ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป‘หลงยู่อิน’มองดู’เนี่ยลี่’ด้วยความที่รู้สึกขมขื่นเล็กน้อย
‘กู้เบ่ย’ ‘ลู่เพียว’ และ ‘หลี่ชิงอวิ๋น’ อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ในตอนแรกนั้น’หลงยู่อิน’กับ’เนี่ยลี่’นั้น เป็นดั่งน้ำและไฟ แต่ในตอนนี้กลับทำตัวเชื่อง ๆ และยอมเชื่อฟังคำสั่งแต่โดยดี
แม้ว่า’หลงยู่อิน’จะดูภายนอกแล้วเป็นคนที่แข็งกร้าว เมื่อลอกความแข็งกร้าวนั้นออกมา หัวใจของ’หลงยู่อิน’นั้นบอบบางยิ่งนัก
ซึ่งในจุดนี้ ‘หลงยู่อิน’เป็นเช่นเดียวกับแม่ของนาง แม้ว่าแม่ของ’หลงยู่อิน’จะดูเป็นหญิงสาวที่เข้มแข็ง แต่นางก็เป็นเพียงหญิงม่าย
ที่ใช้ความเข้มแข็งเป็นเปลือกนอกเท่านั้น เป้าหมายที่แม่ของ’หลงยู่อิน’คิดไว้คือการผลักดัน’หลงยู่อิน’ให้เป็นผู้นำตระกูลผนึกมังกร ใครจะรู้เล่าว่าแม่ของ’หลงยู่อิน’นั้นทุ่มเทไปมากเท่าใด
แต่ที่เห็นได้ชัดก็คือ แม่ของ’หลงยู่อิน’ ได้เตรียมการณ์ทุกอย่างเอาไว้หลายปีแล้ว เพื่อให้ทุกเรื่อง ดำเนินไปได้ง่ายขึ้นแม่ของ’หลงยู่อิน’ได้สร้างกองกำลังให้แก่ลูกสาวเพื่อที่จะหาทางยับยั้ง’หลงเทียนหมิง’
แม้ว่ากองกำลังที่จัดตั้งขึ้นอาจจะยังไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับของ’หลงเทียนหมิง’ แต่อย่างน้อย ในแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ยังสามารป้องกันมิให้’หลงเทียนหมิง’ได้ขึ้นไปครองตำแหน่งผู้นำตระกูลได้ในตอนนี้
และในตอนนี้ก็ยังมีเขาอีกคน ‘เนี่ยลี่’ เขาจะเป็นคนที่พยายามขัดขวางไม่ให้’หลงเทียนหมิง’สามารถทำสิ่งที่ต้องการให้สำเร็จได้โดยง่าย
‘เซี่ยวหยู่’เองยังคงมุ่งมั่นกับการบ่มเพาะพลังอยู่ รวมถึงเทพธิดา’ยู่หยาน’และ’จินตาน’ ที่ยังคงอยู่ในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ
“ข้าขอตัวไปก่อนนะ!”
‘เนี่ยลี่’ พูดลา ‘หลี่ชิงอวิ๋น’ ‘กู้เบ่ย’ และ’ลู่เพียว’ ทั้งสามคน จากนั้นก็มองไปที่’หลงยู่อิน’
‘หลงยู่อิน’ขยับปากแต่ไม่ได้พูดอะไร
‘เนี่ยลี่’อดที่จะยิ้มไม่ได้ ก่อนที่จะทะยานออกไป
‘เนี่ยลี่’ใช้เทคนิคในการปลอมแปลงหน้าตาอย่างรวดเร็ว ดังนั้นแม้ว่า พวก’หลี่ยื่อฟง’จะให้คนยืนเฝ้าอยู่ที่ประตูทางออกของสถาบันวิญญาณฟ้าก็ไม่อาจที่จะจดจำ’เนี่ยลี่’และขวางเอาไว้ได้
‘เนี่ยลี่’ที่กำลังจะออกจากสถาบันวิญญาณฟ้า เขาพบว่าคนของ’หลี่ยื่อฟง’นั้นเฝ้าอยู่ที่ตรงประตูทางออกทุกด้านของสถาบันวิญญาณฟ้า และตรวจสอบผู้ที่ผ่านเข้าออกอยู่ตลอดเวลา
มียอดฝีมือระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์ยืนอยู่ที่ทางเข้าออกของสถาบันวิญญาณฟ้า และมีท่าทีที่ดุดัน ทำให้เหล่านักเรียนอดที่จะหวาดกลัวมิได้ เนื่องจากเกรงว่าตนเองนั้นจะตกเป็นเป้าหมายของคนกลุ่มนั้น
“เจ้าคนผู้นั้น หยุดก่อน!”
ยอดฝีมือระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์ผู้หนึ่งเรียกให้’เนี่ยลี่’หยุด เขาจ้องมองเนี่ยลี่และพูดขึ้นมาว่า
“ข้าไม่เคยเห็นหน้าของเจ้ามาก่อน!”
“พี่ชาย ท่านล้อเล่นใช่หรือไม่ ในสถาบันวิญญาณฟ้านี้มีนักเรียนอยู่มากมาย พี่ชายจะจดจำหมดทุกคนได้เช่นใดกัน?”
‘เนี่ยลี่’แกล้งทำเป็นตัวสั่น และพูดขึ้นมาด้วยท่าทีที่เจียมตัว
“เจ้าพูดอะไรกัน?”
ดวงตาของยอดฝีมือระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์จ้องมองมาที่’เนี่ยลี่’
“พี่ใหญ่ ข้าก็แค่จะอธิบายเท่านั้น!”
‘เนี่ยลี่’พูดออกไปด้วยเสียงที่เบาจากพี่ชาย กลายเป็นพี่ใหญ่ เป็นการพูดอย่างเจียมตัวมากขึ้น
*เรียกตามต้นฉบับจีนนะครับ
“หึ!”
ยอดฝีมือระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์พ่นลมหายใจอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็เดินไปข้าง ๆ’เนี่ยลี่’
‘เนี่ยลี่’นำศิลาจิตวิญญาณออกมาสิบก้อน และยัดใส่มือของยอดฝีมือระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์ และพูดขึ้นว่า
“นี่ถือว่าเป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้โปรดละเว้นข้าด้วย ที่ข้าออกเดินทางในครั้งนี้ เพราะไปทำธุระให้แก่ท่านอาจารย์อู๋เหยี่ยน ได้โปรดให้ข้าออกไปด้วยเถิด!”
เมื่อได้ยินคำพูดของ’เนี่ยลี่’ ยอดฝีมือระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เขาคิดว่า’เนี่ยลี่’จะเป็นแค่ยอดฝีมือระดับดาราสวรรค์เท่านั้น แต่เขาไม่คิดเลยว่า ‘เนี่ยลี่’จะเป็นยอดฝีมือระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์ที่ฝีมือมิได้ด้อยไปกว่าเขา
ด้วยความสามารถของ’เนี่ยลี่’นั้น การที่จะปกปิดความแข็งแกร่งเอาไว้จากสายตาของยอดฝีมือระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์ มันเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนักยอดฝีมือระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าและพูดออกไป
“นี่ข้าเห็นว่าเป็นธุระของอาจารย์อู๋เหยี่ยน เจ้าไปได้!”
จากนั้นเขาก็เก็บศิลาจิตวิญญาณทั้งสิบก้อนไปอย่างเงียบ ๆ
“ข้าต้องขอบคุณท่านพี่ใหญ่ยิ่งนัก!”
‘เนี่ยลี่’พูดพร้อมกับประสานมือเพื่อคารวะ ยอดฝีมือระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์โบกมือของเขาและพูดขึ้นมาว่า
“ปล่อยให้เขาออกไปได้!”
ในขณะที่’เนี่ยลี่’ก้มหัวลงต่ำ ดวงตาของเขานั้นเป็นประกาย เขาสังเกตุได้ถึงอะไรบางอย่าง ยอดฝีมือระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์ได้มีการปิดบังโดยการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ แต่กลิ่นอายของลมปราณที่แผ่ออกมานั้น เห็นได้ชัดว่ามาจากเทคนิคการบ่มเพาะพลังลับของตระกูลผนึกมังกร
ในตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่า คนเหล่านี้จะเป็นคนของ’หลงเทียนหมิง’เป็นแน่
เขาไม่รู้ว่า’หลี่ยื่อฟง’กับ’หลงเทียนหมิง’ร่วมมือกันตั้งแต่เมื่อใด แต่เขามั่นใจว่า’หลี่ยื่อฟง’กับ’หลงเทียนหมิง’จะต้องร่วมมือกันมานานมากแล้ว และเรื่องที่’กู้หลาน’ถูกวางยาพิษ ‘หลงเทียนหมิง’ก็จะต้องมีความเกี่ยวข้องด้วยเป็นแน่
‘กู้เหิง’นั้นถูกตัดสินโทษถูกคุมขังไปแล้ว ก็เท่ากับว่าแขนขาของ’หลงเทียนหมิง’ถูกตัดแล้วไปข้างหนึ่ง เขาไม่คิดเลยว่า’หลงเทียนหมิง’จะทนรอไม่ไหว จนต้องรีบผลักดัน’หลี่ยื่อฟง’ให้ออกมายืนทางด้านหน้าอย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้
แต่ในทางกลับกัน’หลี่ยื่อฟง’นั้นคงจะต้องลำบากเสียยิ่งกว่า’กู้เหิง’
‘หลี่ยื่อฟง’นั้นแตกต่างจาก’กู้เหิง’ยิ่งนัก
‘กู้เหิง’นั้นมีเหล่าผู้อาวุโสหนุนหลัง ในตระกูลกู้ ยังมีเหล่าผู้อาวุโสที่เคยให้การสนับสนุน’กู้หลาน’ แต่หลังจากที่’กู้หลาน’นั้นถูกวางยาพิษจนพิการ พวกเขาจึงจำเป็นที่จะต้องให้การสนับสนุน’กู้เหิง’
ส่วน’หลี่ยื่อฟง’นั้น เป็นบุตรชายของผู้นำตระกูลเถ้าอัคคี ทั้งความสามารถและผู้ที่ให้การสนับสนุนของ’หลี่ยื่อฟง’นั้นก็นับว่าด้อยกว่า’หลี่ชิงอวิ๋น’ รวมไปถึงความชื่นชมจากคนรุ่นใหม่ในตระกูล แต่เขากลับถูกผลักดันให้เป็นผู้สืบทอดลำดับที่หนึ่ง
‘หลงเทียนหมิง’จะต้องพยายามให้บิดาของ’หลี่ยื่อฟง’ลงจากตำแหน่งผู้นำตระกูลเถ้าอัคคีให้เร็วที่สุด หรือให้’หลี่ยื่อฟง’ทำสิ่งใดบางอย่าง ที่ทำให้นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจจะยอมรับได้ ถ้าหาก’หลี่ยื่อฟง’จะต้องถูกถอดจากการเป็นผู้สืบทอดลำดับที่หนึ่งของตระกูลเถ้าอัคคี
‘หลงเทียนหมิง’จึงเลือกที่จะให้’หลี่ยื่อฟง’มาจัดการกองกำลังเส้นทางสวรรค์และกองกำลังอสูร ซึ่งมันเป็นหนทางที่จะทำให้’หลงเทียนหมิง’สามารถสงบจิตใจเอาไว้ได้
ไม่มีทางที่กองกำลังเส้นทางสวรรค์และกองกำลังอสูร จะสามารถจัดการกับ’หลี่ยื่อฟง’ได้ และถ้าหาก’หลี่ยื่อฟง’นั้นเกิดเพลี่ยงพล้ำขึ้นมา บิดาของเขาจะต้องออกมาเคลื่อนไหวเป็นแน่!
‘หลงเทียนหมิง’ผู้นี้รับมือได้ยากนัก! และที่สำคัญ’หลงเทียนหมิง’ผู้นี้มักจะคอยหลบชักใยอยู่เบื้องหลัง จึงยากที่จะหาทางรับมือได้
‘เนี่ยลี่’ทะยานออกไป และหายลับไปบนท้องฟ้า
หลังจากนั้นแค่ครู่หนึ่ง มีร่างของคนผู้หนึ่งเดินมาเพื่อที่จะออกไป คนผู้นี้ก็คือ’หลงยู่อิน’ จ้องไปไปยังท้องฟ้าที่ห่างไกล ริมฝีปากของนางยกขึ้นเล็กน้อยเผยให้เห็นรอยยิ้ม ก่อนที่’เนี่ยลี่’จะออกไป นางได้ใช้ธูปวิญญาณในการติดตาม มันสามารถใช้ติดตามคนที่อยู่ห่างออกไปหลายพันลี้ได้ ไม่ว่า’เนี่ยลี่’จะไปที่ใด นางก็สามารถที่จะติดตาม’เนี่ยลี่’ไปได้!
“ช้าก่อน!”
มีกลุ่มยอดฝีมือระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์มาล้อมนาง และขวางทางของนางเอาไว้ เหล่ายอดฝีมือระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์เผยให้เห็นท่าทีที่ประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อเห็นใบหน้าชัดเจนว่านางคือ’หลงยู่อิน’ พวกเขารู้สึกอึดอัดใจและคิดในใจว่า
‘ข้าไม่กล้าแม้แต่จะสบตาของนาง’
‘หลงยู่อิน’หันหน้าไปมองด้วยสายตาอันเย็นชา และปรากฏความเกลียดชังที่ใบหน้าของนาง นางพูดขึ้นมาว่า
“พวกเจ้ากล้าที่จะขัดขวางข้าเช่นนั้นเหรอ? พวกเจ้าตาบอดหรืออย่างไร?”
หลังจบคำพูดของ’หลงยู่อิน’ หญิงวัยกลางคน สองคนที่ดูราวกับมือสังหารปรากฏที่ข้างกายนาง
ตูมม! ตูมม! ตูมม!
พวกนางเตะและต่อยออกมา เหล่ายอดฝีมือระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์ที่ขวางอยู่ ร้องโอดโอย และก้าวขาหลบออกไป หญิงวัยกลางคนสองคนนี้ เป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับวิถีแห่งมังกร!
เหล่านักเรียนในสถาบันวิญญาณฟ้าอดที่จะขนหัวลุกไม่ได้ แต่ในใจของพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะดีใจ เหล่ายอดฝีมือระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์ลูกน้องของ’หลี่ยื่อฟง’ นั้นทำอะไรไม่มีขื่อมีแป แต่น่าเสียดายที่ในวันนี้พวกเขาต้องพบเจอกับคนที่โหดเหี้ยมยิ่งกว่า
และในตอนนี้พวกเขาก็รู้ซึ้งแล้วว่า ผู้หญิงที่เพิ่งจะเดินออกไปนี้ก็คือ ‘หลงยู่อิน’!
นางคือผู้หญิงที่สามารถทำร้ายได้กระทั่งคู่หมั้นของตนเอง
นี่สินะที่ว่ากันว่า คนเลวก็ต้องย่อมถูกกำจัดด้วยคนที่เลวยิ่งกว่า!
คนของ’หลี่ยื่อฟง’ นั้นช่างบ้าบิ่นยิ่งนักที่คิดจะขัดขวาง’หลงยู่อิน’ มันก็เป็นแค่การแสวงหาความตายก็เท่านั้น!
“คุณหนู คุณชาย เดินทางไปทางนั้น”
หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งชี้ไปยังทิศทางด้านหน้า ที่ไกลออกไป
“อืม”
ใบหน้าของหลงยู่อินเป็นสีแดงเล็กน้อย
จริง ๆ แล้วนางก็ไม่ต้องการที่จะให้เรียก’เนี่ยลี่’เช่นนั้น แต่ดูเหมือนว่าแม่ของนางจะพูดอะไรบางอย่างให้หญิงวัยกลางคนสองคนนี้ฟัง
เพราะว่านางนั้นเป็นคนขี้อาย จึงยอมที่จะให้เรียกเช่นนี้ไปก่อน‘หลงยู่อิน’และหญิงวัยกลางคนสองคนรวมสามคน ออกเดินทางไปตามทางที่’เนี่ยลี่’มุ่งหน้าไป
……………….จบตอน
เกล็ดความรู้เรื่องภาษาจีน
คำว่า คุณชาย
ในที่นี้ทางต้นฉบับใช้คำว่า 姑爷อ่านว่า
กู้เอี๊ย ที่แปลว่า ลุงแต่คำนี้มีความหมายแฝงว่า
ลูกชายตามกฏหมายในที่นี้จะเรียกใช้โดยครอบครัวที่แต่งงานกันแล้ว
แปลโดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
ที่มา: