
หลังจากที่ความเจ็บปวดไหลเข้าสู่ร่างของนางแล้ว ยังมีกระแสอันอบอุ่นไหลเข้าสู่ร่างของนางด้วยเช่นกัน เริ่มจากกระดูกสันหลังไหลเวียนแพร่กระจายไปทั่วร่างจนที่สุดแล้วมาหยุดลงที่ขาของนาง
นี่เป็นพลังที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง!
‘หลงยู่อิน’แทบจะไม่เชื่อว่าพลังงานเช่นนี้จะถูกซ่อนอยู่ในสายเลือดของนาง
‘เนี่ยหลี่’หยิบนำเอาเข็มที่สองฝังลงไปในแถวเดียวกันตรงกระดูกสันหลังของนาง
เข็มที่สาม เข็มที่สี่ เข็มที่ห้า…
ภายในเวลาอันรวดเร็วเข็มจำนวนนับสิบเล่มถูกฝังลงบนร่างของ’หลงยู่อิน’ เหงื่อพรั่งพรูออกมาจากร่างของนางราวกับว่าร่างกายของนางกำลังถูกทำให้ร้อนจนเดือด
“ข้าได้ฝังเข็มทะลวงชีพจรที่สำคัญของเจ้าหมดแล้ว สายเลือดมังกรในตัวเจ้าจะค่อยๆตื่นขึ้นอย่างช้าๆ มันจะค่อยๆโคจรผ่านเส้นชีพจรของเจ้า ตอนนี้จงตั้งใจจดจ่อกับการบ่มเพาะพลัง!”
‘เนี่ยหลี่’กล่าวพร้อมกับสูดอากาศเข้าไปหอบใหญ่ ในที่สุดก็เสร็จสิ้น
‘เนี่ยหลี่’ได้ใช้พลังในการฝังเข็มให้’หลงยู่อิน’ไปไม่น้อย เขามองไปที่นางที่ซึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิจดจ่อกับการบ่มเพาะพลัง จากนั้นจึงได้เปิดประตูแล้วเดินออกไป
ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นด้านข้าง’เนี่ยหลี่’ ซึ่งทำให้เขาตกใจ ‘เซี่ยวหยู่’นั่นเอง
“เจ้าทำให้ข้ากลัวแทบแย่ ทักษะใดกันที่เจ้าใช้? เหตุใดจึงไม่มีเสียงยามเจ้าปรากฏตัว ?”
‘เนี่ยหลี่’ถามอย่างอดไม่ได้ เขาไม่สามารถสัมผัสกลิ่นอายของ’เซี่ยวหยู่’ได้จริงๆ ‘เซี่ยวหยู่’ถึงสามารถเข้ามาใกล้เขาได้โดยที่เขาไม่รู้ตัว
ใบหน้า’เซี่ยวหยู่’บึ้งตึง และแสดงออกชัดเจนบนใบหน้าของเขา
เมื่อเห็นว่า’เซี่ยวหยู่’กำลังโกรธ ‘เนี่ยหลี่’จึงได้ถามออกไป
“เกิดอะไรขึ้น? เจ้าไม่ได้ถูกใครบางคนฆ่าตายในโลกภายนอกอีกครั้งหรอกนะ?”
‘เซี่ยวหยู่’จ้องมอง’เนี่ยหลี่’ และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
“เนี่ยหลี่ ทำไมเจ้าถึงได้ทำเช่นนี้ เจ้าทำแบบนี้กับหนิงเอ๋อได้อย่างไร?”
“ข้าทำอะไร? เจ้าหมายถึงสิ่งใด?”
‘เนี่ยหลี่’ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรู้ได้ทันทีว่า’เซี่ยวหยู่’หมายถึงเรื่องอะไร เขายิ้มและกล่าวออกมา
“เรื่องของหลงยู่อินงั้นเหรอ? ฮ่าๆๆๆ นั่นหรือเรื่องที่เจ้าพูดถึง? ข้าจะทิ้งหนิงเอ๋อได้อย่างไรเล่า?”
“ตัวเจ้ารู้ดีว่าเจ้าได้ทำสิ่งใดลงไป! ”
‘เซี่ยวหยู่’ส่งเสียง ฮึ่ม ออกมาก่อนจะเดินออกไป
“นี่เดี๋ยว เซี่ยวหยู่เจ้ากำลังเข้าใจข้าผิด!”
‘เนี่ยหลี่’รีบตะโกนบอก’เซี่ยวหยู่’
แต่’เซี่ยวหยู่’ไม่สนใจรับฟังแม้แต่น้อย เขาเดินกลับเข้าห้องตัวเองไปและปิดประตูลง
‘เนี่ยหลี่’อึ้งไปเล็กน้อง นี่เกิดอะไรขึ้นกับ’เซี่ยวหยู่’? เขาไม่ได้ให้โอกาสข้าได้อธิบายเรื่องราวเสียด้วยซ้ำ! นอกจากนี้นี่มันไม่ใช่เรื่องที่’เซี่ยวหยู่’จะต้องเป็นถึงขนาดนี้?
หรือว่ามันสามารถเป็นไปได้หรือไม่ว่า ‘เซี่ยวหยู่’อาจจะชอบ’หลงยู่อิน’?
อา ถ้าเป็นในกรณีนี้ก็พอจะอธิบายได้ว่าเหตุใดเซี่ยวหยู่ถึงต้องโกรธถึงปานนั้น แต่เดียวก่อนพวกเขาก็พบเจอกันตั้งหลายครั้งแต่ก็ไม่มีอาการเช่นนี้ ? หรืออาจจะเป็นเหตุผลอื่น?
นี่เดี๋ยวก่อนคงไม่ใช่เพราะว่าเขาสนใจในตัวข้าหรอกนะ? ‘เนี่ยหลี่’บังเกิดความรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ นี่เป็นไปได้หรือไม่ว่า’เซี่ยวหยู่’จะเกิดการเบี่ยงเบน? ไม่เพียงสนใจแต่สตรีเท่านั้นแต่ยังสนใจในบุรุษด้วย ?
‘เนี่ยหลี่’เคยสงสัยว่า’เซี่ยวหยู่’อาจจะเป็นสตรี เนื่องจากรูปลักษณ์ที่งดงามเกินไป อย่างไรก็ตาม’เนี่ยหลี่’ได้รับการยืนยันแล้วว่า’เซี่ยวหยู่’ไม่ใช่สตรีก็เหลือเป็นพวก ‘เบี่ยงเบน’ เพียงเท่านั้น
หลังจากที่ได้ขบคิดกับประเด็นนี้อยู่ชั่วครู่’เนี่ยหลี่’ก็สะบัดหัวไล่ความคิดเหล่านี้ออกไป เขาจะต้องไม่ไปคิดมากเกี่ยวกับมัน
ในเวลาประมานหนึ่งชั่วยามถัดมา กลิ่นอายที่เปี่ยมด้วยพลังก็ปรากฏขึ้นภายในห้องของ’เนี่ยหลี่’
ผู้มีสายเลือดมังกรอยู่ในร่างเช่นเดียวกับ’หลงยู่อิน’ยามเมื่อถูกปลดปล่อย ตามกลิ่นอายจิตวิญญาณในขณะนี้ ระดับของนางอย่างน้อยควรจะอยู่ในระดับชะตาสวรรค์ขั้นที่ 5 นอกจากนี้การบ่มเพาะพลังของนางจะยังทะยานก้าวข้ามขอบเขตขึ้นไปอีก
‘เนี่ยหลี่’รู้ว่า’หลงยู่อิน’ได้สำเร็จการทะลวงชีพจรของนางเรียบร้อยแล้ว เขาจึงเปิดประตูและเดินเข้ามา
“อ๊า!!”
‘หลงยู่อิน’กรีดร้องขึ้น
‘เนี่ยหลี่’จ้องมองเข้าไปในห้องด้วยอาการตกตะลึง เหตุเป็นเพราะว่าเสื้อผ้าของหลงยู่อินถูกเปลวเพลิงแผดเผาจนมอดไหม้ นางนำมือมาปิดหน้าอกของนางจากสายตาของ’เนี่ยหลี่’ แต่นางก็ไม่สามารถปกปิด รัศมีวัยแรกแย้มของนางได้หมดจด ‘เนี่ยหลี่’หันหลังกลับและเดินออกไปอย่างช้าๆ
ภายในเวลาต่อมาไม่นานนัก ‘หลงยู่อิน’ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าของนางใหม่และเดินก้มหัวออกมาเพื่อซ่อนอาการแดงบนใบหน้า
บรรยากาศชวนอึดอัดเล็กน้อย
‘เนี่ยหลี่’รีบเปลี่ยนเรื่องโดยการเริ่มสนทนา
“เป็นอย่างไรบ้าง? เส้นชีพจรของเจ้าได้ถูกเปิดออกหมดแล้วหรือยัง?”
“อื้อ เปิดออกทั้งหมดแล้ว”
ใบหน้าของ’หลงยู่อิน’มีสีแดงจางๆ ขณะที่พยักหน้า วิธีการของ’เนี่ยหลี่’มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก ระดับการบ่มเพาะพลังของนางทะลวงขึ้นหลายขั้นตอนในคราเดียว นางรู้สึกราวกับกำลังฝันอยู่
“นั่นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากทีเดียวที่มันได้เปิดออกทั้งหมด”
‘เนี่ยหลี่’ยิ้มให้กับนางเล็กน้อย
‘หลงยู่อิน’พยักหน้าเบาๆ เป็นการรับรู้ ความรู้สึกสำนึกในบุญคุณของ’เนี่ยหลี่’เต็มจิตใจนาง แต่นอกเหนือจากนั้นยังมีความรู้สึกบางสิ่งอยู่อีก เป็นอารมณ์ที่แปลกแต่นางไม่สามารถบอกได้
“เมื่อเจ้ากลับไปแล้ว และทำการบ่มเพาะพลังต่ออีกเล็กน้อย ระดับการบ่มเพาะพลังของเจ้าก็จะพุ่งทะยานไร้ขอบเขตขึ้นไปอีก!”
‘เนี่ยหลี่’ยิ้มแล้วพูดต่อ
“ระดับการบ่มเพาะพลังของเจ้าเพิ่มขึ้นสูงแล้ว ดังนั้นข้าคงไม่เหมาะจะเป็นอาจารย์ของเจ้าอีกแล้ว!”
‘หลงยู่อิน’เงยหน้ามองเนี่ยหลี่ก่อนจะรีบกล่าวขึ้นมา
“ไม่ว่ายังไง ท่านก็เป็นอาจารย์ของข้า!”
‘เนี่ยหลี่’หัวเราะ
“ข้าแค่ล้อเจ้าเล่น นี่ก็เสียเวลามานานมากแล้วเจ้าควรจะรีบกลับเสีย ถ้ามีผู้ใดพบเห็นเจ้าในเวลาวิกาลเช่นนี้ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะคิดสิ่งใดบ้าง?”
“ตกลง”
‘หลงยู่อิน’พยักหน้า นางก้าวเดินต่อไปอีกหลายก้าวก่อนจะหันกลับมามอง’เนี่ยหลี่’และกล่าวว่า
“อาจารย์ข้าจะกลับมาอีกในเร็วๆนี้”
นางรีบทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยนางกลัวว่า’เนี่ยหลี่’จะพูดห้ามนาง
‘เนี่ยหลี่’ถอนสายตาตนเองกลับมาและยิ้มอย่างขมขื่น ครั้งแรกที่นางมาก็ทำให้’เซี่ยวหยู่’เข้าใจผิดไปแล้ว ถ้านางมาปรากฏตัวอีกครั้งในยามค่ำคืนเช่นนี้ สิ่งใดจะเกิดขึ้นอีกบ้างใครเล่าจะรู้ได้
‘หลงยู่อิน’ออกจากที่พักของ’เนี่ยหลี่’ และเริ่มเดินบนทางเล็กๆของสถาบันวิญญาณฟ้า
ร่างที่จู่ๆก็ปรากตัวออกมาขวาง’หลงยู่อิน’เอาไว้ ใช่แล้วคือ’หูหย่ง’ ใบหน้าของเขาดำคล้ำสายตาจับจ้องไปที่’หลงยู่อิน’
“หลงยู่อิน เจ้าไปไหนมายามวิกาลเช่นนี้?”
มือของเขากำหมัดจนแน่น เผยให้เห็นเส้นเลือดปูดโปนออกมา บ่งบอกได้ว่าตอนนี้เขาโกรธแค้นมากเพียงใด
“เจ้าสะกดรอยตามข้างั้นเหรอ?”
ประกายเย็นชาฉายออกมาจากแววตาของ’หลงยู่อิน’ นางเดินไปด้านข้างก่อนจะกล่าวออกมา
“มันไม่ใช่ธุระกงการอันใดของเจ้าในการที่ข้าจะไปไหน! ถ้าเจ้ายังกล้าตามข้าอีกครั้งอย่าได้ตำหนิข้าว่าไม่เกรงใจเจ้า!”
“หลงยู่อินข้าเห็นทุกอย่างหมดแล้ว เจ้ามันเป็น ต้างฟู่ 荡妇:ผู้หญิงดอกทองเจ้ามาหาชายอื่นในยามวิกาลเช่นนี้! เจ้ามันช่างไร้ยางอายสิ้นดี!”
‘หูหย่ง’ชี้หน้าด่าทอหลงยู่อิน เขาไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป
“เจ้าพูดอะไร ? พูดมันมาอีกครั้งซิ?”
‘หลงยู่อิน’มอง’หูหย่ง’อย่างเย็นชาหูหย่งชี้หน้า และกล่าวด่าทอ’หลงยู่อิน’มากขึ้น
“หลงยู่อิน ข้าดูถูกเจ้าอยู่อย่างไรเล่า ? อย่าลืมว่าเจ้าเป็นคู่หมั้นของข้า! เนื่องจากเจ้ากล้านอกใจข้าคิดคบชู้ ชู้รักของเจ้ามันจะต้องถูกคนของฆ่าสังหารในเร็ววันนี้!”
สีหน้าของ’หลงยู่อิน’พลันบึ้งตึงขึ้นทันที แต่นางไม่ต้องการจะทะเลาะกับคนเช่น’หูหย่ง’ แรงดันจิตวิญญาณถูกปลดปล่อยออกมานางก้าวเดินมาพร้อมกับใบหน้าที่โกรธเกรี้ยว
เมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่’หลงยู่อิน’ปล่อยออกมา ทำให้’หูหย่ง’ต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เมื่อสักครู่นี้เขาเหมือนคนที่ถูกความโกรธทำให้ตาบอด ทำให้มีความกล้าบ้าบิ่นพอจะพูดแบบเมื่อครู่นี้ แต่ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“เจ้าเศษสวะ มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่คนอย่างเจ้าจะมาคู่กับข้า? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครเพียงแค่ตระกูลของเจ้าหนุนหลังให้เพียงเท่านั้นหรือ เศษสวะที่อ่อนแออย่างเจ้ากล้าที่จะตีตัวเป็นคู่หมั้นของข้าเชียวรึ!”
‘หลงยู่อิน’เดินเข้าไปหา’หูหย่ง’ นางยกขาขวาขึ้นและตรงไปที่กลางระหว่างขาของ’หูหย่ง’เข้าเป้าจุดยุทธศาสตร์พอดิบพอดีไม่ขาดไม่เกิด
รูปปากของ’หูหย่ง’กลายเป็นรูป ‘’ แต่เขาไม่สามารถที่จะเปล่งเสียงใดๆออกมา ใบหน้าของเขาค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด มือทั้งสองข้างสั่นไปด้วยความกลัว จับกุมไปยังเป้าของเขา ขาทั้งสองข้างสั่นสะท้านก่อนจะทรุดตัวลงนอนกับพื้น และสามารถสันนิษฐานได้เลยว่าเขาคงหมดโอกาสในการสืบสกุลไปแล้วเรียบร้อย
เหงื่อเย็นไหลออกมาจากตัวเขา ลูกเตะของ’หลงยู่อิน’ได้เข้าเป้าเขาเช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว
‘หูหย่ง’ผู้น่าสงสาร ที่ได้ถูก’หลงยู่อิน’ทำให้พิการไปในคราก่อน ดูเหมือนว่าเขาไม่เรียนรู้ถึงบทเรียนนั้น
“นายน้อย ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”
“นายน้อย!!”
ผู้ติดตามหลายร้อยคน ปรากฏตัวออกมาจากพุ่มไม้ บริเวณใกล้เคียง’หลงยู่อิน’ มองดูเหล่าลูกน้องหูหย่งที่มาพาตัวเขากลับไป จากนั้นนางส่งเสียง ฮึ่ม ออกมาก่อนจะทะยานตัวจากไป
แปลโดย สินธ์นวล
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: