ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปเมื่อกลับมาทางโลกใบเล็ก เมื่อมองดูสภาพโดยรอบ ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากนัก เทพธิดายู่หยานและหมิงเฟย มอบแก่นแท้พลังสัจธรรมให้แก่เนี่ยลี่ ก่อนที่หมิงเฟยจะขอแยกตัวกลับไปยังนครใต้พิภพ เนี่ยลี่และเทพธิดายู่หยาน จึงเดินทางกลับไปยังเมืองกลอรี่
ดูเหมือนว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เอียเซิ่งจะสามารถขยายพื้นที่อาณาเขตของเมืองกลอรี่ออกไปได้กว้างขวางยิ่งขึ้น จนครอบคลุมพื้นที่ของนครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์โบราณ และมีการจัดแบ่งกองกำลังให้ไปช่วยดูแล ป่าอสูรทมิฬ ตามที่เนี่ยลี่ได้ร้องขอ
เนี่ยลี่ได้แจ้งให้ทุกคนมารวมตัวกันตำหนักเจ้าเมือง เพื่อที่จะแจ้งเรื่องการเดินทางกลับไปยังอาณาจักรซากมังกร
“นี่เรากลับมาที่โลกใบเล็กได้เพียงแค่สามเดือนเองนะ”
ลู่เพียวพูดขึ้นพร้อมกับถอนหายใจ ที่โลกใบเล็กนี้ลู่เพียวนั้นอยู่อย่างสงบ ไม่ต้องหวาดระแวงผู้ใด แม้ว่าเซี่ยวซุ่ยจะบ่นอยู่บ้าง แต่การที่ได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข นางก็มิได้บังคับสิ่งใดลู่เพียวมากนัก
แม้ว่าจะขี้เกียจเพียงใด แต่ลู่เพียวและคนอื่น ๆ ต่างก็สามารถบรรลุระดับขอบเขตแห่งพระเจ้ากันได้แล้ว
“ข้าเองก็ต้องการอยู่ที่โลกใบเล็กให้นานกว่านี้ แต่ดูเหมือนว่าพวกเราจะมีเวลาอีกราวสองปี หาไม่แล้วจักรพรรดิปราชญ์ จะก้าวข้ามไปสู่การเป็นเทพแห่งการเวลาได้”
เนี่ยลี่พูดพร้อมกับถอนหายใจ
“เมื่อกลับไปยังอาณาจักรซากมังกร เจ้าจะให้พวกข้าทำสิ่งใดบ้าง?”
ตู่ซื่ออดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกไป
“ข้าต้องการรวบรวมทุกนิกายในอาณาจักรซากมังกรให้เป็นหนึ่ง สำหรับนิกายเทพอสูรนั้น พวกเราจะปล่อยเอาไว้ จนกว่าพวกนั้นจะเป็นฝ่ายรุกรานพวกเรา ส่วนข้านั้นจะออกเดินทางไปยังอาณาจักรแห่งอื่น ๆ เพื่อรวบรวมยอดฝีมือมาจัดการในสงครามครั้งใหญ่ที่ใกล้จะมาถึง”
เนี่ยลี่มองไปที่ทุกคนแล้วพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“เจ้าจะเดินทางไปเพียงลำพังเช่นนั้นหรือ?”
เซี่ยวหนิงเอ๋อถามออกไปด้วยความกังวล
“พี่ยู่หยานและเซี่ยวหยู่ จะอยู่ในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ และเดินทางไปพร้อมกับข้า และยังมีจินตานอีกด้วย”
เนี่ยลี่ยิ้มและพูดออกไป หากเซี่ยวหยู่ มิได้อยู่ในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ นางก็จะถูกจักรพรรดิปราชญ์รับรู้ได้
“พวกเจ้าจะเดินทางกลับไปยังอาณาจักรซากมังกรเมื่อใดกัน?”
เอียเซิ่งถามพร้อมกับถอนหายใจ เขานั้นได้ใช้เวลากับบุตรสาวเพียงไม่นาน
“ท่านพ่อตาอย่าได้กังวล พวกเราจะอยู่ที่โลกใบเล็กอีกราวเจ็ดวัน ข้าต้องการให้ทุกคนได้อยู่กับครอบครัวนานขึ้นอีกสักเล็กน้อย เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะได้กลับมา”
เนี่ยลี่มองไปที่เอียเซิ่งพร้อมกับยิ้ม
“เจ้าจะจัดพิธีแต่งงานเลยหรือไม่?”
เอียเซิ่งพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ตอนนี้สหายทั้งสองของเนี่ยลี่ก็ได้เข้าพิธีแต่งงานกันแล้ว หากบุตรสาวของเขาจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาเขาก็จะได้สบายใจ
“ทะ…ท่านพ่อ”
เอียจื่ออวิ๋น พูดขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดง
“ท่านพ่อข้า ข้าเข้าใจที่ท่านต้องการพูด แต่ข้าต้องการให้เรื่องทั้งหมดจบสิ้นลงไปก่อน เมื่อจบศึกกับจักรพรรดิปราชญ์แล้ว โลกของเราก็จะไร้ซึ่งภัยคุกคาม เมื่อยามนั้นมาถึงข้าอาจจะไม่ต้องการเป็นชาวยุทธอีกต่อไป และแต่งงานอยู่กันอย่างสงบเช่นเดียวกับบิดามารดาของข้า”
เนี่ยลี่พูดขณะที่หันไปมองเอียจื่ออวิ๋นและเซี่ยวหนิงเอ๋อ
“ข้าคงจะร้อนใจมากเกินไป หากเป็นไปได้ข้าก็ต้องการมีชีวิตอย่างสงบเช่นที่เจ้าว่า แต่น่าเสียดาย กว่าครึ่งชีวิตของข้าต้องปกป้องเมืองกลอรี่จากพวกอสูร หากโลกไร้ซึ่งภัยคุกคาม คงจะดีไม่น้อย”
เอียเซิ่งพูดพร้อมกับพยักหน้า
“ขอให้ทุกคนกลับไปหาครอบครัว และแจ้งแก่พวกเขาว่า อีกเจ็ดวันพวกเราจะออกเดินทางไปยังอาณาจักรซากมังกร”
เนี่ยลี่พูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน
หลังจากที่คนอื่น ๆ เดินทางกลับไปแล้ว เอียเซิ่งก็พูดกับเอียจื่ออวิ๋นว่า
“เนี่ยลี่จะต้องเป็นชายผู้ยิ่งใหญ่ และเป็นสามีที่ทำให้เจ้ามีความสุขได้อย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินคำพูดของเอียเซิ่ง เอียจื่ออวิ๋นก็หน้าแดงและวิ่งกลับไปที่ห้องพักของนาง
บ้านของเนี่ยลี่
เนี่ยลี่ได้แจ้งแก่เนี่ยหมิง เนี่ยไค เนี่ยเซี่ยวหยุนและ เหมียวหลิง เรื่องที่จะต้องเดินทางกลับไปยังอาณาจักรซากมังกร เร็วกว่าที่กำหนด
“ข้าก็คิดแล้วว่าเจ้า คงจะพักอยู่ที่บ้านไม่ถึงปีอย่างที่เจ้าพูดเป็นแน่”
เนี่ยเซี่ยวหยุนพูดพร้อมกับถอนหายใจ
“ท่านแม่ ข้าขออภัย แต่ข้าสัญญาว่าจะกลับมาเยี่ยมพวกท่านหากมีเวลา”
เนี่ยลี่มองหน้ามารดาด้วยสายตาออดอ้อนและพูดออกไป
“ท่านพี่เนี่ยลี่ เมื่อไหร่กันที่ข้าจะไปยังอาณาจักรซากมังกรได้บ้าง”
เนี่ยหยู่มองเนี่ยลี่ตาไม่กระพริบพร้อมกับถามออกไป
“เจ้าไม่จำเป็นที่จะต้องไปยังอาณาจักรซากมังกร ข้าต้องการให้เสี่ยวหยู่ช่วยปกป้องครอบครัวของเราตอนที่ข้าไม่อยู่ เสี่ยวหยู่ทำได้หรือไม่?”
เนี่ยลี่ยิ้มและตอบกับไป และเอามือลูบหัวเนี่ยหยู่ด้วยความเอ็นดู
“เสี่ยวหยู่ทำได้ เสี่ยวหยู่จะไม่ให้ใครมารังแกท่านพ่อ ท่านแม่ และท่านลุงกับท่านป้า ท่านพี่เนี่ยลี่เชื่อใจข้าได้”
เนี่ยหยู่พูดพร้อมกับเอามือทุบอกด้วยความมั่นใจ
เมื่อเห็นเช่นนั้น ทุกคนก็หัวเราะออกมาเสียงดัง เนี่ยลี่ยิ้มด้วยความยินดี การอยู่พร้อมหน้าครอบครัวเช่นนี้ เป็นเวลาที่เขามีความสุขยิ่งนัก เขาจะใช้เวลาเจ็ดวันที่เหลือ ในการอยู่กับครอบครัว และช่วยฝึกฝนเนี่ยหยู่ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ในวันที่ต้องออกเดินทาง เนี่ยเซี่ยวหยุน เตรียมอาหารเช้าให้แก่เนี่ยลี่ พร้อมกับบอกให้ดูแลตัวเอง ส่วนเนี่ยหยู่ร้องไห้และพูดขึ้นมาว่า
“ท่านพี่เนี่ยลี่จะต้องกลับมาเยี่ยมข้านะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เนี่ยลี่ก็ยิ้มพร้อมกับเดินมาลูบหัวเนี่ยหยู่และพูดว่า
“อีกไม่นานข้าจะกลับมา เสี่ยวหยู่ต้องเป็นเด็กดี เชื่อฟังผู้ใหญ่นะ”
เนี่ยหยู่ได้แต่ร้องไห้และไม่ได้ตอบกลับมา
“สหายของเจ้าคงจะไปรอกันแล้ว เจ้าจงดูแลตัวเองด้วยนะ”
เนี่ยหมิงจับที่ไหล่ของบุตรชายและพูดออกไป
“ครั้งหน้าที่ข้ากลับมา ข้าคงจะไม่จากไปที่ใดอีก ข้าสัญญา”
เนี่ยลี่มองหน้าทุกคนในครอบครัว เขาจดจำทุกสิ่งเอาไว้ และเขาจะต้องกลับมาให้ได้
ต่อมา ทุกคนเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทาง และมารวมตัวกันที่นครใต้พิภพ แม้ว่าจะยังคงเป็นถ้ำเช่นเดิม แต่ไร้ซึ่งฝุ่นละอองออกที่เคยปกคลุมอยู่ หมิงเฟยและเซี่ยวหยู่ยืนรออยู่ที่ประตูทางเข้า
“เซี่ยวหยู่ เจ้าคงจะต้องกลับเข้าไปอยู่ในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำอีกครั้ง”
เนี่ยลี่มองไปที่เซี่ยวหยู่และพูดออกไป
“ข้าจะเข้าไปอยู่ข้างในนั้นด้วย”
เทพธิดายู่หยานพูดขึ้นมา ในตอนนี้นางไร้ซึ่งพลังสัจธรรมแห่งอัคคี นางจึงต้องเข้าไปฝึกฝนเพิ่มความแข็งแกร่งให้มากยิ่งขึ้น
“ตกลง ถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องฝากจินตานไว้ข้างในด้วย เป็นการชั่วคราว”
เนี่ยลี่พูดพร้อมกับสบัดมือขวาของเขา ทำให้เซี่ยวหยู่ เทพธิดายู่หยาน และจินตานเข้าไปอยู่ด้านในภาพจิตรกรรมหมื่นขุนเขาและสายน้ำ
“ทางด้านนี้ ข้าจะดูแลโลกใบเล็กให้เอง”
หมิงเฟยพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“ข้าคงต้องฝากท่านหมิงเฟยด้วย หากมีปัญหาอันใดท่านสามารถแจ้งไปยังนิยายขนนกศักดิ์สิทธิ์ได้ทุกเมื่อ”
เนี่ยลี่พูดพร้อมกับประสานมือขอบคุณ
“ไม่รู้ว่าทางฝั่งนั้นเป็นเช่นใดบ้างนะ?”
ลู่เพียวอดไม่ได้ที่จะพูดออกไป
“คงจะไม่มีเรื่องอันใด เพราะพวกเราเองก็เดินทางไปไม่นานนัก และในตอนนี้นิกายของเราเองก็เข้มแข็งขึ้นเป็นอย่างมาก”
เนี่ยลี่ตอบกลับไป
“ลู่เพียว แล้วเจ้ากับเซี่ยวซุ่ยจะทำเช่นใดกัน นิกายของพวกเจ้าเองก็อยู่ห่างกันมากมิใช่หรือ?”
ตู่ซื่อมองไปที่ลู่เพียวและเซี่ยวซุ่ยก่อนที่จะถามออกไป
“ข้าจะกลับไปยังนิกายเสียงสวรรค์ก่อน จากนั้นค่อยแจ้งกับอาจารย์ของข้าว่าได้แต่งงานกับลู่เพียว จากนั้นข้าจะขอท่านอาจารย์มาอยู่ที่นิกายขนนกสักดิ์สิทธิ์ ทำหน้าที่ในการติดต่อสื่อสารระหว่างนิกายทั้งสอง”
เซี่ยวซุ่ยพูดพร้อมกับยิ้ม
“พวกเราไปกันได้แล้ว”
เนี่ยลี่ยื่นมือไปเปิดประตูมิติ และกลับมายังนิกายขนนศักดิ์สิทธิ์
นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
ทันที่ที่เห็นพวกเนี่ยลี่กลับมา ศิษย์ในนิกายต่างกู่ร้องชื่อของเนี่ยลี่
“ประมุขเนี่ย กลับมาแล้ว!”
เสียงดังกึกก้องไปทั่ว ทำให้พวกกู้เบ่ย หลี่ชิงอวิ๋น หลงยู่อิน และกู้หลาน รวมไปถึงปรมาจารย์ทั้งห้าได้รับรู้ถึงการกลับมาของเนี่ยลี่
ทุกคนจึงไปรวมตัวกันที่ตำหนักผู้นำนิกาย หลังจากที่ทุกคนนั่งกันที่โต๊ะ เนี่ยลี่จึงหันไปถามกู้หลาน
“พี่กู้หลาน ไม่ทราบว่าช่วงที่ข้าไม่อยู่ ทางนิกายเป็นเช่นใดบ้าง?”
“ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามปกติ นิกายเทพอสูรก็ยังคงเก็บตัวเงียบ มิได้มารุกรานนิกายใด ๆ”
กู้หลานตอบกลับไป พร้อมกับยิ้ม เนื่องจากได้ปรมาจารย์ทั้งห้าช่วยให้คำชี้แนะ การดูแลนิกายจึงเป็นไปอย่างราบรื่น
“กู้เบ่ย นี่คือเซี่ยวเซี่ยวซุ่ย ภรรยาของข้า เราแต่งงานกันแล้วที่โลกใบเล็ก”
ลู่เพียวรีบยืดอกแนะนำภรรยาของเขา แม้ว่าจะเคยพบเจอกันแล้วเมื่อก่อนหน้านี้ แต่ฐานะของนางได้เปลี่ยนจากคู่หมั้นเป็นภรรยาแล้ว
“ข้าเองก็มีภรรยาคนใหม่เช่นกัน คือแม่นางไฉ่เตี๋ย แห่งหอการค้าเทียนเป๋า เจ้ายังจำนางได้หรือไม่”
กู้เบ่ยตอบกลับไป แม่นางไฉ่เตี๋ยคือคนที่ขายของวิเศษให้แก่พวกเนี่ยลี่ตอนที่ไปหาซื้ออาวุธและชุดเกราะวิเศษระดับที่หก
“น้องสะใภ้คนใหม่ของข้า เก่งกาจด้านการค้า ข้าจึงให้นางดูแลเรื่องการค้าของตระกูล ซึ่งนางก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลย”
กู้หลานกล่าวชื่นชม
กู้เบ่ยแอบกระซิบข้างหูของลู่เพียวว่า
“แล้วเจ้าจะหาภรรยาคนใหม่อีกเมื่อใด ข้าจะช่วยเป็นพ่อสื่อให้”
แม้ว่าจะเป็นเพียงเสียงกระซิบแต่เซี่ยวซุ่ยก็ได้ยิน นางมองลู่เพียวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอํามหิต พร้อมกับใช้มือหยิกที่แขนของลู่เพียว ลู่เพียวจึงรีบตอบกลับไปอย่างรวดเร็วว่า
“ข้านั้นมีนางเป็นภรรยาเพียงคนเดียวก็พอแล้ว นางคือหญิงเดียวในใจของข้า”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซี่ยวซุ่ยจึงปล่อยมือที่หยิกอยู่ แต่นางก็คิดในใจว่า เมื่อนางมาอยู่ที่นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ นางจะต้องพยายามกันไม่ให้ลู่เพียวอยู่กับกู้เบ่ยสองต่อสอง ไม่เช่นนั้น ลู่เพียวอาจจะนอกลู่นอกทางไปได้
“พวกข้าก็แต่งงานกันแล้วเช่นกัน”
ตู่ซื่อที่นั่งเงียบอยู่พูดขึ้นมา
“นับว่ามีแต่เรื่องที่น่ายินดี จริงสิ ยังมีคนที่จะแต่งงาน นางบอกว่าจะแต่งหลังจากที่พวกเจ้ากลับมา”
กู้หลานพูดพร้อมกับมองไปที่คนผู้หนึ่ง
“หลงยู่อิน!”
เนี่ยลี่และคนอื่น ๆ พูดขึ้นมาด้วยความตกใจ………………..จบตอน
แต่งโดย นายมะพร้าว
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
<< >>
ที่มา: