ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปไม่ว่า’เซี่ยวหยู่’จักดิ้นรนเช่นใด ก็ไร้ประโยชน์ เขาทำได้เพียงแค่จับต้องมองดูและยอมรับชะตากรรมของตนเอง
หลังจากที่รักษาแผลทางด้านหลังจนหมดแล้ว ‘เนี่ยลี่’ก็พยุง’เซี่ยวหยู่’ขึ้น และนำไปนั่งพิงที่ต้นไม้
ทันใดนั้น ‘เนี่ยลี่’ก็นิ่งราวกับว่ามีบางสิ่งที่ดึงดูดสายตาของเขา
‘เซี่ยวหยู่’นั้นรูปร่างบอบบางยิ่งนัก หน้าอกของเขาแบนเรียบ แม้ว่าจะมีรอยไหม้แต่ก็ไม่ได้สาหัสนัก ยังสามารถมองเห็นผิวที่ขาวเนียนได้
ที่หน้าอกของเขานั้นหาได้มีบาดแผลเลยแม้แต่น้อย แต่ที่บนหน้าอกสีขาวของเขานั้น มีรอยสักลึกลับอยู่
รอยสักนี้ ดูแล้วซับซ้อนยิ่งนัก ราวกับว่าเป็นลวดลายจารึกระดับสูง
แม้แต่’เนี่ยลี่’เอง ก็ไม่อาจที่จะเข้าใจได้ แต่’เนี่ยลี่’คิดว่า รอยสักนี้จักต้องเกี่ยวข้องกับชาติกำเนิดของ’เซี่ยวหยู่’ก็เป็นได้
แหวนที่มีพลังในการผันแปรพื้นที่และเวลาได้ รวมไปถึงรอยสักจารึกลึกลับ ‘เนี่ยลี่’คิดว่า ชาติกำเนิดของ’เซี่ยวหยู่’จักต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่
เมื่อ’เนี่ยลี่’มาอยู่ตรงหน้า แก้มของ’เซี่ยวหยู่’ก็แดงลงไปจนถึงลำคอ เขาขยับหัวได้แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่า พวกเรานั้นต่างก็เป็นชาย ทำไมจักต้องเขินอายด้วย!”
‘เนี่ยลี่’พูดพร้อมกับยักไหล่
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ’เนี่ยลี่’
‘เซี่ยวหยู่’ก็ยังรู้สึกไม่พอใจเช่นเดิม‘เนี่ยลี่’ค่อย ๆ ทำการรักษา’เซี่ยวหยู่’ เขาทายาไปจนทั่วจากนั้นก็ค่อยๆนวด เขาพยายามรักษาแผลทุกจุดด้วยความตั้งใจ
‘เนี่ยลี่’บรรจงรักษาบาดแผลอย่างตั้งใจ เขาไม่รู้ว่า’เซี่ยวอยู่’คิดอะไรอยู่ จึงได้จ้องมองตาไม่กระพริบ
“ข้าขอได้ไหม อย่าได้จ้องมองข้าด้วยสายตาเช่นนี้? มันทำให้ข้ากลัวรู้ไหม”
‘เนี่ยลี่’รู้สึกเสียวสันหลัง นี่’เซี่ยวหยู่’มิได้เป็นคนจำพวกที่ชอบผู้ชายด้วยกันหรอกนะ
แต่’เนี่ยลี่’ก็ยังคงรักษาบาดแผลให้’เซี่ยวหยู่’จนหายดี เหลือเพียงพื้นที่ส่วนตัวบางส่วน ที่’เซี่ยวหยู่’จักต้องทำการรักษาด้วยตัวเองเท่านั้น
‘เนี่ยลี่’เตรียมที่จะคลายจุดให้’เซี่ยวหยู่’ เขาก้มหน้ามองที่หน้าอกของ’เซี่ยวหยู่’ เพื่อมองดูลวดลายจารึกลึกลับที่อยู่บนหน้าอกของ’เซี่ยวหยู่’อีกครั้ง
‘เนี่ยลี่’เริ่มที่จะรับรู้ถึงความปั่นป่วนของลมปราณลึกลับ ที่แผ่ออกมาจากลวดลายจารึกลึกลับบนหน้าอกของ’เซี่ยวหยู่’ ราวกับว่าเวลาที่อยู่รอบๆได้หยุดนิ่งลงไป
เมื่อเขาจับจ้องรอยสักนี้ ราวกับว่าถูกดึงดูดด้วยพลังบางอย่างจนไม่อาจที่จะละสายตาออกไปได้
ในใจของ’เนี่ยลี่’เต็มไปด้วยความไคร่รู้ ลวดลายจารึกบนหน้าอกของ’เซี่ยวหยู่’คืออะไรกันแน่?
‘เนี่ยลี่’เอื้อมมือออกไปโดยไม่รู้สึกตัว เพื่อที่จะสัมผัสไปที่ลวดลายจารึกบนหน้าอกของ’เซี่ยวหยู่’
ในตอนนี้ร่างกายของเขาราวกับว่าไม่ยอมรับคำสั่งของเขาอีกต่อไป ราวกับว่าถูกพลังงานลึกลับบางอย่างควบคุมอยู่
“อ่า..อ่า..อ่า..อ่า..อ่า”
‘เซี่ยวหยู่’พยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง
แต่ทว่า ราวกับ’เนี่ยลี่’ไม่ได้รับรู้ถึงการทักท้วงจากเขาเลย มือขวาของเขานั้นได้สัมผัสกับลวดลายจารึกบนหน้าอกของ’เซี่ยวหยู่’แล้ว
ตูมม!
พลังงานลึกลับพุ่งออกมาราวกับคลุ้มคลั่ง ลวดลายจารึกบนหน้าอกทำการหมุนวนอย่างรวดเร็ว ลวดลายจารึกราวเคลื่อนไหวกับว่าเป็นห่วงโซ่เข้ามารัด’เนี่ยลี่’จากทุกทิศทาง
ราวกับว่าถูกกระชากลงไปในน้ำวน’เนี่ยลี่’ถูกดึงจิตสำนึกเข้าไปด้านใน จิตสำนึกหายไปจากร่างกายของ’เนี่ยลี่’โดยสมบูรณ์
เวลาราวกับว่าผ่านไปเนิ่นนาน
จิตสำนึกของ’เนี่ยลี่’ที่ถูกดึงเข้ามาด้านในนั้นเริ่มที่จะได้สติ
เขานั่งลงเงียบๆและมองดูพื้นที่ว่างเปล่าที่ไร้พรมแดนโดยรอบ ความว่างเปล่าที่น่าหวาดกลัวราวกับว่าพุ่งมาจากทุกทิศทาง
“ข้าอยู่ที่ไหนกันแน่?”
‘เนี่ยลี่’ขมวดคิ้ว หลังจากที่เขาสัมผัสลวดลายจารึกบนหน้าอกของ’เซี่ยวหยู่’ จากนั้นเขาก็มาอยู่ที่นี่อย่างนั้นหรือฦ
‘เนี่ยลี่’สัมผัสได้ถึงเจตจำนงหนึ่งจากพื้นที่โดยรอบ เมื่อเทียบกับเจตจำนงที่เขามีอยู่ ราวกับว่าเป็นเพียงแค่หยดน้ำที่ร่วงหล่นลงในมหาสมุทร
“ที่นี่คือพื้นที่ ที่ถูกสร้างขึ้นใน ค่ายกลซีหลิง ค่ายกลวิญญาณที่ว่างเปล่า”
เสียงที่แหบแห้งดังมาจากพื้นที่และห้วงเวลาที่ไร้ที่สิ้นสุด
“ค่ายกลซีหลิง งั้นเหรอ?”
‘เนี่ยลี่’ขมวดคิ้ว ที่เขาจำได้เกี่ยวกับค่ายกลซีหลิง มีเพียงผู้ที่บรรลุถึงระดับสูงของเคล็ดวิชา ทำนายสวรรค์ เท่านั้นจึงจักสร้างค่ายกลนี้ได้
เคล็ดวิชา ทำนายสวรรค์ เป็นเคล็ดวิชาต้องห้ามที่ลึกลับยิ่งนัก
จักรพรรดิปราชญ์นั้นเป็นผู้ที่ควบคุมเวลาและพื้นที่ เคล็ดวิชา ทำนายสวรรค์ จึงเป็นเคล็ดวิชาที่ไม่ควรที่จะเรียนรู้
เมื่อใดก็ตามที่สามารถบรรลุระดับสูงของเคล็ดวิชา ทำนายสวรรค์ จักรพรรดิปราชญ์ก็จักสามารถที่จะล่วงรู้ได้ และจักรพรรดิปราชญ์ก็จักทำการล่าสังหารคนผู้นั้น แต่ถึงแม้ว่าจักเป็นเคล็ดวิชาต้องห้าม แต่ก็ยังมีผู้ที่มีอุดมการณ์สูงส่ง ลอบที่จะถ่ายถอดเคล็ดวิชานี้ให้แก่คนรุ่นหลัง จึงทำให้มีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้จักมัน
เคยมีผู้กล่าวเอาไว้ว่า เคล็ดวิชา ทำนายสวรรค์ สามารถที่จะทำให้บรรลุเส้นทางแห่งสวรรค์ได้และจักสามารถที่จะทำลายการตัดผ่านของห้วงเวลาและสถานที่ของจักรพรรดิปราชญ์ได้
แต่ทว่า หลังจากผู้ที่ฝึกเคล็ดวิชา ทำนายสวรรค์ ไปถึงระดับหนึ่งแล้ว จักรพรรดิปราชญ์นั้นก็จักรับรู้ได้ และเขาก็จักถูกสังหาร จึงมีเพียงแค่น้อยคนนักที่จักบรรลุจนที่จักสามารถสร้าง ค่ายกลซีหลิง ได้ ความแข็งแกร่งของคนเหล่านั้นจักต้องสูงส่งยิ่งนัก จนไม่อาจที่จักจินตนาการได้ และไปจนถึงขอบเขตที่อาจจะรับมือจักรพรรดิปราชญ์ได้
“ถูกต้องแล้ว ค่ายกลซีหลิงนี้ ข้าไว้วางเอาไว้ที่ลูกสาวของข้า ก่อนที่ข้าจักตายลงไป แต่นั่นก็ผ่านมานับล้านปีแล้ว ตอนนั้นข้าได้เผชิญหน้ากับจักรพรรดิปราชญ์ และข้าก็ได้พ่ายแพ้ในที่สุด เพื่อที่จะปกป้องชีวิตลูกสาวของข้า ข้าจึงได้ส่งนางข้ามห้วงเวลาและพื้นที่ มาในอีกล้านปีข้างหน้าซึ่งก็คือปัจจุบันนี้ การที่ข้าเลือกยุคสมัยนี้ เพราะข้าได้ทำนายว่าในช่วยเวลาและพื้นที่นี้ จะปรากฏผู้ที่สามารถบรรลุเคล็ดวิชา ทำนายสวรรค์ ในระดับเดียวกับข้า ”
“ลูกสาวของท่านงั้นเหรอ?”
‘เนี่ยลี่’ถึงกับขมวดคิ้วหรือลูกสาวที่ว่าก็คือ’เซี่ยวหยู่’
แม้ว่าเขานั้นจักเคยสงสัยว่า’เซี่ยวหยู่’นั้นเป็นผู้หญิงหรือไม่ แต่’เนี่ยลี่’ก็ไม่อาจที่จะยืนยันได้ ‘เนี่ยลี่’นึกถึงหน้าอกอันแบนราบของ’เซี่ยวหยู่’ ‘เนี่ยลี่’ก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เขาคิดว่าเพียงเท่านี้ก็น่าจะยืนยันว่า’เซี่ยวหยู่’เป็นผู้ชายได้แล้วแท้ๆ
ดูเหมือนว่าคนผู้นี้มิได้สนใจเกี่ยวกับความกังวลในใจของ’เนี่ยลี่’เสียงลึกลับก็ดังขึ้นมาอีกว่า
“แม้ว่าข้าจักไม่รู้ว่ายอดฝีมือผู้นั้นอยู่ที่ไหน แต่ข้าก็สัมผัสได้จากร่างกายของเจ้าว่า มีปราณที่มีกลิ่นอายแห่งห้วงเวลาและพื้นที่อยู่”
ร่างกายของเขา มีกลิ่นอายของห้วงเวลาและพื้นที่อยู่เช่นนั้นหรือ? หรือว่ามันจักเป็นเพราะหน้ากระดาษของหนังจือจิตอสูรท่องเวลาที่เหลืออยู่ หรือว่าจักมีอย่างอื่นอยู่ด้วยเช่นนั้นหรือ?
“ท่านผู้อาวุโส แล้วเหตุใดท่านจึงได้ผนึกค่ายกลซีหลิง ไว้ที่หน้าอกของลูกสาวของท่าน ท่านตั้งใจที่จักทำสิ่งใดกันแน่?”
‘เนี่ยลี่’จ้องไปยังต้นเสียงและเอ่ยถามขึ้นมา
“ข้าและเมียของข้า ก่อนที่พวกเราจะสิ้นใจ พวกเราทำการผนึกค่ายกลซีหลิง เพื่อผนึกพลังของพวกเราไว้ในสายเลือดของลูกสาวของพวกเรา เมื่อเวลาผ่านไป พลังที่ผนึกอยู่ในสายเลือดนี้จักค่อย ๆตื่นขึ้น และลูกสาวของพวกเราก็จักแข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกเรา แต่ด้วยความแข็งแกร่งของนางก็ยังไม่อาจที่จะรับมือกับจักรพรรดิปราชญ์ได้ พวกเราจึงเฝ้ารอจนถึงวันที่จักมีผู้ที่บรรลุเคล็ดวิชา ทำนายสวรรค์ ในระดับสูงปรากฏขึ้นมา ”
“ไม่ทราบว่า ข้านั้นจักช่วยอะไรท่านได้หรือไม่?”
‘เนี่ยลี่’เอ่ยถามหลังจากที่ครุ่นคิด การที่ค่ายกลซีหลิงดึงดูดเขามาข้างใน ยอดฝีมือผู้นี้จักต้องมีเป้าหมายอะไรบางอย่าง ซึ่งเป้าหมายนี้จักต้องเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง
“แม้ว่าข้านั้นจักไม่ทราบชาติกำเนิดของเจ้า แต่ข้ารู้สึกว่าเจ้ากับลูกสาวของข้านั้นมีความสัมพันธิ์ที่ไม่ปกตินัก”
เสียงดังกล่าวพูดออกมา
แค่ก แค่ก
‘เนี่ยลี่’อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอับอาย เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่านางเป็นผู้หญิง แต่ในตอนนี้เขานั้นรู้ดีแล้วว่านางเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขินอาย เพราะเขานั้นเพิ่งจะสัมผัสร่างกายของ’เซี่ยวหยู่’จนทั่ว
“จริง ๆ แล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเรานั้นก็แค่สหายที่ดีต่อกันเท่านั้น”
‘เนี่ยลี่’ตอบกลับไปอย่างเขินอายเล็กน้อย
“เมื่อเจ้านั้นเป็นสหายที่ดีกับลูกสาวของข้า ข้าจึงอยากที่จะมอบความไว้วางใจให้เจ้าทำสิ่งหนึ่ง”
เสียงลึกลับเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
“ท่านอาวุโสโปรดเอ่ยมา ตราบเท่าที่ข้าสามารถทำได้ ข้าจักพยายามทำอย่างสุดความสามารถ!”
‘เนี่ยลี่’รีบตอบกลับไปทันที เนื่องจากความสัมพันธ์อันดีของเขากับ’เซี่ยวหยู่’และ’เซี่ยวหยู่’ก็ได้ช่วยเหลือเขา ที่สำคัญเขานั้นเพิ่งจะสัมผัสร่างกายของนาง ถ้าหากว่าเขายังปฏิเสธคำร้องขอจากพ่อของนาง เขาจักต้องถูกมองว่าเป็นคนที่เลวทรามยิ่งนัก………..
จบตอน
แปลโดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: