I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 439 争夺 การชิงชัย 2

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 2537 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ก่อนอ่านบทนี้ขอให้ผู้อ่านลืมชื่อของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้า ในตอนที่แล้วไปให้หมดก่อนนะครับ เนื่องจากตั้งแต่ตอนนี้ไป ต้นฉบับมีการเรียกชื่อของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้า ต่างไปจากเดิมหลายคน

‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ชำเลืองมองไปโดยรอบ เขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ‘เนี่ยลี่’จึงไม่ได้ปรากฏตัวออกมา

หรือว่า’หลงเทียนหมิง’จะทำอะไรบางอย่าง? จึงเป็นสาเหตุที่’เนี่ยลี่’ไม่ได้มาปรากฏตัวที่นี่

แต่ไม่ว่า’เนี่ยลี่’จะปรากฏตัวที่นี่หรือไม่ คำพูดของ’เนี่ยลี่’เกี่ยวกับ’หลงเทียนหมิง’ ก็ทำให้เขานั้นระมัดระวังตัวเกี่ยวกับ’หลงเทียนหมิง’
เขาจะไม่ยอมปล่อยให้’หลงเทียนหมิง’ได้ขึ้นเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ได้เป็นแน่

‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ตะโกนออกมาพร้อมกับแผ่ลมปราณอย่างเย็นชา เหล่ายอดฝีมือในกองกำลังของเขาก็เริ่มที่จะกู่ร้องตะโกน และเริ่มที่จะจู่โจมกองกำลังของ’หลงเทียนหมิง’

“ท่านคิดว่าซื่อถู เป่ยเอียน หรือ หลงเทียนหมิงจะเป็นฝ่ายชนะ”

เหล่าเด็กหนุ่มของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์พูดคุยเกี่ยวกับการต่อสู้ของพวกเขา

“แน่นอนว่าต้องเป็นท่านพี่ซื่อถู”

‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ที่เป็นถึงบุตรชายของท่านผู้นำนิกาย เขานั้นมีอิทธิพลตั้งแต่เด็ก เรื่องนี้เขาจึงเหนือกว่า’หลงเทียนหมิง’ คนทั่ว ๆ ไปมักจะมองว่า’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’นั้นเหนือกว่า

“แต่หลงเทียนหมิงเองก็นับว่าเป็นศัตรูที่แข็งแกร่ง!”

‘ลู่เพียว’ ‘หลี่ชิงอวิ๋น’ และ’กู้เบ่ย’ ยังคงดูการต่อสู้อยู่อีกด้านหนึ่ง ในใจของพวกเขายังคงหดหู่ แต่ก็ได้เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว ในตอนนี้เขาได้เพียงแต่ดูการต่อสู้ระหว่าง’หลงเทียนหมิง’และ’ซื่อถู เป่ยเอียน’ และพวกเขาก็ไม่อาจที่จะทำอะไรได้

แต่ถ้าหากต้องเลือกระหว่าง’หลงเทียนหมิง’และ’ซื่อถู เป่ยเอียน’ พวกเขาต้องเลือกให้การสนับสนุน’ซื่อถู เป่ยเอียน’ อย่างแน่นอน

‘หลงยู่อิน’ยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าสมาชิกของตระกูลผนึกมังกร สำหรับ’หลงเทียนหมิง’นั้น นางมีแต่ความรู้สึกที่รังเกียจ นางแค่แวะมาดูเท่านั้นก่อนที่จะไปดูแล’เนี่ยลี่’ต่อ

ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่จุดศูนย์กลางของการต่อสู้

การต่อสู้ในครั้งนี้ จะเป็นการตัดสินชะตากรรมของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์

ตูมม! ตูมม! ตูมม!

กองกำลังของ’หลงเทียนหมิง’และ’ซื่อถู เป่ยเอียน’เข้าปะทะกันอย่างจริงจัง ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด

ฟุ่บบ! ฟุ่บบ! ฟุ่บบ!

ในกองกำลังของ’หลงเทียนหมิง’นั้นมียอดฝีมือที่อยู่ในระดับวิถีแห่งมังกรขั้นที่หก เขาเริ่มที่จะสังหารอย่างบ้าคลั่ง

“ยอดฝีมือที่อยู่ในระดับวิถีแห่งมังกรขั้นที่หก!”

‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ ถึงกับพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ นอกจากยอดฝีมือที่อยู่ในระดับวิถีแห่งมังกรขั้นที่หกแล้ว ‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’พบว่า
‘หลงเทียนหมิง’ยังได้ซุกซ่อนยอดฝีมือเอาไว้บางส่วน จากการคาดคะเนของเขา มีอีกอย่างน้อยสามคนที่อยู่ในระดับวิถีแห่งมังกร

‘หลงเทียนหมิง’รับยอดฝีมือที่แข็งแกร่งระดับนี้มาตั้งแต่เมื่อใดกัน?

‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ ตะโกนออกมาดังลั่น สั่งการให้ยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรห้าคนออกไปรับมือ เมื่อยอดฝีมือระดับวิถีแห่งมังกรเข้าปะทะกัน ความวุ่นวายก็เริ่มที่จะมากขึ้น

เหล่าห้าผู้ยิ่งใหญ่หันมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

เสียงของหญิงผู้หนึ่ง ที่เป็นหนึ่งในห้าผู้ยิ่งใหญ่ ปรมาจารย์หลิงหลง นางเป็นยายของ’หลงยู่อิน’ และเป็นหนึ่งในคนสำคัญของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์

“ดูเหมือนว่าซื่อถู เป่ยเอี๋ยนจะสูญเสียตำแหน่งผู้นำนิกายให้แก่ตระกูลผนึกมังกรของข้าแล้วสินะ?”

ปรมาจารย์หลิงหลงพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่มีเสน่ห์ เสียงของนางกับ’หลงซูอวิ๋น’ แม่ของหลงยู่อินนั้นมีน้ำเสียงที่คล้ายกัน เป็นน้ำเสียงที่ไม่ว่าผู้ใดได้ฟัง ก็ต้องรู้สึกอ่อนระทวย

ปรมาจารย์เทียนอู่หัวเราะและตอบกลับไปว่า

“ตำแหน่งผู้นำนิกายนั้นตระกูลผนึกมังกรนั้นจะมีความสามารถพอที่จะครอบครองได้หรือไม่?”

“ท่านผู้นำนิกาย ท่านอาจจะบอกว่ามันไม่ถูกต้อง แต่ตระกูลผนึกมังกรได้ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า คนของเรามีความแข็งแกร่งพอที่จะช่วงชิงตำแหน่งนั้นมาได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม แต่ว่า เจ้าเด็กเนี่ยลี่นั่นได้ส่งมอบยาทิพย์ล้ำค่าให้แก่พวกเราเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่ใช้โอกาสนี้ในการฉกฉวยตำแหน่ง ช่างเป็นคนดี จนน่าผิดหวังยิ่งนัก”

“หลิงหลง ถ้าหากเนี่ยลี่ปรากฏตัวขึ้นมา จะเป็นไปได้หรือว่าหลงเทียนหมิงจะได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำนิกาย?”

ปรมาจารย์หลงเหยี่ยนพูดขึ้นมา

“หลงเหยี่ยน ข้าเองก็หาได้เป็นคนที่ใจแคบนัก เนี่ยลี่ได้มอบยาทิพย์แก่พวกเรา ซึ่งเพียงพอที่จะให้พวกเราเลื่อนระดับการบ่มเพาะพลังได้ ซึ่งสำคัญเสียยิ่งกว่าตำแหน่งผู้นำนิกาย ถ้าหากเขาปรากฏตัว ข้าจะมอบตำแหน่งผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำนิกายให้แก่เขา”

ปรมาจารย์หลิงหลง ตอบกลับไปพร้อมกับหัวเราะ

“หลิงหลง ท่านพูดออกมาแล้ว จะคืนคำไม่ได้นะ!”

“แน่นอน!”

ห้าผู้ยิ่งใหญ่ของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์

ประกอบไปด้วย  มาจำชื่อกันใหม่นะ:ผู้แปล

ปรมาจารย์เทียนอู่ 天武:นักรบแห่งสวรรค์

ปรมาจารย์หลงเอี๋ยน 龙炎:มังกรเพลิง

ปรมาจารย์เทียนอวิ๋น 天云:เมฆาสวรรค์

ปรมาจารย์หลิงหลง 玲珑:ผู้มีความประณีต

ปรมาจารย์ชางเซวี่ย 赤血:โลหิตสีแดง

ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้านี้ เป็นดั่งเสาหลักที่ค้ำจุนให้นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์นี้คงอยู่ เป็นเพราะพวกเขา เหล่านิกายเทพอสูรจึงไม่กล้าที่จะบุกมายังนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ การยกระดับการบ่มเพาะพลังของพวกเขา อาจจะเป็นตัวกำหนดชะตากรรมของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ มากกว่าตำแหน่งผู้นำนิกายเสียอีก

ก่อนหน้านี้ ที่ปรมาจารย์เทียนอวิ๋นจะนำยาทิพย์มามอบให้แก่พวกเขา ยังไม่มีผู้ใดที่ยอมเชื่อ แต่หลังจากที่ได้ทานยาทิพย์ลงไป และได้รับรู้ถึงประสิทธิภาพอันน่ากลัวของยาทิพย์นี้ ระดับการบ่มเพาะพลังของพวกเขา เลื่อนระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว ปรมาจารย์เทียนอู่เพิ่มสูงขึ้นถึงสองระดับ และปรมาจารย์เทียนอวิ๋นเพิ่มขึ้นถึงสามระดับ

เมื่อบรรลุถึงระดับเทพสงคราม การเลื่อนระดับขึ้นไปเป็นเรื่องยากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้การเลื่อนระดับที่สูงขึ้นไปอีกในแต่ละขั้น จะยากยิ่งขึ้นไปอีกเท่าตัว

จึงอาจกล่าวได้ว่า ผลงานที่’เนี่ยลี่’ได้ทำให้กับนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ นั้นเหนือกว่าผู้ใดทั้งหมด แม้ว่า’เนี่ยลี่’จะเป็นเด็กที่ไม่มีผู้ใดรู้ถึงชาติกำเนิด แต่’เนี่ยลี่’ก็มีคุณสมบัติอย่างเพียงพอที่จะขึ้นครองตำแหน่งผู้นำนิกายได้

ในตอนนี้กองกำลังของ’หลงเทียนหมิง’และกองกำลังของ’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’กำลังเข้าปะทะกัน และการต่อสู้ก็เริ่มที่จะเร่าร้อนยิ่งขึ้น
‘หลงเทียนหมิง’และ’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ ในเวลานี้ พวกเขานั้นมีระดับการบ่มเพาะพลังในระดับวิถีแห่งมังกร

‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’คำรามลั่นอีกครั้ง เขาผสานเข้ากับจิตอสูร จิตอสูรของเขาคือ มังกรโลหิตสวรรค์พิโรธ 天血怒龙:เทียนชางนู่หลง ร่างกายของเขาลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงอันร้อนแรง กรงเล็บอันแหลมคมที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่กลับให้ความรู้สึกน่ากลัวจนเย็นยะเยือก

มังกรโลหิตสวรรค์พิโรธ เมื่อขยายใหญ่เต็มที่มีขนาดเพียงแค่ราว ๆ สิบเมตรเท่านั้น แต่กลิ่นอายลมปราณที่แผ่ออกมา เต็มไปด้วยความรู้สึกที่น่าขนลุกขนพอง

“มังกรโลหิตสวรรค์พิโรธเป็นจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้าอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังเป็นสายพันธุ์ที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”

เหล่าศิษย์ของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ต่างตะโกนออกมาด้วยความตกใจ

เมื่อเห็นว่า’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ผสานเข้ากับมังกรโลหิตสวรรค์พิโรธ ‘หลงเทียนหมิง’ก็เผยรอยยิ้มที่มุมปาก แสดงท่าทีดูถูกเล็กน้อย เขาคำรามออกมาอย่างเย็นชา และร่างกายของเขาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย และก็ปรากฏมังกรสีดำขนาดใหญ่ออกมาในสายตาของทุกคนอย่างรวดเร็ว

แค่เพียงหัวของมังกรดำตัวนี้ ก็มีขนาดใหญ่กว่ามังกรโลหิตสวรรค์พิโรธ ของ’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’แล้ว

ในขณะเดียวกัน ทั่วทั้งร่างของมันเรืองแสงมันวาวราวคล้ายกับโลหะลึกลับ

“นี่มันเป็นไปไม่ได้?”

“จิตอสูรที่หลงเทียนหมิงผสานอยู่? มันคือ มังกรเทพแห่งความมืด!”

黑暗圣龙:เฮยอ้านเซิ่งหลง

จิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีระดับการเติบโตในระดับพระเจ้านั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งนัก แต่จะมีจิตอสูรบางตน ที่มีสายเลือดอสูรที่แข็งแกร่ง เช่นมังกรวารีสายเลือดบรสุทธิ์ของ’เนี่ยลี่’ และมังกรเทพแห่งความมืดของ’หลงเทียนหมิง’ นั้นนับว่าดำรงอยู่ในจุดที่สูงที่สุด

“ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน จงยอมรับความพ่ายแพ้ซะ เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!”

‘หลงเทียนหมิง’ตะโกนออกไป กรงเล็บที่ราวกับอาวุธเหล็กดำทมิฬ ชี้ไปยัง’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ที่ผสานอยู่กับมังกรโลหิตสวรรค์พิโรธ

ตูมม!

มังกรเทพแห่งความมืดใช้กรงเล็บพุ่งไปที่มังกรโลหิตสวรรค์พิโรธ มังกรโลหิตสวรรค์พิโรธถูกโจมตี มีเสียงดังระเบิดกึกก้องขึ้น

‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่พอใจ เขาคิดถึงคำพูดที่เนี่ยลี่ได้บอกกับเขา ถ้าหากเขาพ่ายแพ้ ก็จะไม่มีผู้ใดที่หยุด’หลงเทียนหมิง’ได้อีก

‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’คำรามออกมาอีกครั้ง และกระตุ้นพลังของมังกรโลหิตสวรรค์พิโรธ และพุ่งเข้าปะทะกับ’หลงเทียนหมิง’

ก่อนหน้านี้ ความแข็งแกร่งของ’หลงเทียนหมิง’นั้นอ่อนด้อยกว่าเขาอยู่เสมอ แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้จึงรุดหน้าแซงเขาไปได้ และยังมี มังกรเทพแห่งความมืด เป็นจิตอสูรที่มีสายเลือดอสูรที่แข็งแกร่ง ถ้าหากมีใครบอกว่า ‘หลงเทียนหมิง’มิได้มีผู้ที่หนุนหลังอยู่ในตอนนี้ ‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’จะต้องไม่ยอมเชื่อเป็นแน่

ที่’เนี่ยลี่’ได้พูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่ามีโอกาสที่จะเป็นความจริง!

เขาจะต้องหยุด’หลงเทียนหมิง’ให้ได้………………

จบตอน

แปลโดย นายมะพร้าว

คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ

บทต่อไป
& บทที่ 440 参战 สงคราม

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments