I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 388 生门 ประตูเซิงเหมิน ประตูแห่งชีวิต

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 2537 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

‘อู๋หยาจื่อ’รู้แล้วว่า’เนี่ยลี่’นั้นกำลังเล่นสนุกกับเขา แต่เขาก็ยังคงแกล้งทำเป็นว่าไม่รู้อะไร และไม่พูดอะไรออกมา ‘เนี่ยลี่’ก็ยังคงตั้งใจที่จะยั่วยุ’อู๋หยาจื่อ’ต่อไป

หลังจากนั้นพวกเขาก็ยังคงเปิดหีบสมบัติต่อ จนแต่ละคนได้เปิดคนละห้าใบแล้ว ‘เนี่ยลี่’และ’เซี่ยวหยู่’ได้ของวิเศษระดับเจ็ดไปหลายอย่าง ศิลาแก่นแท้จิตวิญญาณทองคำ ศิลาเทพโลหิตสีชาด เป็นศิลาที่หาได้ยาก และล้ำค่ายิ่งนัก ส่วน’อู๋หยาจื่อ’นั้นยังคงพบกับหุ่นเชิดเกราะทองคำเป็นตัวที่ห้า และตัวที่หก

‘อู่หยาจื่อ’นั้นแทบจะหลั่งน้ำตา

‘เนี่ยลี่’ไม่ยอมปล่อยให้เขาได้สมบัติแม้เพียงสักชิ้น นี่มันช่างใจร้ายเกินไปแล้ว!

ถ้าหากเขารู้ว่ามันจักเป็นเช่นนี้แล้วตัดสินใจที่จะเลือกแบ่งสมบัติเท่า ๆ กัน เขาก็จักได้รับไปถึงหนึ่งในสามใช่หรือไม่?

‘เนี่ยลี่’เดินอ้อมกับดัก และไปยืนอยู่ข้าง’เซี่ยวหยู่’ และพูดออกมาว่า

“ส่งสมบัติที่เจ้าได้มาให้กับข้า  แล้วข้าจักคืนให้เจ้าในภายหลัง!”

“อืม”

‘เซี่ยวหยู่’พยักหน้าตอบ และมอบของทุกอย่างให้แก่’เนี่ยลี่’โดยที่ไม่ลังเล เพราะถึงอย่างไร ถ้าหากไม่ได้เป็นเพราะ’เนี่ยลี่’แล้ว นางก็ไม่มีทางที่จักได้รับของพวกนี้อยู่แล้ว

‘เนี่ยลี่’นำของที่ได้รับมาจาก’เซี่ยวหยู่’ เก็บไว้ในจิตกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ

ของทุกอย่างที่พวกเขาได้รับมาจักถูกเก็บไว้ในจิตกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ และถึงจะถูก’อู่หยาจื่อ’สังหาร พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลว่าของเหล่านี้จักถูกแย่งชิงไป

‘เนี่ยลี่’หันไปบอกกับ’อู่หยาจื่อ’ว่า

“ในเมื่อเจ้านั้นโชคร้ายนัก และยังไม่รับรับสิ่งใด หีบสมบัติที่เหลืออีกสิบกล่อง ข้าจักให้เจ้าเป็นผู้เปิดทั้งหมด”

‘อู่หยาจื่อ’หันไปมองที่’เนี่ยลี่’อย่างรวดเร็วหรือ’เนี่ยลี่’จักสำนึกผิดที่กลั่นแกล้งเขา หรือว่าหีบสมบัติอีกสิบใบนั้นจักไม่มีของสิ่งใดที่ล้ำค่าแล้ว? แต่ถึงอย่างไร’อู๋หยาจื่อ’ก็ต้องการที่จะเปิดออกดูทั้งสิบใบ

จากคำบอกกล่าวของ’เนี่ยลี่’

‘อู๋หยาจื่อ’ก็ไปถึงหน้าหีบสมบัติใบต่อไป และก็ยังคงมี หุ่นเชิดเกราะทองคำ ออกมาเช่นเคย

ตูมม!

‘อู๋หยาจื่อ’ทำลายมันไปอีกครั้ง

ใบที่สอง ใบที่สาม ใบที่สี่ ใบที่ห้า…

ทุกใบล้วนแต่มีหุ่นเชิดเกราะทองคำอยู่ข้างใน ‘อู๋หยาจื่อ’นั้นทำได้แต่เพียงรู้สึกเศร้าใจ

เมื่อเขาไปถึงหีบสมบัติใบที่หก และในที่สุดหีบสมบัติใบที่หกนี้ มิได้มีหุ่นเชิดเกราะทองคำอยู่ข้างใน เขาเห็นด้านในหีบสมบัติ ที่ด้านล่างนั้นมี ศิลาแก่นแท้จิตวิญญาณทองคำอยู่

ศิลาแก่นแท้จิตวิญญาณทองคำหนึ่งก้อน

น้ำตาของ’อู๋หยาจื่อ’รินไหลออกมา ทำไม’เนี่ยลี่’และ’เซี่ยวหยู่’เปิดออกมาจึงได้รับอย่างน้อยก็สิบก้อน แต่ทำไมเขากลับได้เพียงแค่ก้อนเดียวเท่านั้น

เมื่อ’อู๋หยาจื่อ’ได้เปิดหีบสมบัติทั้งสิบใบแล้ว เขาได้รับศิลาแก่นแท้จิตวิญญาณทองคำหนึ่งก้อนและศิลาเทพโลหิตสีชาดจำนวนสองก้อน ซึ่งของเหล่านี้หากนำออกไปข้างนอกได้ก็จักล้ำค่ายิ่งนัก แต่ทว่าเมื่อเทียบกับสิ่งที่’เนี่ยลี่’และ’เซี่ยวหยู่’ได้รับไป มันช่างแตกต่างกันมากเกินไป

“การเก็บเกี่ยวครั้งนี้ช่างดียิ่งนัก อู๋หยาจื่อ เซี่ยวหยู่ เดี๋ยวข้าจะบอกให้พวกเจ้า เดินไปที่หีบสมบัติแต่ละใบจากนั้นก็จงปิดมันซะ!”

“ทำไมพวกเราจักต้องปิดมันด้วย?”

“อีกไม่นาน จักมีคนจำนวนมาเข้ามาในตำหนักซีอิงเสิ่น หีบสมบัติที่ปิดอยู่จักช่วยลดจำนวนศัตรูของพวกเราลงไปได้”

‘เนี่ยลี่’ตอบกลับไป แม้ว่าจักเป็นวิธีการที่ต่ำช้า แต่ว่ามีมนุษย์และพวกเผ่าอสูรจำนวนมาก ถ้าหากสามารถทำให้พวกนั้นติดกับดักได้ ก็จักเบาแรงไปไม่น้อย

หลังจากได้ยินคำพูดของ’เนี่ยลี่’ ‘อู๋หยาจื่อ’ และ’เซี่ยวหยู่’ก็เข้าใจ ภายใต้การบอกทางของ’เนี่ยลี่’ พวกเขาก้ได้ปิดหีบสมบัติทั้งหมดไว้เช่นเดิม

จากนั้นทั้งสามคนก็ออกจากห้องโถงด้านข้างนี้ และทะยานไปสำรวจตรงส่วนอื่น

หลังจากที่ทั้งสามคำได้สำรวจรอบ ๆ ห้องโถงด้านข้างที่ผ่านมาแล้ว ยังได้พบสมบัติอีกมากมาย และมีศิลาจิตวิญญาณอีกราวห้าถึงหกหมื่นก้อน และนอนว่ามันช่างตื่นตาตื่นใจไม่น้อย

พวกเขานั้นตรวจสอบพื้นที่ในตำหนักซีอิงเสิ่นส่วนนี้ และเหลือทิ้งไว้ราวหนึ่งส่วน

สำหรับสมบัติที่หามาได้ พวกเขาแบ่งออกเป็นสามส่วนเท่า ๆ กัน

ซึ่งสมบัติในส่วนของ’เซี่ยวหยู่’นางก็ส่งมันให้กับ’เนี่ยลี่’และนำไปเก็บไว้ในจิตกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ

‘อู๋หยาจื่อ’ตบไหล่’เนี่ยลี่’และพูดว่า

“พวกเจ้าราวกับเป็นพี่น้องที่ผูกพันกันดีนะ นางเชื่อในสิ่งที่เจ้าพูด และยังมอบสมบัติทุกอย่างให้แก่เจ้า! ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ควรที่จักทำตัวเป็นพี่ชายที่ดี ดูแลนางให้ดีหล่ะ!”

“แน่นอน!”

‘เนี่ยลี่’พยักหน้าตอบ

หลังจากได้ยินคำสนทนาของ’เนี่ยลี่’กับ’อู๋หยาจื่อ’ใบหน้าของ’เซี่ยวหยู่’ก็แดงขึ้นเล็กน้อย ‘เนี่ยลี่’เองนั้นก็รู้แล้วว่าเขานั้นเป็นสตรี แล้วทำไมจึงต้องไปตอบรับคำพูดของ’อู๋หยาจื่อ’เช่นนั้น?

‘เนี่ยลี่’นั้นหาได้สนใจกับคำพูดของ’อู๋หยาจื่อไม่’ เขามองไปยังใจกลางของตำหนักซีอิงเสิ่น และพูดขึ้นมาว่า

“ข้าพบทางที่จักไปต่อแล้ว พวกเจ้าตามข้ามา!”

หลังจากได้ยินคำพูดของ’เนี่ยลี่’

‘อู๋หยาจื่อ’ถึงกับตาลุกวาว ในที่สุดพวกเขาก็จักสามารถเข้าไปยังห้องโถงใหญ่ของตำหนักซีอิงเสิ่นได้

ทั้งสามคนทะยานออกไป และลงไปยังด้านหน้าของประตูหิน

“ตำหนักซีอิงเสิ่นนั้น เป็นค่ายกลขนาดใหญ่ ซึ่งในห้องโถงใหญ่นั้นจักมีประตูหินอยู่นับร้อยบาน และหนึ่งในนั้นจักเรียกว่า ประตูเซิงเหมิน 生门:ประตูแห่งชีวิต ซึ่งแต่ละบ้านนั้นจักหน้าตาเหมือนกันทั้งหมด พวกเราจักต้องหา ประตูเซิงเหมินให้เจอและเข้าไปด้านใน”

“ประตูเซิงเหมินมีเพียงบานเดียวจากประตูหินนับร้อย เจ้าจักตรวจสอบมันได้อย่างไร? ตำหนักซีอิงเสิ่นนั้นเป็นดั่งค่ายคลขนาดใหญ่เช่นนั้นหรือ? ทำไมข้าไม่อาจที่จักดูออกเลยแม้แต่น้อยหล่ะ?”

‘อู่หยาจื่อ’ถามพร้อมกับจ้องมอง แม้ว่า’อู๋หยาจื่อ’จักไม่ชอบการเรียนรู้ แต่กับเรื่องค่ายกลนั้นเขาก็พอที่จะมีความรู้อยู่บ้าง เนื่องจากสายเลือดจิ้งจอกเลือดศักดิ์สิทธิ์ของของเขานั้น สืบทอดความรู้เกี่ยวกับค่ายกลมาอย่างมากมาย เขาจึงสามารถที่จะมองออกได้บางส่วน แต่เขากลับมองไม่เห็นความเป็นค่ายกลของตำหนักซีอิงเสิ่นเลยแม้แต่น้อย

“แค่เชื่อที่ข้าพูดก็พอ!”

‘เนี่ยลี่’ตอบกลับไป เขาเอื้อมมือไปที่ประตูหิน จากนั้นก็ค่อย ๆ เปิดมันออก

ไม่มีสิ่งใดนอกจากประตูหินบานนี้ และไม่มีค่ายผลผนึกใด ๆอยู่

เมื่อมองเข้าไป มองเห็นเพียงทางเดินที่มืดมิด มีสายลมเย็นยะเยือกพัดผ่านมาที่ประตู ทำให้รู้สึกขนลุกเล็กๆน้อย ๆ

“ไปกันเถอะ!”

‘เนี่ยลี่’พูดขึ้นมา และเดินไปตามทางเดินอย่างสงบ

‘เซี่ยวหยู่’เดินตามไปทันที

‘อู๋หยาจื่อ’นั้นลังเลอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็ตามเข้าไป

หลังจากนั้นราวหนึ่งชั่วยาม ด้านนอกของตำหนักซีอิงเสิ่นก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง กำแพงที่มองไม่เห็นก็มีรอยแตกกระจายไปทั่ว

เมื่อไร้ซึ่งการป้องกันจากค่ายกลลวงตา ก็ไม่มีสิ่งใดที่จะขวางกั้นเหล่ายอดฝีมือจำนวนมากที่อยู่ด้านนอกได้

เหล่ายอดฝีมือหลายหมื่นคน จู่โจมเข้าใส่รอยแยกของกำแพงที่มองไม่เห็น ในที่สุดรอยแยกพวกนั้นก็แตกกระจายออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นมันก็ถูกพังลงไป

“ในที่สุดมันก็พังลงแล้ว!”

“ตามข้าเข้าไปด้านใน!”

เหล่ายอดฝีมือจำนวนมาก พุ่งเข้าไปยังตำหนักซีอิงเสิ่น

เหล่ายอดฝีมือรีบวิ่งไปยังห้องโถงด้านข้าง เนื่องจากพวกเขายังไม่อาจที่จะเข้าไปยังในส่วนห้องโถงใหญ่ได้ ดังนั้นจึงรีบสำรวจห้องสมบัติที่อยู่ใกล้ ๆ ก่อน หลังจากนั้นไม่นาน การต่อสู้เพื่อแย่งชิงสมบัติก็เริ่มขึ้น

สำหรับในห้องโถงด้านข้างนั้น พวก’เนี่ยลี่’ได้นำเอาสมบัติล้ำค่าออกไปหมดแล้ว แต่สำหรับห้องโถงด้านอื่น ๆ พวกเขายังคงทิ้งสมบัติบางส่วนเอาไว้ เพื่อให้เหล่ายอดฝีมือพวกนี้ ทำการต่อสู้แย่งชิงกัน

‘หลงเทียนหมิง’และ’หลงลิ่ว’ก็มีส่วนร่วมในการต่อสู้แย่งชิงครั้งนี้ด้วย แต่จำนวนของฝ่ายตรงข้ามมีมากเกินไป พวกเขาทำได้เพียงแค่
แอบไปหยิบเอาศิลาแก่นจิตวิญญาณมาได้เพียงไม่กี่ก้อน ซึ่งก็หาได้มีความหมายกับพวกเขาสักเท่าใดนัก

“มีพลังงานสวรรค์จำนวนมากเอ่อล้นมาจากห้องโถงด้านข้างนั่น”

‘หลงเทียนหมิง’ที่ตรวจสอบบริเวณโดยรอบอยู่ ถึงกับตาเบิกโพลง เขากับหลงลิ่วรีบทะยานไปยังห้องโถงด้านข้างทันที

ที่ประตูห้องโถงด้านข้างเต็มไปด้วยยอดฝีมือจากหลายสำนักและหลายตระกูล

ที่ด้านในห้องโถงด้านข้างนี้

เต็มไปด้วยหีบสมบัติที่ทำจากทองคำและหยกอยู่กว่ายี่สิบใบ แผ่พลังสวรรค์ออกมาจนถึงกับทำให้พวกเขาหัวใจเต้นรัว…………..

จบตอน

แปลโดย นายมะพร้าว

คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments