ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปตรงทางออกของตำหนักซีอิงเสิ่น
กองกำลังของยอดฝีมือจากนิกายเทพอสูรยืนปกป้องอยู่ ในบางครั้งก็มีคนที่คิดสร้างปัญหากับพวกเขา คนเหล่านั้นก็จะถูกสังหารในทันที
‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ที่ได้รับบาดเจ็บจากด้านในตำหนักซีอิงเสิ่น เขายังคงรู้สึกโกรธเกรี้ยวยิ่งนัก ใครที่คิดกล้าลองดีแม้แต่น้อยเขาก็จะสังหารทิ้งทันที เหล่าลูกน้องของเขาก็ไม่ค่อยมีความสุขนักที่ต้องสังหารผู้อื่น
เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขานั้นมี ‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’หนุนหลังอยู่ พวกเขาจะยังมีอะไรที่ต้องกลัวอีก?
‘เนี่ยลี่’มองดูที่ไกลออกไป ตรงที่’ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ยืนอยู่ คนผู้นั้นคือยอดฝีมือระดับเทพสงคราม แม้ว่า’เหยียนหยาง’จะคอยช่วยเหลือเขา แต่ในการหลบหนีออกไปก็มิใช่เรื่องง่าย
เขาควรที่จะทำเช่นใดกันดี?
‘เนี่ยลี่’พยายามครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว
‘เหยียนหยาง’ใช้เทคนิคลับลอบส่งเสียงให้แก่’เนี่ยลี่’ว่า
“ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงผู้นี้ เป็นคนที่รับมือได้ยากยิ่ง แต่เขาก็ยังมีความเกรงกลัวต่อใครบางคนในนิกายเทพอัคคีของข้าอยู่บ้าง เขาอาจจะไม่ทำร้ายข้า แต่สำหรับคนอื่น ๆนั้น ข้าเกรงว่า…! โดยเฉพาะเจ้านั้นที่อยู่แค่เพียงระดับชะตาสวรรค์ ถ้าหากอยู่ใกล้ ๆ ข้าก็จะยิ่งเป็นอันตราย แม้ว่าเขาจะไม่สังหารข้าแต่ดูเหมือนว่าคนที่อยู่รอบกายข้าจะต้องถูกสังหาร เพื่อแสดงอำนาจของพวกเขา”
นิกายเทพอัคคีและนิกายเทพอสูรนั้นมีความขัดแย้งกันมาอย่างยาวนาน แต่ก็เป็นความขัดแย้งระหว่างนิกาย โดยปกติแล้วเหล่ายอดฝีมือของทั้งสองฝ่ายก็ไม่ค่อยที่จะต่อสู้กันเอง เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของทุกคน คือต้องการที่จะบรรลุให้ถึงระดับเทพสงคราม
การสูญเสียชะตาวิญญาณโดยไร้เหตุผล เป็นแค่เรื่องโง่เง่า!เว้นแต่ว่าจะเป็นการขัดแย้งระหว่างนิกายเท่านั้น โดยปกติแล้ว พวกเขาจะเกรงกลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากัน
การสังหารโอรสศักดิ์สิทธิ์เหยียนหยาง อาจจะทำให้เหล่ายอดฝีมือระดับเทพสงครามของนิกายเทพอัคคีเคลื่อนไหว ซึ่งเรื่องนี้’ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’เองก็ไม่ต้องการที่จะให้เกิดขึ้น แต่สำหรับคนที่อยู่รอบกายเหยียนหยางนั้น ‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ก็หาได้เกรงใจไม่
“ศิษย์พี่เหยียนหยางการที่เรารออยู่ที่นี่ก็หาได้มีประโยชน์อันใด ข้าคิดว่าหากข้านั้นเดินไปเพียงลำพัง จะต้องอันตรายยิ่งกว่านี้เป็นแน่ ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงจะต้องสังหารข้าอย่างแน่นอน แต่ถ้าหลบอยู่ข้างหลังท่าน ข้าอาจจะรอดไปได้”
‘เนี่ยลี่’ตอบกลับไป
เขาหวังเพียงแค่ว่า ‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’จะไม่ได้สังเกตุเห็นพวกเขา’เหยียนหยาง’ครุ่นคิดอยู่ครู่จากนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วย
การที่’เนี่ยลี่’จะรอดกลับออกไปเพียงลำพังคงไม่อาจที่จะเป็นไปได้!
“พวกเราจะต้องทำเรื่องนี้โดยเร็ว ถ้าหากโอรสศักดิ์สิทธิ์ หลีหั่วตามมาที่นี่ได้ทัน ข้าเกรงว่าจะต้องเกิดปัญหาขึ้นเป็นแน่!”
‘เหยียนหยาง’ครุ่นคิดแล้วเตือนให้จัดการก่อนที่โอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’ จะมาถึงเนื่องจากเขาเป็นศิษย์โดยตรงของ’ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’!
ทั้งสองคนรีบทะยานไปตรงประตูทางออกจากตำหนัก
“เจ้าสองคน หยุดก่อน!”
ยอดฝีมือระดับแก่นแท้สวรรค์ขั้นที่เก้าจากนิกายเทพอสูร เอื้อมมือไปจับ’เหยียนหยาง’เอาไว้
‘เหยียนหยาง’พ่นลมหายใจอย่างเย็นชา พร้อมกับแผ่ลมปราณอันแข็งแกร่งมาห่อหุ้มร่างกายเอาไว้
กึกก!
มือของยอดฝีมือระดับแก่นแท้สวรรค์ขั้นที่เก้า จากนิกายเทพอสูร ถูกผลักกระเด็นออกมา เขาจ้องมอง’เหยียนหยาง’ด้วยความประหลาดใจ ‘เหยียนหยาง’เองก็อยู่ในระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์เช่นเดียวกับเขา แต่เหตุใดลมปราณที่แผ่ออกมาจึงแข็งแกร่งยิ่งกว่าเขา!
“นี่คือของทั้งหมดที่ข้ามี!”
‘เหยียนหยาง’สะบัดมือขวาของเขา และโยนแหวนห้วงมิติสำหรับเก็บของให้แก่ ยอดฝีมือจากนิกายเทพอสูร
ยอดฝีมือจากนิกายเทพอสูรขมวดคิ้ว ถ้าหากเขาคิดจะยื่นมือไปขวางอีกครั้ง เขาจะต้องรับมือการต่อสู้กับ’เหยียนหยาง’เป็นแน่
ถ้าเช่นนั้นคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องบาดเจ็บ และคงเป็นสิ่งที่น่าอายยิ่งนัก! เขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา ด้วยใบหน้าอันดำมืด เขากวาดสายตามอง’เหยียนหยาง’และ’เนี่ยลี่’ และเห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนนั้นมิได้ครอบครองสมบัติอื่นใดอีกจากนั้นเขาก็มองเข้าไปด้านในแหวนห้วงมิติสำหรับเก็บของ’เหยียนหยาง’ ดวงตาของยอดฝีมือจากนิกายเทพอสูรถึงกับเบิกกว้างขึ้น
“นับว่าพวกเจ้าฉลาดไม่น้อย ไสหัวไปซะ”
ยอดฝีมือจากนิกายเทพอสูร โบกมือไล่พวกเขาไป
‘เหยียนหยาง’และ’เนี่ยลี่’พยักหน้าและรีบเดินออกไป
พวกเขารับรู้ได้ถึงเจตจำนงอันแรงกล้าที่กำลังตรวจสอบไปทั่วร่างของพวกเขาอยู่’เนี่ยลี่’รับรู้ได้ถึงแรงกดดันจนแทบหายใจไม่ออก
ในตอนนี้ ‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’กำลังใช้เจตจำนงตรวจสอบพวกเขาอยู่!
หลังจากนั้นไม่นานเจตจำนงที่ตรวจสอบเขาอยู่ก็ถูกดึงกลับไป แน่นอนว่า’เหยียนหยาง’นั้นมิได้นำสิ่งใดซุกซ่อนออกมา ส่วนจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำนั้นอยู่ในขอบเขตวิญญาณของ’เนี่ยลี่’
‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ จึงไม่อาจที่จะสัมผัสถึงได้ นอกจากนั้นแล้วก็ตรวจสอบพบเพียงแต่ร่างกายที่ว่างเปล่า’ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ จึงไม่ได้ให้ความสนใจ โดยเฉพาะ’เนี่ยลี่’ที่อยู่แค่เพียงระดับชะตาสวรรค์เท่านั้น!
หลังจากที่’ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ได้ตรวจสอบ’เหยียนหยาง’และ’เนี่ยลี่’แล้วเขาก็ละสายตาไปที่อื่น
เมื่อเขาเองก็ไม่ได้คิดที่จะสังหาร’เหยียนหยาง’ ก็ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องมองดูพวก’เนี่ยลี่’อีก
‘อู๋หยาจื่อ’ที่ยืนอยู่ไกลออกไปมองดู’เนี่ยลี่’และ’เหยียนหยาง’กลับออกไปอย่างปลอดภัย ‘อู๋หยาจื่อ’ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ‘เนี่ยลี่’และ’เหยียนหยาง’ยอมมอบสมบัติทุกอย่างไว้อย่างตรงไปตรงมาหรือไม่?
นี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี!
‘เนี่ยลี่’ไม่ใช่คนที่จะทำอะไรอย่างตรงไปตรงมา เรื่องนี้เขายืนยันได้อย่างชัดเจน!
‘อู๋หยาจื่อ’นิ่งเงียบไป หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาลืมตาขึ้นและคิดได้ว่า ไม่ว่า’เนี่ยลี่’จะนำสมบัติออกไปได้หรือไม่ เขาก็ไม่มีทางรู้ว่า’เนี่ยลี่’ใช้วิธีการเช่นใด แต่ถ้า’ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ และ โอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’ รู้เรื่องการสังเวยเลือดอสูร เขาก็จะตายโดยไร้ที่ฝังเป็นแน่!
หลังจากที่’เนี่ยลี่’และ’เหยียนหยาง’ออกไปจากตำหนักซีอิงเสิ่น พวกเขาก็รีบทะยานออกไปครึ่งชั่วยามต่อมา โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’
ก็ทะยานออกมาจากด้านในตำหนักซีอิงเสิ่น“ท่านอาจารย์”
โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’ก้มหัวคำนับ’ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’
‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’พยักหน้าเล็กน้อยและพูดขึ้นมาว่า
“ศิษย์ข้า เจ้านั้นได้เก็บเกี่ยวสิ่งใดมาได้บ้างจากด้านในตำหนักตำหนักซีอิงเสิ่น?”
“เรียนท่านอาจารย์! ภายในตำหนักแห่งนี้มีค่ายกลและเส้นทางลับที่ซับซ้อนนัก ข้านั้นยังไม่อาจที่จะเก็บเกี่ยวสิ่งใดได้!”
โอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’ รายงานด้วยความเจ็บใจ และเขาก็มิได้รายงานเรื่องที่ถูกพวก’เนี่ยลี่’หลอกลวง เพราะเป็นเรื่องที่เขารู้สึกอับอายยิ่งนัก!
‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’โกรธจนใบหน้าบูดเบี้ยวดูแล้วช่างน่าเกลียดน่ากลัว เขาพูดขึ้นมาว่า “ข้านั้นได้ทำลายกับดักและค่ายกลในตำหนักนี้จนหมดสิ้นแล้ว เหตุใดเจ้าจึงแจ้งว่ายังมิได้เก็บเกี่ยวสิ่งใด ข้างในนั้นมิได้มีสมบัติใดอยู่เลยเช่นนั้นหรือ?”
“ท่านอาจารย์ ท่านได้พบเห็นคนผู้หนึ่งหรือไม่?”
โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’ เอ่ยถาม
“คนผู้หนึ่ง? ใครกัน?”
‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ขมวดคิ้ว
“อู๋หยาจื่อ เหยียนหยาง และคนแปลกหน้าอีกสองคน!”
โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’ พูดขึ้นมา
“อู๋หยาจื่อยังอยู่ภายในตำหนักนี้ ส่วนเหยียนหยาง เจ้านั่นได้ออกไปแล้ว!”
‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ตอบกลับไป และพูดต่ออีกว่า
“เขาเป็นโอรสศักดิ์สิทธิ์แห่งนิกายเทพอัคคี และเป็นศิษย์ของเจ้ามารเฒ่านั่น ข้าไม่ต้องการที่จะให้เจ้ามารเฒ่านั่นมาวุ่นวายในเรื่องนี้ด้วย!”
เดิมทีความแข็งแกร่งของ’ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’เหนือกว่าอาจารย์ของ’เหยียนหยาง’แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หลังจากที่เจตจำนงของเขาถูกเผาทำลายไปส่วนหนึ่ง ทำให้ความแข็งแกร่งของเขาลดลงไปเป็นอย่างมาก นั่นเป็นเหตุผลที่เขายอมปล่อยให้’เหยียนหยาง’กลับออกไป
โอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’ รีบพูดขึ้นมาว่า
“เรียนท่านอาจารย์ พวกเขาอาจจะนำสมบัติของตำหนักซีอิงเสิ่นออกไปแล้วก็เป็นได้!”
“เป็นไปไม่ได้ ภายใต้สายตาของข้า พวกเขาไม่อาจที่จะซุกซ่อนสิ่งใดออกไปได้!”
‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ส่ายหน้าและตอบกลับไป
ด้วยเจตจำนงที่เขาใช้ในการตรวจสอบ’เหยียนหยาง’และ’เนี่ยลี่’ ไม่ได้พบเลยว่า’เหยียนหยาง’และ’เนี่ยลี่’นั้นได้ซุกซ่อนสิ่งใดออกไป
“แม้ว่าจะยังไม่ทราบชัดเจนว่าคือสิ่งใด แต่ศิษย์เชื่อว่า เหยียนหยางต้องทำอะไรบางอย่างเป็นแน่!”
โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’รีบพูดขึ้นมา
เมื่อได้ยินคำพูดของโอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’ ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิงขมวดคิ้วเล็กน้อย และสบัดมือขวาของเขา พร้อมกับโยนแหวนวงหนึ่งไปให้โอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’ และพูดขึ้นมาว่า
“นี่คือแหวนห้วงมิติสำหรับเก็บของ ของเหยียนหยาง เจ้าลองมองดูสิ!”
โอรสศักดิ์สิทธิ์’หลีหั่ว’กวาดสายตามองดูและพูดขึ้นมาว่า
“แม้ว่าของที่อยู่ข้างในแหวนนี้จะเป็นของที่ล้ำค่า แต่ทว่าเหยียนหยางจะต้องซุกซ่อนสมบัติอีกส่วนเอาไว้ ท่าอาจารย์โปรดรีบหยุดเขาเอาไว้ อย่าได้ปล่อยให้เขากลับไปโดยเด็ดขาด!”
หลังจากได้ยินคำพูดของโอรสศักดิ์สิทธิ์ ‘หลีหั่ว’ ดวงตาของ’ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ก็เป็นประกาย พร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย บนโลกใบนี้ยังมีวิธีซุกซ่อนสมบัติที่เขาไม่อาจค้นเจออีกเช่นนั้นหรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้น เขาจะต้องไปเอาคืนมาจากเหยียนหยางและเจ้าคนติดตามนั่นอีกคน ‘ปรมาจารย์เทพเสวียนหมิง’ตะโกนออกมา และกลายเป็นลำแสงพุ่งหายไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
……………………จบตอน
แปลโดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: