ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป‘ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’สนใจกับท่าทีที่แสดงออกของเนี่ยหลี่ไม่น้อย และก็ต้องรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง โดยปกติคนอื่นๆภายในสถาบันวิญญาณฟ้าจะแสดงอาการท่าทีที่มีความสุขออกมาเมื่อได้ถูกรับเลือกให้เป็นศิษย์ของเขา
อย่างไรก็ตามการแสดงออกของ’เนี่ยหลี่’ยังคงสงบนิ่งไม่มีท่าทีเปลี่ยนแปลงใดๆ ‘ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’ชื่นชม’เนี่ยหลี่’เป็นอย่างมากกับท่าทีที่ยังรักษาความเยือกเย็นเอาไว้ได้ เด็กคนนี้คือคนเดียวกันกับที่ประดิษฐ์อักษร ความเข้าใจในวิถีของเขาได้ก้าวไปในขอบเขตที่เหนือธรรมชาติแล้ว
‘อาจารย์ซิหลิง’ได้ส่งเสียงหา’เนี่ยหลี่’
“เนี่ยหลี่อย่าได้ปล่อยให้อารมณ์มากระทบต่อการตัดสินใจของเจ้า นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากที่จะเป็นศิษย์ของอาจารย์ข้า อย่าได้เปลี่ยนแปลงการตัดสินใจเนื่องเพราะอาจารย์อี๋เยี่ยน ด้วยเนื่องบิดาอาจารย์อี๋เยี่ยนเคยช่วยชีวิตท่านปรมาจารย์เอาไว้และเขาก็ยังเป็นศิษย์คนโตของท่านปรมาจารย์อีก เป็นผลให้ท่านปรมาจารย์ดูแลเขาเป็นอย่างดี นั่งจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้อาจารย์อี๋เยี่ยนแปรเปลี่ยนเป็นคนใจแคบในการตัดสินใจบางเรื่อง แต่อย่าให้มันมีผลกับเจ้า เมื่อเจ้าได้เป็นศิษย์ของปรมาจารย์เจ้าไม่ต้องกังวลว่าเขาจะรังแกเจ้าได้!”
‘เนี่ยหลี่’ตอบกลับเสียงนั้นไปยัง’อาจารย์ซีหลิง’ทันที
“ท่านอาจารย์ ข้ารู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไรอยู่”
การยอมจำนนมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับ’เนี่ยหลี่’ หากพวกเขาไม่ยอมรับเงื่อนไข ‘เนี่ยหลี่’ก็คงไม่ขอเข้าเป็นศิษย์ของ’ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’แน่นอน คำพูดของ’อาจารย์อี๋เยี่ยน’ถือว่ามีน้ำหนักสำหรับ’ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’อยู่บ้าง
เมื่อเห็นปรมาจารย์เทียนอวิ๋นนิ่งเงียบไป เขาจึงแสยะยิ้มออกมาอย่างเย็นชา
“เจ้าคิดว่าตำหนักเทียนอวิ๋นเป็นที่เช่นใด? เจ้าคิดว่ามันเป็นสถานที่ที่เจ้าคิดจะมาก็มาได้คิดจะไปก็ไปได้เช่นนั้น? น่าขัน! แค่ระดับชะตาสวรรค์เจ้าคิดว่าตนเองคู่ควรแล้วหรือ?”
‘เนี่ยหลี่’ไม่ได้โกรธแม้อาจารย์อี๋เยี่ยนจะพูดคำเหล่านี้ออกมา เขาตอบกลับไปด้วยเสียงเรียบไม่หนักไม่เบา
“ท่านอาจารย์ ตัวข้านั้นมีความเลื่อมใสในตัวท่านปรมาจารย์เทียนอวิ๋น และยินดีที่จะเป็นศิษย์ของท่าน ข้าเพียงแต่ยื่นข้อเสนอและขอความเห็นจากท่านปรมาจารย์เทียนอวิ๋น ไม่ว่าท่านปรมาจารย์จะเห็นด้วยรึไม่นั่นก็เป็นการตัดสินใจของท่านปรมาจารย์ เหตุใดท่านต้องเสนอความเห็นตนด้วย?”
“เจ้า…”
‘อาจารย์อี๋เยี่ยน’โกรธเป็นอย่างมาก หากนี่เป็นโลกภายนอก ระดับชะตาสวรรค์ที่เปรียบได้เช่นมดปลวก กล้าที่จะพูดกับเขาเช่นนี้ เขาคงได้ส่งมันผู้นั้นไปสู่ความตายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เหล่าอาจารย์อีก 4 คนที่เหลือหันมามอง’เนี่ยหลี่’อย่างช่วยไม่ได้
‘เนี่ยหลี่’ใช้เสียงที่ไม่หนักไม่เบากล่าวตำหนิ ‘อาจารย์อี๋เยี่ยน’ เขาอาจจะไม่ใช่ระดับชะตาสวรรค์ธรรมดาเสียแล้ว
ทั้งนี้อีก4คนที่เหลือก็ยังคงไม่ยอมรับ’เนี่ยหลี่’ แต่พวกเขาไม่ได้เอ่ยออกแสดงความคิดเห็น ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะไม่ขัดขวางและเฝ้าสังเกตแทน
‘ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’ยิ้มและกล่าวว่า
“สิ่งที่เนี่ยหลี่กล่าวนั้นถูกต้องแล้ว กระบวนการในการรับเป็นศิษย์อาจารย์ต้องขึ้นอยู่กับความพึงใจของทั้งสองฝ่าย ถ้าข้ามีความยินดีรับข้อเสนอนั้นศิษย์คนอื่นๆหาได้มีความจำเป็นต้องขัดแย้งไม่”
“แต่อาจารย์…”
ภายในจิตใจ’อาจารย์อี๋เยี่ยน’ยังคงไม่ยอมรับ
‘เนี่ยหลี่’หาได้รู้จักกาลเทศะ
ท่านอาจารย์จะยอมรับจริงๆหรือนี่“ไม่จำเป็นต้องกล่าวมากความ!”
‘ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ ‘อาจารย์อี๋เยี่ยน’ หยุดพูดเมื่อเห็นการแสดงออกของ’ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’เขารู้ในทันทีว่าอาจารย์ของเขากำลังโกรธ
เขาทำได้เพียงหลบไปยืนอยู่ด้านข้างแทน
‘ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’ยิ้มให้’เนี่ยหลี่’ นี่เป็นเวลาจะทดสอบ’เนี่ยหลี่’สักเล็กน้อย
“เนี่ยหลี่สำหรับคำว่า’ไร้ลักษณ์’ที่เจ้าให้ข้า เจ้ามีความเห็นเช่นไร?”
“ความหมายของคำนั้น ไม่จำเป็นต้องทำสิ่งใด เส้นทางจะปรากฏให้เห็นเอง บางครั้งไม่ทำสิ่งใดสิ่งนั้นอาจสำเร็จ ในสิ่งที่ท่านกำลังทำอยู่”
‘เนี่ยหลี่’ตอบ
“ไม่ทำสิ่งใด เส้นทางจะปรากฏให้เห็น?”
‘ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’ตะลึงอย่างเห็นได้ชัด เขาทำความเข้าใจกับความหมายนั้นอย่างเงียบๆ เมื่อพิจารณาดูแล้วพบว่ามันค่อนข้างลึกซึ้ง เขาไม่คาดคิดเลยว่า ‘เนี่ยหลี่’เข้าใจคำว่า ‘ไม่ทำสิ่งใดเส้นทางจะปรากฏ’ ได้ลึกซึ้งกว่าตนเองเสียอีก เขาพึมพำออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“ในการไม่ทำสิ่งใด ในสิ่งที่กำลังทำบางอย่าง…”
ช่วงเวลาต่อมาเขาถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้น
“มันเป็นเจ้าที่เข้าใจความหมายได้อย่างลึกซึ้งในจุดที่ข้าไปไม่ถึง ข้ายอมรับความพ่ายแพ้!”
เมื่อได้ยิน’ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’ กล่าวเช่นนั้นทุกคนในที่นั้นถึงกับตกตะลึง แม้กระทั่ง’อาจารย์ซีหลิง’ยังถึงกับหมดคำพูด
‘ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’ยอมรับความพ่ายแพ้ ? แล้วพวกเขาที่เป็น ศิษย์ของท่าปรมาจารย์เล่า ?
เขาเป็นยอดฝีมือที่อยู่ระดับเทพสงคราม และเป็นหนึ่งในห้าเสาหลักของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์!
ในสายตาของเหล่าอาจารย์คนอื่นๆและอาจารย์อี๋เยี่ยน ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นเป็นผู้ที่พวกเขาเคารพอย่างสูงสุด แต่ความเข้าใจในเจตจำนงด้อยกว่า’เนี่ยหลี่’ ? นี่เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุดในโลก!
เด็ก’เนี่ยหลี่’นั่นอาจจะได้รับตำราที่สร้างคำเหล่านั้นจากคนอื่น อาจารย์อี๋เยี่ยน คิดเรื่องเหล่านี้ภายในจิตใจและแน่นอนเข้าไม่เชื่อว่าเนี่ยหลี่จะเข้าใจเจตจำนงลึกซึ้งในวิถีแห่งการต่อสู้
ถ้า’เนี่ยหลี่’สามารถเข้าใจถึงวิถีได้จริง ระดับการบ่มเพาะของเขาน่าจะเพิ่มขึ้นรวดเร็วแบบก้าวกระโดดข้ามขอบเขตเหล่านั้นไป
มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่เขายังอยู่ในระดับชะตาสวรรค์?สิ่งที่’อาจารย์อี๋เยี่ยน’ไม่ทราบก็คือ ระดับการบ่มเพาะพลังของ’เนี่ยหลี่’น่าจะก้าวถึงระดับดาราสวรรค์ได้แล้ว แต่เนื่องจากเถาเลื้อยที่อยู่ในร่าง’เนี่ยหลี่’เขาไม่สามารถจัดการใดๆกับมันได้
หลังจากที่อาจารย์อีกสี่คนที่เหลือสบตากันแล้วพวกเขาก็จ้องไปที่’เนี่ยหลี่’ ด้วยสีหน้าที่แตกต่างออกไป พวกเขาไม่ทราบถึงสิ่งใดที่อาจารย์ของพวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องประเมิน’เนี่ยหลี่’อีกครั้ง พวกเขาจะต้องปฏิบัติกับ’เนี่ยหลี่’เสมอเท่าตนเอง
“ท่านปรมาจารย์เทียนอวิ๋นต้องล้อข้าเล่นเป็นแน่ มันก็เป็นแค่เจตจำนงที่ข้าเข้าใจมันได้โดยบังเอิญ เมื่อเทียบกับท่านปรมาจารย์แล้วความเข้าใจข้องข้านับว่าด้อยนัก”
‘เนี่ยหลี่’กล่าวออกไปทันที เนื่องจากเขาไม่ต้องการให้ใครสงสัยในประสบกาณ์?สองชีวิตของเขา
‘ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’ยิ้ม
“เจ้าถ่อมตนมากเกินไปแล้ว ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่เข้าใจในความหมายตัวอักษร แต่โดยเฉพาะความจริงที่ว่าเจ้าสามารถเขียนอักษรเหล่านั้นได้ ก็เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมแล้ว ตัวข้าคงไม่มีอะไรจะสอนให้แก่เจ้าในเรื่องของวิถีความเข้าใจเจตจำนง แต่ข้ายังสามารถบอกแนวทางในการบ่มเพาะพลังให้แก่เจ้าได้ หากเจ้ายังยินดีจะเข้ามาเป็นศิษย์ข้าปรมาจารย์เทียนอวิ๋นคนนี้ เจ้าจะได้ในสิ่งที่เจ้าต้องการ เจ้าจะไม่อยู่ใต้อำนาจของผู้ใด!”
“ขอขอบคุณ ท่านอาจารย์!”
‘เนี่ยหลี่’โค้งคำนับทันที สำหรับการได้เป็นลูกศิษย์’ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’เจ้านครใต้พิภพคงไม่ว่าอะไร เขาน่าจะดีใจเสียด้วยซ้ำสำหรับเรื่องนี้
มีหลายคนที่พยายามจะสร้างสัมพันธ์กับพวกปรมาจารย์เทียนอวิ๋น แต่พวกเขาต้องถอนตัวกันด้วยเนื่องเพราะความต่างชั้นที่มากเกินไปด้วยการมีปรมาจารย์เทียนอวิ๋นเป็นอาจารย์มันจะต้องมีประโยชน์เป็นอย่างมากในการที่จะก้าวขึ้นชิงตำแหน่งผู้นำนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์!
“ดี มาก ดีมาก!”
‘ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’หัวเราะออกมาเสียงดัง ในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของเขา เขาชื่นชม’เนี่ยหลี่’มากที่สุด
‘อาจารย์ซิหลิง’ยังตกใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าอาจารย์ของเขาจะยอมรับข้อเสนอของ’เนี่ยหลี่’
นี่นับเป็นครั้งแรกที่มีข้อยกเว้นสำหรับปรมาจารย์เทียนอวิ๋น ! โดยปรกติแล้วปรมาจารย์เทียนอวิ๋นจะเข้มงวดมากกับลูกศิษย์ของเขาแต่ละคน แต่เขากับผ่อนปรนให้กับ’เนี่ยหลี่’อย่างยิ่ง
เหล่าอาจารย์ที่เหลืออีก4คน ก็ประหลาดใจเล็กน้อย มันดูเหมือนว่า’เนี่ยหลี่’จะเป็นบุคคลที่พิเศษที่สุดภายในตำหนักเทียนอวิ๋นแห่งนี้
นอกจากนี้ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นยังประเมิน’เนี่ยหลี่’ไว้สูงมาก พวกเขาจะต้องทำดีกับศิษย์น้องของเขาผู้นี้แน่นอนความโกรธและความริษยาอยู่เต็มดวงตาของอาจารย์อี๋เยี่ยน การปรากฏตัวของเนี่ยหลี่ทำให้เขารู้สึกถูกกดดันเป็นอย่างมาก เขาเป็นศิษย์พี่ใหญ่และได้รับการยกย่องจากทุกคนเป็นอย่างมาก
แต่มาตอนนี้ ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นได้ละเว้นให้กับเนี่ยหลี่นี่แสดงให้เห็นว่าท่านปรมาจารย์ประเมินเนี่ยหลี่ไว้สูงกว่าเขา
“พวกเจ้าที่เหลือไปได้ ข้าจะอยู่ที่นี่เพื่อพูดคุยกับเนี่ยหลี่ถึงวิถีแห่งเจตจำนง!”
‘ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’หัวเราะอย่างร่าเริง
อาจารย์ซิหลิงและคนอื่นๆจึงโค้งคำนับให้กับปรมาจารย์ก่อนจะเดินออกไปกัน ทิ้งไว้แต่อาจารย์อี๋เยี่ยนเป็นคนสุดท้าย ในตาเขาฉายแววโกรธเกรี้ยวก่อนจะยอมเดินกลับออกไปเช่นกัน
‘เนี่ยหลี่’ยังคงอยู่กับปรมาจารย์เทียนอวิ๋นพูดคุยถึงวิถีแห่งเจตจำนงอยู่หลายชั่วยาม ดวงตาของปรมาจารย์เทียนอวิ๋นเป็นประกายแล้วประกายอีก ทุกสิ่งอย่างที่เนี่ยหลี่กล่าวออกมาล้วนเป็นจริง! เวลานี้เขาเหมือนกับหยิบจับได้ชิ้นหยกอันล้ำค่า!
ความสามารถของ’เนี่ยหลี่’จะไร้สิ้นสุดในอนาคตเป็นแน่ นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่เขาจะกลายเป็นเสาหลักนิกายในอนาคต!
เมื่อยามนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ตกอยู่ในสภาวะวิกฤต ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นจะต้องนึกถึง’เนี่ยหลี่’แน่นอน
แปลโดย สินธ์นวล
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: