ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปไม่กี่วันถัดมา
การคัดเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำนิกายกำลังจะเริ่มขึ้น เหล่าผู้อาวุโสและศิษย์ของนิกายได้เดินทางกลับมารวมตัวกัน ทำให้ภายในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ดูมีชีวิตชีวายิ่งนัก
และคนเหล่านี้จะส่งผลต่อการชี้นำตำแหน่งผู้นำนิกายได้ พวกเขาได้เริ่มมีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง
อำนาจของพวกเขานั้นมีอยู่มาก ตราบเท่าที่ผู้สมัครที่พวกเขาให้การสนับสนุนมิได้ทำความผิดอันร้ายแรง มีโอกาสเก้าในสิบส่วนที่จะได้ขึ้นครองตำแหน่งผู้นำนิกาย
‘ลู่เพียว’ ‘กู้เบ่ย’ ‘หลี่ชิงอวิ๋น’ได้มารวมตัวกัน พวกเขายังมีความตรึงเครียด ‘เนี่ยลี่’นั้นยังไม่ได้สติ ‘หลงยู่อิน’คอยเฝ้าดูแลอยู่ตลอดสิบสองชั่วยาม ยี่สิบสี่ชั่วโมง และปฏิเสธที่จะออกมาเข้าร่วม พวกเขาที่เหลือจะสามารถเข้าชิงชัยในตำแหน่งผู้นำนิกายได้หรือไม่? พวกเขานั้นไม่อาจที่จะแข่งขันกับ’หลงเทียนหมิง’ได้เป็นแน่!
“ในตอนนี้พวกเราควรจะทำเช่นใดกัน?
“‘เนี่ยลี่’ก็ยังไม่ได้สติ พวกเราทำได้เพียงแค่มองดูหลงเทียนหมิงขึ้นครองตำแหน่งผู้นำนิกายเช่นนั้นหรือ?”
‘ลู่เพียว’พูดด้วยความหดหู่และพูดอีกว่า
“สิ่งที่เนี่ยลี่ได้เตรียมการเอาไว้มันจะเสียเปล่าเช่นนั้นหรือ?”
“แล้วเจ้าจะให้ทำสิ่งใดกัน?”
‘กู้เบ่ย’ตอบกลับไปพร้อมกับยิ้มอย่างขมขื่น
‘หลี่ชิงอวิ๋น’ขมวดคิ้ว เขาขบคิดว่าในเวลานี้ควรที่จะทำเช่นใดกัน
“แม้ว่าพวกเราไม่อาจที่จะชิงชัยในตำแหน่งผู้นำนิกาย แต่พวกเราก็ต้องไม่ยอมให้หลงเทียนหมิงนั้นทำได้ตามเป้าหมาย ดังนั้นในเวลานี้ พวกเราควรที่จะให้การสนับสนุนซื่อถู เป่ยเอี๋ยน”
‘กู้เบ่ย’ครุ่นคิดครู่หนึ่งและตอบกลับไปว่า
“สนับสนุนซื่อถู เป่ยเอียน ก็ยังดีกว่าปล่อยให้คนเลวอย่างหลงเทียนหมิงได้ขึ้นครองตำแหน่ง!”
“อืม ถ้าเช่นนั้นก็จัดการไปตามที่คุยกัน!”
‘หลี่ชิงอวิ๋น’พยักหน้าตอบกลับไป
ตรงพื้นที่ส่วนกลางที่ว่างเปล่าของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ ยอดฝีมือผู้หนึ่งบินขึ้นไปบนท้องฟ้าที่ว่างเปล่านั้น
ในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์เวลานี้มีผู้คนแออัดนับล้านคน
หลังจากที่ได้เป็นหนึ่งในตำแหน่งผู้อาวุโสพิเศษของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ ก็จะมีอิทธิพลยิ่งนัก นอกเหนือจากที่อยู่ภายในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังมีอยู่ที่ด้านนอกนิกายอีกกว่าสามร้อยหกสิบคน ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในพิธีอันศักดิ์สิทธิ์นี้
เมื่อมองขึ้นไปด้านบน จะเห็นร่างของเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้า พวกเขาคือห้าเสาหลักของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับเทพสงคราม ห้าผู้ยิ่งใหญ่นี้เป็นชายสามคนและหญิงสองคน ร่างกายของเขาล้อมรอบไปด้วยแสงสีทั้งเจ็ด แต่ทว่ารูปลักษณ์ของพวกเขาดูเคร่งขรึม เรียกได้ว่าทั้งสง่างามและดูเคร่งขรึมยิ่งนัก
นี่คือเสาหลักทั้งห้าของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ หรืออาจจะเรียกได้ว่าห้าปรมาจารย์แห่งนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งผู้นำของพวกเขาก็คือ ผู้นำนิกายคนปัจจุบัน
ปรมาจารย์เทียนอู่ 天武:นักรบแห่งสวรรค์
และคนที่เหลือ คือ
ปรมาจารย์หลงเหม่ย 龙媚:มังกรผู้งดงาม ไม่ใช่แม่ของหลงยู่อินคนแต่งหลอก
ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น 天云:เมฆาสวรรค์
ปรมาจารย์หลิงอวี้ 灵玉:หยกวิญญาณ
ปรมาจารย์ชางเอี๋ยน 苍炎:เพลิงสีเทา
ตำแหน่งของห้าปรมาจารย์แห่งนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ อยู่ในสถานะที่สูงส่ง และเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง แม้ว่านิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์จะมีผู้อาวุโสอยู่เป็นจำนวนมาก แต่บรรดาเหล่าผู้อาวุโสมักจะยอมถอยให้แก่คนทั้งห้า ดังนั้นเรื่องต่าง ๆ มักจะตัดสินจากปรมาจารย์ทั้งห้าเป็นหลัก
เสียงของปรมาจารย์เทียนอู่แผ่กระจายลงไปทั่วทั้งนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
“ในวันนี้ ที่ประตูของนิกายทุกบานได้เปิดรับเหล่าศิษย์ให้มารวมตัวกัน สำหรับเหตุผลนั้น พวกท่านก็คงทราบกันดี เมื่อเร็ว ๆ นี้ ระดับการบ่มเพาะพลังของข้า ได้บรรลุถึงระดับเทพสงครามขั้นที่เจ็ด และข้าจำเป็นที่จะต้องถอนตัวเพื่อที่จะทำการบ่มเพาะพลังให้สูงขึ้นไปอีก และจำเป็นที่จะต้องส่งมอบตำแหน่งผู้นำนิกายให้แก่ผู้สืบทอด ในวันนี้เราจะทำการคัดเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์!”
“จงแสดงความสามารถให้พวกเราได้เห็น!”
ผู้นำนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“ในตำแหน่งของผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำนิกายนี้ ในการคัดเลือก ท่านคิดว่าผู้ใดที่มีความเหมาะสม?”
ปรมาจารย์เทียนอู่
กวาดสายตามองดูผู้คนที่อยู่ด้านล้างในตอนนี้ปรมาจารย์หลงเหม่ยและปรมาจารย์เทียนอวิ๋นได้พูดคุยกัน
“เทียนอวิ๋น ท่านบอกว่า เนี่ยลี่ไม่ได้เดินทางมาเช่นนั้นหรือ?”
“ในเรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจน ข้าเกรงว่าท่านควรจะทราบดียิ่งกว่าข้าเสียอีก!”
“ทำไมกัน?”
ปรมาจารย์หลงเหม่ย อดที่จะถามออกไปไม่ได้
“ปรมาจารย์หลงเหม่ย ท่านไม่ทราบหรืออย่างไร เนี่ยลี่นั้นเป็นจุดอ่อนเพียงอย่างเดียวของหลงยู่อิน แม่ของหลงยู่อินถึงกับพูดเอาไว้ว่า หากเนี่ยลี่ยอมแต่งงานกับหลงยู่อิน เด็กผู้นั้นก็จะนับได้ว่าเป็นหลานเขยของปรมาจารย์หลงเหม่ย”
ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นยิ้มและตอบกลับไป
“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ? ดูเหมือนว่าข้าจะต้องลองตรวจสอบ เนี่ยลี่ผู้นี้ดูสักทีแล้ว!”
ปรมาจารย์หลงเหม่ย ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูมีเสน่ห์และเย้ายวนใจยิ่งนัก ถ้าหากเนี่ยลี่ได้ยินเสียงของคนผู้นี้ เขาจะต้องแปลกใจเป็นแน่ เพราะน้ำเสียงของปรมาจารย์หลงเหม่ย คล้ายกับเสียงแม่ของ’หลงยู่อิน’เป็นอย่างมาก
ปรมาจารย์ทั้งสี่ใช้เทคนิคลอบส่งเสียงพูดคุยกัน มีเพียงปรมาจารย์เทียนอู่ที่ทำหน้าที่ประกาศสิ่งต่าง ๆ อยู่
“ในตอนนี้ การคัดเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยจะเริ่มจากการเสนอชื่อของเหล่าผู้อาวุโส ผู้เข้าชิงชัยจะต้องมีผูอาวุโสให้การสนับสนุนไม่น้อยกว่าสิบท่าน จึงจะมีสิทธิ์เข้าคัดเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์”
ปรมาจารย์เทียนอู่ ประกาศออกไป
ในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์มีผู้อาวุโสอยู่กว่าสองร้อยท่าน หากต้องการเป็นตัวแทนเข้าชิงชัยในการคัดเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์นั้นก็เป็นเรื่องที่ไม่ยากนัก
แต่ที่ก็ไม่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจที่ มีเพียงแค่’หลงเทียนหมิง’และ’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ที่ได้รับการเสนอชื่อจากเหล่าผู้อาวุโส มีผู้อาวุโสหกสิบเอ็ดท่านที่เสนอชื่อ ‘หลงเทียนหมิง’ และมีผู้อาวุโสห้าสิบสามท่านเสนอชื่อ ‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’
สำหรับการชิงชัยในตำแหน่งผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ ก็คงต้องพูดว่า ด้วยคุณสมบัติของทั้งสองคนนี้ คนที่เหลือต่างก็ต้องยอมถอนตัว ไม่ว่าจะเป็นศักดิ์ศรี ความแข็งแกร่ง รวมถึงกองกำลัง ไม่มีผู้ใดที่จะเทียบได้กับ ‘หลงเทียนหมิง’และ’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’
“มีผู้ที่สมัครเข้าชิงชัย ในตำแหน่งผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ ปรากฏตัวขึ้นมาสองคนแล้ว เราจะรอดูอีกว่าจะมีผู้ที่เข้ามาชิงชัยอีกหรือไม่ นอกจากนี้ หลงเทียนหมิงและซื่อถู เป่ยเอี๋ยน ตามกฏระเบียบที่ผ่านมา พวกเจ้าจะต้องนำกองกำลัง มาต่อสู้กัน!”
ปรมาจารย์เทียนอู่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นกวาดตามองไปทั่ว แต่ก็ไม่อาจที่จะมองเห็นเนี่ยลี่ในฝูงชนเหล่านี้ เขาเองก็แปลกใจอยู่เล็กน้อย ในตอนนี้เขาได้วางรากฐานโดยได้ให้มีคนบางส่วน ให้การสนับสนุน’เนี่ยลี่’
ปรมาจารย์บางท่านก็ยังคงพิจารณาอยู่ และในที่สุดก็ถึงเวลาในการคัดเลือกตัวแทนผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
แต่เนี่ยลี่กลับไม่ปรากฏตัว ไม่รู้ว่า’เนี่ยลี่’กำลังทำบ้าอะไรอยู่?แต่เขาก็ยังไม่ได้กังวลมากนัก เมื่อ’หลงเทียนหมิง’และ’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ลงชิงชัยในการคัดเลือกตัวแทนผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ และเมื่อพวกเขาต้องต่อสู้กัน การต่อสู้นี้คงต้องใช้เวลาหลายชั่วยามกว่าจะจบลง
“ถ้าเช่นนั้น ในตอนนี้จะเป็นการทดสอบความแข็งแกร่งและความเป็นผู้นำของพวกเจ้า เริ่มได้!”
ปรมาจารย์เทียนอู่ยิ้มและ โบกมือให้สัญญาณเริ่มต้น
เหล่ายอดฝีมือของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ ด้านเคลื่อนย้ายกันออกไป ทำให้พื้นที่ตรงกลางด้านล่างเปิดออก
‘หลงเทียนหมิง’และ’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ได้นำกองกำลังของเขาเดินเข้ามา
ขนาดของกองกำลังของพวกเขามีความแตกต่างกันอย่าชัดเจน แต่ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีกองกำลังที่มีขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกกว่าหมื่นคนในฐานะที่ครองตำแหน่งผู้นำนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ นอกจากความแข็งแกร่งของตนเองแล้ว ผู้นำจะต้องเป็นผู้ที่คนส่วนใหญ่ให้ความนับถือ และสามารถสร้างกองกำลังของตนเองได้ และต้องนำไปสู่การมีสมาชิกในกองกำลังนับหมื่น จึงจะมีสิทธิ์ที่จะเข้าชิงชัยในตำแหน่งผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
นี่คือเหตุผลที่ไม่มีผู้ใดที่จะเสนอตัวออกมาชิงชัยกับ ‘หลงเทียนหมิง’และ’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ ไม่ว่าผู้ใดที่เป็นฝ่ายได้ชัยชนะ และได้รับการสนับสนุนอย่างน้อยสามเสียงจากผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้า คนผู้นั้นก็จะได้รับสืบทอดตำแหน่งผู้นำนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
สำหรับคนรุ่นใหม่ของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ ที่มีสมาชิกในกองกำลังมากกว่าหมื่นคน นั้นมีอยู่น้อยมาก
‘หลงเทียนหมิง’เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ เป็นผู้สืบทอดลำดับที่หนึ่งของตระกูลผนึกมังกร ส่วน’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’นั้นเป็นทายาทของผู้นำนิกาย ผู้ใดที่จะกล้าเสนอตัวออกมาต่อสู้กับทั้งสองคนนี้ ก็ต้องมีความเกรงอกเกรงใจกันอยู่บ้าง
ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มพิธีการคัดเลือก เกือบทุกคนก็ได้คาดหวังเอาไว้แล้ว ว่าจะเป็นการต่อสู้ระหว่าง’หลงเทียนหมิง’และ’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน ‘อย่างแน่นอน!
‘หลงเทียนหมิง’ยืนอยู่ด้านหน้า เสียงเสื้อผ้าพัดกระพือ ด้วยท่าทีที่สง่างาม รูปร่างผอมเพรียว สมกับเป็นมังกรหนุ่ม และแน่นอนว่า ‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ นั้นก็มิได้ด้อยไปกว่ากัน เขาสวมชุดสีฟ้ายืนอยู่ด้วยความมั่นใจ
สงครามที่สั่นสะเทือนฟ้า การต่อสู้กำลังจะเริ่มต้น…………..
จบตอน
แปลโดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
บทต่อไป
& บทที่ 439 争夺 การชิงชัย 2ที่มา: