ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปเมื่อได้เห็นเช่นนั้น เหล่ายอดฝีมือก็กลับไปเพ่งมองแผ่นกำแพงหยกแก้วเช่นเดิม และพยายามทำความเข้าใจกับอักษาจารึกลึกลับที่อยู่บนแผ่นกำแพงหยกแก้วต่อไป
ทันใดนั้น ‘เนี่ยลี่’ก็รีบเขียนรูปอักษรจารึกลงไปอย่างรวดเร็ว อักษรจารึกเหล่านั้นมีปฏิกิริยากับแผ่นกำแพงหยกแก้วทันที
ในตอนแรกทุกคนต่างคิดว่า’เนี่ยลี่’คิดที่จะทำอะไรบ้าๆ เท่านั้น แต่ทันใดนั้นเอง แผ่นกำแพงหยกแก้วก็เริ่มเปร่งแสงออกมา และตัวของ’เนี่ยลี่’ก็ค่อย ๆ หายไป
“มันเป็นไปได้อย่างไร?”
“หยุดเขาไว้!”
ยอดฝีมือหลายคนพยายามที่จะหยุด’เนี่ยลี่’
แต่ร่างกายของ’เนี่ยลี่’ก็ได้หายเข้าไปในแผ่นกำแพงหยกแก้วแล้วพวกเขาต่างสับสน ว่าทำไมพวกเขาจึงไม่อาจที่จะหาทางเข้าไปในแผ่นกำแพงหยกแก้วได้
อาจจะเป็นไปได้ว่า วิธีการที่จะเข้าไปในแผ่นกำแพงหยกแก้วนั้นมิได้ยากนักเช่นนั้นหรือ? แต่ก่อนหน้านี้ก็มีผู้คนที่พยายามจะลองดูแล้วมิใช่เหรอ? ถ้าหากพวกเขารู้ว่า’เนี่ยลี่’จักรู้วิธีที่เข้าไปได้ พวกเขาคงจะหยุด’เนี่ยลี่’เอาไว้ก่อน และสอบถามวิธีการจากเขา!
‘อู๋หยาจื่อ’เองก็ตกใจไม่น้อย เขาไม่คิดเลยว่า’เนี่ยลี่’จะสามารถเข้าไปได้จริง เขามองไปที่’เซี่ยวหยู่’และเอ่ยถามว่า
“เนี่ยลี่เขารู้วิธีที่จะเข้าไปได้จริง ๆ ใช่หรือไม่?”
“ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน”
‘เซี่ยวหยู่’ตอบพร้อมกับยักไหล่ และพูดต่ออีกว่า
“เขาอาจจะแค่โชคดีที่เข้าไปได้ เรื่องนี้ก็เป็นไปได้เช่นกัน”
‘อู๋หยาจื่อ’รู้สึกหดหู่ยิ่งนัก การที่’เนี่ยลี่’เข้าไปข้างในโดยไม่มีเขาไปด้วย เขาหวังว่า’เนี่ยลี่’คงจะไม่เก็บเอาสมบัติในห้องโถงใหญ่ไว้แค่เพียงผู้เดียวนะ?
‘อู๋หยาจื่อ’ชำเลืองไปที่’เซี่ยวหยู่’ ตราบใดที่’เซี่ยวหยู่’ยังอยู่ตรงนี้ เขาไม่รู้ว่า’เนี่ยลี่’จะกลับมาเมื่อไหร่ เขาก็คงทำได้แค่เพียงเฝ้ารอเท่านั้น
เริ่มมียอดฝีมือบางคนเดินไปยืนด้านหน้าแผ่นกำแพงหยกแก้ว และเริ่มหาวิธีที่จะเข้าไปข้างใน
หนึ่งในยอดฝีมือเหล่านั้นลองที่จะทำเลียนแบบ’เนี่ยลี่’โดยการเคาะไปที่แผ่นกำแพงหยกแก้ว แต่นอกจากเสียงสะท้อนออกมา เขาก็ไม่พบสิ่งใดเลย
ทั้งสองคนก่อนหน้านี้ พวกเขาได้เขียนรูปแบบอักษรจารึกบางอย่างลงไปที่แผ่นกำแพงหยกแก้ว ก่อนที่จะสามารถเข้าไปข้างในแผ่นกำแพงหยกแก้วได้ เขาคิดขึ้นมาได้จึงเริ่มที่จะเขียน รูปแบบอักษรจารึกบางอย่างลงไปบนแผ่นกำแพงหยกแก้ว รูปแบบอักษรจารึกเหล่านั้นเปร่งแสงออกมาและ รูปแบบอักษรเหล่านั้นก็หายเข้าไปในแผ่นกำแพงหยกแก้ว
สำเร็จแล้วเช่นนั้นหรือ?
ยอดฝีมือผู้นั้นอดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทีที่ดีใจ เขาจ้องมองแผ่นกำแพงหยกแก้วด้วยความตื่นเต้น
ทันใดนั้น ก็เกิดเสียงระเบิดดัง ตูมม!
มีพลังที่รุนแรงระเบิดออกมาจากแผ่นกำแพงหยกแก้ว ส่งผลให้ยอดฝีมือผู้นั้นกระเด็นออกไปไกลหลายสิบหมี่ ก่อนที่จะร่วงหล่นลงบนพื้นอย่างรุนแรง ร่างกายของเขาถูกเผาไหม้จนเกรียม ขาของเขากระตุกหลายครั้งก่อนที่จะนิ่งไป และไร้ซึ่งการขยับอีก
เมื่อเห็นภาพตรงหน้านี้ เหล่ายอดฝีมือที่เตรียมที่จะลองหาทางเข้าไปในแผ่นกำแพงหยกแก้วก็ถอยหลักออกมา เส้มผมของพวกเขาถึงกับลุกชัน พวกเขาไม่กล้าที่จะทดลองทำดูอีกเป็นแน่
ผนึกของแผ่นกำแพงหยกแก้วไม่อาจที่จะลำลายได้ง่าย ๆ และถ้าหายคลายผนึกไม่สำเร็จ พวกเขาก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต
กว่าที่พวกเขาก็เข้ามาในตำหนักซีอิงเสิ่นนี้ได้ด้วยความยากลำบาก และมีโอกาสที่จะทำการบ่มเพาะพลังด้วยการไตร่ตรองแผ่นกำแพงหยกแก้วนี้ พวกเขาจักยอมกลับออกไปง่าย ๆ ได้เช่นใด
เหล่ายอดฝีมือคิดเช่นนั้นจึงกลับไปนั่งตรงที่เดิม และทำการไตร่ตรองแผ่นกำแพงหยกแก้วต่อไป
‘อู๋หยาจื่อ’มองไปที่ศพที่ไหม้เกรียม ‘เนี่ยลี่’นั้นจักต้องรอบรู้ยิ่งกวึ่นผู้นี้ จึงสามารถปลดผนึกและเข้าไปในแผ่นกำแพงหยกแก้วได้
เขาเริ่มที่จะสงสัยคนที่สามารถเข้าไปได้ก่อนเนี่ยลี่ว่าเป็นใครมาจากไหน และดูเหมือนว่าตัวของ’อู๋หยาจื่อ’นั้นคงไม่อาจที่จะเข้าไปได้เป็นแน่ เขาจึงตั้งใจที่จะไตร่ตรองแผ่นกำแพงหยกแก้วต่อไป‘เซี่ยวหยู่’มองไปที่แผ่นกำแพงหยกแก้วที่อยู่ตรงหน้า นางไม่เข้าใจเลยว่า ในบางครั้งในใจนางก็รู้สึกเศร้า เพราะชายผู้ที่ชื่อว่า’เนี่ยลี่’นี้ นางกลัวว่า’เนี่ยลี่’จะมิได้กลับออกมา และหายไปจากชีวิตของนาง
ในตอนนี้ระดับการบ่มเพาะพลังของนาง อยู่ต่ำกว่า’เนี่ยลี่’สองระดับ และแน่นอนว่าในภายภาคหน้าจักต้องยิ่งห่างชั้นกันมากยิ่งกว่านี้
ทันใดนั้น นางก็รับรู้ได้ถึงลมปราณลึกลับสองจุดโคจรไปที่ขอบเขตวิญญาณของนาง จากนั้นก็วิ่งไปตามแขนขาทั้งสี่จุดของนาง นอกจากนี้ลมปราณทั้งสองจุดเชื่อมโยงกับแหวนที่มือขวาของนางอีกด้วย
เนิ่นนานมาแล้ว ‘เซี่ยวหยู่’มักจะรู้สึกว่า ร่างกายของนางมีลมปราณลึกลับสองจุดที่คอยดูแลนาง เมื่อใดที่นางต้องพบกับความล้มเหลว หรือมีปัญหาในการบ่มเพาะพลัง ลมปราณทั้งสองจุดนี้มักปรากฏขึ้นและ ให้ความช่วยเหลือนาง
นางไม่รู้เลยว่าลมปราณทั้งสองจุดนี้ มีแหล่งกำเนิดมาจากที่ไหน แต่’เซี่ยวหยู่’รู้สึกได้ว่า ลมปราณทั้งสองจุดนี้จักต้องเกี่ยวข้องกับชาติกำเนิดของนาง นั่นเป็นส่วนหนึ่งในเหตุผลที่นางต้องการที่จะรู้ชาติกำเนิดของตนเอง
ลมปราณทั้งสองจุดโคจรไปที่ขอบเขตวิญญาณของนาง และทำการกระตุ้นเลือดอสูรที่ได้มาจากการสังเวยเลือดอสูร
การบ่มเพาะพลังของ’เซี่ยวหยู่’ทะยานสูงขึ้นราวกับบ้าคลั่ง ขอบเขตวิญญาณของนางแทบจะระเบิดออกมา
‘เซี่ยวหยู่’รู้สึกตกใจยิ่งนัก นางนั้นไม่อาจที่จะควบคุมพลังที่เอ่อล้นออกมาได้เลย
พรึ่บบ! พรึ่บบ!
ชะตาวิญญาณดวงที่แปดของนางถูกจุดขึ้นมาในขอบเขตวิญญาณ หลังจากนั้น ชะตาวิญญาณดวงที่เก้าก็ถูกจุดขึ้นมา
ตรงใจกลางของชะตาวิญญาณดวงที่เก้า ในตอนนี้ได้มี ดวงดารา ดวงเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นมา มันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอันไร้ที่สิ้นสุด
มันคือดาราแห่งชีวิต!
เมื่อสามารถเข้าถึงดาราแห่งชีวิต
คนผู้นั้นจักบรรลุระดับดาราสวรรค์!
‘อู๋หยาจื่อ’ที่บ่มเพาะพลังอยู่ใกล้ ๆ เขารับรู้ถึงลมปราณของ’เซี่ยวหยู่’ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสัมผัสได้ว่านางนั้นบรรลุระดับชะตาสวรรค์ขั้นที่เก้าแล้ว และมีร่องรอยของการบรรลุระดับดาราสวรรค์อยู่เล็กน้อย
‘เนี่ยลี่’กับ’เซี่ยวหยู่’นี่ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก! การบ่มเพาะพลังของพวกเขาช่างรุดหน้าอย่างรวดเร็วจนเกินไปแล้ว
ทำไมพวกเขาถึงได้ทำการเลื่อนระดับขึ้นได้อย่างต่อเนื่องโดยที่ใช้เวลาไม่นาน โดยปกติ การที่จะเลื่อนระดับความแข็งแกร่งแต่ละระดับ จะต้องใช้เวลานับสิบปี แม้ว่าจักมีผู้ทำได้อย่างรวดเร็วก็ยังต้องใช้เวลาหลายเดือน จะมีผู้ใดที่ทำได้รวดเร็วดั่ง’เนี่ยลี่’กับ’เซี่ยวหยู่’ทำได้อีกหรือ?
แม้แต่’เซี่ยวหยู่’ก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย ด้วยพลังจากการสังเวยเลือดอสูร และคลื่นลมปราณลึกลับทั้งสองจุดที่โคจรอยู่ในร่างของนางช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก แต่นางรู้สึกได้ว่าผลที่ได้นี้มาจากลมปราณทั้งสองจุดมากกว่าการสังเวยเลือดอสูร
ลมปราณทั้งสองจุดนั้นยังคงโครจรอยู่ในขอบเขตวิญญาณของ’เซี่ยวหยู่’ อยู่ชั่วเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะโคจรไปบริเวณที่หน้าอก ที่ปาก และโคจรไปที่ดวงตา ทันใดนั้นดวงตาของ’เซี่ยวหยู่’ก็เปร่งแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา
แผ่นกำแพงหยกแก้วที่อยู่ตรงหน้า ก็เปลี่ยนแปลงไป และรูปแบบจารึกบนแผ่นกำแพงหยกแก้วก็ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในดวงตาของนาง
ทันใดนั้นนางก็สามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจน รวมถึงวิธีการที่จะเข้าไปข้างในแผ่นกำแพงหยกแก้วนี้!
‘เซี่ยวหยู่’ลุกยืนขึ้นและเดินออกไป เตรียมที่จะเข้าไปในแผ่นกำแพงหยกแก้ว
“ช้าก่อน!”
‘อู๋หยาจื่อ’รีบตะโกนหยุด’เซี่ยวหยู่’ เขารู้สึกได้ว่า’เซี่ยวหยู่’นั้นมีอะไรแปลกไป นางดูเหมือนว่าจะสามารถเข้าไปข้างในแผ่นกำแพงหยกแก้วได้แล้ว
“ทำไมเหรอ?”
‘เซี่ยวหยู่’หยุดและมองไปที่’อู๋หยาจื่อ’
“ท่านน้องเซี่ยวหยู่ ช่วยบอกแก่ข้าด้วย สำหรับวิธีการที่จักเข้าไปด้านในแผ่นกำแพงหยกแก้ว หากพวกเจ้าทั้งสองคนเข้าไปด้านใน คงจักไม่ทิ้งข้าไว้ด้านนอกนี้ ถึงอย่างไรข้านั้นก็อยู่ในระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์ ข้ายังสามารถที่จะปกป้องพวกเจ้าได้!”
‘อู๋หยาจื่อ’ถูมือพร้อมกับยิ้ม เขาแอบส่งเสียงไปให้กับ’เซี่ยวหยู่’
‘เซี่ยวหยู่’ครุ่นคิด ที่’อู๋หยาจื่อ’พูดมาก็ไม่ผิด ‘อู๋หยาจื่อ’ไม่อาจที่จะเข้าไปด้วยตัวเอง และการที่จะพา’อู๋หยาจื่อ’เข้าไปนั้นพวกเขาก็หาได้มีอันตรายใด ๆ ‘เนี่ยลี่’เองก็มีแนวโน้มที่จะต้องประมือกับ’จอมมาร’ ถ้าหากพาไปด้วยก็อาจจะช่วยในการเสริมกำลังในการต่อสู้ได้
นางจึงถ่ายทอดวิธีที่จะเข้าไปในแผ่นกำแพงหยกแก้วให้แก่’อู๋หยาจื่อ’โดยผ่านทางลมปราณ
‘อู๋หยาจื่อ’ถึงกับตกใจไม่น้อย ‘เซี่ยวหยู่’ผู้นี้สามารถที่จะส่งรูปแบบอักษรจารึกสำหรับการปลดผนึกเข้ามายังความคิดของเขาได้
ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินความสามารถของ’เซี่ยวหยู่’ผู้นี้ต่ำเกินไปแม้แต่ยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกร ก็ไม่อาจที่จะถ่ายทอดรูปแบบอักษรจารึกเข้าไปในความคิดของใครได้อย่างอิสระ แต่’เซี่ยวหยู่’ที่ยังไม่บรรลุระดับดาราสวรรค์ กลับสามารถที่จะทำเช่นนั้นได้ ทำให้เขานั้นอดที่จะตัวสั่นไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็น’เนี่ยลี่’หรือ’เซี่ยวหยู่’ ทั้งสองคนนี้ช่างลึกลับและเข้าใจได้ยากยิ่งนัก………….
จบตอน
แปลโดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: