I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 367 心诚之人 คนที่จริงใจ

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 2537 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

จริงๆแล้ว’เนี่ยลี่’จักเป็นคนที่มีคุณธรรมดั่งที่เขากล่าวอ้างเช่นนั้นหรือ?

‘หลงซูอวิ๋น’ไม่เชื่อเลยสักนิด เพราะนางเคยได้พบเห็นคนที่เห็นแก่ตัวมามากมาย แต่ไม่เคยพบเห็นคนที่ทำเพื่อผู้อื่นโดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเช่น’เนี่ยลี่’มาก่อน การที่’เนี่ยลี่’พูดออกมาเช่นนี้ก็เพื่อที่จะให้’หลงยู่อิน’สนับสนุนเขาใช่หรือไม่?

“ไม่ว่าท่านป้าจักคิดสิ่งใดอยู่ แต่ข้าคิดว่าท่านป้ารออีกไม่กี่ปีก็คงจักได้เห็น ตอนนี้ท่านป้าอาจจะเห็นว่าข้านั้นเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ แต่ผู้มีพรสวรรค์ที่ล้มเหลวก็มีให้เห็นอยู่มากมาย ท่านไม่กลัวว่าข้าจักไร้ซึ่งความทะเยอะทะยานหลังจากที่ได้หมั้นหมายกับหลงยู่อินหรืออย่างไร? แน่นอนว่าท่านป้านั้นสามารถที่จะล้มเลิกการหมั้นหมายดั่งที่ท่านทำกับหูหย่งได้ แต่การล้มเลิกสัญญาหลายๆครา ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป จักทำให้ท่านนั้นเสื่อมเสียชื่อเสียงได้!”

‘หลงยู่อิน’ยืนมอง’เนี่ยลี่’อย่างใจจดใจจ่อ นางนั้นต้องการอธิบายว่า การหมั้นหมายระหว่างนางกับ’หูหย่ง’นั้น แม่ของนางและทางตระกูลหู ได้ตกลงกันตั้งแต่ที่นางยังเล็ก ในตอนนั้นนางเองก็ยังไม่รู้ความเสียด้วยซ้ำ นางจึงไม่เคยคิดเลยว่า’หูหย่ง’นั้นเป็นคู่หมั้นของนาง

แต่นางก็ต้องฝืนกลั้นคำพูดนั้นไว้ด้วยความเศร้า นางกลัวว่าแท้จริงแล้ว’เนี่ยลี่’อาจจะมิได้สนใจการหมั้นหมายพวกนั้นแต่แรกอยู่แล้ว
แต่มันจักเป็นเพียงคำกล่าวอ้างเท่านั้น

‘หลงซูอวิ๋น’มองดู’หลงยู่อิน’จากนั้นก็ถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดกับเนี่ยลี่

“ไม่ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเจ้าคือสิ่งใด แต่ข้าก็ขอยอมรับว่า ข้าจักให้การช่วยเหลือเจ้า ตราบเท่าที่เจ้านั้นยังทำประโยชน์ให้แก่ลูกสาวข้าได้”

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ’หลงซูอวิ๋น’

‘เนี่ยลี่’ก็รู้สึกโล่งใจ ในที่สุด’หลงซูอวิ๋น’ก็ยอมที่จะตกลง การได้ความช่วยเหลือจากยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรขั้นที่เก้า การกระทำของเขาในภายภาคหน้าจักต้องง่ายดายขึ้นเป็นแน่

ขณะเดียวกัน ณ ตำหนักเทียนอวิ๋น เมฆาสวรรค์

‘ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’ถอนจิตออกจากภวังค์ เขานั่งขัดสมาธิอยู่เงียบๆ เป็นเวลาครู่หนึ่ง นานเพียงไหนแล้วที่เขามิได้รู้สึกเช่นนี้

“ข้าเติบใหญ่ขึ้นมาในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ แต่ว่าก็ยังมีสิ่งที่เกินกำลัง จึงรู้สึกหมดหวังและหลีกเลี่ยงที่จะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวภายใน แต่เจ้าเด็กหนุ่มผู้นั้นจักต้องทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปได้เป็นแน่”

“หลงยู่อิน กู้เบ่ย หลี่ชิงอวิ๋น พวกเขาจักเป็นผู้นำของคนรุ่นใหม่ ด้วยบุคลิกของพวกเขาก็นับว่าไม่เลวร้ายนัก ถ้าหากทั้งสามคนนี้สามารถที่จะขึ้นครองตำแหน่งผู้นำตระกูล ในสามตระกูลใหญ่ของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ได้ บางทีทั้งสามตระกูลอาจจะหลอมรวมใจเป็นหนึ่งได้ ควบคู่ไปกับการสรรสร้างผู้มีพรสวรรค์ขึ้นมา นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์อาจจะไปสู่ความรุ่งเรืองได้อีกครั้ง!”

‘ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’เริ่มที่จะมองเห็นสายลมแห่งความหวังที่พัดผ่านเข้ามา

ก่อนที่’เนี่ยลี่’จักเข้ามาในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์  นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์มีแต่เมฆหมอกปกคลุม คนหนุ่มสาวของตระกูลใหญ่ต่างวางแผนที่จะชิงดีชิงเด่น หาได้สนใจคนทั่วๆไป

ก่อนหน้านี้’กู้เบ่ย’ก็ปกปิดความสามารถที่แท้จริงเอาไว้ ส่วน’หลงยู่อิน’ก็มิได้สนใจที่จะเข้าชิงตำแหน่งผู้นำตระกูล แต่หลังจากที่’เนี่ยลี่’ได้เข้ามาที่นี่ ส่งผลให้ ‘หลงยู่อิน’ ‘กู้เบ่ย’ และ’หลี่ชิงอวิ๋น’ มีอิทธิพลเพิ่มมากขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบบางอย่างที่ดีขึ้น

ผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลของทั้งสามตระกูลใหญ่ ที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกัน แต่’เนี่ยลี่’กลับทำให้พวกเขามาอยู่รวมกันได้

“ในเมื่อเจ้านั้นมุ่งมั่นที่จักทำเช่นนี้ ข้าก็จักให้การสนับสนุนแก่เจ้า ”

‘ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’หลีกเลี่ยงที่จะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายในมานานหลายปี ในใจของเขายังอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น

ดวงจิตอีกสี่ดวงก็หายวับไป ‘ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น’ยิ้มเล็กน้อย ถ้าหากว่าเป็นคนที่จริงใจ คนอื่นก็จักรับรู้ได้ถึงความจริงใจนั้น เขาเองก็ไม่รู้ว่าผู้ยิ่งใหญ่อีกสี่คน จักรับรู้เช่นเดียวกับเขาหรือไม่ เขาไม่รู้ว่าความจริงใจของ’เนี่ยลี่’นั้นจักสร้างความประทับใจให้คนทั้งสี่หรือไม่

แต่ทว่าในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์นั้นยังคงให้ความเคารพผู้ที่มีความแข็งแกร่ง ถ้าหากว่า ‘หลงยู่อิน’ ‘กู้เบ่ย’ และ’หลี่ชิงอวิ๋น’ ไม่อาจฝ่าผ่านกำแพงมาได้ ทุกอย่างก็จักไร้ประโยชน์ไปในทันที

ในตอนนี้’เนี่ยลี่’ยังคงอยู่ในห้องพัก หลังจากที่’หลงซูอวิ๋น’และ’หลงยู่อิน’กลับไปแล้ว ‘เนี่ยลี่’ยังคงจ้องมองไปยังความว่างเปล่า

การที่ยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรปรากฏตัวมาที่นี่ เขาไม่รู้ว่ามีอะไรแอบแฝงอยู่หรือไม่ เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์จักไม่สัมผัสได้ถึง ความปั่นป่วนของจิตวิญญาณที่เกิดขึ้นที่นี่เลยเหรืออย่างไร การเกิดเรื่องเช่นนี้ในสถาบันวิญญาณฟ้า พวกเขาก็ควรที่จะเป็นกังวลบ้าง เพราะสำหรับนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์แล้ว สถาบันวิญญาณฟ้าเป็นที่รวมตัวของคนรุ่นใหม่ที่มีพรสวรรค์อยู่เป็นจำนวนมาก

ถึงอย่างไรก็ตาม มันก็เป็นแค่การคาดเดาของ’เนี่ยลี่’ จากนี้ไปเขาจักต้องระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น โชคดีที่ ‘หลงซูอวิ๋น’นั้นไม่ได้มีเป้าหมายที่จะกำจัดเขา ไม่เช่นนั้นเรื่องที่ตามมาจักต้องร้ายแรงยิ่งนัก เขาจักต้องรีบนำชะตาวิญญาณไปฝากไว้ที่ห้องโถงวิญญาณ และต้องระวังอีกเรื่องคือ ในกรณีที่’อาจารย์อู๋เหยี่ยน’ส่งมือสังหารมากำจัดเขาจริง ๆ จักได้ไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้

‘เนี่ยลี่’ครุ่นคิดครู่หนึ่ง จริงๆแล้วตอนนี้เขาเองก็ร่ำรวยยิ่งนัก เขาควรที่จะซื้อที่พักในสถาบันวิญญาณฟ้าไว้หลายสิบหลัง ดั่งเช่นกระต่ายเจ้าเล่ห์มีสามโพรง狡兔三窟:สำนวนจีนหมายถึงคนฉลาดมักมีที่ซ่อนตัวหลายแห่ง เขาก็จักไม่ถูกลอบสังหารได้โดยง่าย

รุ่งอรุณของวันใหม่ได้มาถึง ‘เนี่ยลี่’ออกไปจัดการเรื่องดังกล่าวจนเสร็จสิ้นแล้ว แม้แต่’เซี่ยวหยู่’และ’ลู่เพียว’ก็ยังไม่ทราบเรื่อง

‘เนี่ยลี่’ได้นำชะตาวิญญาณไปฝากที่ห้องโถงวิญยาณเรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปเขาก็ออกไปโลกภายนอกได้อีกครั้ง

‘หลี่ชิงอวิ๋น’ ‘กู้เบ่ย’ ‘ลู่เพียว’ รวมไปถึง’เนี่ยลี่’มารวมกันตรงบ้านพักของ’เซี่ยวหยู่’

‘เนี่ยลี่’มองไปที่’เซี่ยวหยู่’และคิดที่จะทักทาย แต่ว่า’เซี่ยวหยู่’กลับทำหน้าบึ้งตึงและหันหน้าหลบไป

‘เนี่ยลี่’เอานิ้วถูจมูกตนเอง แม้ว่าจะมีผู้หญิงมาใกล้ชิดกับเขาสักกี่คนก็ไม่เห็นว่า’หนิงเอ๋อ’จักพูดสิ่งใด แต่’เซี่ยวหยู่’กลับมีท่าทีถึงเพียงนี้มันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ? ‘เนี่ยลี่’ถึงกับพูดอะไรไม่ออก

 “ด้วยความช่วยเหลือของเหอกุ้ย พวกเราจึงไล่ล่าพวกกู้เหิงได้ถึงสามครา แต่ว่ากู้เหิงนั้นเป็นยอดฝีมือระดับดาราสวรรค์ หลังจากที่ถูกเราไล่ล่ามาห้าวัน เขาก็อาจที่จะฟื้นฟูชะตาวิญญาณขึ้นมาใหม่ได้แล้วสักดวงหนึ่ง ในตอนนี้ระดับของเขาก็คงจะคืนมาหนึ่งระดับ แต่ถึงอย่างไร ก็ไม่น่าจะที่เกินกว่าระดับดาราสวรรค์ขั้นที่สาม และด้วยการสร้างสถานการณ์ของพวกเรา ทำให้กู้เหิงเริ่มที่จะสงสัยไฉเยว่มากยิ่งขึ้น”

‘กู้เบ่ย’บอกกับ’เนี่ยลี่’พร้อมกับหัวเราะ

“ในตอนนี้ชะตาวิญญาณของเจ้า ก็ฟื้นฟูจนสมบูรณ์แล้ว เราก็ควรที่จะไปจัดการกับทะเลสาบแห่งเทพของกู้เหิงกันได้แล้ว!”

“ดี!”

‘เนี่ยลี่’พยักหน้าและมองไปที่’กู้เบ่ย’พร้อมกับยิ้ม

“แล้วในตอนนี้กองกำลังอสูรเป็นเช่นใดบ้าง?”

“หลังจากการประลองที่ผ่านมา พวกเราได้แจ้งออกไปว่า เจ้านั้นเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังอสูร หลังจากนั้นก็มีคนมาขอเข้าร่วมกองกำลังของเราจำนวนมาก มีแม้แต่ยอดฝีมือระดับดาราสวรรค์ และยอดฝีมือระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์อีกด้วย ในตอนนี้กองกำลังของเรามีกำลังกว่าหกพันคน”

‘กู้เบ่ย’ยิ้มและพูดต่ออีกว่า

“แม้ว่าคนพวกนี้เพิ่งจะมาเข้าร่วมกับกองกำลังของเรา เราก็ได้ทำการทดสอบความภักดีหมดแล้ว ความแข็งแกร่งของกองกำลังอสูรของพวกเรา นับได้ว่าแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วนัก”

‘หลี่ชิงอวิ๋น’ที่อยู่ข้าง ๆ เมื่อได้ยิน ก็อดที่จะแอบชื่นชมมิได้ แค่เพียงเวลาสั้น ๆ ก็สามารถที่จะรับคนเข้ากองกำลังได้มากมาย การขยายตัวของกองกำลังอสูรนั้นรวดเร็วยิ่งนัก ไม่ต้องคำนึงถึงจำนวน แค่เพียงความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว ก็ทัดเทียมกับกองกำลังเส้นทางสวรรค์ของเขาแล้ว

ในกองกำลังของเหล่าคนรุ่นใหม่ กองกำลังอสูรจักต้องอยู่ในสิบอันดับแรกแน่นอน

นอกจากนี้’หลี่ชิงอวิ๋น’ยังได้ยินมาอีกว่า ‘หลงยู่อิน’นั้นได้ก่อตั้งกองกำลังเสียงเร้นลับ 玄音:เหี่ยงอิน ว่ากันว่าแค่เพียงเริ่มจัดตั้งขึ้นมา
ก็มียอดฝีมือระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์นับร้อยคนได้เข้าร่วม

แม้แต่ผู้อาวุโสบางคนที่อยู่ในระดับวิถีแห่งมังกร ก็ยังให้การสนับสนุนกองกำลังเสียงเร้นลับ เป็นอย่างดี กองกำลังเสียงเร้นลับนี้ก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนใหญ่โตกว่ากองกำลังเส้นทางสวรรค์เสียอีก และเทียบได้กับกองกำลังอันดับห้าแล้ว

แม้ว่ากองกำลังของ’หลงเทียนหมิง’ ‘หลี่ยื่อฟง’ ‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ ‘กู้เหิง’ จักยังเป็นกองกำลังที่ใหญ่กว่า แต่แนวโน้มการเติบโตขึ้นของกองกำลังก็เกินกว่าที่ใครจะคาดหมายได้

สิ่งที่ทำให้’หลี่ชิงอวิ๋น’ตื่นเต้นมากที่สุดก็คือ กองกำลังเส้นทางสวรรค์ กองกำลังอสูร และกองกำลังเสียงเร้นลับ ซึ่งเป็นของผู้สืบทอดของทั้งสามตระกูลใหญ่ร่วมมือกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จากเรื่องที่ว่ามานี้ในภาคหน้าจักเกิดอะไรขึ้น ก็คงไม่อาจที่จะคาดเดาได้………………

จบตอน

แปลโดย นายมะพร้าว

คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments