ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปสำหรับเผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์ อาจจะเป็นเพราะดวงอาทิตย์ของพื้นที่รกร้างไร้ที่สิ้นสุดนั้นแรงกล้ายิ่งนัก พวกเขาจึงมีผิวที่ดำคล้ำ ที่ร่างกายของพวกเขาต่างก็มีรอยสักลึกลับ ที่แขนและขาของพวกเขา จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะระบุตัวพวกเขาได้
ในตอนนี้คนจากเผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์หลายคน กำลังโต้เถียงอย่างรุนแรงกับพ่อค้าที่สวมใส่ชุดผ้าไหมคนหนึ่ง
เริ่มมีฝูงชนมารุมล้อม แต่สวนใหญ่นั่งดูจากสนามด้านข้าง
‘เนี่ยลี่’ที่ยืนอยู่ท่านกลางฝูงชน ยืนฟังเรื่องราวที่พวกเขากำลังโต้เถียงกัน
ชนเผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์ สองคนที่ยืนอยู่ทางด้านหน้าอายุราวสี่ถึงห้าสิบปี ใบหน้าของพวกเขาเป็นสีแดงด้วยความโกรธเกรี้ยว ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ที่ด้านหลังของพวกเขาเป็นเหล่าเด็กหนุ่มของชนเผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์ อายุราวสิบหกหรือสิบเจ็ดปี หนึ่งในนั้นมีดวงตาที่มืดมนและเศร้าสร้อย
“เงื่อนไขของเจ้านั้นข้าไม่อาจที่จะตกลงได้ พวกเราเองก็ซื้อขายกันมาหลายครั้งแล้ว เราจะคิดมูลค่าสอดคล้องกับระดับการบ่มเพาะพลังของพวกเจ้าเสมอ สามหมื่นศิลาจิตวิญญาณ และจะไม่มีการเพิ่มให้มากกว่านี้ ถ้าไม่ต้องการที่จะขายพวกเจ้าก็จงกลับไปซะ!”
พ่อค้าวัยกลายคนที่หุ่นอวบอ้วน พูดแบบไม่สนใจใยดีนัก
“พวกข้านั้นเป็นชนเผ่าเทียนจิน ทองสวรรค์ แห่งเผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์ ชนเผ่าของพวกเรานั้นแข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์ คนเด็กหนุ่มเหล่านี้เป็น เด็กหนุ่มของเผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์ที่มีฝีมือที่สุดของเรา ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะประเมินราคาของพวกเขาจากระดับการบ่มเพาะพลัง!”
ชนเผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์ทั้งสองคนนั้น พูดอธิบายชี้แจงเหตุผล เพื่อให้เขานั้นยอมรับข้อเสนอ
เหล่าฝูงชนเริ่มที่จะกระซิบคุยกัน
“พวกคนจากเผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์ช่างโลภมากยิ่งนัก สามหมื่นศิลาจิตวิญญาณก็เป็นราคาที่สูงมากแล้ว พวกเขาก็ยังไม่พอใจอีกรึ!”
“ถ้าหากมีการยอมให้ในการซื้อขายคราวนี้ หลังจากนี้ไป การซื้อขายคนจากเผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์ก็จะราคาสูงขึ้นไปอีก!”
เหล่าพ่อค้าพวกนี้ ล้วนมาจากอาณาจักรที่หลายหลาย พวกเขานั้นมาเพื่อซื้อขายชนเผ่าพันธุ์แห่งเทพเมฆาสวรรค์ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ ที่พวกเขาจะเห็นด้วยกับพ่อค้าวัยกลางคนผู้นั้น
ตราบเท่าที่มีเงิน ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกังวลในการซื้อขายทาสจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ เพราะมีอยู่หลายเมืองที่อยู่รอบชายแดนนี้
และในทุกวันก็มีทาสจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ ที่มารอเสนอขายตนเอง เพราะว่าชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ไม่มีอำนาจมากพอที่จะต่อรองกับเหล่าเศรษฐีพวกนั้นจึงต้องยอมที่จะขายตัวเองเป็นทาสในราคาสามหมื่นศิลาจิตวิญญาณ
‘เนี่ยลี่’มองไปยังด้านหน้าเห็นเหล่าชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ที่ผอมแห้ง เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
ในอดีตอันยาวนาน ชนเผ่าของพวกเขานั้นเป็นเผ่าพันธุ์ของพวกเขานั้นแข็งแกร่งมากที่สุด และมากด้วยเกียรติยศ พวกเขานั้นได้ครอบครองอณาจักรใหญ่ แต่ในตอนนี้กลับตกต่ำยิ่งนัก พวกเขานั้นต้องการที่จะขายคนของพวกเขาให้ไปเป็นทาสด้วยการแลกกับเงิน และต้องทำการโต้เถียงอย่างรุนแรง พวกเขาคงไม่อาจที่จะกลับไปรุ่งเรืองดังเดิมได้อีกแล้ว
‘เนี่ยลี่’นั้น ก็มิได้เป็นคนที่รู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่นสักเท่าใด แต่เขาคิดว่า ชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ นั้นต่อสู้กับจักรพรรดิปราชญ์จึงต้องมาพบกับชะตากรรมเช่นนี้
แต่กลับไม่ได้รับการยกย่องจากชนเผ่าอื่น ๆ เลย ‘เนี่ยลี่’จึงอดถอนหายใจไม่ได้
จักรพรรดิปราชญ์นั้นสามารถผนึกเวลาและพื้นที่ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด และทำการสร้างพื้นที่เช่นนี้หลายร้อยแห่งในเขตชายแดนรวมถึงอาณาจักรซากมังกรด้วย แต่ในที่อยู่ในอาณาจักรซากมังกร กลับไม่รับรู้ถึงเรื่องราวพวกนี้อย่างชัดเจน และยังคงขัดแย้งกันภายในอีกด้วย
เมื่อคิดถึงประสบการณ์ในชีวิตที่แล้วของเขา ‘เนี่ยลี่’ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่พอใจ
“พ่อค้าทั้งสองคนนั่น มาจากที่ใดกัน?”
“เจ้าไม่รู้เช่นนั้นหรือ? พวกเขาเป็นคนจากสมาคมการค้าหลงซี ลมหายใจมังกร พวกเขานั้นควบคุมการซื้อขายทาสทั้งหมดเกินกว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ชายที่ใบหน้าเหมือนม้านั่นคือรองประธานของสมาคมการค้าหลงซี การที่ชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์จะทำการต่อรองราคากับเขานั้น มันเป็นไปไม่ได้เลย ผู้คนในเมืองชายแดนเช่นนี้ คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการที่จะขัดแย้งกับสมาคมการค้าหลงซี!”
หลังจากที่’เนี่ยลี่’ได้ฟังเรื่องราวดังกล่าว เขาจ้องมองไปทางด้านหน้า เขาเห็นชายวัยกลางคนที่มองด้วยสายตาเหยียดหยัน และเอามือไขว้ไว้ที่ด้านหลัง คนดังกล่าวนี่คงจะเป็นรองประธานของสมาคมการค้าหลงซี ที่เขาพูดถึง
นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะซื้อคนจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ แน่นอนว่า’เนี่ยลี่’จะไม่ยอมพลาดโอกาสนี้เป็นแน่ ที่ด้านหน้าของเขามีชายหนุ่มจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ไม่กี่คน ความแข็งแกร่งของพวกเขาน่าจะอยู่ที่ระดับวิถีแห่งมังกรขั้นที่หนึ่ง ที่นับได้ว่ามีความสามารถและมีความสามารถที่ไม่เลวนัก
‘เนี่ยลี่’แหวกฝูงชนเข้าไป
“ท่านประธานหลิน พวกข้าแค่ต้องการที่จะได้ในราคาที่ยุติธรรม เด็กหนุ่มเหล่านี้เป็นผู้มีพรสวรรค์ยิ่งนักในชนเผ่าของพวกข้า ถ้าหากว่าชนเผ่าของพวกข้านั้นไม่ได้มีปัญหา พวกข้าจะไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาต้องไปเป็นทาสอย่างแน่นอน!”
ผู้นำของชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์พูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ
“ราคาที่ยุติธรรมเช่นนั้นหรือ? ราคาที่พวกข้าได้ตั้งไว้นั้นเหมาะสมดีแล้ว! หากมีผู้ใดที่เสนอราคาให้สูงกว่าพวกข้า เจ้าก็สามารถขายให้กับพวกเขาได้เลย!”
ชายวัยกลางคนที่ยืนถัดไปที่สวมชุดคลุมสีเงินพูดขึ้นมา
‘ประธานหลิน’ของสมาคมการค้าหลงซี ไม่ได้พูดอะไรทำเพียงแค่ชำเลืองมอง
“สามหมื่นศิลาจิตวิญญาณ นั่นเป็นราคาที่มากพอแล้วสำหรับผู้ที่อยู่ในระดับวิถีแห่งมังกร ขั้นที่หนึ่ง!”
“พวกเขานั้นอยู่แค่ระดับวิถีแห่งมังกรขั้นที่หนึ่ง แต่เจ้ากลับอวดอ้างว่าพวกเขานั้นเป็นผู้มีพรสวรรค์ ใครจะรู้เล่าว่า พวกเขาจะต้องฝึกฝนอย่างหนักไปอีกนานแค่ไหนจึงจะบรรลุระดับวิถีแห่งมังกรขั้นที่สอง?”
“ถ้าหากว่าพวกเจ้านั้นไม่ยินดีที่จะขาย ก็จงไปเสนอขายให้แก่ผู้ที่ให้ราคาสูงกว่านี้!”
‘ประธานหลิน’ของสมาคมการค้าหลงซี พูดขึ้นมาอย่างไม่สนใจใยดี
‘เนี่ยลี่’พอจะคาดเดาได้ว่า พวกเขานั้นรู้ดีว่าไม่มีผู้ใดกล้าที่จะขัดแย้งกับสมาคมการค้าหลงซี จึงไม่มีผู้ใดที่จะให้ราคาที่สูงกว่านี้เป็นแน่!
ดวงตาของชายทั้งสองจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์เต็มไปด้วยความผิดหวังและโกรธเกรี้ยว แต่พวกเขาก็ไม่อาจที่จะทำอะไรได้ ส่วนเด็กหนุ่มจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ที่ยืนอยู่ด้านหลัง พวกเขากำหมัดแน่น พร้อมกับน้ำตาที่เจิ่งนอง นี่มันราวกับการซื้อขายสุกร ช่างเป็นเรื่องที่น่าอัปยศอดสูยิ่งนัก
ชายทั้งสองจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์หันไปมองผู้คนที่เฝ้ามองดูอยู่ เหล่าผู้คนที่อยู่โดยรอบกลับจ้องมองด้วยสายตาที่เหยียดหยันอยู่ไกล ๆ ไม่มีใครที่ให้ความสนใจกับพวกเขา
มันคงเป็นแค่เรื่องตลก ใครกันที่จะยอมช่วยเหลือทาสจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ แต่จะต้องแลกกับการมีปัญหากับสมาคมการค้าหลงซี
“ข้าให้ราคาห้าหมื่นศิลาจิตวิญญาณ สำหรับหนึ่งคน ไม่ว่ามีกี่คนข้าขอรับซื้อทั้งหมด!”
‘เนี่ยลี่’พูดขึ้นมาทำลายความเงียบของฝูงชนที่ห้อมล้อมอยู่
ทันใดนั้นทุกคนต่างก็หันมาจับจ้อง’เนี่ยลี่’ด้วยความประหลาดใจ
แม้แต่’ประธานหลิน’จากสมาคมการค้าหลงซีก็แสดงความไม่พอใจออกมา เขาขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเขานั้นไม่คิดเลยว่า จะมีใครที่กล้าลูบคมพวกเขา แรงกดดันจากสมาคมการค้าหลงซีนั้นเรียกได้ว่ายากที่จะรับมือไม่น้อย
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ’เนี่ยลี่’ ชายทั้งสองจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์มองหน้ากันด้วยความลังเลเล็กน้อย จากนั้นพวกเขาก็สงบสติได้
‘เนี่ยลี่’นั้นได้เสนอราคาที่ห้าหมื่นศิลาจิตวิญญาณ ซึ่งดีกว่าสมาคมการค้าหลงซีที่ให้เพียงแค่สามหมื่นศิลาจิตวิญญาณเท่านั้น!
ทั้ง ๆ ที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมากแต่มีแค่เพียง’เนี่ยลี่’ที่ยินดีที่จะให้ราคาที่สูงขึ้น
‘เนี่ยลี่’หรีตามองเด็กหนุ่มจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ที่ยืนอยู่ด้านหลัง เด็กหนุ่มจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์มีทั้งหมดหกคน แม้ว่าพวกเขาจะผอมแห้ง แม้ว่าจะไม่ได้แผ่พลังวิญญาณใด ๆ ออกมา แต่เขาก็ยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายลมปราณที่แข็งแกร่งจากพวกเขา
“นี่คือศิลาจิตวิญญาณจำนวนสามแสนก้อน!”
‘เนี่ยลี่’สะบัดมือขวาของเขาและโยนแหวนห้วงมิติออกไปให้แก่เขา
ชายผู้หนึ่งจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ได้รับเอาแหวนห้วงมิติสำหรับเก็บของมา จากนั้นก็ชำเลืองมองเข้าไปด้านใน เขาหันไปพยักหน้าให้กับอีกคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง
พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่า ‘เนี่ยลี่’จะทำการซื้อขายอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ โดยปกติแล้วการซื้อขายมักจะเริ่มด้วยการลงนามในพันธสัญญาก่อน แต่’เนี่ย’กลับยินดีที่จะมอบศิลาจิตวิญญาณจำนวนสามแสนก้อนให้ก่อน
“นี่คือหนังสือพันธสัญญาข้ารับใช้ของพวกเขา!”
ชายผู้หนึ่งจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ได้ยื่นหนังสือพันธสัญญาทั้งหกฉบับให้แก่’เนี่ยลี่’
‘เนี่ยลี่’รับหนังสือพันธสัญญามาไว้ในมือและยิ้มเล็กน้อย
หลังจากที่’เนี่ยลี่’ได้ทำการซื้อขายเสร็จสิ้นแล้ว ก็มีเสียงพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาดังขึ้นมา
“นี่เจ้าน้องชาย ดูเหมือนว่าเจ้าจะทำเกินไปแล้วนะ!”
‘ประธานหลิน’จากสมาคมการค้าหลงซีพูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ
……….จบตอน
แปลโดย นายมะพร้าว
ที่มา: