I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 390 银色命魂 ชะตาวิญญาณสีเงิน

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 2537 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

‘เนี่ยลี่’ถ่ายทอดพลังงานสวรรค์ลงไปในอักษรจารึกลึกลับ เขาพยายามที่จะเชื่อมต่อกับไข่มุกพิษมรกต ในตอนนี้ดูเหมือนว่าไข่ไข่มุกพิษมรกตจะมีจิตวิญญาณบางส่วนของเขาแล้ว

‘เนี่ยลี่’สะบัดมือขวา ไข่มุกพิษมรกต พุ่งไปยัง แมงมุมพิษวารีทมิฬ ที่อยู่ในระดับดาราสวรรค์ตัวหนึ่ง

ฟุ่บบ!

ไข่มุกพิษมรกตฝังอยู่ในร่างของแมงมุมพิษวารีทมิฬตัวนั้น จากนั้นตัวของแมงมุมพิษวารีทมิฬก็กลายเป็นสีเขียว มันก้าวขาได้อีกแค่เพียงไม่กี่ก้าว แล้วอ่อนแรงลงอยู่บนพื้น

แค่เพียง’เนี่ยลี่’คิดในใจ ไข่มุกพิษมรกต ก็ลอยออกมาจากร่างของแมงมุมพิษวารีทมิฬ และกลับมาอยู่บนฝ่ามือของ’เนี่ยลี่’ทันที

หลังจากที่เริ่มใช้งานไข่มุกพิษมรกต ‘เนี่ยลี่’รับรู้ได้ว่าลูกปัดสามารถใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาของพิษได้ ‘เนี่ยลี่’เองเริ่มที่จะกลัวการสัมผัสไข่มุกพิษมรกตโดยตรง เพราะไข่มุกพิษมรกตนั้นมีความเป็นพิษอยู่มากเกินไป แม้แต่’เนี่ยลี่’เองก็ไม่อาจที่จะต้านทานพิษนี้ได้

เมื่อมองเห็นซากศพของแมงมุมพิษวารีทมิฬ นอนตายเป็นสีเขียวเรียงราย ‘อู๋หยาจื่อ’ก็รู้สึกเย็นวูบเล็กน้อย ไข่มุกที่อยู่ในมือของ’เนี่ยลี่’ช่างน่ากลัวยิ่งนัก

เนื่องจากพิษในตัวแมงมุมพิษวารีทมิฬ ทำให้’อู๋หยาจื่อ’ก็ไม่กล้าที่จะสัมผัสตัวพวกมัน แต่ไข่มุกพิษมรกตของ’เนี่ยลี่’ กลับทำให้แมงมุมพิษวารีทมิฬเป็นพิษจนตายได้!

ในตอนที่ออกจากตำหนักซีอิงเสิ่น ถ้าหากไม่อาจเลี่ยงการต่อสู้กับ’เนี่ยลี่’ได้ เขาจะต้องระวังการใช้งานไข่มุกพิษมรกตของ’เนี่ยลี่’ให้ดี

นอกจากไข่มุกพิษมรกตแล้ว’เนี่ยลี่’ก็พยายามที่จะศึกษาชิ้นหยกอสูรด้วยเช่นกัน เขาค่อย ๆทำการถ่ายเทพลังงานสวรรค์เข้าไปในหยกอสูรทีละนิด และทำการเชื่อมต่อกับหยกอสูรอย่างช้า ๆ

หยกอสูรชิ้นนี้สามารถที่จะปิดกั้นสายเลือดอสูรได้ ถ้าหากสามารถใช้งานมันได้ก็จะมีประโยชน์ยิ่งนัก ในตอนที่เขาจะต้องจัดการกับ’อู๋หยาจื่อ’

แต่ทว่า ในตอนนี้ร่างกายของ’เนี่ยลี่’เองก็มีเลือดอสูรอยู่ ถ้าหากเขาใช้ความสามารถในการปิดกั้นสายเลือดอสูร เขาก็ไม่อาจที่จะใช้ความสามารถจากการสังเวยเลือดอสูรได้ สลับการใช้งานได้แต่ใช้งานพร้อมกันไม่ได้

เมื่อทำการเชื่อมต่อกับหยกอสูรอย่างช้า ๆ ‘เนี่ยลี่’ก็สามารถที่จะควบคุมหยกอสูรได้ และสามารถรับรู้ได้ถึงรูปแบบอาคมกว่าสามหมื่นหกพันรูปแบบ เป็นตัวอักษรจารึกกว่าสามหมื่นหกพันตัวอักษรที่ถูกผนึกเอาไว้

ซึ่งจักมีวิธีการใช้งานกว่าสามหมื่นหกพันรูปแบบ ‘เนี่ยลี่’จักต้องศึกษาวิธีการใช้งานให้ถูกต้อง

มีร่องรอยของพลังงานลึกลับออกมาจากหยกอสูร และค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในร่างกายของเนี่ยลี่อย่างช้า ๆ ‘เนี่ยลี่’รับรู้ได้ว่ามันกำลังเข้าไปห่อหุ้มชะตาวิญญาณของเขา และกลายเป็นเกราะคุ้มกันให้กับชะตาวิญญาณของเขาอีกชั้นหนึ่ง

เมื่อพลังจากสมบัติแต่ละชิ้น ทำการผสานกัน ขอบเขตวิญญาณของ’เนี่ยลี่’ก็ ราวกับคลื่นทะเลอันปั่นป่วน

พรึ่บบ!

ชะตาวิญญาณอีกดวงได้ถูกจุดขึ้นมาแล้ว ซึ่งชะตาวิญญาณดวงนี้มีสีเงิน

เป็นชะตาวิญญาณดวงที่แปด!

ตั้งแต่ที่’เนี่ยลี่’ทำการสังเวยเลือดอสูร เขานั้นสามารถบรรลุขึ้นมาถึงสามระดับ แม้ว่าจักเป็นผลจากการเชื่อมต่อเข้ากับหยกอสูรด้วยเช่นกัน แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการสังเวยเลือดอสูรนั้นมีส่วนยิ่งกว่ามากในการเลื่อนระดับในคราวนี้

ในร่างกายของ’เนี่ยลี่’นั้น ยังอยู่ในระดับชะตาสวรรค์ ซึ่งโดยปกติแล้วไม่อาจที่จะครอบครองสมบัติวิเศษพวกนี้ได้ แต่เขาก็ใช้มันค่อยๆเพิ่มระดับพลังให้แก่เขา เป็นแค่การใช้งานส่วนหนึ่งของพวกมันเท่านั้น แต่ก็เพียงพอที่จะทำเนี่ยลี่ทำการเลื่อนระดับได้แล้ว

แต่เขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าชะตาวิญญาณดวงที่แปดของเขาจะเป็นสีเงิน

‘เนี่ยลี่’รับรู้ได้ว่า หากให้การผสานกันของสมบัติวิเศษเหล่านี้ จักขยายขอบเขตวิญญาณของเขาไปจนถึงระดับที่น่ากลัวยิ่งนักและเขาจะแข็งแกร่งขึ้นไปได้อีก!

การบ่มเพาะพลังของเนี่ยลี่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการกระตุ้นของหยกอสูร

อักษรจารึกลึกลับค่อย ๆ เคลื่อนย้ายไปในขอบเขตวิญญาณของ’เนี่ยลี่’อย่างต่อเนื่องทีละตัวอักษร พลังของเขาเริ่มที่จะทะยานไปถึงระดับชะตาสวรรค์ขั้นที่เก้า

อักษรจารึกลึกลับค่อย ๆ มุ่งหน้าไปยังจิตอสูรเงาพราย แพนด้าเขี้ยวอสูร และมังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์ ที่ถูกปิดกั้นเอาไว้ จากนั้นก็เปลี่ยนสภาพกลายเป็นห่วงโซ่ ผูกมัดจิตอสูรทั้งสามตนเอาไว้

จิตอสูรทั้งสามตนพยายามที่จะดิ้นรนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

‘เนี่ยลี่’เองก็ประหลาดใจไม่น้อย จิตอสูรเงาพราย แพนด้าเขี้ยวอสูร และมังกรวารีสายเลือดบริสุทธิ์ ล้วนแต่เป็นจิตอสูร และ หยกอสูรนั้นมีความสามารถในการปิดกั้นพลังของอสูร

ถ้าเช่นนั้นก็เป็นไปได้ที่มันจะไปปิดกั้นพลังของจิตอสูรทั้งสามตนนี้

เมื่อคิดได้ดังนั้น ‘เนี่ยลี่’ก็ถึงกับขมวดคิ้ว เขาเริ่มที่จะเข้าใจเกี่ยวกับอักษรจารึกลึกลับพวกนี้แล้วถ้าหากจิตอสูรทั้งสามถูกผนึกไป
จักเป็นการดีหรือไม่?

‘เนี่ยลี่’กำลังครุ่นคิดระหว่างข้อดี ข้อเสีย หยกอสูรมีความสามารถในการปิดกั้นอสูร แต่การสังเวยเลือดอสูรจักเป็นการเพิ่มพลังให้แก่จิตอสูร ถ้าเช่นนั้น………..

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ‘เนี่ยลี่’ก็ได้ทำการแผ่พลังจากการสังเวยเลือดอสูรเข้าไปยังจิตอสูรทั้งสามตน

หลังจากที่จิตอสูรทั้งสามได้พลังจากการสังเวยเลือดอสูร จิตอสูรทั้งสามก็เริ่มที่จะดิ้นรน

พลังจากเลือดอสูรสายเลือดดั้งเดิมช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!

หลังจากจิตอสูรทั้งสามได้พลังจากการสังเวยเลือดอสูร พลังของจิตอสูรทั้งสามตนก็เพิ่มมากขึ้น

แปดชะตา เก้าชะตา………

หลังจากที่จิตอสูรทั้งสามตน บรรลุถึงระดับสูงสุดของเก้าชะตา จิตอสูรทั้งสามตนก็เริ่มที่จะดิ้นรน เพื่อให้หลุดพ้นจากการควบคุมของ’เนี่ยลี่’ และในขณะเดียวกัน เถาวัลย์ลึกลับในขอบเขตวิญญาณของเนี่ยลี่ก็เติบโตขึ้นเช่นกัน มันพยายามที่จะดึงจิตอสูรทั้งสามตนเอาไว้ที่เดิม

แต่ก็ไม่อาจที่จะหยุดได้ ผลจากเลือดอสูรสายเลือดดั้งเดิมนั้นมีพลังมากเกินไป!

จิตอสูรทั้งสามตนยังคงแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นไปอีก จนในตอนนี้อยู่ในระดับดาราสวรรค์ขั้นที่หนึ่ง จิตอสูรทั้งสามตนดิ้นรนอย่างรุนแรง
ดูเหมือนว่า เถาวัลย์ลึกลับในขอบเขตวิญญาณของเนี่ยลี่ ก็ไม่อาจที่จะต้านทานได้แล้ว

ทันใดนั้น หยกอสูรก็เปร่งแสงออกมา และอักษรจารึกลึกลับก็เริ่มไหลเวียนเข้าไปอีกครั้ง และกลายเป็นโซ่ผูกมัดจิตอสูรทั้งสามตนเอาไว้อีกครั้ง

จิตอสูรทั้งสามตนจึงยังคงผูกมัดไว้ในขอบเขตวิญญาณของ’เนี่ยลี่’

ความแข็งแกร่งของจิตอสูรเกินกว่าที่’เนี่ยลี่’จะควบคุมได้แล้ว มันพยายามที่จะหลบหนีออกจากขอบเขตวิญญาณของ’เนี่ยลี่’ แต่ด้วยหยกอสูร ‘เนี่ยลี่’จึงยังสามารถควบคุมพวกมันเอาไว้มในขอบเขตวิญญาณได้

ด้วยพลังทั้งสอง ทำให้ในขอบเขตวิญญาณของเขามีความสมดุลยิ่งนัก ตอนแรกบอกว่าใช้พร้อมกันไม่ได้ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะใช้พร้อมกัน ผู้แปลก็งงเหมือนกัน

จิตอสูรทั้งสามยังคงเพิ่มระดับความแข็งแกร่งขึ้นไปอีก และหยุดลงตรงที่ระดับดาราสวรรค์ขั้นที่สาม

จริงๆแล้ว’เนี่ยลี่’มีวิธีการมากมายที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่จิตอสูร แต่’เนี่ยลี่’ก็ไม่กล้าที่จะทำ

เนื่องจากมันไม่ได้เพิ่มระดับความแข็งแกร่งให้แก่ตัวเขา และการที่จะควบคุมจิตอสูรที่มีระดับสูงเกินกว่าตัวเองนั้น เป็นเรื่องที่ยากยิ่งนัก แต่ด้วยหยกอสูรที่เขามี จึงยังคงสามารถผนึกพวกมันเอาไว้ได้

ระดับดาราสวรรค์ขั้นที่สามนี้ ยังไม่ใช่ขีดจำกัดของจิตอสูรทั้งสามตน ‘เนี่ยลี่’แค่ทำการปิดกั้นมันเอาไว้ก่อน เพื่อรอจนกว่าการบ่มเพาะพลังของเขาจักคงที่ก่อน

‘อู๋หยาจื่อ’ยังคงทำหน้าที่ในการสังหารแมงมุมพิษวารีทมิฬ เขารับรู้ได้ถึงพลังลมปราณที่’เนี่ยลี่’แผ่ออกมา ภายในชั่วระยะเวลาสั้น ๆ
‘เนี่ยลี่’สามารถที่จะเพิ่มระดับพลังได้ถึงสามระดับ ในตอนนี้เขานั้นอยู่ในระดับชะตาสวรรค์ขั้นแปดชะตาแล้ว

แต่กระทั่งคนที่มีพรสวรรค์ที่สุดในเผ่าอสูรยังต้องหวาดกลัวกับความรวดเร็วนี้

‘อู๋หยาจื่อ’ไม่รู้เลยว่า’เนี่ยลี่’ใช้วิธีไหนกัน?

ด้วยการเลื่อนระดับอย่างรวดเร็วนี้ ทำให้แม้แต่’อู๋หยาจื่อ’ยังต้องรู้สึกกดดัน

‘เซี่ยวหยู่’เองก็มองไปที่’เนี่ยลี่’ด้วยความประหลาดใจ

‘เนี่ยลี่’ทำการบ่มเพาะพลังได้อย่างรวดเร็ว จนนางนั้นต้องตามหลังไป นางเกรงว่าจักไม่อาจที่จะตามระดับการบ่มเพาะของ’เนี่ยลี่’ได้ทัน นางจักต้องรีบเพิ่มระดับพลังของนางให้รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่านี้

“พวกเจ้ามองไปข้างหน้า!”

‘อู๋หยาจื่อ’ชี้ไปข้างหน้าด้วยความตื่นเต้น

หลังจากได้ยินคำพูดของ’อู๋หยาจื่อ’

‘เนี่ยลี่’และ’เซี่ยวหยู่’ก็อดไม่ได้ที่จะมองตามไป พวกเขามองเห็นแสงของทางออก

แม้ว่าจะเป็นแค่เพียงแสงเพียงเล็กน้อย แต่สำหรับ’อู๋หยาจื่อ’นั้น น้ำตาของเขาถึงกับไหล พวกเขานั้นเข้ามาในช่องทางลับนี้เนิ่นนานมาแล้ว และสังหารแมงมุมพิษวารีทมิฬไปมากจนมือแทบจะเป็นตระคริว

‘เนี่ยลี่’และ’เซี่ยวหยู่’ที่เดินมาตามหลังอย่างสบายใจ ไม่อาจที่จะเข้าใจความรู้สึกของเขาได้เป็นแน่! ในที่สุดเขาก็จะได้ปล่อยวางและพักผ่อนแล้ว!

‘เนี่ยลี่’ครุ่นคิดเล็กน้อย เขาคำนวนเวลาที่ใช้ในการเดินผ่านช่องทางลับนี้ ในการเดินทางมายังห้องโถงใหญ่ของตำหนักซีอิงเสิ่น ต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่วยามจึงจะผ่านกำแพงที่มองไม่เห็นมาได้ และต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่าสองชั่วยามในการค้นหา ประตูเซิงเหมิน
นั่นเป็นการคำนวนระยะเวลาที่รวดเร็วที่สุดแล้ว

“ไม่ต้องรีบ พวกเรายังมีเวลาอีกมาก”

‘เนี่ยลี่’ยิ้มและบอกกับพวกของเขา……………

จบตอน

แปลโดย นายมะพร้าว

คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments