ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“หวู่ฉิง”
หลังจากมีเสียงดังขึ้น สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่เจ้าของเสียงนั้น และพวกเขาก็พบว่าในส่วนลึกของวิหาร มีร่างปรากฏอยู่ร่างหนึ่ง เจ้าของร่างก็คือชูเฟิง
หลังจากได้เห็นชูเฟิงทุกคนก็แทบจะกระโดดออกมาราวกับเห็นผี มันเพราะว่า พวกเขาไม่ได้เห็นชูเฟิงในก่อนหน้านี้ และมีบางคนคิดว่าเขาถูกฆ่าไปแล้ว แต่ตอนนี้ชูเฟิง นั้นปรากฏตัวขึ้นมานั่นหมายความว่าเขายังสบายดีอยู่
แต่ถ้าชูเฟิงยังไม่ถูกฆ่า เขาไปอยู่ที่ไหนมาจนถึงตอนนี้ เขามาปรากฏตัวที่วิหารน้ำแข็งโดยไม่ส่งเสียงและไม่มีคนรู้เลยได้อย่างไร เขาทำได้อย่างไร
“หม่า ยู่คุน เจ้ามันเดรัจฉานเสียจริงอีกทั้งยังสารเลวบัดซบ มันยากมากที่จะกู้เจ้ากลับ.”
ชูเฟิงไม่ได้ใส่ใจสายตาของผู้คน และ เขามองไปที่ผู้นำตระกูลหม่าก่อนที่จะหันไปที่ผู้นำตระกูลหลี่ที่เต็มไปด้วยแผลแล้วพูดว่า
“ ผู้นำตระกูลหลี่ ท่านรู้หรือยังว่าแท้จริงแล้วน้องชายสุดที่รักของท่านเป็นคนอย่างไร รู้สึกอย่างไรล่ะ”
“ข้า…”
ในตอนนั้นใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอับอาย และ เขาไม่รู้จะตอบอย่างไรได้แต่ก้มหัว แล้วยอมรับต่อคำพูดของชูเฟิง
ในตอนนี้ เขารู้แล้วว่าชูเฟิงนั้นต้องการจะช่วยเขา แต่เขาไม่ยอมรับมัน และวางแผนที่จะฆ่าเขา นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าตอบแทนพระคุณด้วยความชั่วช้าอย่างแท้จริง เนรคุณ
“ฮ่าฮ่า เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้ามีทักษะบางอย่างที่ข้าไม่รู้จักและไม่เคยเห็น แต่เจ้าคิดว่าเมื่อเจ้าปรากฏตัวขึ้นมาเจ้าจะหนีรอดจากข้าไปได้หรือ.” ผู้นำตระกูลหม่า ยิ้มอย่างชั่วร้าย
“หนี ทำไมข้าต้องการหนี สำหรับพวกเจ้าข้าสามารถฆ่าได้ด้วยเวลาสั้นๆ ทำไมข้าต้องหนีล่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้นำตระกูลหม่า ชูเฟิงก็ยิ้มเย้ยหยัน
“อะไรนะ ฆ่าพวกข้าอย่างนั้นหรือ ด้วยพลังแค่ระดับ 8 อาณาจักรสวรรค์ เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้ากล้าพูดถ้อยคำที่ไร้ยางอายได้อย่างไร”
ในตอนนั้น ใบหน้าของผู้นำตระกูลมาก็เปลี่ยนเป็นเย็นเยือก เขาแบมือออกและยิงฝ่ามือออกมาทันที
ฝ่ามือนั้นมีพลังระดับเจ้าสงคราม มันเป็นพลังที่เหนือกว่าพลังอาณาจักรสวรรค์อย่างแน่นอน เมื่อมันถูกปล่อยออกมา พื้นที่ที่มันผ่านก็เกิดการบิดเบี้ยว และแตกออก
มันช่างไร้เทียมทานเสียจริง
“ฮึ่ม.”
อย่างไรก็ตามเมื่อยืนต่อหน้าการโจมตีนี้ชูเฟิงก็ไม่ได้ตื่นตระหนก เขาทำแค่แค่นเสียงอย่างเย็นชา
หลังจากแค่นเสียงนั้น วิหารน้ำแข็งก็สั่นไหว และในตอนนั้น ก็มีแสงสีทองประกายออกมา ราวกับเป็นแสงจากพระอาทิตย์ทำให้ผู้คนนั้นแสบตาและไม่กล้าจะมองมันตรงๆ พวกเขาทำได้เพียงหลี่ตา มอง
แต่หลังจากแสงสีทองนั้นได้หายไป พวกเขาก็กล้ามองกลับไปที่ วิหารน้ำแข็ง และมองเพียงภาพด้านหน้า พวกเขาก็ต้องตกใจอย่างมาก และใบหน้าของบางคนก็เต็มไปด้วยความกลัว
เพราะในตอนนั้น ในวิหารน้ำแข็ง ไม่เพียงมีชูเฟิงอยู่ตรงกลาง แต่ยังไม่ได้รับผลกระทบจากผู้นำตระกูลหม่าอีกด้วย ราวกับฝ่ามือนั้นไม่เคยปรากฏขึ้น
แต่ที่น่าเหลือเชื่อที่สุดคือ หลี่ ชาน ที่อยู่ใกล้กับผู้นำตระกูลหม่านั้น ตอนนี้ได้อยู่ข้างหลังชูเฟิงแล้วแม้แต่รูปแบบวิญญาณก็ถูกยกลิกไป ในตอนนี้เธอซ่อนตัวอยู่หลังชูเฟิงด้วยความหวาดกลัว
“เจ้าเด็กเหลือขอ ถ้าเจ้าอยากตายข้าจะสนองให้เดี๋ยวนี้.”
ในตอนนั้นไม่เพียงใบหน้าของคนอื่นที่แสดงความหวาดกลัวแม้แต่ใบหน้าของผู้นำตระกูลหม่าก็เกิดความหวาดกลัวเช่นกัน
แต่หลังจากเขาคิดไปมา เขาก็คิดว่ามันเป็นเพียงแค่โชคร้ายเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงเรียกใช้พลังของเขาอีกครั้งและเหวี่ยงหมัดออกมา
*ตูม*
แม้แต่พระราชวังน้ำแข็งก็เกิดการสั่นไหว เมื่อหมัดถูกปล่อยออกมา หลังจากนั้นหมัดนั้นก็เกิดการระเบิดและกลายเป็นเสือดาว ยาวกว่า 100 เมตร
เสือดาวขนาดยักษ์ที่ราวกับมีชีวิตและมีที่น่าเกรงขาม กำลังวื่งอยู่บนอากาศและส่งเสียงคำรามไปทั่วภูเขา และพลังที่ราวกับทำลายทุกสิ่งเมื่อมันบินผ่านก็พุ่งตรงไปที่ชูเฟิง
“แย่แล้ว นั่นมันทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา เสือดาวพิโรธกวาดล้าง”
“เร็วเขารีบถอยเร็วเข้าไม่งั้นพวกเราจะถูกลูกหลงไปด้วย”
ในตอนนั้นผู้คนที่เห็นภาพนี้ก็ขมวดคิ้วแน่ด้วยความกลัว พวกเขาล้วนถอยยออกห่างเพราะรู้จักทักษะนี้ดี เพียงแค่แรงระเบิดของมันก็สร้างบาดแผลให้กับพวกเขาได้แต่ถ้าลูกหลงเข้าไปอาจจะถึงตายเลยทีเดียว
*ฮึ่ม*
อย่างไรก็ตาม ผู้คนนั้นรู้ว่าเขาต้องหนีจากหายนะให้ได้ และในตอนนั้นแสงสีทองก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เหมือนก่อนหน้านี้มันปรากฏเพียงแปบเดียวก็หายไป
“สวรรค์มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
เมื่อทุกอย่างสิ้นสุดลงและเมื่อพวกเขาหันกลับไปมองที่วิหารน้ำแข็งพวกเขาก็พูดอะไรไม่ออกทันที
เพราะในสายตาของพวกเขา ชูเฟิงนั้นยืนอยู๋ที่เดิม ไม่ได้ขยับไปไหน ทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของผู้นำตระกูลหม่า ก็หายไปเหมือนกับก่อนหน้านี้
แต่สิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุดคือในชูเฟิงนั้นมีบางอย่างอยู่ มันคือไข่น้ำแข็ง ไข่น้ำแข็งที่เคยอยุ่ในมือของผู้นำตระกูลหม่าบัดนี้มันมาอยู่ที่เขาแล้ว
ในตอนนั้น ในสายตาทุกคนก็จับจ้องมีที่ชูเฟิง พวกเรารู้สึกตกใจและหวาดกลัวมาก เพราะจากสายตาของพวกเขา ชูเฟิงนั้นเหมือนสัตว์ประหลาด มันเหมือนกับเขามีความสามารถที่น่าเหลือเชื่อบางอย่าง
ความจริงแล้ว หลี่ ชานที่อยู่หลังชูเฟิงก็เช่นกัน เธอนั้นตกใจอย่างมากถึงมากที่สุด
เพราะแม้แต่เธอที่อยู่ข้างเขา เธอก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือ ชูเฟิงทำอะไรลงไป
“เจ้าเด็กเหลือขอ หยุดล้อเล่นแล้วมาสู้กับข้าตัวต่อตัวเดี๋ยวนี้”
ในตอนนั้นผู้นำตระกูลหม่าก็ตะโกนดังลั่น ใบหน้าของเขาแสดงถึงความกลัวอย่างมาก
“อะไร เจ้ากลัวอย่างนั้นหรือ”
ชูเฟิงยิ้มพร้อมส่งสายตาดูถูกไป
“กลัวอย่างนั้นหรือ เจ้าบอกว่าข้าที่อยู่ในระดับเจ้าสงครามกลัวเด็กเหลือขออย่างเจ้าที่อยู่ในระดับ 8 อาณาจักรสวรรค์เช่นนั้นหรือ”
แม้จะกลายเป็นหิน ผู้นำตระกูลหม่าก็ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ เขานั้นกลางแขนออก และใช้ทักษะที่แข็งแกร่งโจมตีชูเฟิงต่อไป
อย่างไรก็ตามก็เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ เกิดแสงสีทองขึ้นและการโจมตีของเขาก็หายไป
“เจ้า เจ้า เจ้า เจ้า ยังเป็นมนุษย์อยู่อย่างนั้นหรือ”
ในตอนนั้น ผู้นำตระกูลหม่าก็ต้องตื่นตระหนกอย่างมาก เขาตื่นตระหนกจนต้องถอยออกไป จนเกือบสะดุดล้มลงบนพื้น
ในตอนนั้นเขารู้สึกไร้พลังอย่างมาก ไม่ว่าเขาจะโจมตีสักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทำอะไรชูเฟิงได้ แต่เมือมองไปที่ชูเฟิง เขาก็ไม่สะทกสะท้านอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ เขาก็ยืนยิ้มอยู่เหมือนเดิม ราวกับเขานั้นได้ควบคุมทุกสิ่งไว้แล้ว
ในสถานการณ์เช่นนั้น แม้เป็นระดับ 1 เจ้าสงครามแบบเขาก็ต้องกลัวเพราะสิ่งที่เขาเผชิญด้วยทำให้เขารู้ว่าชูเฟิงนั้นเหนือกว่าเขามาก และ รู้สึกว่าชูเฟิงนั้นได้ควบคุมทุกสิ่งอย่างไว้แล้ว
ที่มา: