‘เนี่ยลี่’ได้ใช้เวลาอยู่ที่เมืองในเขตพื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุดเป็นเวลาเจ็ดวัน และสามารถซื้อยอดฝีมือจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ได้มากเกินกว่าที่คิดไว้ รวมทั้งหมดสามร้อยหกสิบคน และมียอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรขั้นที่ห้าจำนวนสองคน ยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรขั้นที่สี่จำนวนหกคน ยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรขั้นที่สามมากกว่าห้าสิบคน และที่เหลือเป็นยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรขั้นที่หนึ่งและสอง
 
ถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มทั้งหกคนที่ได้มาเป็นกลุ่มแรก จะมีฝีมือแค่เพียงระดับวิถีแห่งมังกรขั้นที่หนึ่ง แต่ด้วยอายุที่ยังน้อย และมีความสามารถเป็นเยี่ยม จึงมีค่าพอที่จะทำการฝึกฝน
 
ยอดฝีมือจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ทั้งหมดได้ลงนามในหนังสือพันธสัญญาผู้รับใช้กับ’เนี่ยลี่’ทั้งหมดแล้ว
 
ในพื้นที่มุมหนึ่งของเมือง ‘เนี่ยลี่’ได้ทำการสะบัดมือขวา และนำภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำออกมา และให้เหล่ายอดฝีมือจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ เข้าไปอยู่ในนั้น
 
ในเขตพื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุดที่ยอดฝีมือจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์อยู่ นั้นมีพลังงานสวรรค์ที่เบาบางยิ่งนัก จึงมียอดฝีมือจำนวนมากที่ไม่อาจจะบรรลุระดับที่เหนือกว่าวิถีแห่งมังกร แต่ในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำนี้เต็มไปด้วยพลังงานสวรรค์ที่อุดมสมบูรณ์ ดังนั้นการบ่มเพาะพลังของพวกเขาจะต้องพุ่งทะยานและก้าวข้ามขอบเขตเดิมของพวกเขาได้เป็นแน่
 
เหล่ายอดฝีมือจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ พวกเขามีความสามารถที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ถ้าไม่เช่นนั้นจักรพรรดิปราชญ์ คงจะไม่กักขังพวกเขาไว้ในเขตพื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด และสาปพวกเขาด้วยคำสาปที่ชั่วร้ายเช่นนี้
 
ยอดฝีมือจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์แต่ละคนมีคุณสมบัติต่างกัน แต่ก่อนหน้านี้ด้วยเงื่อนไขที่มีขีดจำกัดมากเกินไป พลังงานสวรรค์ที่เบาบางจนเกินไป การบ่มเพาะพลังของพวกเขา จึงหยุดอยู่แค่เพียงระดับวิถีแห่งมังกร ไม่สามารถที่จะทะลวงถึงระดับเทพสงครามได้ แต่ในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำนี้ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
 
‘เนี่ยลี่’ได้ตามเข้ามาในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ
 
เมื่อเห็น’เนี่ยลี่’เข้ามา เหล่ายอดฝีมือจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ ต่างมายืนเคารพอยู่ด้านข้าง และมอง’เนี่ยลี่’ด้วยความหวาดกลัวอยู่เล็กน้อย
 
จากนี้ไป’เนี่ยลี่’จะเป็นเจ้านายของพวกเขา แม้ว่า’เนี่ยลี่’จะสังหารพวกเขา พวกเขาก็ไม่อาจที่จะต่อต้านได้
 
ภายในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ หลังจากที่ได้เข้ามาพวกเขาก็พบว่าเป็นโลกลึบลับที่มีขนาดใหญ่และกว้างขวาง พวกเขาจึงยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ ‘เนี่ยลี่’นั้นเป็นคนที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
 
การที่เขารับซื้อเหล่ายอดฝีมือจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์จำนวนมากเช่นนี้ ไม่มีใครรู้ว่าเขาตั้งใจที่จะทำอะไร
 
ในขณะที่ เด็กหนุ่มทั้งหกคนยังคงลืมตาและจ้องมองไปที่’เนี่ยลี่’
 
หนึ่งในพวกเขา เส้นประสาทของเขาราวกับมัดรวมกันแน่นด้วยความหวาดกลัว
 
‘เนี่ยลี่’เผยรอยยิ้มเล็กน้อย และมองไปที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งพร้อมกับพูดว่า
 

 
“เจ้าชื่ออะไร?”
 
 
“เรียนนายท่าน ชื่อของข้าคือ อวิ๋นเมี่ย 云灭:ทำลายเมฆา”
 
เด็กหนุ่มผู้นั้นตอบกลับด้วยความสุภาพ ถ้าหากไม่ได้เป็นเพราะหนังสือพันธสัญญาผู้รับใช้ เขาไม่มีทางที่จะยินดีก้มหัวให้กับผู้ใดเช่นนี้
 

 
“อวิ๋นเมี่ย เช่นนั้นหรือ?”
 
‘เนี่ยลี่’เดินดูรอบ ๆ ‘อวิ๋นเมี่ย’ จากนั้นเขาก็ตบมือขวาของเขาไปบนไหล่ของ’อวิ๋นเมี่ย’
 
‘อวิ๋นเมี่ย’ ตัวสั่นเล็กน้อย เขามองไปที่’เนี่ยลี่’ ในใจของเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาไม่รู้เลยว่า’เนี่ยลี่’จะทำสิ่งใดกับเขา ด้วยการที่รู้สึกว่า ชีวิตและความตายของตนเอง อยู่ในกำมือของบุคคลอื่น นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเช่นนี้
 
พลังสวรรค์ของ’เนี่ยลี่’ได้กวาดไปทั่วทั้งตัวของ’อวิ๋นเมี่ย’ หลังจากนั้นเนี่ยลี่ก็พูดขึ้นมาว่า
 

 
“เจ้าคือชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ ที่มี กายาเมฆาสีชาด เหมาะสำหรับเทคนิคการบ่มเพาะพลัง เทพแห่งขนนก และ เทคนิคการบ่มเพาะพลัง เทพสุริยุปราคา เจ้าจงเลือกมาหนึ่งเทคนิค เจ้าต้องการที่จะฝึกฝนด้วยเทคนิคการบ่มเพาะพลังใด?”
 
 
“เทพแห่งขนนก? เทพสุริยุปราคา?”
 
‘อวิ๋นเมี่ย’รู้สึกตกใจไปชั่วครู่
 
แม้แต่เหล่ายอดฝีมือจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ที่เป็นผู้ใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านข้าง ก็มอง’เนี่ยลี่’ด้วยความตกใจเช่นกัน
 

 
“ยังไม่รีบขอบคุณนายท่านอีก!”
 
 
“เทคนิคการบ่มเพาะพลัง เทพแห่งขนนก และ เทคนิคการบ่มเพาะพลัง เทพสุริยุปราคา เป็นเทคนิคการบ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งของชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ของพวกเรา แต่เทคนิคการบ่มเพาะพลังทั้งสองอย่างของชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ได้หายสาปสูญไป!”
 
 
“ถ้าหากได้เรียนรู้ เทคนิคการบ่มเพาะพลัง เทพแห่งขนนก หรือ เทคนิคการบ่มเพาะพลัง เทพสุริยุปราคา ก็นับว่าเจ้าโชคดียิ่งนัก!”
 
ยอดฝีมือจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ที่เป็นผู้ใหญ่ ที่ยืนอยู่ด้านข้างได้พูดอธิบาย
 
เมื่อได้ยินสิ่งที่ ยอดฝีมือจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ที่เป็นผู้ใหญ่ได้อธิบาย’อวิ๋นเมี่ย’คุกเข่าลง เขาพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นว่า
 

 
“อวิ๋นเมี่ยไม่ทราบ ขอให้นายท่านเป็นผู้เลือกให้แก่ข้าเถิด”
 
‘เนี่ยลี่’ย่นคิ้วเล็กน้อย เขาครุ่นคิดเงียบ ๆ อยู่ครู่หนึ่ง และพูดออกไปว่า
 

 
“ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะเลือก เทคนิคการบ่มเพาะพลัง เทพสุริยุปราคา ให้แก่เจ้า”
 
จากนั้นเขาก็ขยับมือและนำเทคนิคการบ่มเพาะพลัง เทพสุริยุปราคา ฉบับคัดลอกออกมา
 

 
“เจ้า เจ้า และเจ้า…”
 
‘เนี่ยลี่’ทำการตรวจสอบร่างกายของแต่ละคนและพูดขึ้นว่า
 

 
“ร่างกายของพวกเจ้ามีความเหมาะสมที่จะฝึกฝนด้วยเทคนิคการบ่มเพาะพลัง เทพสุริยุปราคา!”
 
การบ่มเพาะพลังของชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายที่แตกต่างกัน มีเทคนิคการบ่มเพาะพลังขั้นสูงสุดถึงสามสิบหกเทคนิค แต่เทคนิคการบ่มเพาะพลังเหล่านี้ได้หายสาปสูญไป และมีบางส่วนที่ไม่สมบูรณ์ แต่ในตอนนี้’เนี่ยลี่’มีเทคนิคการบ่มเพาะพลังที่สมบูรณ์ ‘เนี่ยลี่’จึงทำการถ่ายทอดเทคนิคเหล่านั้นให้แก่ เหล่ายอดฝีมือจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์
 
ตลอดทั้งวัน ‘เนี่ยลี่’วุ่นอยู่กับการจัดการเรื่องดังกล่าว
 

 
“นายท่านขอรับ ข้ามีเรื่องหนึ่งที่ต้องการความชัดเจน ไม่ทราบว่าข้าจะขอเรียนถามได้หรือไม่ขอรับ?”
 
ยอดฝีมือจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ที่อยู่ในระดับวีถีแห่งมังกรขั้นที่ห้า ชื่อของเขาคือ ‘เสวียนอวี่’ 玄羽:ขนนกลึกลับ พูดขึ้นมา
 

 
“มีสิ่งใดที่ไม่ชัดเจน เจ้าสามารถถามมาได้!”
 
‘เนี่ยลี่’ยิ้มและตอบกลับไป ถ้าหากไม่มีใครเอ่ยถาม เขาคงจะรู้สึกแปลกใจมากกว่า
 

 
“เป็นระยะเวลาเนิ่นนานมาแล้ว ที่ชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์มิได้รุ่งเรืองดั่งเช่นในอดีต และเทคนิคการบ่มเพาะพลังต่าง ๆ ของพวกเราก็ได้หายสาปสูญไป ข้าขอขอบคุณนายท่านยิ่งนัก ที่ทำให้เหล่าลูกหลานของชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ ได้ศึกษาเทคนิคการบ่มเพาะพลังเหล่านี้อีกครั้ง สิ่งที่ข้านั้นรู้สึกแปลกใจ เหตุใดนายท่านจึงได้มีเทคนิคการบ่มเพาะพลังของพวกเราได้?”
 
‘เสวียนอวี่’เอ่ยถามด้วยความรู้สึกที่นับถือ
 

 
“สำหรับเรื่องนี้……”
 
‘เนี่ยลี่’จ้องมองออกไปไกล ๆ และตอบกลับอย่างใจเย็นว่า
 

 
“วิธีการที่ข้าได้เทคนิคการบ่มเพาะพลังเหล่านั้นมา เจ้าไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ เรื่องที่เจ้าควรจะรู้ก็คือ ข้านั้นได้ติดค้างชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ และในภายภาคหน้าข้าจะชดใช้ให้แก่พวกเจ้า!”
 
สิ่งที่’เนี่ยลี่’พูดออกมานี้ ไม่ได้เป็นเท็จอย่างแน่นอน การต่อสู้กับจักรพรรดิปราชญ์ในชีวิตที่แล้วของ’เนี่ยลี่’ เขาได้รับความช่วยเหลือจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ แต่หลังจากนั้นจักรพรรดิปราชญ์ก็ได้ฆ่าล้างชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ แม้แต่เด็กแรกเกิดก็ไม่ยอมปล่อยให้เหลือรอดชีวิต
 
เมื่อได้ยินคำพูดของ’เนี่ยลี่’ ‘เสวียนอวี่’ คุกเข่าลงและพูดขึ้นมาอย่างจริงจังว่า
 

 
“นายท่านทำให้พวกข้าได้มีโอกาสที่จะได้เรียนรู้เทคนิคการบ่มเพาะพลังที่สาปสูญไป พวกข้ารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก ไม่ว่านายท่านจะสั่งการในสิ่งใด พวกข้าจะพยายามทำอย่างเต็มความสามารถ แม้ร่างกายและกระดูกจะต้องถูกบดขยี้เป็นผง หรือต้องตายนับหมื่นครั้ง พวกข้าจะไม่ปริปากบ่นเลยแม้แต่น้อย!”
 
ก่อนหน้านี้ เป็นเพราะหนังสือพันธสัญญาผู้รับใช้พวกเขาจึงยอมทำตามคำสั่งของ’เนี่ยลี่’ แต่ในตอนนี้พวกเขามีเต็มใจที่จะทำตามคำสั่งของ’เนี่ยลี่’ ชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์เป็นชนเผ่าที่เรียบง่าย และซื่อตรง พวกเขาอาศัยอยู่ในพื้นที่รกร้างที่ไร้ที่สิ้นสุด
 
เมื่อพวกเขาได้รับของบางสิ่งจากบุคคลภายนอก พวกเขาก็จะขอบคุณและหาทางตอบแทนด้วยความซึ้งใจ
 
ชะตาชีวิตของพวกเขาอยู่ในกำมือของ’เนี่ยลี่’แต่’เนี่ยลี่’ไม่ได้ใช้วิธีการบังคับ หรือทรมานพวกเขา และมอบความเมตตาอันยิ่งใหญ่ให้
 และไม่ต้องพูดถึง การที่’เนี่ยลี่’ได้ถ่ายทอดเทคนิคการบ่มเพาะพลังที่หายสาปสูญไปของชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ให้แก่พวกเขาอีกด้วย
 

 
“นอกเหนือไปจากเทคนิคการบ่มเพาะพลังที่หายสาปสูญไป ข้ายังจะต้องสอนกลยุทธให้แก่พวกเจ้า เนื่องจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ ได้ห่างหายจากสงครามไปเป็นเวลายาวนาน และพวกเจ้าจะต้องเรียนรู้กลยุทธที่แตกต่างกันเพื่อที่จะทำไปใช้งานจริง ชื่อของมันก็คือ ค่ายกลเทพเมฆาสวรรค์ ซึ่งค่ายกลเทพเมฆาสวรรค์จะแบ่งออกเป็นสามส่วน คือ หกสมดุล แปดขาดแคลน สิบสมบูรณ์ สามสิบหกแปรเปลี่ยนสังหาร สามคนผสานกันแบบไม่เจาะจง สามารถระเบิดพลังต่อสู้ได้สูงขึ้นเป็นห้าเท่า หกคนผสานกันอย่างอิสระ สามารถระเบิดพลังต่อสู้ได้สูงขึ้นเป็นสิบเท่า และยังสามารถผสานกันในรูปแบบอื่น ๆ ได้อีก สำหรับค่ายกลนี้ แม้จะมีอยู่ในตำราของชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ แต่ก็ไม่ค่อยสมบูรณ์นัก!”
 
‘เนี่ยลี่’มองดูเหล่ายอดฝีมือจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์และพูดออกไป
 

 
“ค่ายกลเทพเมฆาสวรรค์!”
 
เหล่ายอดฝีมือจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ที่ยืนอยู่โดยรอบจ้องมอง’เนี่ยลี่’ด้วยความสงสัย พวกเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับค่ายกลนี้มาก่อน
 

 
“เหล่ายอดฝีมือจากชนเผ่าแห่งเทพเมฆาสวรรค์ที่ได้ฝึกฝนเทคนิคการบ่มเพาะพลังขั้นสูงสุดและได้ฝึกกลยุทธเหล่านั้น
 มีอยู่น้อยมาก และการที่จะเรียนรู้ค่ายกลเทพเมฆาสวรรค์ต้องเป็นผู้ที่ได้เรียนกลยุทธขั้นสูงและใช้ระยะเวลาในการฝึกฝนอย่างยาวนาน การที่พวกเจ้าไม่เคยได้ยินชื่อค่ายกลเทพเมฆาสวรรค์มาก่อน มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด”
 
…………จบตอน
 
แปลโดย นายมะพร้าว
 
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
 
 
 
ที่มา: