I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 398 两位圣子 โอรสศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 2537 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

‘เนี่ยลี่’เองก็ไม่รู้ว่า เสียงที่ได้ยินนี้จะเป็นเสียงของตำหนักซีอิงเสิ่นจริงหรือไม่ แต่ที่เขามั่นใจก็คือ เสียงนี้ต้องการให้ผู้คนต่อสู้แย่งชิงผลึกแก้วแห่งคงคา โดยให้เหล่ายอดฝีมือฆ่าฟันกันไปเรื่อย ๆ

และหกคนที่สามารถรวบรวมผลึกแก้วแห่งคงคาได้มากที่สุด ที่จะได้รับสมบัติที่ซุกซ่อนไว้ในตำหนักซีอิงเสิ่น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่โกหกอย่างแน่นอน

เนื่องจากเสียงดังกล่าวฟังดูแล้ว ช่างเป็นคนที่ตระหนี่ยิ่งนัก แม้แต่ศิลาแก่นแท้จิตวิญญาณทองคำแค่เพียงก้อนเดียว ก็ยังไม่ยอมที่จะยกให้ ถ้าจะให้คนผู้นี้ยกสมบัติที่เหลือให้ ไม่มีวันเป็นเช่นนั้นแน่นอน

ที่’เนี่ยลี่’มั่นใจก็คือ เสียงของคนผู้นี้ต้องการที่จะให้ ยอดฝีมือสังหารกันเอง เป็นการหลีกเลี่ยงที่จะให้พวกเขาเข้ามายังที่แห่งนี้ แค่อีกเพียงไม่นาน ‘เนี่ยลี่’ก็จะหากุญแจสำคัญในการทำลายค่ายกลนี้ได้

ทันใดนั้น ‘เซี่ยวหยู่’ และ’อู๋หยาจื่อ’ก็ทะยานเข้ามา

นางจ้องมอง’เนี่ยลี่’และพูดขึ้นมาว่า

“เนี่ยลี่ ยอดฝีมือที่อยู่ด้านนอก เริ่มที่จะเข้ามาด้านในนี้แล้ว พวกเราควรจะทำเช่นใดกัน?”

เมื่อได้ยินคำพูดของ’เซี่ยวหยู่’

‘เนี่ยลี่’ถึงกับขมวดคิ้ว ยอดฝีมือที่อยู่ภายนอกเริ่มจะบุกเข้ามา มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะทำลายค่ายกลนี้ได้อย่างรวดเร็ว

 “ตามข้ามา!”

‘เนี่ยลี่’บอกกับ’เซี่ยวหยู่’และ’อู๋หยาจื่อ’ และทะยานไปหลบอยู่ทางด้านข้าง

ยอดฝีมือนับร้อยคนทะยานเข้ามาด้านใน พวกเขาเริ่มที่จะค้นหาที่ซุกซ่อนอยู่ในห้องโถงใหญ่ของตำหนักซีอิงเสิ่น และวิ่งเข้ามาในค่ายกล

พวก’เนี่ยลี่’ทั้งสามคนที่หลบอยู่ด้านข้าง พวกเขามองดูเหล่ายอดฝีมืออย่างเงียบ ๆ ไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย ‘อู๋หยาจื่อ’ก็พยายามที่จะปกป้องพวกเขาอย่างเต็มที่

จริงๆแล้วการทำลาย แผ่นกำแพงหยกแก้ว นั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่งนัก แต่ในความเป็นจริงที่ยอดฝีมือจำนวนมากสามารถผ่านเข้ามาได้
‘เนี่ยลี่’พอที่จะเข้าใจบางอย่าง ตำหนักซีอิงเสิ่น จงใจที่จะพาคนพวกนั้นให้เข้ามายังที่แห่งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาพวกของ’เนี่ยลี่’ทำลายค่ายกลจารึกนั่นเป็นแน่

“นั่นมันผลึกแก้วแห่งคงคา! ”

“มีเป็นจำนวนมากด้วย!”

ตรงส่วนกลางของค่ายกลจารึก ทันใดนั้นก็มีผลึกแก้วแห่งคงคา กว่าสิบหมื่นชิ้นร่วงหล่นลงมา เหล่ายอดฝีมือตาเริ่มที่จะเป็นประกาย และได้เริ่มต่อสู้กันการต่อสู้อันรุนแรงจู่ ๆ ก็ประทุขึ้นมา

ตูมม!

ตูมม! ตูมม!

ลมปรานแผ่พุ่งออกมาทั่วทั้งห้อง พร้อม ๆ กับเลือดที่สาดกระเซ้นไปทั่วห้องเช่นกันเพื่อที่จะแย่งชิงผลึกแก้วแห่งคงคา เหล่ายอดฝีมือที่เข้ามาพร้อมกันต่างฆ่าฟันกันราวกับคลุ้มคลั่งเพราะหากได้ครอบครอง ผลึกแก้วแห่งคงคา นับสิบหมื่นชิ้นนี้ คนผู้นั้นจักต้องเข้าไปสู่หกคนแรกเป็นแน่

เมื่อเห็นคนเหล่านั้นต่อสู้กัน ‘อู๋หยาจื่อ’ก็ไม่อยากจะพลาดโอกาสที่จะเข้าไปร่วมแย่งชิงผลึกแก้วแห่งคงคา

 “อย่าขยับ ปล่อยให้พวกเขาแย่งชิงกันไป!”

‘เนี่ยลี่’ดึง’อู๋หยาจื่อ’ไว้พร้อมกับพูดบอก

“ทำไมกัน?”

‘อู๋หยาจื่อ’หันมามองเนี่ยลี่ด้วยความสงสัย

“เจ้าไม่คิดว่ามันแปลกเช่นนั้นหรือ การที่ผลึกแก้วแห่งคงคาพวกนี้ร่วงหล่นลงมา เป็นการจงใจที่จะทำให้ยอดฝีมือเหล่านี้มาต่อสู้กัน”

‘เนี่ยลี่’ลอบส่งเสียงบอก’อู๋หยาจื่อ’ เทคนิคการลอบส่งเสียงนี้ ใช้ได้ทุกคน มีให้เห็นตั้งแต่ในโลกใบเล็กแล้ว

หลังจากที่’อู๋หยาจื่อ’ได้ยินสิ่งที่’เนี่ยลี่’บอก ใจของเขาถึงกับเย็นยะเยือก จากภาพที่ได้เห็นตรงหน้า เขาก็เข้าใจสิ่งที่’เนี่ยลี่’บอกทันที
เขายังคงยืนอยู่ด้านหน้าของ’เนี่ยลี่’และ’เซี่ยวหยู่’ คอยปกป้องทั้งสองคนเช่นเดิม

‘เนี่ยลี่’เข้ามาที่นี่ก่อนพวกเขาเป็นเวลาพอสมควร เขาอาจจะค้นพบอะไรบางอย่าง! ตราบเท่าที่เขาสามารถปกป้อง’เนี่ยลี่’เอาไว้ได้
พวกเขาก็มีโอกาสเป็นอย่างมากที่จะได้รับสมบัติที่ซุกซ่อนไว้ในตำหนักซีอิงเสิ่นมียอดฝีมือเข้ามายังที่แห่งนี้อีกกว่าห้าถึงหกร้อยคน และเข้าร่วมการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง

หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนกลุ่มหนึ่งราวสองถึงสามร้อยคนทะยานเข้ามา นั่นคือ โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’และคนของเขา โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’ได้กวาดสายตามองดูการต่อสู้และผลึกแก้วแห่งคงคาที่กองอยู่บนพื้น

เขาพูดขึ้นมาอย่างแข็งกร้าวว่า

“ฆ่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ อย่าให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว!”

เมื่อได้ยินคำสั่งของโอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’ เหล่าผู้ติดตามของ’หลีหั่ว’ ที่อยู่ทางด้านหลังก็ทะยานออกไปบนท้องฟ้า และเริ่มทำการสังหารอย่างบ้าคลั่ง

ตูมม!

ตูมม! ตูมม!

เหล่าสาวกของนิกายเทพอสูร ได้สังหารคนไปร่วมร้อยคน มันเป็นการสังหารฝ่ายเดียวอย่างเห็นได้ชัด คนที่ถูกสังหารไม่อาจที่จะตอบโต้ได้เลย ยอดฝีมือของเผ่าอสูรห้าตนพุ่งตรงมายัง’อู๋หยาจื่อ’

‘อู๋หยาจื่อ’รีบนำเหรียญตราออกมา พร้อมกับตะโกนออกไปว่า

“เข้ามาจากนิกายเทพอสูร!”

ยอดฝีมือของเผ่าอสูรทั้งห้าตนมองดูเหรียญตราในมือ’อู๋หยาจื่อ’ พวกเขาหยุดมองแค่ชั่วครู่ จากนั้นก็กระโจนไปยังทิศทางอื่น

การกระทำของโอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’ ทำให้เหล่ายอดฝีมือที่ต่อสุ้แย่งชิงผลึกแก้วแห่งคงคา หันมาสนใจ หากพวกเขายังคงเข่นฆ่ากันเช่นเดิม อีกไม่นานก็จะต้องถูกยอดฝีมือจากนิกายเทพอสูรสังหารจนหมดแน่ ยอดฝีใอเหล่านี้จึงพร้อมใจกัน รวมตัวเป็นกองกำลังเริ่มต้นต่อสู้กับยอดฝีมือจากนิกายเทพอสูร

โอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’ ชำเลืองมองไปที่เหล่ายอดฝีมือที่รวมตัวกัน พร้อมกับตะโกนออกไปว่า

“เหิมเกริมเกินไปแล้ว!”

‘เนี่ยลี่’ลอบส่งเสียงสอบถาม’อู๋หยาจื่อ’ว่า

“ชายผู้นั้นเป็นใครกัน?”

‘อู๋หยาจื่อ’ที่ดูเหมือนว่าเขานั้นจะตื่นตระหนกไม่น้อย เขาตอบกลับว่า

“เจ้ากับเซี่ยวหยู่จะต้องระวังตัวให้ดี ให้ปกปิดลมปราณของพวกเจ้าเอาไว้ อย่าให้คนผู้นั้นสัมผัสถึงตัวตนของพวกเจ้าได้ถ้าหากคนผู้นั้นรู้ว่า ข้านั้นได้ทำการ ใช้วิธี สังเวยเลือดอสูรให้กับพวกเจ้า ข้าก็จะถูกสังหารเช่นกัน ชายผู้นั้นก็คือ โอรสศักดิ์สิทธิ์ หลีหั่ว ผู้ที่มีโอกาสขึ้นครองตำแหน่งผู้นำนิกายเทพอสูร”

โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’ เช่นนั้นหรือ?

ในชีวิตที่ผ่านมา’เนี่ยลี่’เคยได้ยินชื่อของชายผู้นี้ โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’ในภายภาคหน้าจะเป็นคนที่โดดเด่นยิ่งนัก
และได้ขึ้นเป็นผู้นำของนิกายเทพอสูร เขานั้นเป็นผู้ปกครองนิกายเทพอสูรด้วยความแข็งแกร่ง มีครั้งหนึ่งที่เขานั้นนำคนมาบุกที่นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ และได้ทำลายห้องโถงวิญญาณของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการล้มตายของเหล่ายอดฝีมือจำนวนมากของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์

‘เนี่ยลี่’ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้มาพบเจอกับโอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’ในที่แห่งนี้

‘เนี่ยลี่’เริ่มทำการปกปิดลมปราณของเขา ถ้าหากว่าเขาถูกโอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’จับได้ว่า ได้รับการสังเวยเลือดอสูรมาแล้วหล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นตัวเขา ‘เซี่ยวหยู่’ หรือแม้แต่’อู๋หยาจื่อ’ก็จะต้องถูกสังหารเป็นแน่

โอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’ชำเลืองมองไปที่พวกเขากับ’อู๋หยาจื่อ’ที่แอบอยู่ตรงข้างห้อง จากนั้นก็ละสายตาไป แม้ว่า’อู๋หยาจื่อ’จะมีสถานะพิเศษในนิกายเทพอสูร แต่ก็ด้อยกว่าเขายิ่งนัก การที่โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’ปล่อยเขาไป ก็เพราะว่าเขามาจากนิกายเทพอสูรเช่นเดียวกัน โอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’จึงไม่ได้สนใจพวกเขาทั้งสามคน

เหล่าผู้ติดตามของโอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก และทุกคนต่างสวมใส่ของวิเศษในระดับสูง สังหารคนที่อยู่ต่างนิกายและต่างเผ่าพันธุ์ไปจนเหลือแค่หนึ่งในห้าส่วน และผลึกแก้วแห่งคงคา ส่วนใหญ่ก็ตกอยู่ในมือของ โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’

โอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’จับต้องไปที่รูปปั้นทั้งสิบรูป เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ในขณะที่ตรงพื้นนั้นนองไปด้วยเลือด แต่ราวกับว่าค่ายกลอักษรจารึกมันดูดซับเอาเลือดเหล่านั้นลงไปบนพื้น และเปร่งประกายแวววาวขึ้น

เมื่อเห็นโอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’ จับจ้องไปเช่นนั้น ‘เนี่ยลี่’ก็รู้สึกหวาดหวั่น ได้แต่หวังว่าโอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’จะไม่รู้จักค่ายกลอักษรจารึกนี้

ในขณะที่ โอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’กำลังมั่งมั่นจับจ้องอยู่นั้น ก็มีคนอีกกลุ่มได้เข้ามายังห้องโถงใหญ่แห่งนี้ อาจจะมีราวสองถึงสามร้อยคน และผู้นำของพวกเขาคือ ‘เหยียนหยาง’ จากสำนักเทพอัคคี!

‘เหยียนหยาง’มองไปรอบๆ หลังจากที่มองเห็น โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’ ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย โอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’นั้นเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งยิ่งนัก แต่ในสายตาของเหยียนหยางนั้นไร้ซึ่งความหวาดกลัว มีเพียงความเร่าร้อนเท่านั้น

หนึ่งเทพหนึ่งอสูร นี่เป็นการที่โอรสศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเทพอสูรและโอรสศักดิ์สิทธิ์ของสำนักเทพอัคคีได้มาเผชิญหน้ากันในที่เล็ก
ๆ แห่งนี้!

เมื่อ’เหยียนหยาง’ปรากฏตัวขึ้นมา’เนี่ยลี่’อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น เขาไม่คิดเลยว่า’เหยียนหยาง’ก็จะปรากฏตัวในที่แห่งนี้ด้วย
การที่โอรสศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองได้มาเผชิญหน้ากันที่นี่ เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นยิ่งนัก ระหว่างพวกเขาทั้งสองฝ่ายจักต้องประมือกัน ไม่รู้เลยว่านี่จะเป็นโอกาสให้ตัวเขานั้นไป ทำลายค่ายกลอักษรจารึกได้หรือไม่………………..

จบตอน

แปลโดย นายมะพร้าว

คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments