I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 410 命星 ดาราสวรรค์

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 2537 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ด้วยพลังของสายเลือดอสูรดั้งเดิม ‘เนี่ยลี่’ทำการโคจรพลังผ่านจุดชีพจร เช่นเดียวกับการเลื่อนไหลของลาวา เลือดที่เดือดพล่านไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างของเขาด้วนคลื่นพลังอันร้อนแรงนี้ยังโคจรผ่านเส้นชีพจรทั่วร่างของ’เนี่ยลี่’

พลังจากการสังเวยเลือดอสูร ทำให้การบ่มเพาะพลังของ’เนี่ยลี่’เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในห้วงขอบเขตวิญญาณของ’เนี่ยลี่’ตรงใจกลางของชะตาวิญญาณดวงที่เก้า ปรากฏดวงดารา ดวงเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นมา ทันใดนั้นก็ระเบิดแสงประกายออกมา รูปร่างของมันเปลี่ยนแปลงไปดูสวยสะดุดตา

‘เนี่ยลี่’รู้สึกราวกับว่าร่างกายจะระเบิด ทุกครั้งที่ดวงดาราส่องประกาย แต่ละส่วนของร่างกายของเขาก็แทบจะระเบิดออกมา

ร่างกายของมนุษย์มีเซลล์เล็ก ๆ อยู่นับร้อยล้านเซลล์ ซึ่งแต่ละเซลล์นั้นก็แฝงไปด้วยพลังอันไร้ที่สิ้นสุดภายใต้ดวงดาราที่ส่องประกายนี้ ควบคุมให้พลังของเขาถูกกระตุ้นออกมาเพื่อที่จะเลื่อนระดับ

ทันใดนั้น’เนี่ยลี่’ก็ลืมตาขึ้นมา มีคลื่นพลังที่แผ่พุ่งออกมา ลมปราณของเขาก็เพิ่มสูงมากขึ้น ดาราประกายแสงออกมาสว่างยิ่งขึ้น แสงสว่างเจิดจ้าจนบดบังชะตาวิญญาณทั้งหมด

ขอบเขตดาราสวรรค์ ขั้นที่หนึ่ง!

เมื่อเทียบกับการเพิ่มระดับก่อนหน้านี้ ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่า

คนส่วนใหญ่ที่บรรลุระดับดาราสวรรค์ขั้นที่หนึ่ง พวกเราจะต้องรีบทำการบ่มเพาะพลังเพื่อให้พลังเกิดความมั่นคง แต่’เนี่ยลี่’กลับต่างออกไป พลังงานสวรรค์จะพุ่งเข้าไปผสานโดยตรง และเข้าไปเติมเต็ม ดาราวิญญาณ ดวงดาราที่อยู่ตรงกลางชะตาวิญญาณ ทำให้ดวงดารานั้นเปร่งประกายยิ่งขึ้น จากการกระตุ้น ดาราวิญญาณนี้ ทำให้ความแข็งแกร่งของร่ายกาย ในแต่ละส่วนของ’เนี่ยลี่’ เพิ่มขึ้นอย่างมากอีกครั้ง

ตูมม! ตูมม! ตูมม!

พลังวิ่งพล่านไปทั้งร่างของ’เนี่ยลี่’ราวกับว่าจะเกิดระเบิดขึ้นอีกครั้ง

แต่’เนี่ยลี่’นั้นเข้าใจดี ตอนนี้เขาได้รวมเข้ากับเลือดอสูรดั้งเดิม ร่ายกายของเขาไม่มีทางที่จะระเบิดออกมาได้โดยง่าย ดังนั้นเขาจึงทำการเพิ่มพลังให้ ดาราวิญญาณของเขาอย่างต่อเนื่อง

เขาจะไม่ยอมที่จะพลาดโอกาสนี้ ในชีวิตนี้โอกาสที่จะได้เลือดอสูรดั้งเดิมมาอีกครั้งเป็นเรื่องที่ยากยิ่งนัก

ในขณะที่เขาใช้พลังงานสวรรค์เพิ่มพลังให้แก่ ดาราวิญญาณ เขายังคงใช้เทคนิคการบ่มเพาะพลัง เทพวิถีฟ้า อย่างต่อเนื่อง และได้ใช้บทที่สองของ เทคนิคการบ่มเพาะพลัง เทพวิถีฟ้า การสงบใจ

 “กายานั้นไร้รูป รูปลักษณ์ก่อเกิดที่จิตใจ จิตใจนั้นไร้รูป……….”

‘เนี่ยลี่’ทำสมาธิอย่างต่อเนื่อง และพยายามที่จะกระตุ้นพลังจากการสังเวยเลือดอสูรอีกครั้ง

ในขณะที่’เนี่ยลี่’ทำการบ่มเพาะพลังอยู่นั้น เจตจำนงบางอย่างก็ปรากฏขึ้นมาอย่างเบาบาง

“ครอบครองทั้งจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ และเทคนิคการบ่มเพาะพลังขั้นสูงสุด และยังมีพลังจากการสังเวยเลือดอสูร ผู้ที่จะครอบครองสิ่งเหล่านี้ไม่ธรรมดายิ่งนัก….”

เจตจำนงนั้นพูดขึ้นมาอย่างแผ่วเบา

ยอดฝีมือระดับดาราสวรรค์ ที่มีลมปราณอันแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ หาได้ไม่ง่ายนัก

“แต่น่าเสียดายร่างกายของเจ้า กำลังจะตกเป็นของข้าแล้ว!”

เจตจำนงดังกล่าวหัวเราะ และพุ่งเป็นลำแสงอันหนาวเหน็บเข้าหาตัว’เนี่ยลี่’

เมื่อลำแสงอันหนาวเหน็บ กำลังจะเข้าไปในร่างของ’เนี่ยลี่’ ‘เนี่ยลี่’ก็ลืมตาขึ้นในทันที มีเสียงดัง ฟุ่บบ! แล้วเขาก็หายไปจากจุดที่นั่งอยู่นั้นทันที

ลำแสงอันหนาวเหน็บพุ่งเข้าหาเพียงความว่างเปล่า และสงสัยว่า’เนี่ยลี่’นั้นหายไปไหน ‘เนี่ยลี่’นั้นได้หายตัวห่างออกไปหลายลี้

“ในที่สุด ข้าก็หาเจ้าพบ!”

‘เนี่ยลี่’จับจ้องไปทางเจตจำนงนั้น แม้ว่าเขาจะทำการบ่มเพาะพลังอยู่ เขาก็ยังรับรู้ถึงทุกการเคลื่อนไหวในจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ และเขาได้เตรียมการณืเอาไว้แล้ว

ในที่สุด’เนี่ยลี่’ก็มองเห็นตัวจริงของเจตจำนงนี้อย่างชัดเจน มันเป็นกลุ่มก้อนหมอกควันสีฟ้า และไม่มีร่างกายที่แท้จริง

“ข้าไม่คิดเลยว่า แม้แต่ตอนที่เจ้าบ่มเพาะพลังอยู่ ก็สามารถป้องกันการจู่โจมจากข้าได้ ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าต่ำเกินไป!”

กลุ่มก้อนหมอกควันสีฟ้า พูดออกมาอย่างช้าๆ

เสียงนี้มันคือ เสียงเดียวกับห้วงความคิดของตำหนักซีอิงเสิ่น!

ห้วงความคิดของตำหนักซีอิงเสิ่น ถูก’เนี่ยลี่’นำเข้ามาไว้ในจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ!

“ไม่เพียงประเมินข้าต่ำไป เจ้ายังทำสิ่งที่ผิดพลาดยิ่งใหญ่นัก นั่นคือเจ้าไม่ควรที่จะเข้ามาอยู่ในจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำนี้
ทุกพื้นที่ในจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของข้า!”

‘เนี่ยลี่’หัวเราะ จิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ สมบัติชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของขอบเขตวิญญาณของ’เนี่ยลี่’และ’เนี่ยลี่’นั้นก็สามารถที่จะควบคุมทุกอย่างที่อยู่ในจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำนี้ได้

“แม้ว่าเจ้าจะควบคุมทุกสิ่งในจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำได้ แต่เจ้าก็ไม่มีทางรู้ว่าข้านั้นคืออะไร? และการที่จะจับข้านั้นก็เป็นไปไม่ได้!”

เจตจำนงนั้นพูดขึ้นมาด้วยความมั่นใจ

‘เนี่ยลี่’พยายามที่จะใช้พลังของจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ เพื่อจับเจตจำนงนั้นไว้ แต่ด้วยที่ฝ่ายตรงข้ามนั้นไร้รูปลักษณ์ที่แท้จริง แม้จะรับรู้การปรากฏตัวของมัน แต่ก็ไม่อาจที่จะจับมันได้อย่างสมบูรณ์

“แม้ว่านี่อาจจะเป็นอาณาเขตของเจ้า แต่ข้าก็สามารถไปทุกแห่งได้อย่างอิสระ สำหรับข้านั้นผู้ใดจะเป็นผู้ครอบครองก็หาได้แตกต่างกันไม่ และเจ้าเองก็ได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่เช่นกัน ที่ได้นำค่ายกลและแกนกลางของตำหนักซีอิงเซิ่นเข้ามาไว้ข้างในจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำนี้ แม้ว่าทุกพื้นที่ของจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำจะเป็นอาณาเขตของเจ้า แต่ตำหนักซีอิงเสิ่นนั้นเป็นอาณาเขตของข้า เจ้านั้นจะทำอะไรข้าได้?”

เจตจำนงนั้นหัวเราะขึ้นมา และพูดต่ออีกว่า

“ในครานี้ข้าอาจจะพลาดไป แต่ข้าก็ยังหาโอกาสครั้งต่อไปได้ สักวันข้าก็จะทำได้สำเร็จ!”

ฟุ่บบ!

เจตจำนงนั้นได้หายไปอีกครั้ง

ในครั้งนี้’เนี่ยลี่’สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า เจตจำนงนั้นได้หายเข้าไปในแกนกลางของตำหนักซีอิงเสิ่น

‘เนี่ยลี่’พยายามตรวจสอบทางเข้าออกของแกนกลางของตำหนักซีอิงเสิ่นแต่ก็พบว่าเขาถูกเจตจำนงนั้นปิดกั้นเอาไว้ให้อยู่แต่ภายนอกอย่างสมบูรณ์

‘เนี่ยลี่’เผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย เจตจำนงของตำหนักซีอิงเสิ่นคิดที่จะซ่อนตัวอยู่ข้างในนี้สินะ ตอนนี้เขานั้นยังอยู่ในระดับดาราสวรรค์ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เขายังไม่อาจที่จะทำอะไรมันได้ แต่เขาไม่มีทางที่จะหยุดอยู่แค่เพียงระดับดาราสวรรค์เพียงเท่านี้
เมื่อเขาบ่มเพาะพลังให้สูงขึ้นไปอีก เจตจำนงของตำหนักซีอิงเสิ่นจะยังซ่อนตัวอยู่อีกได้หรือไม่?

‘เนี่ยลี่’หยุดให้ความสนใจกับมัน และนั่งสมาธิเพื่อบ่มเพาะพลังต่อไปอีก

ภายในแกนกลางของตำหนักซีอิงเสิ่น

เจตจำนงนั้นเฝ้ามองดู’เนี่ยลี่’นั่งสมาธิและทำการบ่มเพาะพลัง มันรู้สึกเศร้าใจยิ่งนัก เพราะมันเป็นเพียงแค่เจตจำนงเท่านั้น ไม่อาจที่จะประมือกับ’เนี่ยลี่’โดยตรงได้ และด้วยการที่ฝ่ายตรงข้ามคือ’เนี่ยลี่’ มันก็เลยรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเท่าใดนัก เขาไม่คิดเลยว่า’เนี่ยลี่’จะระมัดระวังตัวถึงเพียงนี้ และสามารถรับมือมันได้อย่างรวดเร็ว

เดิมทีนั้นมันคิดที่จะยั่วยุให้’เนี่ยลี่’โจมตีเข้ามาที่แกนกลางของตำหนักซีอิงเสิ่น แต่’เนี่ยลี่’ก็มิได้หลงกลเลยแม้แต่น้อย

เจ้าคนผู้นี้เป็นแค่เพียงเด็กหนุ่มอายุเพิ่งจะสิบห้าหรือสิบหกปี แต่เหตุใดจึงรับมือได้ยากยิ่งนัก?

‘เนี่ยลี่’ยังคงตั้งสมาธิไปที่การบ่มเพาะพลัง ในตอนนี้เขาแทบจะไม่รู้เลยว่าเวลาได้ล่วงเลยไปเท่าใดแล้ว

ด้วยการกระตุ้นเลือดอสูรยังคงเสริมสร้างการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย

ทันใดนั้น’เนี่ยลี่’ก็ได้ลืมตาขึ้นมา ศิลาแก่นแท้จิตวิญญาณทองคำสามก้อนก็ล่องรอยอยู่รอบ ๆ ตัวเขา ตูมม! ตูมม! ตูมม!

หลังจากเสียงระเบิดขึ้น ศิลาแก่นแท้จิตวิญญาณทองคำทั้งสามก้อนก็ระเบิดเป็นผง และส่งพลังสวรรค์จำนวนมากเข้าสู่ร่างกายของ’เนี่ยลี่’ราวกับบ้าคลั่ง

หลังจากนั้น ทุกส่วนของร่างกายของเขาราวกับเป็นน้ำวนขนาดใหญ่ พลังสวรรค์ที่ถูกดูดซับเข้าไปข้างใน จิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ เคลื่อนย้ายไปบรรจบที่ร่างกายของ’เนี่ยลี่’คลื่นพลังม้วนวนราวกับว่าเขานั้นดูดซับไปพลังทั้งหมดเข้าไป

คลื่นพลังสวรรค์ที่โคจรอยู่รอบตัวเขา ทำให้ต้นไม้ใบหญ้าถูกพัดจนมีเสียงเสียดสีกันดังขึ้นมา ถ้าหากมีผู้ใดได้มาพบเห็น หรือว่าแม้แต่พวกสัตว์อสูร คงจะหนีกันกระจายไปทั่วทั้งสี่ทิศ

ด้วยศิลาแก่นแท้จิตวิญญาณทองคำทั้งสามก้อน ทำให้’เนี่ยลี่’ดูดซับพลังสวรรค์ได้อย่างมากมาย ห้วงขอบเขตพลังของเขาพองออกราวกับลูกบอลขนาดใหญ่ และขยายออกอย่างบ้าคลั่งพลังสวรรค์ที่ถูกดูดซับจนทำให้มันขยายตัวออกมาขึ้น

กระตุ้นก่อให้เกิด ดาราวิญญาณขึ้นมา

พรึ่บบ!

ดาราวิญญาณดวงที่สอง ที่อยู่ถัดจากดาราวิญญาณดวงแรก ก็ได้กระพริบขึ้นมา

‘เนี่ยลี่’ขมวดคิ้ว เขาไม่คิดเลยว่ามันจะรวดเร็วถึงเพียงนี้ ในชีวิตที่แล้วของเขานั้น กว่าจะที่จุดประกายดาราวิญญาณดวงที่สอง เขาต้องใช้เวลากว่าสองปี แต่ใช้ชีวิตนี้กลับใช้เวลาแค่เพียงไม่กี่ก้านธูปเท่านั้น แต่เขาก็พอที่จะเข้าใจได้ว่า แม้ว่าในชีวิตที่แล้วของเขาจะมีตำราจิตอสูรท่องเวลา แต่ตำราเล่มนั้นก็มิได้ช่วยในการบ่มเพาะพลังของเขา และเทคนิคการบ่มเพาะพลังของเขาในตอนนั้น ก็มิได้วิเศษเท่าใดนั้น

แต่’เนี่ยลี่’ในชีวิตนี้ นอกเหนือจากเทคนิคการบ่มเพาะพลัง เทพวิธีฟ้า ที่วิเศษยิ่งนัก และเขายังได้รับการสังเวยเลือดอสูร รวมถึงจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ รวมถึงของวิเศาอื่น ๆ อีกมากมาย และเขายังมี ศิลาแก่นแท้จิตวิญญาณทองคำ ทำให้ความก้าวหน้าในการบ่มเพาะพลัง เมื่อชีวิตที่แล้วของเขาจึงไม่อาจที่จะเทียบได้…………..

จบตอน

แปลโดย นายมะพร้าว

คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments