ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปที่สถาบันวิญญาณฟ้า ณ ที่พักของหลี่ชิงอวิ๋น
“ท่านเนี่ยลี่ ท่านกู้เบ่ย ท่านลู่เพียว ในที่สุดพวกท่านก็กลับมา!”
เมื่อเห็นพวก’เนี่ยลี่’ทั้งสามคนกลับมา เหล่าสมาชิกของกองกำลังอสูรก็ถึงกับน้ำตาท่วมหน้า หลายวันที่ผ่านมาทำให้พวกเขารู้สึกย่ำแย่เป็นอย่างมาก
‘เนี่ยลี่’ขมวดคิ้วเมื่อเห็นท่าทางขมขื่นของสมาชิกกองกำลังอสูรของเขา และกองกำลังเส้นทางสวรรค์
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“มันมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น เรื่องมีอยู่ว่า…”
‘หลี่ชิงอวิ๋น’เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในหลายวันที่ผ่านมา
‘หลี่ชิงอวิ๋น’ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดขึ้นมาอีกว่า
“ข้าคิดว่ามันเป็นเรื่องที่แปลกเกี่ยวกับ หลี่ยื่อฟง จู่ ๆ เขาก็มียอดฝีมือจำนวนมากมายมาช่วยเหลือ จะต้องมีคนที่อยู่เบื้องหลังเขาเป็นแน่ แต่ข้ายังไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด”
“จู่ ๆ เขาก็มียอดฝีมือจำนวนมากเช่นนั้นหรือ?”
‘เนี่ยลี่’ขมวดคิ้วเล็กน้อยและคิดอะไรขึ้นมาได้
“หรือว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับหลงเทียนหมิง?”
จากความคิดเห็นของ’เนี่ยลี่’ ‘หลงเทียนหมิง’เป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด
แม้ว่า’หลงเทียนหมิง’จะไม่ได้ขึ้นครองตำแหน่งผู้นำตระกูล แต่ด้วยอุปนิสัยของ’หลงเทียนหมิง’ ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา เขาก็ได้ปีนป่ายขึ้นไปอยู่จนถึงจุดสูงสุดของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมันมิใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้จนสำเร็จ แน่นอนว่ามันจะต้องมีเบื้องหลังอะไรอยู่เป็นแน่
เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของ’หลงเทียนหมิง’ในตอนนี้ เขายังเผยให้เห็นแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ‘หลงเทียนหมิง’จะซุกซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้เท่าใด ‘เนี่ยลี่’ก็ยังไม่อาจที่จะบอกได้เช่นกัน
ดูเหมือนว่าเขานั้นต้องหาวิธีจัดการกับ’หลงเทียนหมิง’แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในขณะนี้ยังไม่เพียงพอ
‘เนี่ยลี่’นิ่งเงียบครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า
“ถ้าหากพวกเราออกไปที่โลกภายนอก แน่นอนว่าพวกหลี่ยื่อฟงจะต้องมาขัดขวางเป็นแน่ และพวกเราเองก็ไม่ได้มีกำลังมากพอที่จะจัดการกับเขาได้ ข้าคิดว่า กู้เบ่ย ลู่เพียว และท่านพี่หลี่ชิงอวิ๋น ในตอนนี้ให้ทุกคนจัดการเรื่องอยู่ภายในสถาบันวิญญาณฟ้าก่อน ส่วนข้านั้นจะเดินทางไปยัง พื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด”
‘กู้เบ่ย’ ‘ลู่เพียว’ และ’หลี่ชิงอวิ๋น’มองไปที่เนี่ยลี่แล้วเอ่ยถาม
“เจ้าไม่จำเป็นที่จะต้องมีคนติดตามไปด้วยเช่นนั้นหรือ?”
“ไม่จำเป็น”
‘เนี่ยลี่’ส่ายหน้า และพูดต่ออีกว่า
“อย่าลืมสิว่า ในตอนนี้ข้านั้นบรรลุระดับดาราสวรรค์ขั้นสูงสุดแล้ว และด้วยการผสานเข้ากับจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้า ถึงจะต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์ สักหนึ่งถึงสองสอง แม้ว่าไม่อาจที่จะเอาชนะได้ แต่ข้าก็สามารถเอาตัวรอดหลบหนีไปได้”
“ถ้าเช่นนั้นก็ดี เจ้าต้องระวังตัวให้ดีด้วย!”
‘กู้เบ่ย’คิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็พยักหน้าตอบรับไป
“ไม่ต้องกังวล ใกล้ ๆ กับพื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุดมีเมืองเล็ก ๆอยู่หลายเมือง มันมิได้เป็นสถานที่ที่อันตรายเลย”
‘เนี่ยลี่’ยิ้มและตอบกลับไป
“จะเป็นการดีถ้าหากเจ้าสามารถพายอดฝีมือระดับวิถีมังกรกลับมา ถ้าเป็นเช่นนั้นกองกำลังของเราจะแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก!”
‘ลู่เพียว’พูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
“ปัญหาของข้าคือเป็นการเดินทางไปในครั้งแรก การที่จะหาคนของเผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์ มาได้หรือไม่นั้นนับว่ายังเป็นปัญหาอยู่เช่นกัน”
‘เนี่ยลี่’ตอบกลับไป
การที่จะชักชวนยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์เองก็จะเลือกเจ้านายด้วยความหวาดระแวง และระมัดระวังเช่นกัน โดยทั่วไปจะไม่ยอมขายตัวเองในราคาที่ถูก แต่ถึงแม้ว่าจะต้องจ่ายค่าจ้างคนละห้าถึงหกหมื่นศิลาจิตวิญญาณ หรือมากกว่านั้น ‘เนี่ยลี่’ก็สามารถจ่ายได้
“ได้ ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ลองหาทางไปก่อน”
‘หลี่ชิงอวิ๋น’พยักหน้า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสามารถทำได้ในหนึ่งถึงสองวัน
‘เนี่ยลี่’ ‘หลี่ชิงอวิ๋น’ ‘กู้เบ่ย’ และ’ลู่เพียว’ พวกเขาหารือกัน และพร้อมที่จะออกเดินทาง
ในตอนนี้คงต้องรีบเดินทาง ‘เนี่ยลี่’เตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว
ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งวิ่งเข้ามาหา’เนี่ยลี่’ จากลักษณะที่เห็นก็รู้ได้อย่างชัดเจน นางคือ’หลงยู่อิน’
นางสวมชุดที่ดูแล้วน่าประทับใจยิ่งนัก แต่เมื่อ’เนี่ยลี่’กับนางชนกัน
‘เนี่ยลี่’รับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงความนุ่มนิ่มและอบอุ่นจากหน้าอกของนาง เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยกับเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ใบหน้าของ’หลงยู่อิน’เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ หน้าอกที่กระเพื่อมอยู่นั้น ก็เป็นเรื่องยากที่จะหลบสายตาไม่จ้องดู
‘หลงยู่อิน’วิ่งมาชนเข้ากับ’เนี่ยลี่’จนแทบจะล้ม
“อะแฮ่ม!”
‘หลี่ชิงอวิ๋น’ ‘กู้เบ่ย’ ‘ลู่เพียว’ ทั้งสามคนกระแอมขึ้นมาดัง ๆจากนั้นก็หันหลบไปทางอื่น
‘เนี่ยลี่’ยิ้มด้วยความเขินอายเล็กน้อยและพูดออกไปว่า
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
“ท่านอาจารย์กลับมาแต่เหตุใดจึงไม่ส่งคนไปแจ้งข่าวแก่ข้าบ้างเลย?”
‘หลงยู่อิน’มองดู’เนี่ยลี่’และพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่ดูเศร้า ๆ มองดูด้วยความบึ้งตึงเล็กน้อย ตอนนี้นางไม่รู้ว่าจะเอามือวางไว้ตรงไหน
คำพูดและท่าทางที่ดูราวกับสาวน้อยของ’หลงยู่อิน’ในตอนนี้ ‘หลี่ชิงอวิ๋น’ ‘กู้เบ่ย’ และ’ลู่เพียว’ ทั้งสามคนจ้องมองจนตาแทบจะหลุดออกมาจากเบ้านี่ยังใช่แม่เสือสาวในตำนานหรือไม่ นางเปลี่ยนแปลงมากจนเกินไปแล้ว
“ข้านั้นเพิ่งจะกลับมาแค่ไม่กี่ชั่วยาม ไม่มีเวลาที่จะส่งคนไปบอกไปเจ้าได้”
‘เนี่ยลี่’ยิ้มและตอบกลับไป
“แล้วนี่ท่านอาจารย์จะออกไปที่ใดอีก?”
‘หลงยู่อิน’จ้องหน้า’เนี่ยลี่’ทำตาใสซื่อ และถามด้วยความสงสัย
‘หลงยู่อิน’มองไปที่ใบหน้าของ’เนี่ยลี่’ นางเองก็ไม่รู้ว่าเหตุใด หัวใจของนางจึงค่อย ๆ เต้นแรงขึ้น ในตอนที่’เนี่ยลี่’นั้นหายไป นางก็ได้ส่งคนออกไปตรวจสอบว่าเมื่อไหร่ที่เขาจะกลับมา นางไม่รู้ว่าทำไม ภาพของ’เนี่ยลี่’มักจะปรากฏขึ้นมาในหัวของนาง เรื่องราวมากมายผ่านเข้ามาในหัวของนาง เรื่องที่นางไม่อาจที่จะลืมได้ ตอนที่อยู่ในด่านจิตวิญญาณแห่งแสง ตอนที่’เนี่ยหลี’ลงแส้นางอย่างไร้ปราณีถึงสามครั้ง ในตอนนี้ผิวของนางยังรู้สึกแสบร้อนเมื่อนึกถึงในตอนนั้น
นางเคยรู้สึกเกลียดชัง’เนี่ยลี่’ยิ่งนักแต่ในตอนนี้นางหาได้มีความเกลียดชัง’เนี่ยลี่’อยู่ในหัวใจเลยไม่ แต่ทว่าเรื่องราวตอนที่’เนี่ยลี่’ลงแส้นางนั้น เป็นเรื่องที่น่าจดจำ
“อืม ตอนนี้ข้าจะไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง”
‘เนี่ยลี่’รู้ดีว่าถึงจะปิดบังไปก็ไม่มีประโยชน์ ‘หลงยู่อิน’เองก็น่าจะพอเดาออก
“ให้ข้าไปกับท่านได้หรือไม่?”
‘หลงยู่อิน’จ้องมองไปที่หน้าของ’เนี่ยลี่’อย่างมีความหวัง นางเองก็ไม่รู้ว่าทำไม ถ้าหากในวันหนึ่งผ่านไปโดยที่ไม่ได้เห็นหน้า’เนี่ยลี่’
‘หลงยู่อิน’จะรู้สึกว่าหัวใจของนางจมอยู่กับบ่อน้ำตา‘เนี่ยลี่’ส่ายหน้าและตอบกลับไปว่า
“ข้าแค่ออกเดินทางไปข้างนอก อีกไม่นานก็จะกลับมา ข้าต้องการเดินทางไปเพียงลำพัง”
‘หลงยู่อิน’ทำหน้ามุ่ยด้วยความไม่พอใจ
“เจ้าจะไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งของอาจารย์เช่นนั้นหรือ?”
‘เนี่ยลี่’จ้องมอง’หลงยู่อิน’และพูดด้วยท่าทีที่จริงจัง
นางจ้องมองใบหน้าที่จริงจังของ’เนี่ยลี่’ ‘หลงยู่อิน’หยักหน้าและตอบกลับไป
“ข้าเข้าใจแล้ว!”
“เรื่องของหลงเทียนหมิงข้าจะยกให้เป็นหน้าที่ของเจ้า จงให้ความสนใจกับทุกการเคลื่อนไหวของเขา”
‘เนี่ยลี่’จ้องไปที่’หลงยู่อิน’และพูดต่ออีกว่า
“ข้าคิดว่าหลงเทียนหมิงจะเป็นคนของนิกายเทพอสูร แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด!”
“คนของนิกายเทพอสูร!”
‘หลงยู่อิน’พูดขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ถูกต้องแล้ว!”
‘เนี่ยลี่’พยักหน้า
เหตุใด’เนี่ยลี่’จึงสงสัยว่า’หลงเทียนหมิง’เป็นคนของนิกายเทพอสูร?
‘หลงยู่อิน’รู้สึกแปลกใจยิ่งนัก แต่ว่าเมื่อเป็นคำสั่งของ’เนี่ยลี่’ และเขาไม่เคยพูดอย่างไร้เหตุผล ‘เนี่ยลี่’คงจะพบเจออะไรบางอย่างเป็นแน่
“ข้าจะส่งคนไปจับตาดูหลงเทียนหมิงเอง!”
‘หลงยู่อิน’พยักหน้าตอบกลับอย่างจริงจัง ถ้าหาก’หลงเทียนหมิง’เป็นคนของนิกายเทพอสูรจริง เรื่องนี้ต้องเป็นปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน!
‘หลงเทียนหมิง’นั้นไม่เพียงเป็นผู้สืบทอดของตระกูลผนึกมังกร แต่ยังเป็นผู้เข้าชิงตำแหน่งผู้นำนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย!
“ดี! จับตามองเขาทุกก้าว แต่ไม่ต้องดำเนินการอะไร เรื่องทุกอย่างให้รอข้ากลับมา”
‘เนี่ยลี่’ตอบกลับไป
“ได้ ข้าเข้าใจแล้ว!”
‘หลงยู่อิน’พยักหน้าตอบกลับอย่างจริงจัง
….จบตอน
แปลโดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: